บทที่ 1 ไม่สมควรได้รับ(3)

1110 คำ
“โถ่ ไปรท์เอ้ย ไม่เป็นไรนะ แกยังมีฉันเว้ย มีอะไรไม่สบายใจเล่าให้ฉันฟังได้เลย เราเพื่อนกันนะ” คะนิ้งขยับเข้ามากอดฉัน กอดแรกของเพื่อนหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี อบอุ่นจัง นี่สินะเพื่อน มีไว้คอยปลอบ คอยให้กำลังใจกันนี่เอง นึกว่าจะไม่มีเพื่อนให้กอดซะแล้ว “ขอบใจนะ ขอบใจแกมาก ๆ ที่ไม่โกรธฉัน ทั้งที่ฉันไม่ติดต่อมาเลย แล้วยังทำเรื่องไม่ดีไว้อีก” เอาเข้าจริงฉันไม่ควรได้รับความรู้สึกดี ๆ แบบนี้เลย ฉันที่ทิ้งเพื่อนไปไม่ควรมีเพื่อนดี ๆ แบบนี้ “โอ๊ย อีนี่ จะคิดมากอะไรอะ เพื่อนกันไหม คนเราก็ต้องเลือกทางเดินชีวิตของตัวเอง เลือกสิ่งที่ดีให้ตัวเองสิ มึงคือเพื่อนกูไปรท์ เพื่อนยังไงก็คือเพื่อน ตัดกันไม่ขาดหรอก” คะนิ้งทำฉันซึ้งจนร้องไห้ออกมาเพราะคิดถึงเรื่องเก่าที่นานพอสมควร ถึงคะนิ้งจะหยาบ แต่ว่าเป็นคนจริงใจ ไม่ใช่คนหน้าอย่างใจอย่าง “ขอบใจนะ” ฉันฉีกยิ้มทั้งน้ำตา การมีเพื่อนดีมันเป็นอะไรที่อุ่นใจ “เออ เดี๋ยวคลอหาพลอยก่อน อีพลอยมันต้องดีใจแน่ ๆ เลย” คะนิ้งล้วงโทรศัพท์ขึ้นมากด “ดะ เดี๋ยวก่อน พลอยมันไม่…” “มันไม่โกรธหรอกน่า เรื่องตั้งกี่ปีมาแล้ว” “เหรอ แน่ใจเหรอ ฉันว่า...” แม้ว่าคะนิ้งจะยืนยัน แต่ฉันก็ยังกลัวอยู่ดี จะกี่ปีมันก็ลืมลำบากนะ เรื่องที่ฉันทำไว้ไม่ใช่ว่าใครจะรับได้ “เออ เชื่อเถอะ มันยังบ่นหาแกอยู่ตลอด แกอย่าลืมเราเพื่อนกันนะเว้ย เราสามคนรักกันแค่ไหนแกลืมหรือไง เราตัดกันไม่ขาดหรอกน่า” คะนิ้งพูดพลางกดจิ้มโทรศัพท์มือถือ และไม่นานปลายสายก็ส่งเสียง (มีไร) “อยู่ไหนเนี่ย” (ร้านไง ถามแปลก) “แปลกสิ แปลกมากด้วย นี่ ๆ ดูนี่” แล้วคะนิ้งก็ขยับตัวมาใกล้ฉัน เอามือถือยื่นมาตรงหน้าฉันและเธอคล้ายเซลฟี่ ในจอมือถือฉันเห็นเพื่อนอีกคนของฉัน กลุ่มเรามีกันสามคน รักกันมาก หรือจะบอกว่าเคยรักดีนะ (ไอ้ไปรท์) พลอยใสมองอย่างตะลึงก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความดีใจ ส่วนตัวฉันนั้นเจื่อนยิ้มให้เธอ ก็สิ่งที่ฉันทำมันรุนแรง “หวัดดีพลอย” ไม่กล้ายิ้มเต็มเปรี่ยมเหมือนเมื่อก่อนหรอก (หวัดดีอะไร ทำอย่างกับไม่คุ้นเคยกัน นี่เพื่อนนะ อยู่บ้านเหรอ จะเข้าไปหาเดี๋ยวนี้เลย) คล้ายว่าพลอยใจจะดีใจแทนโกรธเรื่องที่ฉันทำเอาไว้ “เออ ๆ รีบมาเลยอีพลอย อยู่บ้านอีไปรท์แหละ” คะนิ้งกดตัดสายและหันมาพูดกับฉัน “เห็นไหมบอกแล้วอีพลอยมันไม่อะไรหรอก แค่อย่าพูดให้มันได้ยินก็พอ ตอนนั้นมันก็คำสัญญาตอนเด็ก ตอนนี้เราต่างโต ต่างมีภาระหน้าที่กันแล้วเว้ย ทุกคนต่างมีชีวิตเป็นของตัวเอง เฮียเฟยเองเขาก็มีครอบครัวไปแล้ว ทุกอย่างมันแฮปปีจ้า” ฉันหน่วงที่หัวใจเมื่อเพื่อนพูดถึงใครบางคน ใครบางคนที่ทุกวันนี้ยังมีผลต่อจิตใจของฉัน “เขาแต่งงานแล้วเหรอ” ถามเหมือนไม่ได้คิดอะไร แต่ข้างในใจฉันหลั่งน้ำตาแล้ว ความจริงก็ไม่น่าถาม เพราะเขาแต่งงานก็ไม่เห็นจะแปลก “ยังหรอก หมั้นกันไว้หลายปีแล้ว ผู้หญิงสอบชิงทุนไปเรียนได้ก็เลยขอไปเรียนก่อน เฮียก็ให้ไป คือนางดูแลเฮียจนกลับมาเดินได้เลยนะ” “เขาสบายดีไหม” “ก็สบายดีนะ” “…” นั่นสิ ไปรท์ก็หวังให้เฮียสบายดี หวังให้เฮียใช้ชีวิตอย่างมีความสุข “แต่ตอนที่เฮียรู้ว่าแกแต่งงานแล้วนะ เฮียแกเหมือนคนตายทั้งเป็น จากคนที่เคยยิ้ม เคยหัวเราะง่าย ๆ แบบเวลาเรามองแล้วรู้สึกโลกสดใสขึ้นเยอะ กลายเป็นความอึมครึมเข้าปกคลุม ยิ่งนิ่งขรึมน่ากลัว แล้วที่สำคัญเฮียมั่วมากระหว่างที่คู่หมั้นไปเรียนต่างประเทศ ซึ่งคู่หมั้นก็โอเพนจ้า” “อืม” ฉันทำแค่เค้นเสียงในลำคอ ฉันรู้ว่าเฮียคงเจ็บมาก และคิดว่าเดี๋ยวทุกอย่างจะดีขึ้น แล้วจากที่คะนิ้งเล่ามาเฮียคงจะดีขึ้นมาบ้างแล้ว “แต่กูพูดตรง ๆ เลยนะ มึงใจร้ายอะไปรท์ มึงทิ้งเขาเพราะเขาเดินไม่ได้ทั้งที่เขาช่วยชีวิตมึง เขารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลมึงก็ดันตอบแต่งงานกับผู้ชายอื่น ทำไมมึงใจร้ายกับเขาจังวะ” “ดูใจร้ายมากเลยใช่ไหม” ฉันเจื่อนยิ้มกับสิ่งที่เพื่อนพูดมา ใช่ฉันรู้ว่าสิ่งที่ฉันทำมันทุเรศที่สุด เห็นแก่ตัวที่สุด ฉันมันผู้หญิงสารเลวเลยล่ะ “ที่สุดแล้วมึง แต่เรื่องมันจบไปนานแล้ว ช่างมันเถอะ กูก็แค่นึกว่ามึงมีเหตุผลอะไรลึก ๆ ไหมถึงได้ใจร้ายกับเฮียแบบนั้น” “ไม่มี ฉันแค่คนเห็นแก่ตัว” คะนิ้งมองเข้ามาในดวงตาของฉัน จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเรื่องพูด “เออ ๆ เปลี่ยนเรื่องเถอะ ว่าแต่จะกลับมาอยู่ที่นี่แกช่วยแม่ขายของหรือทำงานอะไร” “เปิดร้านขายเค้ก ฉันเช่าตึกแถวไว้แล้ว ถ้าร้านเปิดแล้ววันไหนแกว่างก็ลองแวะไปสิ ตอนนี้กำลังรีโนเวทอยู่ ได้ครึ่งหนึ่งแล้ว” “เฮ้ย นี่แกได้เปิดร้านตามที่ฝันเอาไว้จริงดิ” คะนิ้งมีสีหน้าและน้ำเสียงที่ดีใจเอามาก ๆ เพราะการทำเค้กขายคือความฝันในวัยเด็กของฉัน ความฝันเล็ก ๆ ที่มีกลิ่นขนมติดตัวตลอดเวลา “อืม คุณวีรู้ก็เลยเปิดให้ฉันตอนอยู่กรุงเทพ เขาคอยซัพพอร์ตฉันทุกอย่าง ใจดีกับฉันมาก ๆ” “โห คุณวีของแกนี่ใจดีเนอะ” “ใช่ เขาใจดีที่สุด แสนดีกับฉันที่สุด ชาตินี้คงไม่มีใครดีเท่าเขาอีกแล้ว” พูดถึงคุณวีฉันก็พาลน้ำตาจะไหล “ก็คงจะดีกว่าพี่ชายของฉันมากสินะ แกถึงได้เลือกแต่งงานกับเขา ทิ้งพี่ชายของฉันไปแบบนั้น” เสียงของบุคคลที่สามดังแทรกเข้ามา ใจฉันกระตุกวูบเพราะคุ้นเคยกับเจ้าของเสียงนี้เป็นอย่างดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม