“ขอเลียให้สมใจ… ลุงอยากเลียหอยหนูมานานแล้ว”
ลุงแสงรีบปาดปลายลิ้นลากเลียเสยขึ้นมาเป็นจังหวะยาวๆ เกือบถึงรูทวารขมิบเป็นจีบ
“โอ้ววว… อ๊อยยย... งือออ… ไม่ไหวแล้วลุงจ๋าหนูเสียว… พอเถอะ”
แก้วบิดตัวไปมา ทรวงอกเบียดกับที่นอนจนนมสองเต้าปลิ้นออกมาข้างลำตัว ก้นกระดกขึ้นตามจังหวะลิ้น
แพล่บๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ลุงแสงทั้งจูบทั้งฟัด ตวัดลิ้นกวาดเลียโพรงสวาทของแก้วทุกซอกทุกมุม
ไม่นานก็มีน้ำหล่อลื่นทะลักออกมาอาบชุ่มลำลิ้นอวบหนา ปาดรัวกลีบเสียวสลับขยี้จุดกระสันของแก้วไม่ยั้ง ขบเม้มจนเม็ดเสียวปูดพองขึ้นมาเป็นหน่อเนื้อน้อยๆ
“โอ้ว… เม็ดติ่งแข็งโด่เชียว อ๊า... อร่อยสุดๆ”
ลุงแสงหื่นจัด เงยหน้าตวัดปลายลิ้นเลียกินน้ำหอยหลั่งย้อยออกมาเพราะความซ่านเสียว
“อย่า... ซี้ด… เสียวเหลือเกิน… ไม่ไหวแล้ว”
แก้วครวญครางเสียงสั่น ขณะสองมือจิกเกร็งเกาะผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น ปากบอกว่าไม่ไหวแต่ก็ยังแอ่นก้นกระแทกหัวลุงแสง เงยหน้าปาดลิ้นเลียหอยหวานเสียงดังซ่วดๆ
“โอ้ว... อูย… สะ… เสียวมาก… ไม่ไหวแล้ว… พอแล้ว… หยุดเถอะ”
สะโพกของแก้วบิดส่ายไปมา ลุงแสงเองก็สุดจะทน รีบลุกขึ้นยืน ง้างขาข้างหนึ่งของแก้วขึ้นมาคร่อมเอาไว้กับขอบเตียงแล้วจับท่อนเอ็นยาวใหญ่ขนาดใกล้เคียงท่อนแขนของแก้ว จ่อใกล้กลีบสวาท ปลิ้นอ้าเป็นยวงออกมาระหว่างง่ามขาด้านหลัง…..
ม่ายแม่ลูกอ่อน
พุทธศักราช 2563
ที่บ้านเช่าหลังย่อม เป็นบ้านชั้นเดียว แบ่งซอยออกเป็นห้องเช่าเล็กๆ ราวสิบห้อง ตั้งอยู่ในซอยแห่งหนึ่งย่านอินทามระ กรุงเทพมหานคร
“แก้ว… ลุงมาเก็บค่าเช่าห้อง… ”
‘ลุงทัพพ์’ เจ้าของบ้านเช่า เดินเข้ามาเก็บค่าเช่าอย่างที่เคยมาเป็นประจำทุกเดือน ร้องทัก ‘แก้ว’ แม่ลูกอ่อนวัยสาวที่กำลังอุ้มลูกน้อยวัยขวบกว่าๆ นั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อนหน้าห้องพัก
“ลุงทัพพ์จ๋า… ขอผลัดอีกเดือนนะจ๊ะ… ”
แก้วเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของบ้านเช่าด้วยแววตาวิงวอน
“ลุงใจดียอมให้หนูผัดมาสองเดือนแล้วนะ… ถ้าคราวนี้ยอมอีกก็เป็นสามเดือน ถ้านานกว่านี้มันจะกลายเป็นดินพอกหางหมูนะ… หนูจะไหวหรือ”
ขณะพูดกับแก้ว สายตาของลุงทัพพ์จับจ้องมองเม็ดหัวนมเป็นทรงสวย เสียดสีอยู่ภายใต้เสื้อคอกระเช้าบางๆ ด้วยหล่อนโนบรา จึงเห็นคราบน้ำนมเป็นวงชื้นอยู่ที่ยอดอก บอกตำแหน่งของจุกหัวนมเห็นได้ชัด
“ตอนนี้พี่จ่อยยังไม่กลับจากเชียงใหม่เลยจ้ะ ยังหางานทำไม่ได้… ทั้งเนื้อทั้งตัวหนูมีเงินติดตัวอยู่แค่ไม่กี่บาท”
แก้วตอบเสียงเศร้า…
‘จ่อย’ คือชื่อของชายผู้เป็นสามีหล่อนที่ตอนนี้มีเหตุให้ต้องตกงานจากที่เคยเป็นยามอยู่ในบริษัทแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ
จ่อยโดนไล่ออก เพราะถูกจับได้ว่าเสพยาบ้า หลังจากผลตรวจฉี่เป็นสีม่วง ทำให้ถูกไล่ออกจากงาน
เพราะมีเมียและลูกอ่อนให้ต้องเลี้ยงดู จ่อยตัดสินใจขึ้นไปหางานทำที่เชียงใหม่ตามคำแนะนำของคนรู้จัก นี่ก็สองเดือนกว่าแล้วที่เงียบหายไป นานๆ ครั้งจะโทรกลับมาหาเมีย บอกแค่ว่าได้งานทำแล้ว เป็นงานขับรถส่งของ จากนั้นก็เงียบหายไปอีกจนน่าสงสัย
“สงสารหนูเถอะนะลุง… ถ้าผัวหนูกลับมาหนูจะจ่ายค่าเช่าทั้งหมด… ไม่ให้ติดค้างแม้แต่บาทเดียว”
แก้วยกมือไหว้วิงวอน
“โถ… น่าสงสาร… ”
ลุงทัพพ์ทำเสียงเห็นใจ อันที่จริงสาเหตุที่ทำให้แกใจอ่อนไม่ใช่เพราะสงสารจากใจจริง แต่เป็นเพราะ ‘เต้านม’ คู่นั้นที่อวบใหญ่มหึมา ยั่วยวนสายตาเหลือใจจนเผลอกลืนน้ำลายลงคอหลายครั้ง
ลุงทัพพ์แทบไม่อาจละสายตาจากเรือนร่างสุดเซ็กซี่ของแก้ว อดนึกไม่ได้ว่าสวรรค์ช่างจับคู่ผัวเมียคู่นี้อย่างผิดที่ผิดทาง
เพราะว่าแก้วนั้นสะสวยและเซ็กซี่เหลือเกิน ใบหน้ารูปไข่ ตาคม ผมยาว จมูกโด่ง ผิวพรรณของหล่อนขาวเนียนอมชมพู สะโพกผายรับกับต้นขาเรียวยาว และสองเต้าอวบใหญ่มหึมานั่นเอง ที่ทำให้ผู้ชายทุกคนที่เจอต้องตะลึง มองแล้วมองอีก ดูยังไงแก้วก็ไม่คู่ควรกับไอ้จ่อยสามีหล่อนที่ผอมแห้งเหมือนขี้ยาไร้สง่าราศี
ลุงทัพพ์ทำทีเดินไปเก็บเงินอีกห้องที่อยู่ถัดไป ครู่สั้นๆ ก็ย้อนกลับมายังห้องของแก้ว ลุงทัพพ์ถึงกับต้องอุทานเสียงดังอยู่ในใจกับภาพที่เห็น
‘โอ้ว… แม่คุณเอ๊ย… ’
แก้วกำลังเลิกชายเสื้อคอกระเช้า เอามือข้างหนึ่งควักเต้านมออกมาป้อนใส่ปากลูกน้อย ดูดหัวนมเสียงดังจ๊วบๆ ดื่มกินน้ำนมสีขาวจากเต้าอวบเต่งอย่างเอร็ดอร่อย
ภาพของเต้านมแม่ลูกอ่อนอวบคัด ขาวเนียนจนเห็นเส้นเลือดสีเขียวกระจายเป็นสายรางๆ อยู่ภายใต้เนื้อนั่นบอบบางเปล่งปลั่ง อัดแน่นไว้ด้วยน้ำนม ทำเอาเลือดกำเดาเจ้าของบ้านเช่าแทบสาดพุ่งออกมา
ลุงทัพพ์ตื่นเต้นจนเงอะงะไปชั่วขณะ ก่อนจะล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทร พูดคนเดียวแต่แกล้งทำทีว่ากำลังสนทนากับคนที่โทรหา
ลุงทัพพ์เดินไปเดินมาอย่างงุ่นง่านอยู่ที่หน้าห้องของแก้ว สายตาเหลือบมองเต้านมจนเกิดอารมณ์ ลำเอ็นคัดแข็งขึ้นมาเป็นดุ้นยาวใหญ่ พาดนูนอยู่ใต้แนวซิปกางเกง แอบมองแม่ลูกอ่อนให้นมลูกน้อยจนหลับคาอก
“ลูกหลับแล้วหรือจ๊ะหนูแก้ว… ”