เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมงที่เราหาลูกกุญแจด้วยกันเดินตามรอยเดิมของฉันที่จำได้ว่าเดินผ่านมาก็หาไม่พบ
"ฉันเริ่มจะหงุดหงิดแล้วนะโว้ย!"
"..." สงบเสงี่ยมเจียมตัว
“ตามมา!” ว่าแล้วเฮียเต้ ก็ฉุดกระชากลากแขนของฉันให้เดินตามไปยังหลังบ้านซึ่งเป็นโรงเก็บของทำด้วยไม้เก่าๆ
“ปะ... ไปไหน”
“...” เฮียเต้ไม่ตอบ สีหน้าของเขาเคร่งเครียด จนฉันไม่อยากพูดต่อให้เขาหงุดหงิด ทำได้แค่เดินตามไปเงียบๆเพราะตัวเองมีความผิดอย่างมหันต์
พอมาถึงโรงเก็บของเขาก็ค้นเอาอะไรสักอย่างในกล่องเครื่องมือ ก่อนจะหยิบเลื่อยตัดเหล็กขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มร้ายกาจ เฮียยกมันขึ้นมาวางบนข้อมือของฉัน ใช้มือข้างที่ติดกันจับมือฉันไว้แน่น
“เฮียจะทำอะไร!”
“เลื่อยไง เล็กแค่นี้เหมือนตัดกุญแจมือเหล็กไม่ได้หรอก ตัดแขนเธอมันน่าจะง่ายกว่า” ว่าแล้วเขาก็ทำท่าเตรียมที่จะเลื่อยข้อมือของฉันอย่างที่ว่าจริงๆ สายตาและท่าทางของเขาเหมือนฆาตกรโรคจิตในหนังฝรั่งที่ฉันเคยดูไม่มีผิด
“กรี๊ด!! ไม่นะ!เฮีย ชาผิดไปแล้วจะไม่ทำอีกแล้ว ฮือ”
“ตอนทำล่ะไม่คิด” คำพูดและสีหน้าของเฮียเต้เปลี่ยนเป็นดุดันมองฉันด้วยสายตาตำหนิแทน ใครมันจะไปรู้ล่ะว่ากุญเเจจะมาหายตอนนี้ ถ้ารู้ก็ไม่เล่นหรอก...จริงๆนะ
ฉันนั่งมองเฮียเต้ใช้เลื่อยที่มีสนิมเกาะกรังตัดกุญแจมือไปที่ละนิด เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มซึมออกมาบนใบหน้าหล่อเหลาจนเจ้าตัวต้องเอียงศีรษะไปเช็ดกับเสื้อยืดสีขาวสะอาดตาที่ตอนนี้เริ่มชื้นเหงื่อมองเห็นกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เท่จังเลยถ้าได้กอดคืนนี้คงนอนฝันดี
“ยิ้มอะไร ยังไม่สำนึกผิดอีกเหรอ”
“สำนึกแล้วจ้า”
คนร่างสูงทำหน้าดุใส่ฉันแล้วใช้เลื่อยในมือ ค่อยๆไถไปเรื่อยๆ จนกระทั่งกุญแจมือฝั่งของเขาขาดเป็นสองท่อน เฮียเต้ยกยิ้มมุมปากก่อนจะหยัดตัวลุกขึ้น ปัดมือของตัวเองที่เปื้อนเศษเหล็กแล้วหมุนตัวหันหลังให้ฉันไปทางประตู
“เฮียๆเดี๋ยวดิ แล้วของชาล่ะ”
“เรื่องของเธอ” ว่าแล้วเขาก็เดินผิวปากออกไปอย่างสบายใจโดยไม่สนใจฉันทีทำหน้ามุ่ยอยู่ด้านหลัง
"ไม่ได้นะเฮีย ช่วยชาก่อน!"
"..." เขาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง ปล่อยให้ฉันยืนมองกุญแจมือที่ห้อยอยู่ตรงข้อมือของตัวเอง จะโทษใครได้ล่ะในเมื่อฉันทำตัวเองทั้งนั้น เลื่อยเองก็ได้ไม่เห็นต้องง้อเลย เฮียมันคนใจร้าย! ชาจะไม่รักเฮียแล้ว
ชั่วโมงต่อมา
หลังจากตัดกุญแจมือให้ตัวเองจนเหงื่อแตกเปียกโชกไปทั้งตัวฉันก็รีบกลับไปอาบน้ำ แล้วหยิบตัวอย่างข้อสอบ สอบเข้ามหาวิทยาลัยมาที่บ้านข้างๆ เจ้าของบ้านนั่งเล่นเกมอยู่ในห้องโดยไม่ปิดประตู
รอใบชามาหาหรือเปล่าน้า...
“เฮียติวให้หน่อยดิ อันนี้เป็นข้อสอบวิชาคณิตของปีที่แล้ว”
“...” เงียบเล่นเกมต่อ ทำเหมือนฉันเป็นวิญญาณและอากาศธาตุ
"เฮียเต้ นะๆติวให้หน่อยแล้วจะเลี้ยงหมูกระทะร้านเจ้จุ๋มชุดพิเศษเลย" ร้านดังในย่านนี้เลยนะใครปฏิเสธก็บ้าแล้ว ฉันยังไปเดือนละครั้งกับเพื่อนเลย
"ไม่ชอบ เดี๋ยวอ้วน" เฮียรักสุขภาพขนาดนั้นเลยเหรอ
"งั้นเฮียอยากได้อะไรว่ามาเลย"
"เธอไปให้พ้นหน้านั่นแหละที่ฉันต้องการ"
"งั้นติวให้ชาก่อนแล้วจะทำอย่างที่ต้องการ" โกหกหรอกถ้าให้เลิกยุ่งกับเฮียให้ใบชาไปตายคงง่ายกว่า
"..." สุดท้ายคนที่เล่นเกมอยู่ก็พ่นลมหายใจออกมา ฉันรีบวิ่งไปนั่งตรงหน้าเขาที่มีโต๊ะกระจกตั้งอยู่ด้วยรอยยิ้ม
เฮียก็ใจอ่อนให้ชาอยู่ดีนั่นแหละน่า
เรานั่งติวหนังสือด้วยกันจนถึงตอนเย็น แม่จ๋าทำกับข้าวแสนอร่อยเลี้ยงอีกแล้ว แต่พ่อแม่ของฉันก็กลับมาจากไปทำธุระแล้วด้วยต้องกลับบ้านไปเป็นเด็กดีแล้วหลังจากปล่อยบ้านทิ้งไว้มาอยู่กับผู้ชายทั้งวัน
"ใบชามากินข้าวกับแม่ก่อนลูก"
"ไม่เป็นไรค่ะ พ่อกับแม่กลับมาแล้วขอบคุณนะคะ" ฉันยิ้มส่งหวานส่งให้แม่จ๋าแล้วหันไปมองเฮียที่เดินตามมาด้านหลัง "ขอบคุณนะเฮีย อาทิตย์หน้าเฮียกลับบ้านใช่ปะ"
เพราะตั้งแต่เฮียฮ่องเต้สอบติดมหาวิทยาลัยในตัวเมืองที่อยู่ห่างจากบ้านเราเกือบสี่สิบกิโลทำให้เขาต้องย้ายไปอยู่คอนโดที่แม่จ๋าเคยซื้อไว้ให้เช่าแทน ฉันจึงได้เจอเขาแค่อาทิตย์ละครั้งเท่านั้นหรือบางทีเขาก็ไม่กลับ ความคิดถึงของฉันมันจึงทำงานหนักเป็นพิเศษในช่วงนี้
"ไม่รู้ดูก่อน"
"แต่อาทิตย์หน้ามีเลี้ยงรุ่นศิษย์เก่านี่" ยังไงเขาก็ต้องมาอยู่แล้วเพราะตอนอยู่โรงเรียนเขาเป็นคนสำคัญและมีบทบาทในกิจกรรมหลายอย่างของรุ่นเลย
"ไม่ยุ่งสักเรื่อง?"
"คุยกับน้องดีๆหน่อยฮ่องเต้"
เฮียเต้พ่นลมหายใจออกมา ปรายตามองฉันเหมือนเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาโดนดุแล้วก็เดินหันหลังกลับขึ้นห้องไปเหมือนเดิม
"เจอกันอาทิตย์หน้านะเฮีย คิดถึงน้า~"
"..." แม่จ๋ามองฉันเหมือนกำลังทำเรื่องเหลือเชื่อแต่สายตาที่มองมาก็แฝงไปด้วยความเอ็นดูจนฉันต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเอง ก่อนจะยกมือไหว้ท่านแล้ววิ่งออกมาจากบ้านทันที
—————————-
สวย แสบ ซ่า บอกเลยว่าต้องยกให้น้องง
เฮียจะรับมือไหวเหรอ?