นิ้วใหญ่กดปุ่มปลดล็อคลิฟต์ให้กลับมาทำงานปกติ ก้าวเท้ายาวเดินออกไป ทิ้งให้สาวน้อยยืนอึ้งกับคำพูดนั้นของเขา ใบหน้าหวานขาวซีดอย่างเห็นได้ชัด กว่าเธอจะมาเป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนได้ไม่ใช่เรื่องง่าย จะตัดสินเพียงเพราะงานที่ผิดพลาดแค่ครั้งเดียว เท่ากับว่าความพยายามมากมายที่เธอทำมันสูญเปล่า ประตูลิฟต์ปิดสนิทคนตัวเล็กถอนหายใจเฮือกใหญ่
“บ้าอำนาจ ไม่มีทาง กว่าจะสอบชิงทุนแย่งโควต้าแลกเปลี่ยนนี้มาได้ ฉันไม่มีวันยอมแพ้หรอก” คนตัวเล็กพูดกับตัวเองคนเดียว
…………
(เสือ)..ผมเดินกลับมาในห้องทำงาน หยิบเสื้อเชิ้ตที่กองอยู่กับพื้นขึ้นมาสะบัดสองสามทีแล้วใส่เข้าเหมือนเดิม อีกสองวันผมต้องบินกลับไปที่ไทย เพื่อคุยเรื่องแต่งงานกับมิลล์ ผู้หญิงที่ผมรู้จักมาตั้งแต่เด็ก แต่ทำไมหน้ากับรสจูบของเด็กคนนั้นที่อยู่ในลิฟต์กลับยังอยู่ในหัวผมตลอดเวลา เพราะไม่ว่าจะด้วยท่าทาง การแต่งตัว เธอก็ไม่ใช่สเปคของผมด้วยซ้ำ ที่ทำกับเธอก็แค่อยากหาข้ออ้างไล่เธอออกไปจากบริษัท ถ้าถามหาสาเหตุก็แค่ไม่ชอบ ไม่ถูกชะตา ทำงานไม่ได้เรื่อง ไม่มีประสบการณ์แล้วยังจะมาทำงานกับบริษัทใหญ่โต มันไม่มีเครื่องการันตีอะไรเลยที่จะทำให้บริษัทผมต้องรับเธอ แต่ที่ยัยเด็กซื่อบื้อนี้มีโอกาสเข้ามาก็เพราะแม่ของผมที่เป็นคนดีเกินไป อยากช่วยสนับสนุนนักศึกษาเรียนดี เธอถึงได้มีโอกาสได้เข้ามายืนอยู่ตรงนี่ได้
“หึ ถึงจะดูธรรมดา แต่ก็น่าสนใจดี”
เสียงเข้มพูดคนเดียว รอยยิ้มที่มุมปากเป็นเหมือนเสือร้ายที่เจอเหยื่อที่ถูกใจเข้าให้แล้ว
……………
เช้าของวันต่อมา พนักงานของบริษัทหลายร้อยชีวิตต่างเร่งรีบเพื่อบรรทึกเวลาเข้าทำงาน ลิฟต์ของบริษัทถูกแบ่งแยกระหว่างพนักงานทั่วไปกับผู้บริหารชัดเจน แต่ด้วยที่เป็นช่วงเช้าทำให้พนักงานบางส่วนถือโอกาสข้ามฝั่งแอบใช้ด้วยเหมือนกัน
ชายร่างสูงยืนรอลิฟต์ ทั้งๆที่มีคนยืนรอหลายคนแต่กลับไม่มีใครกล้าเดินเข้ามายืนใกล้ๆ ประตูลิฟต์เปิดออกเท้ายาวก้าวเดินเข้าไปยืน ใบหน้าเรียบนิ่ง
“เชิญได้นะครับ”
“ขอบคุณครับแต่ บอสไปก่อนเลยครับ พวกผมรอได้”
ทุกคนส่งยิ้มให้ชายในชุดสูทที่ยืนอยู่ภายใน แต่ยังไม่ทันที่ประตูลิฟต์จะปิดสนิท ร่างบางเล็กของเด็กสาวก็วิ่งแทรกแหวกกลุ่มคนเข้าไปยืนอยู่ข้างๆชายตัวโต ทุกสายตาจับจ้องคว้ามือเรียกเธอออกมา แต่ก็ไม่ทันแล้วเพราะประตูลิฟต์ปิดสนิทเป็นที่เรียบร้อย
“ขอโทษนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ นึกว่าจะไม่ทันแล้ว อีกสองนาที”
“อยากอยู่กับผมงั้นเหรอ”
เสียงที่เธอรู้สึกคุ้นหู ทำให้คนตัวเล็กรีบหันหน้าไปมอง ใบหน้านิ่งเรียบสายตาดุยืนอยู่ข้างๆ ทำให้เธอเข่าแทบทรุดลงกับพื้น
“ปะ ประธาน”
“ผมไม่ใช่เจ้านายคุณ จะเรียกประธานทำไม”
“คะ คือ อัน ขะ โทษค่ะ อันไม่ทันดูว่าเป็นลิฟต์ของคุณค่ะ”
“หึ ถ้าติดใจรสจูบผม คุณก็แค่บอกจะทำเนียนวิ่งเข้ามาแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นเขาจะสงสัยนะรู้มั้ย”
“คุณ!”
เธอเรียกเขาเสียงดัง แต่ก็ต้องหยุดชะงักกับใบหน้าที่กำลังจ้องเธออยู่ แววตาของเขาเป็นเหมือนมนต์สะกดทุกครั้งที่เธอเห็น
ติ๊ง!
ประตูลิฟต์เปิดออก สาวน้อยรีบเดินออกมาแล้วโค้งตัวให้ชายตัวโต ก่อนที่จะมีเสียงเรียกจากด้านหลัง
“อ้าว อันอัน งานที่พี่ให้เอาไปส่งท่านประธานเมื่อวานเรียบร้อยดีมั้ยจ๊ะ” เสียงของเอี้ยงที่รับเป็นพี่เลี้ยงของเธอเอ่ยทัก
“สวัสดีค่ะพี่เอี้ยง ยังเลยค่ะ พอดีเมื่อคืนท่านประธานมีแขก อันเลยยังไม่ได้เอาไปให้”
“อ่อ ไม่เป็นไร งั้นวันนี้ก็เอาขึ้นไปให้ท่านอีกทีนะ แล้วอย่าพูดอะไรล่ะ บอกว่าพี่ฝากส่งก็พอ”
“แต่ถ้าผิดพลาดมา เขาจะว่าพี่ได้นะคะ พี่เอี้ยงตรวจสักรอบก่อนมั้ยคะ”
“อันอัน เรียกเขา ได้ไง เดียวคนอื่นมาได้ยินจะยุ่งนะ ส่วนเรื่องความเรียบร้อยพี่ดูแล้ว อันทำได้ดีมากจ้ะ มีอะไรเดียวพี่รับผิดชอบเองอันไม่ต้องห่วง”
สาวน้อยเดินตามพี่เลี้ยงเข้าไปที่โต๊ะหยิบแฟ้มเอกสารเข้ามากอดแนบที่อกตัวเอง ก่อนที่สายตาของหญิงวัยกลางคนจะเหลือบมองอย่างสงสัย
“ทำไม กลัวเหรอ?”
“ค่ะ ก็เขา เอ่อ ท่านประธานน่ากลัวนิคะ”
“ไปเถอะ ท่านไม่ได้ดุขนาดนั้นหรอก แค่เป็นคนชอบความเรียบร้อยและทำงานถูกต้อง”
สาวน้อยพยักหน้าก่อนจะเดินมายืนรอลิฟต์เพื่อเอาเอกสารขึ้นไปส่งอีกรอบ ท่าทางของเธอดูกังวลจนพี่เลี้ยงของเธอสังเกตเห็น ก่อนจะเดินเข้ามายืนรอเป็นเพื่อน
“เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน”
“ขอบคุณค่ะพี่เอี้ยง ^^”
…..
ชั้นผู้บริหาร…
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นก่อนที่ร่างบางในชุดเดรสสั้นสุดเซ็กซี่ จะเดินเอาแฟ้มสีดำเข้ามาวางที่โต๊ะ สายตาของเธอที่มองชายหนุ่มมันเป็นเหมือนคำเชิญให้ทำอะไรบางอย่าง
“วางไว้แล้วก็ออกไปซะ ผมจะทำงาน”
“บอสขา วันนี้ไม่มีประชุมนะคะ ไม่มีแขกด้วย”
“แล้ว!”
ร่างของเลขาสาวเดินเบียดเข้ามานั่งที่ตัก เรียวแขนเล็กคล้องที่คอของชายตัวโต ใบหน้าสวยซบลงที่อกกว้างของเขา เต้าใหญ่เบียดแนบจนชายตัวโตสัมผัสได้ แต่ใบหน้านิ่งเรียบกลับไม่ได้แสดงอารมณ์ร่วมกับเธอแม้แต่น้อย
“งานคุณคือเอาเอกสารที่ผมต้องการเข้ามาให้ ส่วนเรื่องอื่นถ้าผมไม่ต้องการ คุณก็ไม่ต้องเสนอเอาเข้ามา ผมไม่ชอบ”
“บอสขา แต่เอมิลี่ อยากได้นี่คะ”
สายตาคมเหลือบมองร่างที่กำลังซุกไซ้อยู่ที่อกตัวเอง กรามแข็งขบกันเสียงดัง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนจนร่างของเลขาสาวตกลงไปนั่งที่พื้น
อร๊ายย!
“บอสคะ เอมิลี่เจ็บนะคะ”
“ผมบอกคุณแล้วว่าแค่แฟ้มประวัติ อีกอย่างถ้ายังจำไม่ได้ผมจะบอกคุณอีกรอบ อย่าทำเกินหน้าที่ ผมไม่ชอบ”
หญิงสาวลุกขึ้นจากพื้น เธอมองชายตัวโตด้วยท่าทางไม่พอใจ แต่ยังไม่ทันที่เธอจะเอ่ยปาก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น
ก๊อกๆ
ร่างของหญิงวัยกลางคนกับสาวน้อยในชุดนักศึกษาในอ้อมแขนกอดแฟ้มสีดำไว้แน่น กำลังเดินเข้ามา
“ขออนุญาตค่ะ ฉันเอาเอกสารที่แก้เมื่อวานมาให้ท่านประธานดูอีกรอบค่ะ”
“วางไว้ที่โต๊ะ ส่วนคุณเอมิลี่ ผมย้ายคุณลงไปทำตำแหน่งต้อนรับที่ล็อบบี้แทน”
ใบหน้าสวยหันมองชายที่ยืนอยู่ข้างๆด้วยความตกใจ แต่ก็พูดอะไรไม่ได้เพราะเธอรู้ดีว่าถ้ายิ่งทำตัวมีปัญหา เธอจะต้องเดือดร้อนซะเอง
“คุณเอี้ยง ผมจะให้เด็กฝึกงานของคุณมาเป็นเลขาผม ฝากคุณจัดการด้วย ส่วนเรื่องตารางงานต่างๆเอากับเอมิลี่ได้เลย”
พนักงานรุ่นเก่า หันมองหน้าอดีตเลขาด้วยความตกใจ ก่อนจะหันมองสาวน้อยที่ยืนอยู่ข้างหลังด้วยความเป็นห่วง เพราะเมื่อวานเธอพึ่งถูกด่าไป แล้ววันนี้กลับต้องมาทำหน้าที่สำคัญนี้ให้เขา เด็กสาวอย่างเธอก็เหมือนกำลังยืนอยู่บนกระทะร้อนรอกระเด็นออกจากบริษัทก็เท่านั้น
“แต่ท่านประธานคะ อันอัน ยังไม่มีประสบการณ์เลยนะคะ”
“ผมถามความเห็นคุณเหรอ ถ้าทำงานไม่ได้ก็แค่ยื่นใบลาออกขอเปลี่ยนที่ฝึกงาน แต่ไม่รู้นะว่าจะมีที่ไหนกล้ารับเด็กเกรดต่ำอย่างเธอหรือเปล่า”
“ได้ค่ะ อันอัน จะทำ พี่เอี้ยงไม่ต้องห่วงนะคะ” เสียงหวานพูกแทรก
“ดี เก่งแล้วนิ เมื่อวานยังเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ ทำไมวันนี้ เสียงแข็งแล้วล่ะ หรือคิดว่าตัวเองมีอะไรดี” สายตาเข้มจ้องคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ด้านหลัง
“…”