นีอา Say::
“ตรวจ DNA!!! ค่ะ ฉันโอเคค่ะ ว่าแต่ทำไมยุยจังใส่ชุดเด็กผู้ชาย” ฉันถูกเรียกกลับมา เพราะวันนี้พวกมาเฟียนี่อยากจะตรวจ DNA ลูกฉัน และฉันด้วย แต่มันไม่ใช่ตรงนั้น ฉันมีสัมภาษณ์งานบริษัทท่าเรือนะ ถ้าไปไม่ทันแย่แน่ๆเลย แต่เอาเถอะลูกสำคัญกว่า
“ถ้าหนูเต็มใจก็ดีแล้ว แล้วนี่ได้งานหรือที่พักรึยัง” คุณนายเจ้าของบ้านถามฉัน แม้เธอจะอยู่ในวัย 40 กว่าๆ แต่ทำไมถึงได้ดูสวยสง่าแบบนี้ พวกคนมีเงินอ่าเนอะ คนจนแบบเราอย่าได้ฝันเลย
“หม่าม้า ยุยมีเพื่อน” ยุยจังของฉันชี้ออกไปที่นอกบ้าน พาลูกไปเล่นกับเด็กคนอื่นด้วยเหรอ อาจจะไม่แย่อย่างที่คิดก็ได้นะที่นี่ ฉันเอาแต่กังวลมาตลอดว่าลูกฉันจะปลอดภัยไหม
“ยังเลยค่ะ ตอนนี้ฉันอาศัยใต้ตึกห้องเช่าเก่าที่ฉันเคยอยู่ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ฉันไม่ได้คิดจะเรียกร้องอะไร แต่ขอฉันหางานได้ก่อน ฉันจะกลับมารับลูกแน่ ๆ ค่ะ ยุยจังรอหม่าม้าหน่อยนะ” ฉันกอดยุยจังแน่นด้วยความคิดถึง แต่ยุยจังกลับดิ้นออกด้วยความอึดอัด ฮื้ออออ ไม่คิดถึงหม่าม้าเลยเหรอ
“เอาเถอะ ตรวจ DNA ถ้าผลออกมาว่าเป็นหลานฉัน ยุยจังจะได้ไปโรงเรียน ได้รับการดูแลที่ดีไม่ต่างจากเจ้าหญิงเลย” คุณนายพูดขึ้นมาด้วยความเอ็นดูยุยคุงของฉัน ตอนนี้คงต้องเป็นยุยคุงสินะ ก็หนูใส่ชุดเด็กผู้ชายนี่ลูก
ฉันกับยุยจังถูกพาไปที่คลีนิคที่อยู่ในตัวบ้าน โดยที่ตอนนี้มีสองแฝดมารออยู่แล้ว คนที่นี่รวยถึงขั้นกับมีคลีนิคในบ้านเลยเหรอ ก็นะคนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด แต่แค่มาตรวจ DNA ต้องเอาคนมาอย่างกับจะยกพวกตีกับคนอื่นแบบนี้เลยเหรอ ฉันพยายามจะเดินให้ห่าง เพราะสายตาที่มองฉัน มันอย่างว่าถ้าฉันเผลอ ฉันตายแน่
“ถ้าผลไม่ใช่ หล่อนตายแน่!!!!” คำขู่ของแฝดน้องทำให้ฉันต้องหนีไปหลบหลังคุณนาย เพื่อความปลอดภัย ในเกาะนี้ไม่มีใครรู้ ว่าตระกูลไป๋ทำอะไรก็ไม่เคยผิด ฉันเองก็ยังอยากมีชีวิตอยู่เลี้ยงลูก
ฉันให้คุณหมอสาวเจาะเลือดของฉัน ของลูก และของสองคนนั้น เพื่อนำไปตรวจ DNA แต่ความยาวนานจากกระบวนการ ทำให้ฉันก้มมองนาฬิกา ที่ตอนนี้มันเลยเวลา สัมภาษณ์งานไปแล้ว 2 นาที
“เร็วที่สุดกี่วันผิงผิง” แฝดพี่พูดกับคุณหมอสาวด้วยตาหวานเยิ้มเลย
“เร็วสุดก็ 5 วันนะเฮียได เมียพวกเฮียน่ารักเนอะ เหมือนลูกแกะ กลัวจนไม่กล้าเงยหน้าเลย”
“ชิ๊!!...เมียที่ไหน เฮียรอเธอเลิกกับเฮียฟ่งต่างหาก ช่วงนี้มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย สนใจมีเฮียเป็นสามีน้อยไหม” เสียงกระซิบเบาๆที่ฉันแทบจะไม่ได้ยิน จะได้ยินก็แต่ประโยคที่เชิญชวนให้เขารับตัวเองเป็นสามีน้อย
อี๋....ผู้ชายคนนี้ทุเรศจัง สามีน้อยก็เอาเหรอ??? ฉันฟังประโยคที่แสนจะไม่ปกติ ก่อนจะมองหน้าคุณหมอสาว ที่ตอนนี้มองฉันไม่วางตา มองฉันทำไม ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟังนะ มันเข้าหูเอง
“หมดเรื่องแล้วใช่ไหมคะ พอดีฉันมีสัมภาษณ์งาน ฉันอยากจะขอฝากลูกอีกครั้ง แล้วก็ขอตัวนะคะ ถ้าฉันไม่ได้งานนี้ ฉันลำบากแน่ๆ”
“หนูไปเถอะจ๊ะ ตรงนี้ให้พ่อพ่อเค้าดูแล แรดกันดีนัก ต้องเจอแบบนี้แหละ” คุณนายเจ้าของบ้านอนุญาตให้ฉันไปได้ โดยรับปากดิบดี ว่าจะดูลูกให้อย่างดี จนกว่าผล DNA จะออก
คุณนายใจดีจัง...ฉันเองก็ต้องรีบไปสัมภาษณ์งานที่บริษัทท่าเรือ นี่เลยมา 15 นาทีแล้ว หวังว่าเขาคงจะไม่ใจร้าย ฉันรีบวิ่งไปหน้าปากซอยบ้าน ที่โคตรจะลึก กว่าจะถึงหน้าปากซอย กินเวลาไป 10 นาที กว่าจะนั่งประจำทางมาถึงที่บริษัทท่าเรือ เขาก็สัมภาษณ์งานกันไปหมดแล้ว โถ่วววววว!!!!
“ช้าไปแล้วนังหนู เค้าสัมภาษณ์เสร็จกันไป 20 นาทีแล้ว"
อย่าท้อนะนีอา ไม่งั้นยุยจังได้ไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าแน่ ๆ ฉันเดินคอตกผ่านร้านค้ามากมาย พร้อมกับถามทุกร้านว่ารับพนักงานไหม แต่ก็ไม่มีร้านไหนรับฉันเลย งานทำไมมันหายากแบบเน้!!!!!! เฮ้อออ นั่งรถกลับไปวนเวียนอยู่ใกล้ยุยจังดีกว่า ถึงมาทำงานแถวนี้ เงินเดือนคงหมดไปกับค่ารถไปกลับแน่ๆ
ฉันตัดสินใจนั่งรถกลับมาที่จุดเริ่มต้น คือมาเดินโต๋เต๋ในย่านอพาร์ตเมนต์เก่าที่เคยอยู่ แล้วหางานที่คิดว่าใกล้ที่สุด อีกไม่กี่วันเค้าก็จะให้ขนของออกจากที่นี่แล้ว ฉันต้องหาที่พักที่ถูกเหมือนให้นอนฟรีอีก ยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง แค่วิ่งหางานก็หมดวันแล้ว ทำไมชีวิตของฉันมันแย่แบบนี้!!!!!!
“ยุยจังรอหม่าม้าาก่อนน้าาาาาา ม้าจะพยายามเพื่อหนู”
อีกด้าน
ได Say ::
“ไอ้ไร!!!! ฉันอยากหนีออกจากบ้าน แกช่วยเอายัยเด็กไปจากขาของฉันที ฉันมีนัดกับคริสสสสส” ผมพยายามจะเอาเด็กนี่ออกไปให้พ้นทาง แต่เธอกลับไม่ยอมปล่อย
“ตลกหรอ จะมาทิ้งเด็กไว้ให้กูเลี้ยง มึงก็เรียกคริสมาที่นี่ดิ มาเลี้ยงเด็กนี่ให้ด้วย”
“ตลกรึไง บ้านนี้ห้ามคนนอกเข้า เราจะปล่อยเอาไว้แบบนี้ไม่ได้ ไม่งั้นเป็นเราเองที่ตาย ยัยเด็กยุยนี่ไม่กลัวฉันรึไง ฉันเนี่ยสามารถเตะเธอเป็นลูกบอลได้เลยนะ” ผมก้มลงมาขู่เด็กที่เอาแต่เกาะขาของผมไม่ยอมปล่อย ผมเนี่ยถึงขั้นขู่เด็กแล้วรึไง
“ปาปา คิดถึงหม่ามี้” ประโยคของเด็กน้อยทำให้ผม กับไอ้ไรมองหน้ากันอย่างรู้ทัน
“กูไปเอากุญแจรถแป๊บ เอาลูกไปคืนแม่ นี่คือสิ่งที่คนดี ๆ อย่างเราควรจะทำ มึงหาพิกัดจากเบอร์โทร ยัยแม่เด็กเลย”
ไม่มีใครว่าผมได้ ใช่ไหมล่ะ ถ้าผมจะเอาเด็กนี่ไปคืน เพราะเค้าคิดถึงแม่ แถมผมยังได้ไปเดทกับคริสอีก นี่คือทางที่ดีที่สุดแล้ว จะให้เรามาเลี้ยงเด็ก มันทำไม่ได้หรอก เราสองคน กับลูกลิง 1 ตัวที่กอดผมแน่น เราขับรถไปเพื่อตามหาแม่ของเธอ ตาม GPS ของเบอร์โทรที่แม่ของเด็กนี่เคยให้ไว้ อ่อ...ไม่ต้องงง ผมคือไดนะ อะไรที่เกี่ยวกับติดตามคน พวกเราทำได้แบบสบาย ด้วยเทคโนโลยีที่เราสร้างขึ้นมา เพื่อทวงหนี้พวกที่กู้เงินกาสิโนของเราแล้วไม่ยอมจ่าย ไม่ว่าอยู่ที่ไหนบนโลกพวกเราก็จะหาเจอ
“นั่นไง เจอแล้ว!!!!” ไอ้ไรชี้ให้ผมดูคนที่นั่งหลับอยู่หน้าร้านสะดวกซื้อ โดยในมือกอดกระเป๋าเอาไว้แน่น
“โห สภาพ ดูไม่ได้เลยว่ะ ยัยนี่มันนอนข้างถนนจริง ๆ เหรอวะ”
“ไอ้ได ถ้าเด็กยุยนี่เป็นลูกมึง มึงจะให้นอนข้างถนนจริงเหรอวะ น่าสงสาร สภาพแม่ดูไม่จืดเลย เสียดายอุตส่าห์น่ารัก แต่ไม่ใช่สเปค ฉันไม่ชอบผู้หญิงไม่มีสมอง” ไรมองหญิงสาวที่นอนคอหัก
“หม่าม้า หม่าม้าาาา” ยัยเด็กยุยพยายามเคาะกระจกเรียกแม่ของเธอ แต่พอเราไม่ให้ลงไปก็แหกปากร้องไห้จ้าาาา จนผมทนไม่ไหว ปล่อยลงรถซะเลย อยากไปก็ไป
“ไอ้ไดดดดดด มึงเอาจริงดิ เป็นกูทำจะไม่ว่าเลย แต่นี่เป็นมึง” ใช่..น้องชายผมไม่ได้พูดผิด ผมเองปล่อยเด็กไปก็รู้สึกไม่ดี แต่เด็กจะลงให้ผมทำยังไง
“กูไม่ชอบอะไรที่มันเสียงดัง มันหนวกหู เด็กมันดันร้องไห้ ไปส่งกูบ้านคริสหน่อยดิ”
“เอาจริงเหรอ นางแบบนี่อ่า เห็นมึงครบมาเดือนหนึ่งแล้ว” ไอ้ไรถามผมถึงแฟนสาว ที่ผมคบนานที่สุดเลย ไม่ใช่ว่าเอาจริงไหม แต่ผมแค่เบื่อชีวิตที่เหมือนมันแล้ว ไอ้น้องชายที่รู้สึกเหมือนตัวเองส่องกระจกอยู่ตลอดเวลา
“ก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร ฉันชอบการถูกเอาอกเอาใจ แล้วคริสก็ทำได้ดี”
“อยากได้เมีย หรือสาวใช้ ถ้างั้นหาสาวใช้ก็ได้มั้ง ทำไมงานดีเหรอ” ถึงไอ้ไรจะถามผมงานดีไหม ผมยังไม่ได้ฟันอ่า เลยไม่รู้ว่างานดีไหม ช่วงนี้ผมกับคริสไม่ค่อยได้คุยกันด้วย เพราะการมาของเด็กยุยนั่น
ไอ้ไรขับรถมาส่งผมที่บ้านของคริส ที่ตอนนี้มองผมด้วยความสงสัย ว่าผมเอาน้องชายมาด้วยทำไม แน่นอนก็พวกผมชื่อเสียงไม่ค่อยดีเรื่องผู้หญิงสักเท่าไหร่ ผมเดินไปหาสาวสวยผมยาว หน้าสวยไปทางอินเตอร์ ผมไม่ชอบสายฝอ แต่ผมชอบที่เธอเพราะเธอมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับผิงผิงน้องสาวของผม ชุดสีแดงนี่ตัดกับผิวของเธอดีจัง
“ขอบใจที่มาส่ง คืนนี้ไม่ต้องมารับหรอก ฉันจะค้างที่นี่” ใช่ผมจะค้างที่นี่
“งั้นกูไปละ สงสัยมึงได้ คืนนี้กูก็คงต้องหาสาวบ้างแล้ว” พอพูดจบไอ้ไร ก็ขับรถออกไปเลย ทิ้งผมไว้กับเสือสาวแบบนี้ บอกเลยคืนนี้ผมเหนื่อยอีกแล้ว
ผมถูกดึงเข้ามาพ้นประตูบ้าน บทรักก็ดำเนินมันตั้งแต่ประตูปิดนั่นแหละ ผมไม่ได้หล่อมาก แต่ที่มีมากคือเงิน อ่อ..แล้วที่สำคัญ คือนามสกุลที่ไม่มีใครไม่รู้จัก ริมฝีปากที่จูบดูดดื่ม ทำให้ผมต้องรีบหยุดมันก่อน เราจะเล่นตั้งแต่เข้ามาในบ้านไม่ได้ ผมไม่ใช่พวกมองตาก็มีอารมณ์แบบไอ้ไรนะ
“ชวนฉันมากินข้าวไม่ใช่เหรอ”
“อะไรกัน เบื่อคริสแล้วรึไง คริสคิดถึงไงคะ คิดถึง ไม่ได้เจอกันตั้ง 3-4 วัน ไดไม่คิดถึงคริสรึไง” สายตายั่วยวนกับแขนที่กอดคอผมเอาไว้ไม่ปล่อย ทำให้ผมต้องก้มลงไปจุ๊บหน้าผากเธอเพื่อเลี่ยงที่จะคำถามนั้นแทน ก็ไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น ผมเองก็มีผู้หญิงให้กินตลอด
“กินข้าวไหม” ผมถามเธอ เพราะเธอชวนผมมากินข้าว
“ลองกินคริสไหม” คำถามของหญิงสาวทำให้ผมต้องหยุดมองเธอ ที่ตอนนี้เอาตัวมาแนบชิดกับผมเพื่อทวงคำตอบ หน้าอกหน้าใจที่บดลงมากับอกกว้างของผมนั้น.....
“งั้นกินคริสก่อนก็ได้ ยั่วเก่งจัง”
“ทำให้คริสเห็นเสือหน่อยสิคะ อยากรู้ว่าแฟนตัวเองเป็นเสือหรือแมว” ผมดันคนขี้ยั่วจนติดกำแพง ก่อนที่จะป้อนจูบดูดดื่มให้หญิงสาว ที่ตอนนี้บอกอยากจะโดนกินใจจะขาด มือใหญ่รวบเข้าที่หน้าอกอวบจนเธอต้องแอ่นอกรับสัมผัส
ผมไม่ชอบกลิ่นน้ำหอมเลย มันทำให้ผู้หญิงดูปรุงแต่งมากเกินไป มันดูเหมือนกับว่าาาา เธอตัวเหม็นรึไง ถึงต้องฉีดน้ำหอมฉุนขนาดนี้ ผมมองหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง ไม่มีอารมณ์อ่า สงสัยเล่น 3 คนกับไอ้ไรมากไป พอจะใช้จริงจู๋แทบไม่แข็งเลย
“แว่นของไดเกะกะไหมคะ คริสเอาออกนะ” คริสพยายามจะมาเอาแว่นของผมออก เลยทำให้ผมพยายามจะหันหนี แต่เธอก็ยังไม่ลดละจากแว่นของผม ทำให้ผมต้องปัดมือของเธอออก แต่มันดันเป็นจังหวะเดียวกับที่เธอเกี่ยวแว่นของผมอยู่ เลยทำให้แว่นที่ผมไม่เคยถอด แม้แต่ตอนหลับ
อะไรที่ผมพยายามจะเก็บไว้ มันก็ค่อย ๆ ออกมา สิ่งที่ผมพยายามจะใส่แว่นเพื่อซ่อนมันไว้ มันไม่ใช่อีกบุคลิก แต่มันคือผม ที่เป็นผม ไม่ใช่ในแบบที่ผมพยายามที่จะเป็น ผมรวบร่างบางเข้ามากระชับกับเอวก่อนป้อนจูบ ไม่ต่างจากคนที่หิวกระหาย ลิ้นร้อนเลียสัมผัสผ่านแก้มจนไปถึงใบหู
“จะมาหาว่าฉันร้ายไม่ได้นะ” ผมพยายามดึงเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายของเธอออกอย่างรีบร้อน แล้วไม่ได้สนใจด้วยว่าเธอจะรู้สึกเจ็บไหม
“ได เบาหน่อยค่ะ เดี๋ยวชุดขาด”
“ฉันซื้อให้ใหม่ แค่นี้เศษเงิน” ผมกระชากบราที่เกาะอยู่ที่เต้างามนั้นออก จนคริสเอามือมาปิดอกเอาไว้น้อยๆ อยากจะให้ดูอยู่แล้วนี่ จะปิดเอาไว้ทำไม ชิ๊ มีแค่เนี่ย โกยมาจากเอวเลยรึไง ผมงับเข้าที่ปลายยอดอกที่หย่อนคล้อย ตามแรงโน้มถวง ก่อนจะสอดมือเข้าไปสัมผัสกับข้างล่างที่ตอนนี้ชุ่มแฉะ ก่อนจะกระทุ้งมือเรียกเสียงครวญครางจากหญิงสาว
“อ๊าาาาา ได ซี้ดดดด”
“เสียวเหรอ คริสยังทำไดมีอารมณ์ไม่ได้เลยอะ ทำให้ไดหน่อยสิ” ผมปลดเข็มขัด แล้วเอาอะไรที่มันไม่แข็ง ออกมาให้เธอจัดการ แม้ตอนแรกเธอจะแอ๊บเนียนรูดมันอยู่ตั้งนาน จนผมทนไม่ได้ กดเธอลงไปนั่งย่อง ๆ แล้วดันอะไรที่ไม่ควรจะใช้มือรูดเอาไปในปากของเธอ แน่นอนว่าเธอพยายามทำมันอย่างชำนาญ
ที่แท้ก็ช่ำชองสินะ ดี ไม่ต้องมาแอ๊บให้เสียอารมณ์ ถือเป็นเริ่มครั้งแรกของเราที่ดี แต่ไม่ยักจะถูกจริต
“อ๊อก ได จ๊วบ มันลึกไป”
อีกด้าน
“นายหญิงครับ ท่านได ท่านไร เอาเด็กน้อยไปคืนแม่ของเธอแล้วครับ แต่ผมเกรงว่าแม่เด็กจะเลี้ยงไม่ไหว ผมตามดูมาทั้งวัน เธอพยายามหางานมาทั้งวันแล้ว หาไม่ได้เลยครับ แถมอพาร์ตเมนต์ที่เธออยู่ก็จะไล่ออกในไม่กี่วันนี้แล้ว”
“ประวัติที่ให้ไปหา หาได้ไหมอุล”
“ได้ครับ นีอา เธอได้สัญชาติเกาหลีใต้ครับ สำเร็จการศึกษารุ่นเดียวกันกับท่านได ท่านไรเลยครับ บ้านเธอทำธุรกิจย่านร้านอาหาร เธอเคยทำงานมาแล้ว 2 ที่ แต่ก็โดนลวนลาม จนลาออกเองทุกที่ ประวัติการทำงานของเธอไม่สวยงามเท่าไหร่
“ลูกชายฉันล่ะไปไหน”
“ท่านไดไปหานางแบบที่ชื่อคริส ท่านไรเข้ากาสิโนไม่ได้ ก็เลยไปเที่ยวผู้หญิงครับ” คำตอบจากคนสนิททำให้คนเป็นแม่หนักใจกับพฤติกรรมของลูกชาย ที่ตอนนี้ยังไม่ได้เรื่องทั้งพี่น้อง แม้เรื่องงานจะทำได้อย่างไม่ติดขัด แต่กลับใช้ชีวิตเสเพล ผิดพ่อ ผิดแม่
“อุลเตรียมออกรถ ฉันจะไปเอาหนูยุยกลับบ้าน ฉันถูกชะตาหนูน้อยยุยนี่ ฉันคิดว่าแม่หนูนี่จะเข้ามาเปลี่ยนบ้านเรา”
“ครับ ผมทราบแล้ว”