บทที่ 6

2043 คำ
เวลา 17.50 นาฬิกา นับจากช่วงนาทีระทึกขวัญจนถึงตอนนี้รู้สึกว่าจะผ่านไปเกือบ 1 ชั่วโมงแล้วล่ะมั้ง... ฉันนั่งนิ่งๆอยู่บนโซฟาภายในห้องตัวเอง จ้องนิคที่กำลังจัดการกับการบ้านของตัวเองเหมือนกับว่าภาพของนิคคือสิ่งที่น่ามอง แต่ไม่ใช่เลย ในหัวฉันไม่ได้สนใจสิ่งที่นิคทำอยู่แต่กลับกำลังนึกถึงใบหน้าคมคายหล่อเหลาแต่ดูไม่เป็นมิตรของใครคนหนึ่งซึ่งกำลังแดงจัดอยู่ต่างหาก ‘คะ แค่ตอนนี้...พี่ก็...ระ ระทวยไปหมดแล้ว...’ ใบหน้าของเขาที่ไม่เคยเป็นมิตรสักครั้งยามที่มองเห็น บวกกับคำพูดแสดงเจตจำนงและความต้องการและความคลั่งไคล้เด็กจนผิดปกติในมุมนั้นมันดูตลกแต่กลับกันมันก็สร้างความประหลาดใจให้คนที่เห็นเช่นกัน ทั้งที่คิดว่าการจู่โจมกะทันหันเช่นนั้นจะต้องตามมาด้วยการต่อสู้ขัดขืนหรือคำพูดข่มขู่เพื่อให้ได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการตามอย่างที่ผู้ร้ายควรจะเป็นแท้ๆ กลับกันเขาดันยอมปล่อยเปิดประตูห้องให้ฉันออกมาอย่างง่ายดาย ซ้ำร้ายยัง.. ‘กะ กลับเองคนเดียวได้แน่นะ...’ ‘คะ ค่ะ...’ ‘ดะ ดีค่ะ...พะ พี่คงไปส่งเราไม่ไหวแล้ว อึก...’ เลือดกำเดาทะลักสลบเหมือดฟุบหน้านาบลงกับพื้นแทนการบอกลาหน้าห้องเสียอีก นอกจากจะมีคำพูดและท่าทางวิตถารแล้วเขายังดูเป็นพวกคลั่งไคล้เด็กตามอย่างที่ปากว่าและการแสดงออกจริงๆ แต่ถึงเขาจะยอมปล่อยฉันออกนอกโดยไม่ได้แอบติดตามออกมาก็จริง แต่อย่างไร คนประเภทเขาก็ปล่อยไว้ไม่ได้อยู่ดี ถึงจะยังเด็กแต่ถ้าหากปล่อยไว้ ในอนาคตเขาดันขาดสติลงมือทำร้ายเด็กเพื่อสนองความต้องการของตัวเองขึ้นมา เชื่อเลยว่าสังคมต้องอยู่ยากมากขึ้นแน่ๆ... Rrrrrrr เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ทำฉันซึ่งกำลังนั่งพิจารณาความเป็นอยู่ของนายอสุราสะดุ้งเล็กน้อย ก่อนจะรีบหยิยโทรศัพท์ขึ้นกดรับและส่งเสียงผ่านสายอย่างรีบร้อนแบบไม่มองรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา “ว่าไงหมวดยู!?” [ตอนนี้ผมมาถึงยังชั้นที่ผู้ต้องหาอยู่แล้ว คุณล่ะอยู่ที่ไหน?] “รอแป๊บนะ...” ว่าแล้วฉันก็รีบพรวดพราดออกจากโซฟาตรงไปยังประตูห้องของตัวเองพร้อมทั้งเปิดแง้มอแกดูทันที สิ่งที่พบอยู่บริเวณโถงทางเดินของหอพักชั้น 4 คือตำรวจนอกเครื่องแบบ 4 นายที่มาพร้อมกับหมวดยูจากกรมตำรวจเดียวกันกำลังยืนพิงผนังห้องคล้ายกับกำลังรอรับคำสั่ง “ฉันเห็นพวกนายแล้ว” พอได้เห็นดังนั้นฉันจึงเอ่ยปากพูดผ่านสายอีกครั้งพร้อมทั้งส่งสัญญาณมือบอกนายตำรวจทั้งห้าทันที “เบามือหน่อยล่ะ พาเขาไปลงบันทึกประจำวันให้เข็ดหลาบก็พอ เขายังเป็นนักศึกษาอยู่ อย่าทำให้เด็กคนนั้นเสียอนาคตล่ะ...” ฉันเว้นช่วงพูดลงเล็กน้อย เหลือบตามองไปยังบานประตูห้องพักฝั่งตรงข้ามอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนตัดสินใจส่งสัญญาณมือเพื่อให้ทุกนายเตรียมพร้อม “จัดการได้...” [ครับหมวด!] สิ้นเสียงขานรับคำของหมวดยู ฉันก็รีบเอี้ยวตัวหลบเข้ามาอยู่หลังประภายในห้องของตัวเองทันที และอาศัยเพียงการเงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าที่กรูก้องดังไปทั่วโถงทางเดินและเสียงเคาะเรียกหน้าพักฝั่งตรงกันข้ามเท่านั้น ก๊อกๆ! ฉันเหลือบหางตาลอดช่องว่างระหว่างบานประตูอีกครั้งเพื่อสังเกตการหลังเสียงเคาะประตูเงียบลง เพียงไม่นานบุคคลซึ่งอยู่ในภาพความคิดตลอดเวลาก็ปรากฏตัวให้เห็น “ครับ?” “ผมเป็นตำรวจ เพิ่งได้รับแจ้งว่าคุณล่อลวงเด็กที่หน้าโรงเรียนประถม ลักพาตัวมากักขังไว้ในห้องตัวเอง ไม่ทราบว่าผมขอค้นห้องคุณได้ไหมครับ?” “เฮ้ยน้า! กักขังอะไร ไม่มีสักหน่อย...” สีหน้าของเขาดูเหลอหลาและตกใจขนาดหนักทันทีที่หมวดยูพูดจบ “ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับเด็กถูกลักพาตัวเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ถ้าบริสุทธิ์ใจคุณช่วยให้ความร่วมมือกับเราด้วย...นี่ครับหมายขอค้นห้อง...” “เฮ้ยน้าเดี๋ยวดิ!” ฉันแอบหลุดยิ้มอย่างนึกตลกเมื้อได้เห็นสีหน้าตกอกตกใจถูกแสดงออกมาให้ได้เห็น นี่น่ะเหรอ คนที่บอกไม่กลัวตรวจ ทำไมถึงได้หน้าซีดเผือดซะขนาดนั้นล่ะ นายอสุราขมวดคิ้วก้มมองเอกสารขอเข้าค้นที่หมสดยูยื่นให้ ในสภาพนิ่งเหมือนคนมีความผิด สีหน้าเจาดูเครียดและเป็นกังวล ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ฉันตั้งใจจะทำหลังจากที่สามารถหลุดเป็นอิสระจะเงื้อมมือเขาเมื่อช่วงเย็นได้สำเร็จ อย่างที่บอกเพราะไม่รู้ว่าไอ้เรื่องโรคคลั่งไคล้เด็กอะไรทีเขากล่าวอ้างนั่น มันคือเรื่องจริงหรือเรื่องหลอกกันแน่ แต่จากรูปการที่ฉันได้พบกับตัว มันก็มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปได้ทั้งสองข้อ ขณะเดียวกันแนวโน้มที่จะตรงกับข้อสองก็ดูจะมีน้ำหนักเพิ่มมานิดหน่อย ข้อแรก ก็ตรงที่เขาสลบเหมือดคากองเลือดกำเดาหลังถูกฉันทำลูกอ้อนใส่นั่นล่ะ คงเป็นไปได้ยากที่มนุษย์จะสามารถบังคับเลือดกำเดาตัวเองให้ไหลและหยุดได้เช่นเดี๋ยวกับก็อกน้ำ (ถ้าเขาทำได้แบบนั้นก็เก่งเกินไปแล้ว!) เหตุผลอีกข้อก็คงเป็นเหมือนที่เขาว่านั่นไง เขาไม่ได้คิดจะทำร้ายหรือล่วงเกินอะไรฉันเหมือนอย่างผู้ร้ายคดีเด็กคนอื่นๆ ที่เขาทำก็แค่ต้องการยัดเยียดไอศกรัมทำเองมาให้กินเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม การบุกเข้ามาอุ้มตัวเด็กประถมจากหน้าโรงเรียนในวันนี้มันก็ยังเป็นการกระทำอุกอาจอันไม่ถูกไม่ควรอยู่ดี เพราะงั้นฉันที่เป็นตำรวจก็เลยต้องลงมือสั่งสอนให้เขารู้จักโทษของการกระทำที่ก่อขึ้นด้วยตัวเอง จนเกินเป็นความผิดสถานเบาเสียบ้าง หวังว่า...มันจะพอทำให้เขากลัวและหยุดที่จะทำตามใจตัวเองลงได้บ้าง ทันทีที่ความคิดหยุดลง สติก็เริ่มกลับไปจดจ่อกับชายตัวสูงในสภาพสวมเพียงบ็อกเซอร์ตัวเดียวบริเวณฝั่งตรงข้ามกับห้องพักอีกครั้ง ทว่า คราวนี้คนที่ต้องเป็นฝ่ายตกใจดันเป็นฉันเสียเอง เมื่อพบว่า เจ้าของห้องฝั่งตรงกันข้าม กำลังมองฉันลอดผ่านบานประตูซึ่งถูกเปิดแง้มเอาไว้!! “เธอ...” นายอสุราพึมพำขึ้นแทบจะทันทีที่เราสองคนมีโอกาสสบตากันผ่านช่องว่างเล็กระหว่างบานประตูและเมื่อเขาทำท่าจะเดินตรงเข้ามาหา ฉันก็ไม่รอช้ารีบปิดกระแทกประตูห้องของตัวเองอย่างรวดเร็วโดยไม่ลืมที่จะลงกลอนเพื่อความปลอดภัยอีกชั้น “น้องครับ ทำไมในห้องมีหนังโป๊เยอะจัง เป็นพวกหมกมุ่นหรือเปล่า?” ไม่รู้ว่ามันคือโชคดีหรือโชคร้ายของฉันกันแน่ ที่ระหว่างกำลังลุ้นว่าเขาจะตรงเข้ามาเคาะประตูห้องหรือเปล่า ดันมีเสียของหมวดยูดังแทรกขึ้นจากด้านนอกพอดิบพอดี ซึ่งเสียงที่ดังขึ้นมันก็สามารถทำให้ฉันคาดเดาสถานการณ์และระยะห่างของนายอสุราซึ่งอยู่อีกฟากของบานประตูได้ไม่ยาก “ไม่ใช่ของผมน้า!” เสียงเขาดังชัดเจนอยู่ที่หน้าประตูห้องฉัน ก่อนเริ่มไกลออกไป “ของเพื่อนผม มันเอามาฝากไว้” “ถ้ายังไงช่วยแวะไปให้ปากคำที่โรงพักหน่อยก็แล้วกัน” “เฮ้ยน้า! ผมไม่ได้ทำอะไรผิด เฮ้ย เดี๋ยวดิน้า!” และไกลออกไปเรื่อยๆ คล้ายกับว่ากำลังถูกหมวดยูและตำรวจนอกเครื่องแบบคนอื่นๆลากตัวออกไปจากบริเวณหน้าห้อง ส่วนฉันนั้นยังคงยืนพิงประตูห้องตัวเองในสภาพหลังพิงอยู่ครู่ใหญ่ จนเริ่มรู้สึกว่าสถานการณ์หน้าห้องเริ่มสงบลง สมองจึงสั่งให้ร่างกายตัดสินใจปลดล็อกกลอนประตูเพื่อแอบลอบมองสถานการณ์ที่ด้านนอก ก่อนพบกับความว่างเปล่าตามอย่างที่คาดไว้ ลมหายใจเบาๆ ถูกพ่นทิ้งอย่างนึกโล่งอกโดยสายตายังคงกวาดมองไปตามโถงทางเดินชั้น 4 เพื่อตอกย้ำความแน่ใจ ก่อนเลื่อนสายตากลับมายังประตูห้องพักฝั่งตรงข้ามที่เวลานี้ถูกเปิดแง้มเอาไว้ คาดว่าตอนนายอสุราถูกเชิญตัวไปให้ปากคำ เขาคงจะไม่ทันได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อน ประตูห้องถูกได้ถูกเปิดแง้มเอาไว้แบบนี้ การที่เห็นเช่นนั้นฉันจึงตัดสินใจก้าวเท้าออกจากห้องพักของตัวเองแบบไม่ต้องคิด ตรงไปยังประตูห้องพักฝั่งตรงข้ามเพื่อจัดการปิดประตูให้สนิท ทว่า ความสงสัยและความแคลงใจมันดันมีมากกว่านั้น แม้ว่ามันจะดูคล้ายกับการบุกรุกไปหน่อยแต่ฉันก็ตัดสินใจทำเกินกว่าเหตุด้วยการผลักประตูห้องเข้าไปด้านในเพื่อตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ เต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้สำหรับผู้ชาย ข้าวของในห้องไม่ค่อยเป็นระเบียบมากนักแต่ก็ไม่ได้รกจนเกินไป ห้องของนายอสุราถูกจัดเครื่องใช้และของจิปาถะอย่างง่ายๆตามใจฉัน ไม่เป็นสัดเป็นส่วนเท่าไหร่นัก อย่างเช่นหลังโซฟาตัวยาวกลางห้องที่เขาพาฉันเข้ามาก่อนหน้านี้ ด้านหลังมีชั้นวางของเล็กๆ ซึ่งด้านบนถูกตั้งไว้ด้วยตู้เย็นขนาดกะทัดรัด บนพื้นมีกองหนังสือวางทับกันสลับกับพวกแผ่นซีดีสำหรับผู้ใหญ่ซึ่งบนปกล้วนแล้วแต่เกี่ยวกับนักเรียนทั้งนั้น แถมด้านหน้าโทรทัศน์ยังมีฟูกขนาด 6 ฟุตวางไว้ราวกับใช้เป็นเตียงนอน ยิ่งเดินลึกเข้าไปอีกห้องก็ยิ่งตกใจเพราะห้องๆนี้ดูต่างจากห้องรับแขกด้านนอกอย่างสิ่งเชิง ผนังห้องถูกฉาบด้วยสีชมพูนม บนพนังติดโปสเตอร์การ์ตูนเด็กผู้หญิงสไตล์โลลิไว้จนเต็ม มีเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่งตั้งไว้ชิดกับริมผนังแต่ดูมีสภาพเรียบร้อยกว่าสภาพห้องด้านนอกลิบลับ ภายในห้องนี้มีชั้นวางหนังสือทรงเตี้ยบนชั้นเต็มไปด้วยหนังสือการ์ตูนซึ่งทุกเล่มล้วนแล้วแต่มีตัวละครผู้หญิงท่าทางน่ารักเหมือนเด็กจัดเรียงไว้อยู่จนเต็ม ยังไม่รวมถึงฟิกเกอร์ตัวการ์ตูนผู้หญิงจากหนังสือการ์ตูนดังๆ ในชุดว่ายน้ำซึ่งถูกวางเรียงรายไว้อย่างเป็นระเบียบบนหัวเตียง ดูไม่ต่างจากห้องเก็บขุมทรัพย์ของพวกคลั่งไคล้สาว 2D เลยสักนิด... ‘พี่แค่ชอบเด็กค่ะ...ไม่ได้ทำอนาจารหรือพรากผู้เยาว์เด็กที่ไหน ไม่ต้องกลัวนะคะ’ เด็กนั่นเป็นพวกโอตาคุโลลิค่อนเหรอ? ‘มันเหมือนเป็นโรคเวรโรคกรรม ที่รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย...ที่ดันชอบมองเด็กมากกว่ากว่ามองคนรุ่นเดียวกันหรือแก่กว่า’ เพราะชื่นชอบอะไรพวกนี้เขาถึงได้มีความคลั่งไคล้ในตัวเด็กมากกว่าปกติอย่างงั้นสิ งั้นแปลว่าไอ้ที่เขาพูดไว้มันอาจจะไม่ใช่ข้ออ้างเพื่อลดหย่อนความผิดของตัวเองก็ได้ แต่ก็นะ...ถ้าอย่างงั้น ทำไมเขาถึงไม่รู้สึกคันตอนแตะตัวฉันล่ะ ‘เคยลองคบกับคนต่างเพศรุ่นๆเดียวกัน แต่ทำไม่ได้...ถ้าได้โดนตัวเมื่อไหร่ แม่งจะคันยิบไปหมดทั้งตัว’ ‘แล้วตอนที่หนูนั่งตักพี่ล่ะคะ...กะ กับหนูที่เป็นเด็กพี่ไม่รู้สึกคันบ้างหรือไง?’ ‘ไม่ค่ะ ปกติดี’ หรือว่านายอสุราจะเป็นโรคไฮโปคอนดิเอซิดริงๆ... ไม่รู้ล่ะ! ถึงจะเป็นโรคหรือไม่ได้เป็นโรค นั่นก็ไม่ควรใช้เป็นเหตุผลที่เขาจะใช้มันเพื่อยุ่มย่ามกับเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีอยู่ดี ยังไงซะกฎหมายก็คือกฎหมาย ต่อให้ป่วยทางจิตยังไง ถ้าทำผิดก็ต้องถูกกฎหมายลงโทษอยู่ดี!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม