หญิงสาวจึงสะดุ้งทำสีหน้ามึนงง จนดลรวีอยากแยกเขี้ยวใส่แล้วจับมาหวดก้นนิ่มๆ งอนๆ นั้นสักทีสองทีให้หนำใจ
“อยากอาบน้ำ ใส่ยาให้ฉันเหรอ มาสิ”
ชายหนุ่มปลดกางเกงที่สวมใส่ลงทันทีที่พูดจบ
“ว้าย!!!! ชีเปลือย ว้าย!ๆๆๆๆ”
พิรันดาเอามือปิดหน้าปิดตาอย่างเขินอาย แต่ผ่านไปไม่กี่วินาทีก็แอบแยกนิ้วออกมองตาพราว
“อุ๊ย!!”
หญิงสาวอุทานเมื่อแยกนิ้วออก เจอกับดลรวีที่แนบหน้ามาใกล้ๆ จ้องเธออยู่ก่อนแล้ว
“คุณดล ตกใจหมดเลย”
พิรันดาไม่กล้าก้มหน้าต่ำกว่าหน้าเขา กลัวเห็นอะไรๆ ที่อยากเห็นเสียเหลือเกิน คิดแล้วลอบกลืนน้ำลายลงคอ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น อยากจับเสียจริง
“ปิดตาอะไรแบบนี้”
ดลรวีจับมือทั้งสองที่ปิดหน้าหญิงสาวเอาไว้ออก แล้วถือไว้ข้างๆ
พิรันดาเผลอก้มลงมองด้านล่าง ก่อนจะถอนใจเบาๆ ไม่ใช่เพราะโล่งอก แต่เสียดายที่เขายังถอดไม่หมดต่างหากเล่า
ดลรวีถึงกับครางกระหึ่มเมื่อเห็นสีหน้าและแววตาของหญิงสาว
“ไปทำหน้าที่อาบน้ำของเธอได้แล้ว เดี๋ยวต้องทายาให้ฉันอีก”
ดลรวีอยากแกล้งยัยเด็กแสนซนตรงหน้าเหมือนกัน ไม่รู้ทำไมเขานึกเอ็นดูหล่อนยิ่งนัก
“อะ... อาบน้ำเหรอคะ”
พิรันดาพูดเสียงตะกุกตะกัก แต่แอบดีใจสุดฤทธิ์ที่จะได้เห็นพี่ดลโชว์หุ่นล้ำๆ น่ากินให้เธอดู
อ๊าย... คิดอะไรอยู่นี่
พิรันดาแอบมองกลางกายของชายหนุ่มแล้วหน้าแดง แล้วถอนใจ เพราะดลรวีให้เธออาบน้ำให้ก็จริง แต่ยังมีอาภรณ์ปกปิดเอาไว้ แต่เพราะความเป็นชายที่แข็งแกร่งอลังการเมื่อผ้าที่ปกปิดเปียกน้ำจึงเห็นรูปร่างเกือบชัดเจน
หญิงสาวทำตาปรอย จนดลรวีแทบนั่งไม่ติดขณะให้แม่บ้านคนสวยอาบน้ำให้ เธอค่อยๆ ใช้ฟองน้ำขัดไปทั่วตัว และใช้ผ้าเช็ดออกอย่างเบามือ ไม่ให้แผ่นหลังสัมผัสกับฟองสบู่เพราะอาจแสบแผลได้
“พอแล้ว”
ดลรวีบอกเสียงขรึมๆ เมื่อหญิงสาวจัดการทำความสะอาดร่างกายเขาจนสะอาดหมดจด ...ที่เขาต้องทำเสียงขรึมเพราะต้องสะกดกลั้นอารมณ์ขนาดหนัก
“ค่ะ ว้าย!!!!”
พิรันดาตอบรับ แต่เพราะความซุ่มซ่ามหญิงสาวลื่นสะดุดหกล้มลงตรงหน้า อะไรไม่เท่าเธออ้าปากร้องเสียงหลงจนปากอ้างับกับแก่นกายที่ห่อหุ้มอาภรณ์เปียกน้ำเอาไว้คาปาก
“ดาว โอ้ว... พระเจ้า”
ให้มันได้อย่างนี้สิ ดลรวีประคองใบหน้าของหญิงสาวเอาไว้ทั้งสองมือ พิรันดาเงยหน้าสบกับเขาอย่างตกใจ ปากอ้างับแก่นกายแข็งร้อนที่ตื่นตัวเต็มที่
ช่างเป็นภาพที่สยิวเหลือเกิน...
ดลรวีร้องครวญเหมือนบาดเจ็บสาหัส เมื่อหญิงสาวพยายามตะกายร่างพาตัวเองออกไป แต่เพราะพื้นลื่น ปากพยายามจะคลายออกแต่กลับเป็นว่าเธอเสียหลักล้มลงอีกที่เดิมทำให้ปากอ้างับเข้าไปจนสุดโคน
“ให้ตายเถอะดาว”
ดลรวีร้องเสียงหลงขนในกายลุกชันทุกเส้น คำรามเสียงกร้าวจนหญิงสาวหูอื้อไปหมด
พิรันดาเดินไปเดินมาอยู่หน้าห้องน้ำ ใช้นิ้วชี้ทั้งสองจิ้มไปมาหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย
ดลรวีกระชากเธอออกจากการที่เธอไปอมแก่นกายเขาอยู่ แล้วจัดการโยนเธอออกมาจากห้องน้ำ
เธอแอบแนบหูฟังได้ยินเหมือนเสียงเขาครางอยู่ในห้องน้ำ ยิ่งคิดยิ่งหน้าแดง เมื่อคิดว่าพี่ดลคนดีของเธอกำลังช่วยตัวเองอยู่ในนั้น
บ้าๆๆๆ อยากเข้าไปช่วยเสียเองแต่ไม่กล้า
“ว้าย!!”
พิรันดาสะดุ้งเมื่อดลรวีกระชากประตูห้องน้ำเปิดออกขณะที่เธอยังแนบใบหน้าฟังเสียงของเขาที่ขาดหายไปสักพัก ดลรวีทำสีหน้าและแววตาดุเธออย่างกับว่าเธอเป็นเด็กเหลือขอ และทำผิดมหันต์
“คุณดลเอ่อ... ให้หนูทำแผลให้เลยไหมคะ”
เธอถามเสียงสั่นๆ เมื่อเห็นเขาทำหน้าดุ คิดในใจว่าเขาต้องปฏิเสธเป็นแน่ แม้ดลรวีจะผ่อนคลายที่ได้ปลดปล่อยความต้องการทางเพศที่รุนแรงแบบที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน แต่พอออกมาเจอกับใบหน้าใสๆ รอยยิ้มบาดใจ แถมกลิ่นหอมอ่อนๆ ของคนที่รอเขาอยู่นอกห้องน้ำ ทำให้เกร็งเครียดขึ้นมาด้วยความต้องการอีกครั้ง
“เอาสิ” เขาตอบสั้นๆ เสียงห้วนๆ
พิรันดาแทบกรีดร้องด้วยความดีใจ คราแรกนึกว่าชายหนุ่มจะไล่เธอออกไปจากห้องเสียอีก เพราะเมื่อสักครู่เขาจับโยนออกมาแบบไม่ปรานีปราศรัยเลยแม้แต่น้อย
“ยืนอยู่ทำไม ไปเตรียมอุปกรณ์ทำแผลสิ ฉันจะเปลี่ยนเสื้อผ้าหรือว่าจะดูฉันแก้ผ้า” ดลรวีพูดอย่างอารมณ์ฉุนเฉียว
“ค่ะๆๆ”
พิรันดาตอบรับเสียงระรัว สะดุ้งเมื่อโดนตวาดลั่นห้อง ไม่เข้าใจอารมณ์ของเขาเลยจริงๆ แต่รีบพาตัวเองออกไปจากห้อง เพื่อไปเตรียมอุปกรณ์ทำแผล ความจริงแผลของเขานิดเดียวเอง พรุ่งนี้ถ้าไม่โดนน้ำคงแห้งสนิท ไม่มีอะไรต้องกังวล
พิรันดากลับมาในห้องของดลรวีอีกครั้ง ในมือถือกล่องยาใส่แผลและยาฆ่าเชื้อ รวมถึงสำลีและอุปกรณ์ทำแผลอย่างอื่น
ชายหนุ่มสวมกางเกงเรียบร้อย แต่ไม่ได้สวมเสื้อกำลังมองมาที่เธอ หญิงสาวขาสั่นเล็กน้อย ด้วยความประหม่าเมื่อสายตาคมสีเหล็กอมฟ้านั้นทอดมองมาที่เธอนิ่ง
“อุ๊ย!!!!”
พิรันดาประหม่าจนขาพันกันสะดุดล้มอีกครั้ง คราวนี้มันผวาเข้าหาชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเตียง
“โอ๊ย”
ดลรวีที่อ้าแขนรับร่างที่สะดุดขาตัวเอง แถมร่างน้อยกระโดดตะครุบเขาเอาไว้เต็มกำลัง แผ่นหลังกระแทกกับพื้นเตียงเต็มแรง แม้มันจะนุ่มแต่เพราะด้านหลังเป็นแผล เขาจึงรู้สึกเจ็บจนต้องนิ่วหน้า
“คือว่าหนู... อุ๊บ!!”
พิรันดารีบตะกายร่าง หญิงสาวทำท่าจะไถลลงออกไปจากร่างสูง แต่เสียหลักอีกครั้งดึงร่างใหญ่ลงมาด้วย ดลรวีพลัดตกจากเตียงทาบทับร่างน้อยเอาไว้ ริมฝีปากแนบสนิทกันอย่างจัง หญิงสาวตาเบิกกว้างด้วยความตกใจ แล้วโดยไม่คาดคิด
ชายหนุ่มบดขยี้ริมฝีปากหวานร้อนแรง เขาอยากลงโทษแม่จอมยุ่ง แสนวุ่นวาย และซุ่มซ่ามให้สาแก่ใจนัก
ริมฝีปากน้อยสั่นระริกแดงเรื่อเมื่อริมฝีหนาละออก ดวงตาใสแจ๋ว จ้องมองชายหนุ่มในดวงใจตาปริบๆ
ดลรวีกระแทกลมหายใจออกหนักหน่วง เมื่อเห็นดวงตาไร้เดียงสากลมแบ๊ว แถมมึนงง กำลังมองเขาตาไม่กะพริบ
“เดินยังไง หรือจงใจยั่วฉัน”
ดลรวีกระซิบถามเสียงดุๆ มือหนาไล้เบาๆ ข้างแก้มนวลอย่างเอ็นดูมากกว่าจะรำคาญ แต่ที่เขาจูบเธอแรงๆ นั้นเพราะอยากลงโทษที่เธอบังอาจมายั่วอารมณ์เขาให้กระเจิงแทบกู่ไม่กลับแบบนี้
“เปล่านะคะ หนูไม่ได้ยั่ว”
พิรันดาส่ายหน้าไปมาจนผมยุ่งเหยิง แถมโบกไม้โบกมืออีกด้วย แต่เธอจะรู้ไหมว่าตอนขยับหน้าอกหน้าใจมันเสียดสีกับแผงอกให้เสียวซ่านขนาดไหน
“นี่ไม่ได้ยั่วเหรอ” ดลรวีก้มหน้างับทรวงสาว แล้วขยำให้เธอรู้ว่าทำอะไรกับเขาอยู่
“อ่า... คุณดล” พิรันดาครางสะท้านเมื่อเขาแตะต้องปทุมถันทั้งสองหนักหน่วง
“ตอนนี้รู้หรือยังว่ายั่วฉันอยู่”
ดลรวีกัดฟันคาดโทษ หญิงสาวได้แต่อ้าปากเหวอ ส่ายหน้าดิก เธอไม่ได้ตั้งใจยั่วจริงๆ แต่ยอมรับว่าตัวเองซุ่มซ่ามไม่หายสักที
“ยังจะเถียงอีก ปากแข็งนักนะ ปฏิเสธออกมาหน้าตาเฉย” ดลรวีเสียงเข้ม จนพิรันดางงงวย นี่เขาอารมณ์ไหนนี่ ชายหนุ่มผละห่างเพราะกำลังจะห้ามใจไม่ไหว
“ทำแผลเร็วๆ ฉันไม่อยากมีรอยแผลเป็น”
เขาพูดเสียงขรึมขึ้นไปนั่งบนเตียงหันหลังให้เธอ พิรันดาอดอมยิ้มไม่ได้ เขาทำนิสัยเหมือนเด็ก แต่เป็นเด็กตัวโตต่างหากเล่า...
หลังจัดการกับงานบางส่วนเรียบร้อย ดลรวีจึงละจากหน้าจอมคอมพิวเตอร์ พักผ่อนโดยการนั่งอ่านหนังสือคลายเครียดซึ่งเป็นแนวตลกขบขันอย่างที่เขาชอบอ่านเสมอ
... แม้จะหอบงานกลับมาทำที่บ้านเป็นประจำ แต่ชายหนุ่มไม่เคยคร่ำเคร่งกับงานจนเกินไปนัก ยังหาเวลาผ่อนคลายอยู่เสมอ