ร่างบางของหญิงสาวผละออกจากอกของชายหนุ่มคนนั้นเมื่อยืนต่อเนื่องมาราวชั่วโมงเศษๆได้แล้ว เมลรู้สึกเจ็บที่ปลายเท้าไปหมดเพราะเธอใส่รองเท้าส้นเข็มสูงสามนิ้วครึ่ง เธออยากกลับไปนั่งที่โต๊ะแล้ว
"มีอะไรหรือเปล่าหรือครับ" คิวถามเมื่อจู่ ๆ เธอก็ผละตัวออกแล้วมองหน้าเขา ยอมรับว่าคิวเองก็เฟลไปเล็กน้อยเพราะกลัวจะทำอะไรไม่ถูกใจคนตรงหน้า
"เมล..เจ็บเท้าค่ะ" เมลยิ้มแหย่ ๆ ออกมาพลางมองลงไปที่รองเท้าของตัวเองให้เขาเห็นว่าเธอเจ็บจริง ๆ คิวเห็นดังนั้นก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ
"ไปนั่งที่โต๊ะผมมั้ยล่ะครับ ใกล้ๆนี่เอง" คิวชี้ไปที่โต๊ะของเขา ตรงนั้นมีเพื่อนรุ่นเดียวกันนั่งอยู่ราวสามสี่คนได้ ทุกคนต่างหันมาส่งยิ้มให้หญิงสาวบางๆอย่างเป็นกันเอง
"เมลว่าเมลกลับไปนั่งที่โต๊ะดีกว่าค่ะ" หญิงสาวที่ต้องการความเป็นส่วนตัว เพราะเธอเริ่มเมื่อยจนหมดสนุก พูดอย่างถนอมน้ำใจคนชวน
"งั้นให้ผมไปนั่งเป็นเพื่อนดีมั้ยครับ"
"วันหลังดีกว่านะคะ วันนี้เมลเหนื่อยแล้วจริง ๆ เดี๋ยวรอเพื่อนสนุกเสร็จก็จะกลับเลย" คิวพยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจทั้งที่ไม่อยากเข้าใจเลยสักนิด เขารอเวลามาร่วมชั่วโมงเศษได้ พอหญิงสาวจะเดินจากไปกลับบอกลาหน้าตาเฉย ถึงเขาจะรู้สึกหัวเสียอยู่บ้างแต่คนตรงหน้าก็บอกแล้วนิว่าไว้เจอกันคราวหน้า แสดงว่าเธอต้องมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน
"ก็ได้ครับ งั้นผมเดินไปส่ง"
"ขอบคุณค่ะ" เมลยิ้มออกมาบาง ๆ อย่างน้อยเขาก็ยอมที่จะฟังเธออยู่บ้าง แบบนี้ค่อยน่าสานสัมพันธ์ไว้เที่ยวในผับหน่อย อย่างน้อยก็ดีกว่าคนอื่น ๆ ที่ชอบรุกหนักเธอ เขาเดินมาส่งเธอถึงที่โต๊ะก็โบกมือให้ก่อนจะเดินกลับไป
คิวเป็นคนช่างพูด เขาชวนเธอคุยอย่างสนุกสนาน ถามนั่นถามนี่ทำให้เธอไม่ค่อยเบื่อ คิดว่าถ้าไม่เจ็บเท้าเสียก่อนคงจะอยู่คุยกับเขาให้นานกว่านี้หน่อย
แต่ไม่เป็นไร ทั้งเขาและเธอต่างมีข้อมูลติดต่อกันเรียบร้อยแล้ว ยังไงเวลามาผับจะได้ติดต่ออีกฝ่ายได้ง่าย ๆ
เมลที่กดบันทึกข้อมูลอีกคนลงไปในมือถือแล้วไลน์เขาก็เด้งขึ้นมาทันที แต่ช้ากว่าคิวที่ส่งสติกเกอร์รูปหัวใจมาให้เธออย่างรวดเร็ว เมลเงยหน้าขึ้นมองไปยังอีกฝ่ายที่นั่งอยู่ไม่ไกลก่อนจะส่งสติกเกอร์รอยจูบตอบกลับไปเช่นกัน
หญิงสาวกดปิดหน้าจอมือถือก่อนจะหย่อนมันลงที่กระเป๋าสะพายข้าง สายตาสแกนหาทางไปห้องน้ำเมื่อเธออั้นมานานราวครึ่งชั่วโมง พบว่าบริเวณตรงนั้นมีคนต่อแถวอยู่ไม่มาก มือเรียวกระชับสายกระเป๋าก่อนจะเดินไป แต่ไม่วายหันกลับมามองเพื่อนเมื่อนึกขึ้นได้ เห็นว่าตอนนี้แตงกวาอยู่กับใครคนใดคนหนึ่งแล้วเหมือนกัน หญิงสาวจึงละสายตาออกแล้วเดินต่อไป
พายุมองตามร่างเล็กที่เดินเขย่งเท้าไปทางห้องน้ำ ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหมายจะเดินตามเธอไป มือของเจ้านายคว้าหมับเข้าที่แขนของเพื่อนก่อนจะถามออกมา
"มึงจะไปไหน!"
"เดี๋ยวมา!" พายุบอกแค่นั้นก่อนจะแกะมือที่จับแขนของเขาออกแล้วเดินไปตามทาง เขาเดินตามหลังหญิงสาวไปช้าๆก่อนสายตาจะเห็นมุมมืดรีบผลักร่างบางเข้าไปอย่างไว
"อ๊ะ!" เมลตกใจเมื่อโดนใครบางคนผลักตัวเธอให้เข้ามาที่มุมอับข้างห้องน้ำอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ในมุมมืดนั้นเธอมองไม่เห็นใบหน้าของใครคนนั้นเลย แต่เธอสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิร่างกายของคนที่เข้ามาใกล้ขึ้นเธอเรื่อยๆ หญิงสาวถอยหลังร่นจนแผ่นหลังไปติดกับผนังปูนทันที
"คะ..ใคร!" เมลถามน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ
"จำไม่ได้?"
"..." ร่างบางตัวแข็งทื่อเมื่อจำเสียงของเขาได้ ถึงจะแค่ครั้งเดียวแต่เธอก็จำได้เพราะมันมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร เธอปรับสายตาให้เข้ากับมุมมืดก็เห็นแววตาที่ดูเป็นประกายของเขา จ้องมาที่ใบหน้าของเธอตาไม่กะพริบ
"..พี่พายุ" น้ำเสียงแหบแห้งเอ่ยออกมาเบาๆอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าจะเป็นคนๆเดียวกับที่เธอเห็นตรงทางเข้าประตูนั้นจริงๆ
"คุยกันหน่อยมั้ย" พายุยกยิ้มมุมปากเพียงนิดเมื่อเธอจำน้ำเสียงของเขาได้ ไม่รู้ว่าเธอจำเสียงผู้ชายทุกคนแม่นแบบนี้เหมือนกันหรือเปล่า
"มะ..มีอะไรคะ" เมลถามอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ถ้าเขาอยากเข้ามาคุยกับเธอแล้วทำไมต้องผลักเธอเข้ามาในมุมอับแบบนี้ด้วยล่ะ แล้วเขามีอะไรที่ต้องคุยกับเธออย่างนั้นเหรอทั้ง ๆ ที่เพิ่งเจอกันไปแค่ครั้งเดียว
"ฉันจำได้ว่า..." พายุหยุดประโยคไว้แค่นั้นก่อนจะมองหน้าอีกคนนิ่ง เขาไล่สายตาโฟกัสที่เรือนร่างของหญิงสาวแล้ววกขึ้นไปสบสายตาของเธอใหม่
"อะ..อะไรคะ" น้ำเสียงที่เขาใช้คุยกับเธอทำไมมันช่างดูแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นนัก เขาทั้งเย็นชาและแฝงไปด้วยความลึกลับชวนขนลุกแปลก ๆ เธอไม่เคยรู้สึกกลัวใครมากเท่าเขามาก่อนอย่างไม่มีเหตุผลเลย
"เธอ ชอบ ฉัน" พายุบอกเสียงเบาเน้น ๆ ปากบอกชอบเขาอยู่หมับ ๆ แล้วทำไมถึงยังเที่ยวไปออเซาะผู้ชายคนอื่นอยู่ได้
"เอ่อ..ปะเปล่า!" หญิงสาวรีบปฏิเสธทันควันเพราะเธอเคยบอกเขาไปแล้วว่าวันนั้นเพื่อนแกล้ง ทั้งที่ยังไม่เคยเอ่ยคำแบบนั้นออกไปเลยสักนิด
"ฉันถือว่า ใครที่กล้าเดินเข้ามาในโลกส่วนตัวของฉันแล้ว ถ้าฉันไม่อนุญาตก็ออกไปไม่ได้" พายุบอกเสียงเรียบหากแต่แฝงไปด้วยความดุดัน
"มะ..หมายความว่ายังไงคะ" หญิงสาวชะงักไปกับน้ำเสียงเรียบๆแต่แฝงไปด้วยความน่ากลัวของเขา คิดว่าพี่พายุต้องเข้าใจอะไรผิดไปแน่ ๆ หรือแค่เหตุการณ์ในวันนั้นเขาถึงกลับเอามาเป็นประเด็น
"จำคำฉันไว้" พายุเอ่ยทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะเดินออกไปจากตรงนี้ ปล่อยให้หญิงสาวยืนงงกับคำพูดของเขาอยู่คนเดียวแถมยังรู้สึกสร่างเมาไปเลย
เมลที่ได้สติว่าตัวเองจะมาเข้าห้องน้ำก็รีบเดินออกไปจากตรงนี้เพื่อไปจัดการธุระส่วนตัว ไม่นานเธอก็กลับไปนั่งรอเพื่อนที่โต๊ะดังเดิม เมลถึงกับส่ายหัวเมื่อยังเห็นแตงกว่ายืนซบอกหนุ่มๆอยู่ในท่าเดิม สงสัยคนนี้จะถูกใจเป็นพิเศษถึงได้นานกว่าใครๆ