“ท่านใต้เท้าเจ้าคะ ข้าน้อยได้ยินมาว่ายามที่ท่านฆ่าฟันพวกศัตรู ท่านมิยอมกะพริบตาเลย จริงหรือไม่เจ้าคะ” ด้วยความที่ยังเยาว์วัย หลิวหลูซินจึงเอ่ยถามออกมาเพราะความอยากรู้ ว่าเรื่องที่ได้ยินมานั้นเป็นเรื่องจริง หรือเป็นเรื่องที่พวกนักปราชญ์ที่มาเล่าเรื่องในโรงเตี๊ยมทั่วเมืองถิงฮวาตีความไปเอง ชิงเหมยสะกิดสหายของนาง เพราะเกรงว่าจะทำให้พี่ชางต้องลำบากใจ รอยแผลเป็นที่อยู่บนใบหน้าของเขานั้น แม้จะเบาบางและมีร่องรอยที่จางลง แต่ทว่าบาดแผลที่อยู่ภายในจิตใจของเขาก็คงยังอยู่ เพราะนางเองก็เคยผ่านสถานการณ์ที่ต้องฆ่าผู้อื่นและสูญเสียสหายร่วมรบมาเช่นกัน ในสนามรบหากเราไม่ฆ่าเขา เขาก็ฆ่าเรา เพราะเช่นนั้นแล้ว… หากแสดงความอ่อนแอข้าศึกเห็น ก็อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนได้ ท่านพี่ชางจึงได้แสดงด้านที่เย็นชาออกมา ทำให้ผู้ที่มองเขาตีความเป็นเช่นนั้น “พี่ไม่เป็นอันใดแล้วล่ะชิงชิง… ผู้คนก็พูดกันไป ผู้ใดจะทนไม่กะพริบตาได้กัน