บทที่ ๕ บทลงโทษจากคนสารเลว(๒)

1323 คำ
ร่างกายถูกบดกระแทกลงมาราวกับว่าเรี่ยวแรงทั้งหมดของผู้ชายสารเลวคนนี้ลาดเทใส่ร่างกายของเธอ เวลาผ่านไปไม่กี่นาทีแต่มันกลับนานชั่วกัปชั่วกัลป์ สุดท้ายมนรดาก็ไม่สามารถทรงตัวยืนได้อีกต่อไป ร่างกายบอบบางทิ้งตัวลงไปข้างหน้า โชคดีที่ปราณนต์ยังคงเกี่ยวเอวคอดกิ่วเอาไว้แน่น พอเธอจะล้มลงเขาก็ขยับ เดินไม่กี่ก้าวก็สามารถโยนลงบนเตียงได้ แผ่นหลังเปลือยเปล่ากับบั้นท้ายกลมกลึงที่ลอยเด่นนั้น แม้ไม่ได้ทำให้อารมณ์พิศวาสโหมกระหน่ำไปยิ่งกว่าเดิม แต่เพราะอยากทำโทษที่อีกฝ่ายปากดี ไม่ยอมเชื่อฟัง แถมยังเผาบ้านไม้หลังเก่าวอดไปหนึ่งหลัง สิ่งที่ชายหนุ่มทำในตอนนี้จึงมีแต่การลงโทษ...ลงโทษให้เธอหลาบจำและสำนึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไป แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะแลกมาด้วยเสียงตะโกนด่าทอก็ตามที แต่เขายังคงสอดกายครอบครองเธอ กัดหัวไหล่ในยามที่ความเสียวซ่านวิ่งพล่านไปทั่วร่าง “เป็นไง ยังจะด่าอีกไหม” “สารเลว!” จบคำด่า ร่างกายบางราวกับไม้กระดานของมนรดาก็ถูกพลิกขึ้นมาเผชิญหน้ากับเขา นัยน์ตาคมกริบวาดผ่านหน้าอกกลมขาวเพียงเล็กน้อย ยกยิ้มเพียงครั้งก็อ้าปากกว้างเข้าครอบครอง ดูดไล้ปลายถันสีแดงระเรื่อของเธอให้หายเข้ามาในปาก ใช้ปลายลิ้นลูบตีราวกับกำลังตบแก้มของเธอแรงๆ ซ้ำไปซ้ำมา มนรดาพยายามไม่ส่งเสียงใดๆ แต่สุดท้ายก็หลุดเสียงครางอื้ออึงออกมาจนได้ “อื้อ!” ทันทีที่ได้ยินเสียงของคนใต้ร่าง แม้จะแผ่วเบาแต่ก็ทำให้ปราณนต์ยกยิ้มน้อยๆ พอใจ หลังจากนั้นบทลงทัณฑ์ที่เกิดขึ้นก็ลดความดุดันลงไปไม่น้อย เขาค่อยๆ ใช้ปากและลิ้นโอ้โลมคนที่คิดต่อต้าน ครอบครองหน้าอกกลมขาวทั้งสองข้างพร้อมๆ กับฝ่ามือข้างหนึ่งที่ขยับลงต่ำ สัมผัสความเนียนนุ่มของโคนขาด้านในและชำแรกแทรกซึมไปในจุดที่เขาเคยบุกรุกมาก่อน แรงที่เขาใช้ไม่หนักไม่เบาจนเกินไป แต่พยายามทำให้มนรดาต้องแผดเสียงด้วยความทรมานกับความซ่านสยิว “อื้อ...อื้อ!” หญิงสาวส่ายหน้าจนผมเผ้ายุ่งเหยิง พยายามผลักดันมือของเขาออก แต่สุดท้ายเธอก็ไม่สามารถหักห้ามเขาได้ แถมยังต้องพลั้งเผลอแอ่นหยัดเนื้อตัวเพื่อรับการบำเรอจากปลายนิ้วของเขา ร่างกายบอบบางที่สั่นระริก ทำให้ปราณนต์ปรายตามองอย่างเย้ยหยัน เขาค่อยๆ แทรกกายลงไประหว่างขาของเธออีกครั้ง ดันกล้ามเนื้อที่ยังแข็งแรงเข้าครอบครองความเย้ายวนของมนรดา กระแทกไม่กี่ครั้งก็ปลดปล่อยทุกอย่างให้เปื้อนโคนขาด้านในของเธอ แล้วเสร็จเขาก็หยัดกายลุกขึ้นยืน เดินไปคว้าเอาผ้าขนหนูสีขาวมาพันเอวสอบ พร้อมกับเหวี่ยงอีกผืนกระแทกร่างของคนนอนอ่อนปวกเปียกอยู่บนเตียง “ลุกขึ้น ไปอาบน้ำ แล้วก็ไปทำกับข้าวมา ฉันหิวแล้ว” มนรดาเม้มปากมองด้วยความเจ็บแค้น แต่ไม่ว่าจะโกรธจนอยากฆ่าเขาให้ตายแค่ไหน ก็ได้แต่ประคองร่างกายปวดระบมก้าวลงจากเตียง ลงมาอาบน้ำที่ห้องน้ำด้านล่าง หยิบเสื้อผ้าของเขาที่พอจะใส่ได้มาสวม แล้วเดินไปยังทิศทางที่ตั้งของครัว ในห้องเล็กแคบนี้มีอุปกรณ์ทำครัวครบครัน แต่ยังเป็นเตาถ่าน จึงลงมือก่อไฟให้โหมลุกไหม้ บางคราก็นึกอยากจะเผาบ้านหลังนี้ให้มอดไหม้เป็นจุณเหมือนบ้านบนยอดเขา แต่พอนึกถึงบทลงโทษจากผู้ชายคนนั้นแล้ว ก็ได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำกับข้าวต่อไป ปล่อยให้ควันไฟที่ลอยคลุ้งโดนหน้าโดนตาจนแสบจมูกไปหมด และสุดท้ายน้ำตาที่พยายามกักเก็บเอาไว้ตั้งแต่พบกับเขาก็ไหลรินลงมาราวกับทำนบแตกก็ไม่ปาน เสียงสะอื้นไห้ที่เล็ดลอดออกมาจากห้องครัว ทำให้ปราณนต์ซึ่งเพิ่งอาบน้ำเสร็จต้องชะงักฝีเท้า เขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เคยบอกมนรดาว่าถ้าเขาเห็นเธอร้องไห้ น้ำตาหนึ่งหยดก็จะจัดการครอบครองเธอหนึ่งครั้ง ทว่าตอนนี้พอได้เห็นใบหน้าที่ซบลงอยู่ข้างเตาไฟเขากลับไม่มีแก่ใจจะลากเธอมาทำร้ายอย่างที่ข่มขู่อีก จึงได้แต่ก้าวขึ้นบ้านไปเงียบๆ นั่งรออยู่เกือบหนึ่งชั่วโมง คนตัวเล็กบางที่มีเพียงเสื้อยืดตัวหลวมซึ่งความยาวสามารถปกปิดจนถึงหัวเข่าก็ยกถาดอาหารขึ้นมา บนนั้นมีไข่เจียวหนึ่งจาน กับผัดผักที่เก็บมาจากแปลงผักข้างบ้าน ข้าวสวยที่ผ่านการหุงโดยไม่มีหม้อหุงข้าวส่งกลิ่นเหม็นไหม้เล็กน้อย แต่น่าแปลกที่ปราณนต์ไม่คิดจะด่าหรือต่อว่าสักคำ กลับนั่งกินเงียบๆ แถมยังออกปากสั่งคนทำครัวที่มีคราบเขม่าควันเปื้อนแก้มด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “นั่งลง ช่วยฉันกินของพวกนี้ให้หมด” มนรดาเม้มปากเล็กน้อย แถมยังลอบถลึงตาใส่คนบ้าอำนาจไปหนึ่งที หลังจากนั้นก็นั่งลงฝั่งตรงข้าม กินข้าวเงียบๆ โดยไม่พูดจา ไม่รู้ว่าอาหารที่เธอลงมือทำเองมันอร่อยเกินไป หรือว่าความหิวมีมากมายกันแน่ สุดท้ายไม่ถึงสิบนาทีทุกอย่างก็ถูกจัดการจนหมดเกลี้ยง เธอจ้องมองข้าวเปล่าที่ยังเหลือครึ่งหนึ่งของตัวเองตาปริบๆ สุดท้ายก็เดินไปหยิบน้ำปลาขวดเล็กมาเหยาะๆ ลงไป จากนั้นก็ตักกินจนหมด ปราณนต์ไม่พูดอะไร เขากินข้าวไปครึ่งจานก็ผลักส่วนที่เหลือมาตรงหน้าหญิงสาว “กินให้หมด อย่าให้เหลือแม้แต่เม็ดเดียว” มนรดาชะงักกับคำสั่งของเขาเล็กน้อย สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร ในเมื่อเขาสั่งให้กิน เธอก็จะกิน สั่งให้ต้องอยู่อย่างทรมานเธอก็จะอยู่อย่างนั้น อยากจะรู้นักว่าระหว่างเธอกับเขา ใครกันที่จะมีความอดทนมากกว่า ครั้นหญิงสาวยอมกินแต่โดยดี ปราณนต์ก็ลุกขึ้น ไปยืนย่อยอาหารอยู่ข้างหน้าต่าง มองไปยังหุบเขาน้อยใหญ่ที่สลับซับซ้อนอยู่เบื้องหน้า จนกระทั่งได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจากด้านหลังถึงได้ออกปากสั่ง “ล้างจานเรียบร้อยก็ไปถอนหญ้าในแปลงผัก รดน้ำให้พวกมัน ทำให้เสร็จก่อนพระอาทิตย์ตกดิน หลังจากนั้นฉันคงไม่ต้องบอกใช่ไหมว่าเธอต้องทำอะไรต่อ” “คุณจะให้ฉันทำอะไรอีก” เขาหรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วหันหน้ากลับมาจ้องมองคนที่กล้าตั้งคำถามด้วยรอยยิ้มดูแคลน “เธออย่าโง่ไปหน่อย ผู้หญิงผู้ชายอยู่ด้วยกันกลางป่ากลางเขา ตกค่ำมายังจะทำอะไรกันได้อีก โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเธอ...ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน ก็ต้องนอนอยู่ใต้ร่างของฉัน ทำให้ฉันพอใจ” ในเมื่อเขาบอกความต้องการออกมาชัดเจนขนาดนั้น มนรดาก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก รีบเก็บถ้วยจานชามข้าวลงไปล้าง และทำทุกอย่างที่เขาสั่งการโดยไม่ปริปากบ่นออกมาแม้แต่คำเดียว แต่รู้เอาไว้เถอะว่า ทุกสิ่งที่เขาทำกับเธอนั้น...เธอได้จดจำฝังลงไปในความทรงจำที่ลึกสุดเรียบร้อยแล้ว ขอแค่เพียงมีโอกาส เธอจะเอาคืนให้สาสม!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม