ปึก! แต่เพราะความทะเล่อทะล่าทำให้ฉันชนกับใครอีกคนที่อยู่ด้านหลังอย่างแรง
“ขอโทษค่ะ” ฉันรีบขอโทษก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองคนที่ฉันชนเขา และเมื่อเห็นใบหน้าของเขาใจฉันก็พลันหล่นลงพื้น เขาเปลี่ยนไปจากเมื่อห้าปีก่อนมาก เปลี่ยนไปอย่างกับเป็นคนละคน สายตาของเขาช่างเย็นชา
“เกะกะ” คือคำที่เขาพูดก่อนจะเดินผ่านฉันไป ทำเหมือนว่าเราไม่รู้จักกัน
ใช่ เราไม่ควรรู้จักกันอีก เพราะฉันเป็นคนเลือกให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้เอง ฉันรีบเดินออกมาจากร้านสัก ซึ่งมั่นใจมาก ๆ ว่าเป็นร้านของเขา
“พี่คะ รอนิดด้วย” น้องนิดเรียกตามหลังออกมา ฉันจึงต้องหยุดรอเธอ
“คะ” พยายามปรับสีหน้าให้โอเคที่สุด
“ต้องขอโทษแทนเฮียเฟยด้วยนะคะ ปกติเฮียเขาก็ไม่เป็นแบบนี้หรอกค่ะ สงสัยวันนี้จะอารมณ์ไม่ค่อยดี”
“ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะน้องนิด พี่ไม่ได้คิดอะไร”
“พวกพี่รู้จักกันเหรอคะ นิดรู้สึกได้อะค่ะ”
“เปล่าค่ะ พี่ขอตัวไปดูร้านก่อนนะคะ” ฉันรีบเดินกลับร้านอย่างเร็ว
ทำไม ทำไมถึงต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย ฉันควรจะทำยังไงดี ปิดร้านไปเลยดีไหม ถ้าทำอย่างนั้นแล้วเงินที่ลงทุนไปล่ะ หรือจะเฉย ๆ ต่างคนต่างอยู่ ทำเหมือนไม่รู้จักอย่างนั้นเหรอ
-SPRITE END-
-FOEI TALK-
“กูตาฝาดไหม ที่เห็นผู้หญิงสารเลวคนนั้น” ผมพูดกับเพื่อนเมื่อน้องนิดแฟนไอ้ซันเดินออกไป
“ไม่น่าจะฝาดว่ะ กูได้ยินน้องนิดเรียกเต็มสองหู เห็นเต็มสองตา เปิดร้านเค้กที่ตึกแถวแรก”
“กลับมาให้กูคิดบัญชีหรือไง”
“จะทำอะไรอะไรก็คิดดี ๆ ผู้หญิงคนนั้นมีผัวไปแล้ว”
“กูแทบอยากจะฆ่ามันกับผัวมันให้ตายคามือ ผู้หญิงกลับกลอก แล้วนี่ของร้านคนเลวแบบนั้น อย่าเอามาเข้าร้านกู” ผมกำลังจะเดินไปหยิบของพวกนั้นโยนทิ้ง
“ดะ เดี๋ยว อันนี้เมียกูซื้อมา มึงใจเย็นก่อน เดี๋ยวกูเอาไปเก็บในรถ” ไอ้ซันรีบหอบของออกจากร้านไป
“เสนอหน้ากลับมาทำไมวะ” ผมทุบโต๊ะดัง ปึก ด้วยความโกรธแค้นเมื่อนึกถึงใบหน้าของผู้หญิงเลว ๆ
“ใจเย็นก่อนมึง เดี๋ยวกูให้เด็กแถวบ้านตามสืบแป๊บ” ว่าแล้วไอ้กานต์ก็ล้วงเอาโทรศัพท์มือถือขึ้นมากด ระหว่างที่กำลังหาคำตอบ ผมเดินไปเอาเหล้ามาเปิดกิน
“เฮ้ย มึงเอาแต่หัววันเลยออ” ไอ้นิกที่เดินเข้ามาใหม่ ยังไม่รู้เรื่องอะไรก็เอ่ยแบบกวน ๆ
“จะไม่ให้มันกินได้ไงก็เมียเก่ามันกลับมา” เพื่อนคนหนึ่งของผมพูด
“ใครวะ เดี๋ยวนี้ไอ้เหี้ยเฟยมันเมียเยอะ”
“ใครที่มันตายแทนได้ก็คนนั้นอะ”
“เยียดเปียด น้องไปรท์เหรอวะ”
“เออ มึงจะเรียกน้องทำส้นตีนอะไร ไอ้เฟยมันไม่ให้เรียกแบบนั้นแล้ว มึงลืมหรือไง”
“เออว่ะ โทษทีกูลืม มันติดปากนี่หว่า ไอ้เฟยมันคบน้องมาตั้งหลายปี”
ปัก เสียงโต๊ะที่ผมถีบล้มเพื่อให้พวกเพื่อนของผมหยุดพูดถึงผู้หญิงแพศยา สารเลวคนนั้น
“เออ กูไม่พูดก็ได้” ไอ้นิกเงียบปากลง ผมจะนั่งซัดเหล้าอย่างหนักเพราะไม่อยากคิดถึงคนเลว ๆ แบบนั้น แต่ก็ทำไม่เคยได้ เพราะมักคิดถึงเธอตลอด
‘เฮียรักไปรท์ที่สุดเลยนะ’
‘ไปรท์ก็รักเฮียเฟย รักเฮียเฟยคนเดียว’
‘รู้ใช่ไหมว่าไปรท์เป็นรักแรกของเฮีย ถ้าเราเลิกกันเฮียต้องเสียใจมากแน่ ๆ’
‘จะเลิกได้ไง ไปรท์รักเฮียเฟยที่สุด เฮียเฟยเป็นรักแรกของไปรท์นะ ไปรท์ไม่มีทางทิ้งเฮียอยู่แล้ว ถ้าเลิกกับเฮียที่แสนดีขนาดนี้ ไปรท์คงเป็นผู้หญิงที่เลวมาก ๆ เลยล่ะ’
‘เมียเฮียทำไมน่ารักจัง ปากก็หวาน’
ภาพวันวานที่เคยรักกันค่อย ๆ เลือนหายเมื่อภาพความทรงจำที่แม่ของผมบอกกำลังบอกว่าเธอแต่งงานกับคนอื่นแทรกซ้อนเข้ามาแทน
‘ผมไม่เชื่อ น้องไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น แม่อย่ามาโกหกผม เราสองคนรักกันมาก แม่ก็เห็นว่าเรารักกันแค่ไหน น้องไม่มีทางทำแบบนั้น’
‘แม่จะโกหกเฟยทำไมลูก หนูไปรท์แต่งงานกับนายตำรวจไปแล้ว’
‘แม่หยุดพูด ผมไม่เชื่อ ผมจะไปหาไปรท์ จะไปดูให้เห็นกับตา’
‘ไม่ต้องไปหรอกเฮีย อีไปรท์มันแต่งงานแล้ว มันแต่งกับคนอื่นไปแล้วเฮีย’
‘อย่าเรียกแฟนเฮียว่าอี อีกนะพลอย ไม่งั้นเฮียจะไม่พูดกับพลอยอีก แล้วก็ถอยออกไป เฮียจะไปดูให้เห็นกับตา จะไม่ให้ใครมาใส่ร้ายไปรท์ของเฮียเด็ดขาด’
‘นี่ไง ถ้าเฮียอยากเห็นมาก’
“สารเลว” ผมโพล่งออกมาเมื่อเห็นภาพในมือถือที่น้องสาวยื่นให้ดู
“อย่าบอกว่ามึงเก็บไปฝัน” เพื่อนเอ่ยทัก ผมถึงได้รู้ว่าเมื่อครู่คือความฝัน ฝันที่เป็นเรื่องจริง เรื่องจริงที่เป็นฝันร้ายคอยหลอกหลอนทุกครั้งที่คิดถึงผู้หญิงคนนั้น