EP 1: เมียท่านประธาน
‘ผมไม่เคยรัก รัญเลย’
คำพูดของคู่หมั้นคู่หมายที่คบหาดูใจกันมานานร่วมเจ็ดปียังคงดังก้องอยู่ในหูครั้งแล้วครั้งเล่า
‘คนที่ผมต้องการจริงๆ ก็คือคุณคนคนเดียว เฟื่อง’
เฟื่อง หรือ โชติกา เพื่อนสนิทที่หล่อนเคยคิดว่าเป็นเพื่อนคนแรกๆ ที่รักและจริงใจกับหล่อนมาก ไม่ว่าจะมีเรื่องดีใจหรือเสียใจ หล่อนก็จะเล่าสู่ให้กับโชติการับฟัง และโชติกาก็ให้คำแนะนำเป็นอย่างดี
หล่อนยอมรับว่าไม่เคยระแวงความสัมพันธ์ระหว่างโชติกากับวรากร ผู้เป็นคู่หมั้นมาก่อน แม้ว่าทั้งคู่จะเข้ากันได้ดีจนเพื่อนๆ ในกลุ่มหลายคนต่างพากันสงสัยก็ตาม
หล่อนไว้ใจพวกเขามาตลอด...
ใช่...
ความไว้ใจของหล่อนที่มีให้สองคนนี้มันมากมายเกินไป จนย้อนกลับมาทำร้ายตัวหล่อนเอง
ในที่สุดความลับก็ไม่มีในโลก เจ็ดปีผ่านไปกับความสัมพันธ์ของหล่อนกับวรากร ผู้ชายที่พ่อกับแม่หมายหมั้นว่าคู่ควรกับลูกสาวผู้เรียบร้อยของตัวเอง เพียงเพราะสองครอบครัวรู้จักสนิทสนมกัน
หล่อนเป็นคนหัวอ่อน และไม่เคยมีแฟนมาก่อน คงเพราะหน้าตาที่จืดๆ ไร้เสน่ห์ด้วยล่ะมั้ง ทำให้ไม่มีผู้ชายคนไหนสนใจ ทำให้หล่อนยอมทำตามความต้องการของพ่อกับแม่อย่างง่ายดาย
วรากรเองเขาก็คงขัดคำสั่งของบิดามารดาไม่ได้เช่นกัน ถึงได้ยอมหมั้นหมายกับหล่อน
ตลอดเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมา หล่อนพยายามทำตัวเป็นคนรักที่ดีมาตลอด ไม่ว่าวรากรต้องการระยะห่างแค่ไหน หล่อนก็มอบให้โดยไม่คิดเล็กคิดน้อย แต่สิ่งเดียวที่หล่อนให้เขาไม่ได้ก็คือเซ็กซ์
เขาเคยร้องขอ แต่หล่อนปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าต้องการให้คืนแต่งงานคือช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุด ซึ่งวรากรก็ตอบรับด้วยรอยยิ้มเบื่อหน่ายจนหล่อนสัมผัสได้ หล่อนรู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก แต่ก็พยายามไม่คิดมาก จนกระทั่งวันนี้...
วันเกิดของวรากร ที่หล่อนตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์เขาที่คอนโดหรู แต่กลับพบว่าเขากำลังเล่นสนุกอยู่บนเตียงกับผู้หญิงคนนั้น ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ใช่ใครที่ไหน
โชติกา...!
เพื่อนรักของหล่อนนั่นเอง...
หล่อนจำได้ว่าตัวเองวิ่งหนีออกมาทันทีที่เห็นภาพแสลงใจนั้น
สองเท้าวิ่งเข้ามาในลิฟต์ ในขณะที่น้ำตาไหลท่วมท้นใบหน้า
หล่อนเสียใจมาก เพราะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาก่อน
หล่อนคิดเสมอว่าทั้งสองคนคือคนที่รักและจริงใจกับหล่อนที่สุด แต่ตอนนี้รู้แล้วล่ะว่า สิ่งที่คิดมันไม่ใช่ความจริงเลย
วรากรกับโชติการ้ายกาจ พวกเขาคือมนุษย์เลวร้ายที่ควรจะตกนรกหมกไหม้!
รัญชิดายกแก้วเหล้าในมือขึ้นจ่อปาก เทหายเข้าไปในลำคอครั้งแล้วครั้งเล่า
หล่อนจำไม่ได้หรอกว่าตัวเองมาที่ผับแห่งนี้ได้ยังไง และดื่มแอลกอฮอล์ไปกี่แก้วแล้ว รู้เพียงแต่ว่าต้องการลืม ต้องการลืมเรื่องเลวร้ายในค่ำคืนนี้ให้หมด
“แค่ก แค่กกกก”
รสชาติบาดลึกของแอลกอฮอล์ทำให้หล่อนสำลึกออกมาหลายครั้งเมื่อเทกรอกลงไปในปริมาณที่เยอะเกินไป
หากผู้หญิงคนที่วรากรนอกใจไปหาไม่ใช่โชติกาหล่อนคงไม่เจ็บปวดมากขนาดนี้
น้ำตาที่ไหลริน ความเจ็บปวดที่อัดแน่นเต็มอก ทำให้รัญชิดาเลือกที่จะดื่มและก็ดื่มเพื่อที่จะทำให้ตัวเองจดจำสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นไม่ได้ชั่วขณะ จนหลงลืมไปว่าตนเองไม่เคยแตะต้องเครื่องดื่มมึนเมาพวกนี้มาก่อนเลย
หล่อนเมามาก อาละวาดในผับ จนพนักงานต้องลากตัวออกมาทิ้งนอกร้าน
“อ้ายยย พวกบ้า...”
หล่อนยืนโงนเงนอยู่ริมฟุตปาธ หน้าตาแดงก่ำเพราะมึนเมา ดวงตาปรือแทบปิด สมองหยุดทำงานไปเรียบร้อยแล้ว
รถยนต์สีดำเงาวับยี่ห้อหรูแล่นมาจอดเทียบข้างๆ กระจกรถฝั่งเบาะคนนั่งถูกกดให้ลดลงต่ำจนสุด และคนขับหน้าตาหล่อเหลาก็ตะโกนตามออกมา
“ไปไหม”
รัญชิดาพยายามปรือตามองเจ้าของคำถาม ก่อนจะหัวเราะขบขัน
“ป่าย... ป่าย...”
“ห้าพัน”
รัญชิดาไม่รู้หรอกว่าห้าพันหมายความว่ายังไง รู้เพียงแต่ว่า หล่อนเดินโซซัดโซเซไปที่รถสีดำคันโต และก้าวขึ้นไปในที่สุด
ปราณชลมองแม่สาวขี้เมาที่แต่งตัวได้แตกต่างจากอีตัวข้างถนนทั่วไปหลายขุมด้วยความลังเล
นี่เขาตัดสินใจผิดหรือเปล่านะที่เรียกหล่อนขึ้นมาบนรถน่ะ
ชายหนุ่มถอนใจออกมาเบาๆ ละสายตาจากแม่สาวหน้าแดงก่ำที่มาพร้อมกับกลิ่นเหล้าฟุ้ง ไปมองบนท้องถนนอีกครั้ง
คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง แก้ขัดในยามที่เหงาเท่านั้นเอง แถมแม่ไก่หลงคนนี้ก็ยังดูมีเสน่ห์เตะตาไม่น้อยเลยทีเดยว
รถคันงามแล่นไปบนถนนกว้างที่ยามนี้มืดสลัว และค่อนข้างโล่ง ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบนาที เขาก็สามารถขับรถมาถึงโรงแรมเป้าหมาย
“เชิญครับคุณปราณ”
พนักงานต้อนรับชายทักทายเขาอย่างเป็นกันเองเพราะเขามาใช้ที่นี่บรรเลิงสวาทกับผู้หญิงที่ซื้อมาจากข้างทางประจำ
“เปิดห้องเลยนะ ชั่วคราว”
“ครับคุณปราณ”
พนักงานคนเดิมยิ้มร่า ก่อนจะชะโงกหน้ามองเข้าไปในกระจกรถฝั่งรัญชิดาหลับคอพับคออ่อนอยู่
“วันนี้คุณปราณไปซื้อมาจากไหนครับ”
“ก็แถวๆ ผับนั่นแหละ”
ชายหนุ่มก้าวลงจากรถ พร้อมกับไหวไหล่กว้างบึกบึนเล็กน้อย
“นี่ถ้าผมมีเงินอย่างคุณปราณ ผมจะผูกปิ่นโตเลย เวลาหิวจะได้ไม่ต้องไปซื้อกิน”
“ผมชอบความแปลกใหม่น่ะ และก็ไม่ชอบผูกมัดด้วย แบบนี้เหมาะกับผมที่สุด”
ปราณชลเอ่ยตอบ ขณะเดินมาเปิดประตูรถฝั่งที่รัญชิดานั่งหลับ
“ความจริงผมว่าคุณปราณทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้ ผู้หญิงเข้าหาน่าจะเยอะ ทำไมถึงต้องมาหิ้วผู้หญิงข้างถนนพวกนี้กินล่ะครับ”
ปราณชลที่กำลังจะอุ้มร่างของรัญชิดาชะงักเล็กน้อยกับคำถามของพนักงานที่สนิทกัน
“ผู้หญิงพวกนั้นจู้จี้จุกจิก และก็ไม่ยอมจบ ผมไม่ชอบเรื่องปวดหัว ชอบแบบครั้งเดียวจบไม่วุ่นวาย”
พนักงานหนุ่มผงกศีรษะตอบรับเป็นเชิงเข้าใจความหมายของปราณชล
“ให้ผมช่วยอุ้มเธอไหมครับ”
“ไม่เป็นไร”
ปราณชลส่ายหน้าปฏิเสธความช่วยเหลือ ขณะลดสายตามองผู้หญิงขี้เมาในอ้อมแขน
อะไรบางอย่างจากหล่อนดึงดูดสายตาของเขาเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ขณะก้าวเดินตามพนักงานไปยังห้องบรรเลิงเพลงกาม