"โอเค ผมไม่แซวแล้ว ขอให้ใช่นะครับ ใช้ได้อยู่ แต่เด็กไปนิด แต่ก็โอเค้ พี่สะใภ้คนนี้ผมรับได้" แดนไตรทิ้งท้ายก่อนเดินจากไปแต่แอบทิ้งบอมบ์ไว้ลูกใหญ่ ส่วนคนฟังได้ยิ้มในหน้าพลันนึกขึ้นได้ว่าเสื้อผ้าที่ยัยวันพระใส่ลงทะเลในวันนั้นเขาได้ส่งซักและแม่บ้านยังไม่ได้เอามาคืนให้ในวันนั้น..หึหึ..เรามีเรื่องต้องคุยกันแล้ว ยัยจอมยุ่ง.. กรวรรธพึมพำในใจคนเดียวแต่มุมปากยกยิ้ม
…………………………………………..
@แผนกซักรีด
กรวรรธเดินเตร็ดเตร่ไปที่แผนกซักรีดเพื่อต้องการถามเรื่องเสื้อผ้าของยัยเด็กนั่นเพื่อต้องการนำไปคืนให้ด้วยตัวเอง
"สวัสดีค่ะคุณกรวรรธ มาถึงนี่เลย ไม่ทราบมีอะไรให้ดิฉั๊นรับใช้เหรอคะ" หัวหน้าแผนกซักรีดกล่าวต้อนรับอย่างกระตือรือร้น
"คือผมจะมาตามหาเสื้อผ้า เป็นเสื้อเชิ้ตสีฟ้ากับกางเกงยีนส์ขายาวของผู้หญิงที่ส่งซักเมื่อวานก่อนน่ะครับ ไม่ทราบยังอยู่มั๊ย"
"อ้อ สักครู่นะคะ..สักพักหัวหน้าแผนกซักรีดก็เดินพร้อมกับชุดดังกล่าว..นี่ใช่มั๊ยคะ ดิฉันก็สงสัยอยู่ว่าจะเอาไปคืนที่ไหนดี เห็นว่าฟรีออฟชาร์จของออฟฟิศ แต่ก็ไม่รู้จะคืนที่ใคร ที่แท้ก็เป็นคุณกรวรรธนี่เอง" หัวหน้าแผนกซักรีดกล่าวยิ้ม
"เอ่อครับ ของผมเองครับ ไม่ฟรีนะครับผมจ่ายตังค์ เป็นของน้องสาวน่ะครับ นี่ครับค่าเสียหาย ขอบคุณนะครับ งั้นผมไปก่อนนะครับ" ส่วนหัวหน้าแผนกซักรีดรับเงินมาอย่างงง ๆ แล้วมองผู้ช่วยฝ่ายบริหารจนสุดสายตา
{อะไรว๊ะ ก็เห็นใครบอกว่าเป็นของพนักงานฟร้อนคนนั้นไม่ใช่เหรอ ไหงเป็นน้องสาวไปได้ล่ะ ไม่ได้ล๊ะเรื่องนี้ต้องขยาย} หัวหน้าแผนกซักรีดได้แต่พึมพำคนเดียว
…………………………………….
ฟร้อนออฟฟิศ
ผู้จัดการต้อนรับส่วนหน้าเดินเข้ามาพร้อมกับเอ่ยขึ้นพอได้ยินกันแค่สองคน
"เพ็ญสุดา ออกกะแล้วไปพบคุณกรวรรธที่ห้องด้วยนะยังไม่ต้องเปลี่ยนชุดหรอก" สุวัฒน์ ผู้จัดการฝ่ายต้อนรับส่วนหน้ากล่าวขึ้นราบเรียบ
"อ้าว มีเรื่องอะไรหรือคะ"
"ไม่รู้ซิ ท่านสั่งมาว่าอย่างงั้นก็รีบไปเถอะ ส่วนแพรพลอยรอส่งเวรบ่ายคนเดียวละกัน"
"เอ่อ ค่ะ" แพรพลอยรับคำแบบกระอักกระอ่วนเพราะเป็นห่วงเพื่อนรุ่นน้องอยู่เหมือนกัน
"ไม่เป็นไรหรอกพี่แพรหนูไปคนเดียวก็ได้เผื่อท่านมีอะไร หนูไปแป๊บเดียวแล้วเราเจอกันที่โรงจอดรถเลยนะ เดี๋ยวกลับบ้านพร้อมกัน" เพ็ญสุดาพูดยิ้ม ๆ แล้วรีบเดินออกไปและมุ่งไปที่ออฟฟิศฝ่ายบริหารทันที
@หน้าห้องผู้ช่วยฝ่ายบริหาร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก (เสียงเคาะประตู) พร้อมกับเปล่งเสียงออกไป "ดิฉันเพ็ญสุดามาแล้วค่ะ ขออนุญาตเข้าไปเลยนะคะ" พร้อมกับเปิดประตูเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นแทบจะไม่เชื่อตาตัวเองคือ คนตัวโตนั่งพิงพนักเก้าอี้ตัวใหญ่หันหน้ามาที่ประตูและยิ้มให้เธออยู่ เพ็ญสุดาถึงกับเหลียวซ้ายแลขวาอย่างไม่มั่นใจว่าอิตาผู้บริหารขี้เก๊กนี่ยิ้มให้ใครว๊ะหรือยิ้มให้เทพเทวดารักษาห้องนี้กันแน่
"แน่ะ แอบด่าผมอยู่ละซิ..อ่ะ" พร้อมกับยืนถุงกระดาษที่ข้างในบรรจุเสื้อผ้าในวันนั้นของเธออยู่
"อะไรเหรอคะ" เพ็ญสุดาถามอย่างสงสัยแต่ไม่กล้าแตะต้อง
"เปิดดูซิ ไม่ใช่ระเบิดหรอกน่า" คนตัวเล็กจึงได้เปิดปากถุงดูปรากฎว่าเป็นเสื้อผ้าของตนในวันเกิดเหตุ
"เออจริงซิ ดิฉันยังไม่ได้เอาชุดนั้นมาคืนคุณเลย พอดียังไม่ได้ซัก งือ..ลืมเลย เดี๋ยววันหลังจะซักมาคืนนะคะ ส่วนนี่ขอบคุณค่ะ งั้นดิฉั๊นลาเลยนะคะ สะ.." (สวัสดีค่ะ)
"เดี๋ยว..!!! ไม่ต้อง..ผมหมายถึงไม่ต้องเอาชุดนั้นมาคืน ผมให้ มันเหมาะกับเธอนะ เก็บไว้ใส่เถอะ" กรวรรธพูดเสียงเข้ม
"เอ่อ..ค่ะ..ไม่คืนก็ไม่คืนค่ะ งั้น..ลาเลยนะคะ สวัสดีค่ะ" เพ็ญสุดากล่าวตะกุกตะกักและยกมือไหว้ แล้วหันหลังกลับสับเท้าเดินออกจาห้องไปอย่างไว
"หึหึ" อีกคนได้แต่หัวเราะในลำคอเบา ๆ อย่างอดเอ็นดูคนตัวเล็กไม่ได้เผลอยิ้มออกมาอย่างลืมไปว่าตรงนี้มีกล้องวงจรปิดที่คอยสอดส่องพฤติกรรมผู้มาติดต่ออยู่จึงหุบยิ้มแอบหัวเสียนิด ๆ
หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป
เพ็ญสุดาและแพรพลอยต้องเปลี่ยนไปอยู่กะบ่ายซึ่งต้องออกกะในเวลาค่อนข้างดึกและสองสาวยังคงแว๊นมอ'ไซค์มาทำงานเหมือนเดิมซึ่งสร้างความรำคาญใจให้คนที่อยู่อีกด้านของตึกใหญ่เป็นอย่างมาก
..เฮ๊อ จะทำไงดีน๊า..ยัยนั่นทำไมไม่เอารถยนต์มาทำงานว๊ะ แว๊นมอ'ไซค์มาทำงานอยู่ได้ ถึงจะไม่ไกลแต่ตอนมานี่ก็น่าเป็นห่วงอยู่นา.. กรวรรธได้แต่รำพึงรำพรรณกับตัวเองอยู่อย่างนั้น จนไม่ได้สังเกตว่ามีใครยืนฟังอยู่สักพักแล้ว
"ห่วงเค้า ก็ไปรับเลยซิคร๊าบ จะมานั่งคิดให้ยากทำไม" เป็นแดนไตรที่เอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบ
"อ้าวคุณดาม มาเมื่อไรเหรอครับ" กรวรรธกล่าวแก้เก้อ
"ก็มาทันเห็นคนบางคนบ่นพึมพำคนเดียวแต่ชะเง้อหน้าต่างมองไปตึกหน้าละครับ" แดน ไตรกล่าวยิ้ม ๆ (ตึกหน้าหมายถึงฝ่ายต้อนรับส่วนหน้าที่ชาวโรงแรมมักจะเรียกสั้น ๆ และรับรู้เป็นการภายในค่ะ) ส่วนอีกคนยกยิ้มมุมปากเหมือนนึกอะไรขึ้นได้รีบกดโทรศัพท์ยุกยิก ๆ แล้วเก็บใส่กระเป๋าใบหน้ายิ้มอย่างคนอารมณ์ดี
@เวลา 23.00 น.@โรงจอดพนักงาน
"กลับบ้านดี ๆ นะพี่แพร ขับรถให้หูไวตาไว อย่าประมาททั้งคนและไม่ใช่คนนะพี่"
"ไม่ต้องห่วง..พี่นิมนต์หลวงพ่อมาด้วย ส่วนถ้าเป็นคนพี่มีนี่แล้วก็นี่" แพรพลอยล้วงกระเป๋าสะพายไปถือเครื่องช็อตไฟฟ้าและสเปรย์พริกไทยมาให้เพื่อนรุ่นน้องดู
"อืม..ก็ยังดี เดินทางปลอดภัยนะพี่" เพ็ญสุดาอวยพรเพื่อนรุ่นพี่จากส่วนลึก
"ส่วนเราก็เหมือนกัน ขอให้ปลอดภัย บุญรักษานะ" แพรพลอยส่งพรกลับคืนเช่นกัน
อีกด้าน
ใครบางคนต่างขับรถตามคนที่ตนเองสนใจไปเงียบ ๆ ห่าง ๆ โดยไม่ให้พวกเธอเหล่านั้นรู้ตัวจนมั่นใจว่าพวกเธอเข้าบ้านขึ้นนอนแล้วจึงกลับออกมาพักผ่อนตามอัธยาศัยบ้างตลอดกะบ่าย