Episode 04
พวกเราก็นั่งกินกันไปอย่างมีความสุข วันนี้ก็ดูเหมือนจะจบดี แต่ทว่า…
มันกลับไม่ใช่แบบนั้น เมื่อคุณคลาสดันเหลือบสายตาไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่แสนจะคุ้นเคย
คุณเบลล่าแฟนสาวของเขานั่นเองค่ะ
“เบลล่า…” เขาเบิกตากว้าง และรีบคว้าเงินสดออกมาจ่ายเงิน ก่อนที่จะรีบลุกออกจากร้านไป
“ต…ตายแล้ว! คุณคลาสรอฉันด้วยค่ะ!” เรารีบยัดแซลมอนที่คาปากเข้าไปให้หมด ก่อนที่จะรีบใส่เกียร์หมาวิ่งตามคุณคลาสไป “รอด้วย~”
“ก้าวยาวๆ สิยัยเตี้ยเอ๊ย!” เขาเขกหัวเราหนึ่งที และรีบเร่งฝีเท้าของตัวเองให้เร็วที่สุด “วิ่งดิ!”
“ก็วิ่งอยู่ แต่ขาฉันก็มีแค่นี้ไง~” จะรีบไปไหนพ่อคุณ โหย! แซลมอนกำลังอร่อยอยู่แท้ๆ เสียดายชะมัด!
ตอนที่นั่งกินแซลมอนอยู่ในร้าน ฝั่งที่คุณคลาสนั่งอยู่ เป็นฝั่งที่สามารถมองออกไปด้านนอกได้ ก็จะเห็นคนเดินผ่านไปมาอยู่ที่หน้าร้าน แล้วเขาก็ดันมองเห็นคุณเบลล่าของเขาเดินผ่านตาไป
แต่ก็ไม่รู้ว่ามองเห็นแบบไหน เขาถึงได้รีบจ่ายเงินและวิ่งออกมาเร็วขนาดนี้ ความรู้สึกมันบอกว่ากำลังจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นเลยล่ะค่ะ
พรึบ!
“เบลล่า!” คุณคลาสคว้าแขนของแฟนสาวไว้ทันที ซึ่งที่น่าตกใจไปกว่านั้นก็คือคุณเบลล่าเธอไม่ได้มาเดินห้างเพียงคนเดียว แต่ดันมากับ… “ไอ้หน้าจืดนี่เป็นใคร!”
“แกว่าใครหน้าจืดวะ” ผู้ชายคนนั้นกล่าว และเดินเข้ามาปัดมือของคุณคลาสออกจากมือของคุณเบลล่าทันที “อย่ามาแตะต้องแฟนฉันนะเว้ย ไอ้กระจอก!”
“แกนั่นแหละเป็นใคร! แล้วแกมีสิทธิ์อะไรมาแตะตัวแฟนฉัน” เขาผลักไหล่ผู้ชายคนนั้นเบาๆ และหันไปจ้องหน้าคุณเบลล่า รอคำอธิบายจากปากของเธอ “ตอบผมมาสิเบลล่า ไอ้หน้าจืดนี่มันเป็นใคร!”
“เขาชื่อเตชินท์” คุณเบลล่าพูด เธอก้มหน้าหนีไม่กล้าสบตากับคุณคลาส แต่มือของเธอก็ได้เอื้อมไปกุมมือของผู้ชายที่ชื่อเตชินท์นั่นไว้ “เขาเป็นแฟนฉัน”
“หมายความว่ายังไง…” คุณคลาสกำหมัดแน่น สีหน้าของเขาในตอนนี้พร้อมที่จะระเบิดลงทุกเมื่อ ซึ่งถ้าเขาระเบิดออกมามันต้องไม่ดีมากแน่ๆ เรากลัวว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปมากกว่านี้ ก็เลยเดินเข้าไปยืนข้างๆ เขา พร้อมกับเอามือน้อยๆ ของตัวเองไปกุมมือเขาเอาไว้
“ใจเย็นๆ ฉันอยู่ข้างคุณเสมอนะ” กระซิบบอกเขาเบาๆ เผื่อว่าคำพูดของเราอาจจะช่วยให้เขาใจเย็นลงได้
“ฉันเบื่อ” คุณเบลล่าถอนหายใจออกมาอย่างหนัก และครั้งนี้เธอก็พร้อมที่จะสบตากับคุณคลาสแล้ว “คุณแทบไม่มีเวลาให้ฉันเลย หรือพอคุณมี คุณก็มักจะไปในที่ที่ฉันไม่ชอบไป คุณมีเวลาว่าง แทนที่จะพาฉันไปช็อปปิ้งซื้อกระเป๋า ซื้อเสื้อผ้า แต่คุณดันไปนั่งตกปลาโง่ๆ แทน”
“พอถึงเวลาที่ใจเราเห็นตรงกัน คุณก็ไม่เคยว่างเลยสักครั้ง นัดของเราต้องมีเหตุการณ์มาแทรกให้ล่มตลอด ฉันทนอยู่กับคุณไม่ไหวแล้วจริงๆ คุณเป็นคนดีนะคะ คุณไม่เคยนอกใจฉัน แล้วก็ไม่เคยพูดจาแย่ๆ ไม่เคยพูดคำที่ทำร้ายความรู้สึกของฉันเลย แต่เราแตกต่างกัน ไลพ์สไตล์เราสองคนมันต่างกัน เวลาที่ฉันมองหน้าคุณ ฉันมองไม่เห็นอนาคตของเราเลย ถ้าจะให้มองถึงอนาคตที่สมบูรณ์ ครอบครัวที่สมบูรณ์แบบฉันมองไม่เห็นจริงๆ ฉันเห็นแต่ความฉิบหาย” ว่าจบ คุณเบลล่าก็เดินจากไปทันที “คุณก็ไปหาเอานะคะ ผู้หญิงที่ไปนั่งตกปลากับคุณได้ทุกวันเสาร์น่ะ!”
“เบลล่าเขาเลือกกูเว้ย!” ผู้ชายที่ชื่อเตชินท์หันมาชูนิ้วกลางใส่คุณคลาส ก่อนที่จะพวกเขาทั้งสองจะเดินจากไป~
“คุณโอเคไหมคะ…” คุณคลาสไม่ได้ตอบอะไร เขาสะบัดมือเราทิ้ง และเดินกลับไปที่รถทันที “ด…เดี๋ยว! รอฉันด้วยสิคะ!”
เราเดินตามเขามาที่ลานจอดรถ เมื่อมาถึงแถวนั้นก็ไม่ค่อยมีคนอยู่ คุณคลาสก็เลยหันหน้าเข้ากำแพง และซัดหมัดเข้าไปที่กำแพงรัวๆ
ปึก!
ปึก!
ปึก!
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย! ไอ้เหี้ย! ไอ้เหี้ย!”
“คุณคลาสอย่า!” เรารีบวิ่งเข้าไปคว้าแขนของเขาในทันที เรารู้ว่าเขาเสียใจ เราเข้าใจ แต่เราก็ไม่อยากให้เขาทำร้ายตัวเอง “พอได้แล้ว คุณเจ็บมากแล้วนะ”
“แต่มันก็เจ็บได้ไม่เท่ากับการที่โดนทิ้งหรอก!” เขาหันมาจ้องหน้าเราด้วยแววตาที่น้ำตาคลอเบ้า นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่คุณคลาสเขาร้องไห้เลยล่ะค่ะ ช่วงแรกที่บริษัทล้มลุกคลุกคลาน เกือบล้มละลายไปหลายต่อหลายครั้ง คุณคลาสก็ถึงกับหลั่งน้ำตา แต่พอบริษัทประสบความสำเร็จขึ้นมา อยู่ได้คงตัว เขาก็มีแต่รอยยิ้ม ไม่เคยร้องไห้ออกมาอีกเลย จนกระทั่งวันนี้ “ฉันไม่ดีตรงไหนเหรอ! ฉ…ฉันมันแย่มากขนาดนั้นเลยเหรอ!”
“ไม่หรอกคุณ คุณเบลล่าเธอก็เพิ่งพูดออกมาเองว่าคุณเป็นคนดี เพียงแต่ไลพ์สไตล์ในการใช้ชีวิตของคุณกับเธอมันต่างกันก็เท่านั้นเอง เธอก็เลยไม่ชอบ”
“เรื่องแค่นี้เองไหมวะ! เรื่องแค่นี้ถึงกับต้องนอกใจกันเลยเหรอ!” หันไปชกกำแพงอีกครั้ง “ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”
“ใจเย็นๆ นะคะ อย่าทำร้ายตัวเองเลย” เราก็พยายามห้าม พยายามจับมือของเขาไว้ไม่ให้ชกกำแพง แต่เขาก็ไม่สน สู้มือเราสุดๆ จะชกให้ได้เลย “จริงๆ ไลพ์สไตล์ต่างกันมันก็สามารถคบกันได้นะคะ เพียงแค่เราหาจุดตรงกลางมาคุยกัน ไม่ใช่แค่ไลพ์สไตล์หรอก อายุที่ต่างกัน ฐานะที่ต่างกัน ฉันคิดว่าถ้าเราหาจุดตรงกลางมาคุยกัน ก็อาจจะไปด้วยกันได้ แต่มันก็อาจจะไม่ใช่สำหรับทุกคนก็ได้นะคะ ฉันก็พูดอะไรได้ไม่เยอะหรอก เอาเป็นว่า! คุณเบลล่าเธอคงมีเหตุผลของเธอนั่นแหละค่ะ”
“ไม่หรอก…” น้ำตาไหล “มันไม่มีเหตุผลอะไรหรอก ขึ้นชื่อว่าคนมันจะไป ไม่ว่าจะเอาอะไรมารั้งมันก็ไป”
“…” เจอคำนี้เล่นเอาเราไปต่อไม่ได้เลยล่ะค่ะ สตั้นกลางอากาศสุดๆ!
“แม่งเอ๊ย!” เขาชกกำแพงไปอีกครั้ง เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะเดินไปขึ้นรถ “แดกเหล้ากันต่อเถอะ!”
“เอ่อ…ค่ะ! แดกก็แดก เอ๊ย! กินก็กินค่ะ” แล้วก็ไปจบที่เหล้าทุกร่ำไป~
ไม่ว่าจะกับแฟนคนแรก หรือแฟนคนล่าสุด เมื่อเลิกกันก็ชวนเราไปกินเหล้าด้วยตลอด
และนี่ก็คือเจ้านายของเราเองค่ะ แต่เริ่มจะไม่เหมือนเจ้านายแล้ว เริ่มจะเหมือนเพื่อนแทน