ตัดมาที่เพ็ญสุดาและแพรพลอย
"เมื่อยจัง ไม่ได้นั่งเลย วันนี้แขกเยอะเน๊าะ เห็นเบลบอยเล่าให้ฟังว่าทางครัวมือเป็นระวิงเลย สั่งอาหารกัน ทางบาร์เครื่องดื่มก็ผ่ามะพร้าวกันแทบไม่ทัน หมดไปหลายทะลายเลย สั่งโคโคนัทมิลค์เชค กัน อากาศร้อนได้ดูดสักปื่ดอ่า สดชื่นหวานมัน ขนาดเราคนไทยยังชอบเลย" แพรพลอยคุยจ้อขณะรอเจ้าหน้าที่กะบ่ายมารับเวรต่อ ส่วนอีกคนได้แต่พยักหน้ายิ้ม ๆ และตรวจเอกสารไปพลาง สักพักเวรบ่ายเข้ามา พวกเธอจึงออกไปที่ล็อคเกอร์เพื่อเอาชุดไปเปลี่ยน เมื่อเปลี่ยนชุดเสร็จจึงพากันเดินออกมา
ด้านเพ็ญสุดาในขณะที่เธอกำลังเดินมาพร้อมกับแพรพลอยนั้นสายตาเจ้ากรรมบังเอิญเห็นเด็กผู้หญิงผมสีทองน่ารักกำลังนั่งในห่วงยางและใช้เท้าเตะเล่นน้ำอย่างสนุกสนานอยู่คนเดียวจึงรู้สึกเป็นห่วงจึงคิดเข้าไปดูใกล้ ๆ อีกนิดแต่เด็กนั่นกลับจมน้ำลงไปในน้ำทันตาเห็นจึงรีบสับเท้าเข้าไปหา
ด้านแพรพลอยเห็นเพื่อนรุ่นน้องกึ่งเดินกิ่งวิ่งตรงไปที่ชายหาดจึงรีบร้องทัก
"วันพระ ๆ จะไปไหน"
"เด็กนั่นพี่แพรเห็นมั๊ย กำลังเด็กจมน้ำ"
"ไหนพี่ไม่เห็นมีเด็กสักคนเลย"
"นั่นไงกำลังจมลงไปแล้ว เด็กผู้หญิงผมทองอายุสัก 7-8 ขวบน่าจะได้น่ะพี่..นั่นไงกำลังจมลงไปแล้ว พี่หนูฝากกระเป๋าหน่อย หนูจะไปช่วยเด็กนั่น" เพ็ญสุดาวิ่งไปที่ชายหาดและถอดรองเท้าสะเปะสะปะด้วยความเร่งรีบพร้อมกับร้องตะโกนเรียกเด็กน้อยเป็นภาษาอังกฤษ
"วันพระ ไม่เห็นมีเด็กเลย คลื่นมันแรง..กลับมา ๆ ตายแล้วนั่น ยัยวันพระ กลับมา.." สักพักก็มีคลื่นลูกใหญ่พัดคนตัวเล็กเข้าไปกลางทะเลลึกเกือบจะถึงทุ่นที่ทางโรงแรมกั้นไว้เพื่อเตือนอาณาเขตเล่นน้ำอย่างปลอดภัยไว้ ทำให้แพรพลอยรู้สึกผิดปกติจึงร้องเรียกให้คนช่วยทันที
ใครก็ได้ช่วยด้วยค่ะ!!!!! น้องหนูถูกคลื่นน้ำซัดเข้าไปแล้ว ช่วยด้วย..ใครก็ได้ช่วยด้วย..พร้อมกับชี้ไปที่คนในทะเล
อีกด้าน
กรวรรธและคุณเลขาหนุ่มของแดนไตรที่กำลังเดินตรวจตากับได้ยินเสียงเรียกและจำได้ว่าผู้ที่ร้องเรียกขอความช่วยเหลือคือพนักงานต้อนรับส่วนหน้าที่เป็นบัดดี้ของยัยวันพระจึงรีบถอดสูท ฝากไว้กับคุณเลขาและถอดรองเท้าไว้ที่ชายฝั่งกระโดดเข้าช่วยทันที
"วันพระ..ยัยวันพระ ทางนี้ กลับมา ส่งมือมาให้ผม จับมือผม มันคือภาพลวงตา ไม่มีเด็ก เด็กนั่นไม่มีจริง กลับมา"
"ไม่ เด็กนั่นกำลังจมน้ำ ฉั๊นจะไปช่วยเด็กออกมา" กรวรรธรู้ทันทีว่าเกิดเหตุไม่ชอบมาพากลกับยัยผู้หญิงคนนี้แล้วจึงนึกถึงหลวงพ่อ และอธิษฐานในใจให้เขาช่วยคนตัวเล็กได้สำเร็จ
"ฟังนะ วันพระ เด็กนั่นตายไปแล้ว ที่เธอเห็นเป็นเพียงกายละเอียดของเด็กที่คนปกติจะมองไม่เห็น กลับมา เป็นเธอเองนั่นแหละที่จะตายเสียเองเพราะจมน้ำเธอสู้คลื่นไม่ไหวหรอก คลื่นยักษ์อีกระรอกกำลังจะมา ส่งมือมาให้ผม ขอร้องหละ อย่าไป ส่งมือมา"
"ห๊ะ!! จริงเหรอ เด็กนั่นเป็นวิญญาณเหรอ ..ฉั๊น พรุ่บ.." สักพักก็มีคลื่นลูกใหญ่พัดโถมมาอีกครั้งและเป็นจังหวะที่กรวรรธเข้าไปประชิดและรวบตัวคนตัวเล็กเอาไว้มั่น และล็อคคอแล้วลากให้ขึ้นฝั่งด้วยมาด้วยกัน…
แฮ่ก ๆ "รู้มั๊ยว่านั่นน่ะไม่ใช่คน ห๊ะ ยัยเด็กบ้า เกือบตายแล้วมั๊ยล่ะ" กรวรรธสบถบ่นปนหายใจเหนื่อยหอบในขณะที่รวบเอวคนตัวเล็กมาวางบนหน้าขาของตนเองและนั่งบนชายหาดอยู่ด้วยกัน เท่ากับว่าคนตัวเล็กนั่งอยู่บนตักของคนตัวโตในสภาพที่เปียกปอนไปด้วยกันทั้งคู่
อีกด้านของคนบนฝั่ง คุณเลขาคะ ทางนั้นค่ะ แล้วรีบวิ่งออกไปหาเพื่อนสาวรุ่นน้อง
"วันพระ ยัยวันพระ เธอจะบ้าเหรอ วิ่งลงน้ำไปทำไม รู้มั๊ยพี่ทั้งกลัวทั้งห่วงเธอจะบ้า เธอเห็นอะไร พี่ไม่เห็นเด็กที่ไหนสักคน ทางซีเคียวฯ (security) เค้าก็เตือนแล้วว่าวันนี้คลื่นแรงเธอยังจะลงน้ำไปทำไม ฮึ่ก ถ้าเธอเป็นอะไรไปพี่จะทำไง พี่ว่ายน้ำไม่เป็นคงช่วยเธอไม่ได้ ฮึ่ก.." แพรพลอยรีบฉุดข้อมือคนน้องให้ลุกขึ้นมาแล้วกอดคนน้องอย่างเสียขวัญ กลายเป็นคนที่เปียกปอนที่เกือบจะจมน้ำกอดปลอบคนบนฝั่งเสียเอง ..
"หนูไม่เป็นไรเลยพี่แพร.." พร้อมกับลูบหลังคนพี่อย่างปลอบประโลม
"จะไม่ขอบคุณกันหน่อยเหรอ" เสียงจากอีกคนที่ดังขึ้น ทำให้สองสาวหันไปมองเป็นตาเดียวกัน
"เอ่อ ขอบคุณมากค่ะคุณกรวรรธ พอดีมัวแต่ดีใจ แฮร่" ส่วนคนตัวเล็กยกมือกระพุ่มไหว้คนตัวโตอย่างจริงใจ
"ขอบคุณค่ะ ต่อไปดิฉั๊นจะระวังให้มากกว่านี้"
"อืม..ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วไปพบผมที่ห้อง" คนตัวโตยกมือรับไหว้ พร้อมกับออกคำสั่ง
"เอ่อ ดิฉันเลิกงานแล้ว กำลังจะกลับบ้านเผื่อยังไม่รู้ แล้วจะให้ดิฉันไปพบคุณห้องไหนทำไมคะ ในเมื่อคุณก็ยืนอยู่ตรงนี้แล้วก็พูดเลยซิคะ" เพ็ญสุดาถามอย่างแสนซื่อ
"พรื่ด….." มนัสพงษ์ที่ฟังอยู่อดขำออกมาไม่ได้
ด้านกรวรรธ ถึงกับถอนหายใจยาวคล้ายจะระบายอะไรบางอย่างออกมา
"ผมหมายถึง ผมอยากอธิบายอะไรบางอย่างให้คุณฟัง เพื่อตัวของคุณเอง ที่นั่นมันมีอะไรที่จะทำให้คุณรู้ว่าคุณควรชั่งใจดูก่อนเวลาจะคิดจะทำอะไร …จะพาเพื่อนคุณไปด้วยก็ได้ถ้าไม่ไว้ใจ" กรวรรธอธิบายอย่างคร่าว ๆ เพราะดูทรงแล้วคนตัวเล็กจะระวังตัวแจอยู่เหมือนกัน
"ก็ได้ค่ะ แต่พวกหนูเปียกมะล่อกมะแล่ก เสื้อผ้าก็ไม่มีเปลี่ยนนี่ซิคะ" เพ็ญสุดาพูดกลั้วหัวเราะ
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวคนของผมจะนำชุดมาให้คุณเปลี่ยนอีกครึ่งชั่วโมง แต่ก่อนที่ชุดจะมา คุณใส่ชุดคลุมอาบน้ำที่แม่บ้านจัดให้ไปก่อน ตามมา"
ด้านคุณเลขาที่ยืนอยู่ในเหตุการณ์ได้แต่ยื่นเสื้อสูทคืนให้กรวรรธแล้วถอยออกมายืนสังเกตการณ์ต่ออย่างเงียบ ๆ แต่แอบหมั่นไส้ยัยคนที่ร้องไห้ฟูมฟายแล้วไปยืนกอดกันกลมกับเพื่อนในที่สาธารณะถึงแม้จะเป็นผู้หญิงด้วยกันก็เถอะ และเดินตามอีกสามคนไปเพราะเขาไม่ได้ห้าม ไปดูยัยฟูมฟายสักหน่อยก็ยังดี