บทที่2.ไม่ใครก็ใครที่ต้องเจ็บ.........

1527 คำ
“ไง...เอม แกมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”            เสียงห้าวๆ ทักทายอยู่เบื้องหลัง เอรินทร์สะดุ้งกาแฟแก้วโตในมือแทบพลัดหล่น เธอหมุนตัวกลับไปมองก่อนจะส่งยิ้มแหยๆ ให้พี่ชาย            “คุณคลากส์!! แหะๆ”            “แกยังไม่ตอบฉันนะเอม แกมาทำอะไรที่โรม?”            คลากส์ถามเอรินทร์ แต่สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่มิแรนดา หล่อนสวยคมไม่ใช่เล่น แถมยังดูดีมีคลาสไม่เหมือนเอรินทร์ที่มอซอ...            มิแรนดากระพริบเปลือกตาปริบๆ ถ้าจำไม่ผิดผู้ชายที่ยืนหน้าบึ้งอยู่นี่ คือทายาทของบาร์ว แล้วผู้หญิงเปิ่นๆ เชยๆ อย่าเอรินทร์ไปรู้จักคนระดับนี้ได้ยังไง ฟังจากคำทักทาย... สองคนนี่น่าจะสนิทกันพอดู เธอครางๆ ในลำคอ เธอลืมไปได้ยังไง ผู้ช่วยสุดเปิ่นของเธอใช้นามสกุล...บาร์ว!!            “เอมมาทำงานค่ะ อีกไม่กี่วันก็กลับ” หญิงสาวตอบเสียงอ่อย            “งาน...แกทำงานอะไร? แกมีงานทำด้วยหรือ”            ชายหนุ่มเอ่ยเยาะ เอรินทร์หายไปจากบ้านนานกว่า2 ปี เขาไม่คิดว่าจะได้เจอกับเธออีก...            “เอ่อ...ถ้าจำไม่ผิดคุณคือคลากส์ บาร์วใช่ไหมคะ? ฉันมิแรนดา แกลร์ เป็นหัวหน้าของคนที่คุณทักค่ะ”            หญิงสาวพูดแทรก เธอยื่นมือออกไปข้างหน้าและคลากส์ก็รับลูก เขาโน้มตัวลงจับมือหล่อนขึ้นประทับจุมพิตเบาๆ ที่หลังมือ            “ใช่ครับ... ความจำคุณแม่นมาก และถ้าผมจำไม่ผิดคุณก็น่าจะเป็นคนดังของปารีสเพรส” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น เขาตอบกลับเสียงใส แววตาพราวเสียจนมิแรนดานึกกระหยิ่ม            เวลานี้เอรินทร์กลายเป็นไม้ประดับเสียแล้ว เพราะหนุ่มสาวตรงหน้า แสดงความสนใจกันอย่างเปิดเผย จนคลากส์เองก็ลืม... เขาเข้ามาเพื่อทักทายน้องสาวต่างแม่            “แรนดามาทำข่าวของมิสเตอร์ลูคัสน่ะค่ะ เขานัดเราที่นี่” เธอกล่าวตอบ ชะเง้อคอมองไปที่ประตูเมื่อลูคัสผิดนัดไปกว่า30 นาที จนป่านนี้ยังไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่ม            “หมอนั่นดังขนาดได้สัมภาษณ์กับคอลัมนิสต์ชื่อดังอย่างคุณด้วย...แล้วทำไมผมถึง...” ชายหนุ่มแสร้งทำเสียงอ่อยๆ เขาย้อมถามพร้อมกับไล้ปลายนิ้วกับหลังมือมิแรนดาเหมือนเป็นการส่งซิกเล็กๆ ให้หญิงสาวได้รับรู้            “โธ่ๆ มันเป็นคำสั่งจากบรรณาธิการค่ะ แรนดาไม่ได้ต้องการเลย คนอะไรก็ไม่รู้ หยิ่งโคตร!! เข้าถึงตัวก็ยาก ทำเหมือนกับมีความลับซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังเยอะแยะ จนไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้” หญิงสาวบ่นเสียงขุ่น ลูคัสเป็นผู้ชายคนเดียวที่ไม่โอ้โลมเธอ            “คุณอาจจะไม่รู้ปูมหลังหมอนั่น แต่ผมมั่นใจเชียวแหละว่าผมรู้จักหมอนั่นดี...หากคุณอยากรู้นะแรนดา...ผมจะบอกคุณทั้งหมด”            “คุณคลากส์คะ!!”            เอรินทร์พยายามท้วง เธอไม่อยากให้พี่ชายงัดปูมหลังเก่าๆ ของลูคัสมาแฉ เพราะมันอาจเป็นชนวนเหตุที่ไปกระตุ้นให้ผู้ชายคนนั้นคลั่งหนัก แล้วผลเสียก็จะตกอยู่กับคนของบาร์วทุกคน            “ยุ่งน่า!!...มันเป็นเรื่องจริงที่หมอนั่นต้องยอมรับ ครั้งหนึ่งเดมเชียเคยร่วงเป็นนกปีกหัก...”            คลากส์หันมาตวาดน้องสาวต่างแม่ เขาพูดเสียงเหยาะหยันเมื่อครั้งนั้น เขาก็มีส่วนร่วมเช่นกัน            “ใช่ครับ!!” เสียงทุ้มๆ พูดแทรก พร้อมกับการปรากฏตัวของลูคัส ดวงตาสีฟ้าของเขาเปล่งกระกายแวววาวจนเอรินทร์สยอง เมื่อแววตาแบบนี้เหมือนตอนนั้นเลย เหมือนตอนที่ชายหนุ่มบุกเข้ามาที่คฤหาสน์บาร์วพร้อมกับสาปแช่งคนในบาร์วทุกคน!! “การทำธุรกิจมันก็แบบนี้...มีพลาดกันได้ แต่...ผมก็พิสูจน์ให้ทุกๆ คนเห็นแล้วนี่ไงครับ เดมเชียคือของแท้...เราไม่เคยโกงใครเพื่อให้ตัวเองชนะ ทุกอย่างมาจากฝีมือบวกกับความเชื่อมั่นที่คู่ค้ามองเห็น” ชายหนุ่มตอบเสียงเย็น เขาเลิกคิ้วมองคลากส์เหมือนกำลังท้าทาย...            คลากส์กัดฟันกรอดๆ ลูคัสตอกหน้าเขาด้วยการคว้างานใหญ่ไปครองไม่พอ ยังคิดจะมาฉีกหน้าเขาต่อหน้าผู้หญิงที่คลากส์กำลังสนใจ            “ก็แล้วแต่มุมมองนะ...ลูคัส!! แต่ผมว่า...การที่บาร์วเปิดโอกาสให้เดมเชียเข้ามาแบ่งเค้กในจานไปกินด้วยนั้น ก็น่าจะรู้ว่าเราเมตตาเดมเชียแค่ไหน?”            ชายหนุ่มพูดเหมือนเป็นต่อ ธุรกิจนี้คลอลินบิดาเขา...เป็นคนบุกเบิก โครงงานใหญ่ๆ เคยผ่านมือบาร์วมานับไม่ถ้วน แล้วจะใจดีแบ่งให้บริษัทเล็กๆ ได้มีขนมหวานลิ้มลองบ้างก็ไม่เห็นเป็นไร            “ขอบคุณสำหรับความเมตตาที่ทางคุณมีให้...ผมจะสนองคุณนั้นให้สาสม...และหวังว่าพวกคุณทั้งหมดคงจะรออยู่นะ... ของขวัญจากเดมเชียชิ้นแรก!!”            ลูคัสเปรยแบบมีความใน ของขวัญชิ้นแรกที่เขามอบให้บาร์ว คือการฉกงานชิ้นใหญ่ที่บาร์วจ้องตาเป็นมันมาครอง            คลากส์กำมือแน่น เขาคงต้องรีบชิ่ง เมื่อวันนี้ไม่มีหนทางเอาชนะไอ้หน้าหล่อนี่ได้สักทาง สิ่งที่ควรทำคือไปเสียก่อนที่จะหน้าแหก...หากมันพูดถึงเรื่องการประมูลโครงงานใหญ่ของโรม...            “เอม...ฉันไปล่ะ!! กลับไปเรามีเรื่องต้องคุยกัน...”            ชายหนุ่มหันไปหาเอรินทร์ระบายความขัดใจด้วยการตะคอกหญิงสาว หญิงสาวหน้าม่อย เธอก้มหน้าหลบและเบ้ปากบ่นเบาๆ ไม่ว่าเมื่อไรเธอก็ยังเป็นกระโถนสำหรับระบายความไม่ดีใส่มาตลอด ต่อให้เธอไม่ได้อยู่ใต้ชายคาบาร์วแล้วก็ตาม            ลูคัสปรายตามองเอรินทร์ยิ้มๆ หล่อนคงไม่รู้สิ่งที่หล่อนปิดบังไว้ เขารู้แล้ว!!            “เริ่มงานกันเลยดีไหม!! ผมมีเวลาให้คุณแค่30นาที”            ลูคัสเปรย เขาทรุดตัวลงนั่ง ตวัดปลายขาขึ้นมาไขว่ห้างด้วยท่าทางสุดเท่ห์ มีสาวๆ ที่เดินผ่านไปมา ชำเรืองมองชายหนุ่มพร้อมกับโปรยยิ้มหวานๆ มาให้ แต่ผู้ชายอวดดีอย่างลูคัสหรือจะสนใจ เขานั่งนิ่งๆ มองตรงไปยังมิแรนดาด้วยสายตาเย็นชา            นักข่าวสุดฮอตนึกฉุน!! ชายหนุ่มมาสายแล้วยังมีเวลาให้เธอแค่สั้นๆ การพูดคุยเพื่อเจาะลึกคงทำไม่ได้ อีกอย่างเธอกำลังกังขาเรื่องความสัมพันธ์ของเอรินทร์กับคนของบาร์ว หล่อนปิดบังอะไรไว้แน่...สาวสุดเชยอย่างเอรินทร์คงไม่ใช่แค่คนนามสกุลคล้าย เมื่อหัวหอกของบาร์ว ว่าที่ผู้นำคนต่อไปยังรู้จักมักจี่หล่อนเป็นอย่างดี            “เอาเถอะค่ะ ก็ยังดีกว่ามานั่งรอเก้อ...เริ่มสักทีก็ดีเหมือนกัน”            หญิงสาวเปรยเสียงขุ่น งานชิ้นนี้เธอนึกว่ามันจะท้าทายความสามารถ เมื่อเป้าหมายของเธอน่าสนใจไม่น้อย แต่พอเอาเข้าจริงๆ มันน่าเบื่อจนแทบอยากชิ่งหนี ลูคัสเหมือนเจ้าชายอสูร แห่งBeauty and the Beast เขาเย็นชาและดูเหมือนจะไร้หัวใจ            “เข้าเรื่องเลยดีกว่า...และที่ชัดๆ เลย อย่าถามเรื่องส่วนตัว!!”            ชายหนุ่มเปรย เขากระตุกยิ้มมุมปาก และเป็นอีกครั้งที่สายตาของเขาชำเรืองมองไปยังเอรินทร์ที่นั่งอยู่ด้านหลังมิแรนดา ลูคัสแปลกใจตัวเอง เขาให้ความสนใจกับหล่อนมากเกินไปหรือเปล่า? ผู้หญิงธรรมดา แต่งตัวเชยๆ กับใบหน้าที่ก้มต่ำเป็นนิจ เหมือนหล่อนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง หล่อนไม่ยอมสบตาเขาด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเพียรพยายามหันไปมองแค่ไหน เขาจะได้เห็นแค่ปลายจมูกโด่งๆ กับกรอบแว่นตาอันโต หรือไม่ก็ศีรษะที่ก้มต่ำ เห็นแค่ผมเส้นเล็กๆ สีดำเท่านั้นเอง            “เรื่องงานของคุณน่าสนใจก็จริงค่ะ!! แต่หากคุณเปิดเรื่องส่วนตัวบ้าง...สาวๆ คงตามกรี๊ดอีกพะเลอ”            มิแรนดาพูดประชด การที่ลูคัสทำตัวลึกลับ ทำให้เลทติ้งของเขาพุ่งกระฉุด ไม่ว่าจะเป็นข่าวอะไร ถ้ามันเกี่ยวของกับชายหนุ่ม ยอดขายวันนั้นจะพุ่งสูงปรี๊ด!! จนเป็นที่มา ทำให้เธอต้องมานั่งอยู่ตรงนี้ไง            “นั่นล่ะ...คือสิ่งที่ผมรำคาญ...ถามมาเลยเรื่องงาน...ผมเต็มใจตอบ แต่ถ้าเกินว่าที่ผมตอบได้..คงรู้คำตอบใช่ไหม?”            คำตอบติดความยโสมาเต็ม และนี่คือตัวตนของลูคัส เขาไม่เปิดเผยตัว ให้รู้เท่าที่เขาอยากให้รู้ ปูมหลังของเขาเป็นความลับ            “มาเริ่มกันดีกว่าไหม? รู้สึกว่าเวลาของเธอใกล้หมดเต็มที...” ชายหนุ่มพูดซ้ำ เขายกข้อมือขึ้นชี้นิ้วไปที่นาฬิกาโรเล็กซ์ เขาเคาะเบาๆ ที่หน้าปัดเพื่อให้มิแรนดารู้...เวลามันเดินเร็วหากหล่อนยังมัวโอ้เอ้ หล่อนจะไม่ได้อะไรจากเขาติดมือไปด้วยเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม