รสชาติใหม่

1914 คำ
มาร์คและเบนได้ยืนมองหมูไก่และผัก ที่มาร์คซื้อมาเพื่อที่จะให้มันนี่เป็นคนทำ แต่คนที่อยู่ในร่างมันนี่กลายเป็นเบนไปแล้ว ซึ่งเบนทำอะไรไม่เป็นซะอย่าง เพราะบ้านรวยมีคนรับใช้มากมาย “นายยืนมองอะไรทำไมไม่ทำกับข้าวให้เรากิน”มาร์คเอ่ยขึ้น “ทำไม่เป็น เราลืมวิธีทำอาหารไปแล้วน่ะ นายทำให้เรากินดีกว่าไหม” “ทำได้ แต่นายจะกินได้ไหมนั้นอีกเรื่องหนึ่ง” “ถ้าเป็นอย่างนั้นอย่าทำเลย เราออกไปหาอะไรกินข้างนอกกันเถอะ ไปภัตตาคารหรูๆอาหารดีๆมีตั้งเยอะ จะมากินอะไรที่ไม่อร่อยล่ะ”เบนยืนยิ้มจินตนาการอาหารเลิศรส “ตื่นได้แล้ว เราสองคนไม่ได้รวยขนาดนั้น ผ่อนคอนโด ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต แต่ละเดือนแท่บไม่พอใช้ คิดอย่างไงยังจะไปกินอาหารภัคตาคารหรู ถ้าข้างทางก็ไปอย่างหนึ่ง” เบนอึ่งกับคำพูดของมาร์ค เพราะเขาลืมคิดไปว่าอยู่ในร่างของมันนี่ ไม่ใช่ร่างของเขาที่เป็นลูกชายเศรษฐีพันล้าน “เราพูดเล่น พูดแล้วจะได้หายหิว ถ้างั้นเราไปกินอาหารข้างทางก็ได้ นายก็รู้ว่าเราจำอะไรไม่ได้ อะไรที่เราเคยทำเป็นลืมไปหมดแล้ว” “แบบนี้นายจะทำงานได้เหรอ เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดเลยนะ” “นายก็ช่วยเราสิ”เบนอมยิ้ม “เราเป็นช่าง จะช่วยนายทำอะไรได้” “ว้าว นายเป็นช่างดีจังเลย” “ไม่ต้องพูดอะไร ไปกินข้าวข้างทางก็ได้”มาร์คหงุดหงิดนิดหน่อย เพราะเขาอยากกินฝีมือทำกับข้าวของมันนี่ มาร์คพาเบนมานั่งกินข้าวข้างทางอย่างไม่เต็มใจ เพราะเขาอยากจะกินรสมือของมันนี่ที่เคยทำให้เขากินเป็นประจำ แต่ในเมื่อเขาคิดว่ามันนี่ความจำเสื่อมเขาจึงไม่มีทางเลือกที่จะต้องทำตามใจเบน เมื่อมาถึงร้านอาหารข้างทางเบนก็ไม่ค่อยอยากนั่งเท่าไร เพราะลืมไปว่าหน้าตาของเขาไม่ใช่เบนแล้วแต่เป็นมันนี่ เขากลัวเพื่อนๆขับรถผ่านมาเห็นเขาจะดูไม่ดี จึงกล้าๆกลัวๆยืนงงตรงข้างทาง “ทำไมไม่นั่งล่ะ”มาร์คเอยขึ้น “อือ”เบนนั่งลงบนเก้าอี้ไม่มีพนักพิง เบนนั่งมองมาร์คไปกดน้ำดื่มฟรี เขามองมาร์คตักน้ำแข็งใส่เก้าสองใบ หลังจากนั้นกดน้ำในกระติกและเอาแก้วรองน้ำไว้ เมื่อเต็มทั้งสองใบเบนเห็นมาร์คหยิบหลอดสองอันใส่แก้ว แล้วเดินมาวางตรงหน้าของเขา “จะกินอะไรสั่งเอาเลย”มาร์คมองหน้าเบนแล้วอมยิ้มนิดๆในความน่ารักแบบแมนๆซึ่งไม่ได้ตะมุตะมิเหมือนแต่ก่อน “มีอะไรบ้างล่ะบอกมาหน่อยซิ” “ร้านอาหารตามสั่งมันก็มีไม่กี่อย่างหรอก อย่าบอกนะว่าจำไม่ได้อีก” “อือ”เบนพยักหน้า “ความจำเสื่อมจริงๆหรือแกล้งกันแน่” “ไม่ได้แกล้งเสื่อมจริงๆ” “ส่วนอื่นเสื่อมด้วยหรือเปล่า”มาร์คอมยิ้ม “ทะลึ่งเดี๋ยวใครมาได้ยินเข้า” “ได้ยินก็ช่างเขาซิ เพราะคนแถวนี้เขารู้กันหมดแล้วว่าเราเป็นแฟนกัน” “อะไรน่ะ”เบนพูดเสียงดัง “ไหนบอกให้เราเบาๆตัวเองนั่นแหละทำเสียงดัง” “โต๊ะนั้นมัวแต่จีบกันอยู่นั่นแหละ เมื่อไรจะสั่งอาหารซะทีล่ะพ่อคุณ”แม่ค้าตะโกนเสียงดับ จนคนข้างๆต่างมองมาร์คและเบน มาร์คเฉยๆและอมยิ้มนิดๆส่วนเบนรู้สึกอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี แต่เขาก็ทำเช่นนั้นไม่ได้ เบนจึงได้แต่นั่งนิ่งๆทำหน้าตายับย่นไม่พอใจ “นายไม่สั่งเดี๋ยวเราสั่งให้ก็แล้วกัน ป้า ผัดกระเพราสองจานเผ็ดๆหน่อยนะ” “เราไม่กินเผ็ด”เบนพูดขึ้นลอยๆ “เผ็ดจานไม่เผ็ดจานนะป้า” “ทำไมพวกเอ็งไม่สั่งให้เหมือนกันวะ เสียเวล่ำเวลาหมด”แม่ค้าบ่นเฉยๆในใจไม่ได้มีอะไรหรอก เพราะว่าค่อนข้างสนิทกับทั้งสองคนเป็นอย่างดี “แฟนผมไม่กินเผ็ดครับป้า” “เมื่อก่อนยังกินอยู่เลย หรือว่ากลัว..ป้าไม่พูดแล้ว เดี่ยวกินข้าวกันไม่ลง” “ป้านี่ปากไม่ดีหนอ พูดจาเลอะเทอะ นายไม่น่าพาเรามากินที่นี่เลย” “ป้าเขาให้ข้าวเยอะดีอร่อยด้วย แล้วจะไปทำไมไกลๆเสียเวลาเปล่าๆ มีเงินเยอะเหรอ งานก็ไม่ได้ทำหลายวันแล้วนี่นายน่ะ” “โอ๊ย เรื่องเงินเรื่องเล็ก มีเยอะด้วยไม่อยากจะคุย” “ไหนล่ะเงินเอาออกมาให้ดูหน่อยซิ” “ตอนนี้ยังไม่มีรอพรุ่งนี้ก่อน เดี่ยวมีคนโอนเงินมาให้เองนั่นแหละ”เบนคิดไปว่าพรุ่งนี้จะให้มันนี่โอนเงินจากบัญชีของเขามาใส่บัญชีมันนี่ซักล้านสองล้าน “พุร่งนี้หวยออกนี่ ซื้อหวยไว้แล้วใช่ไหม” “โอ๊ย หวยอะไรเราไม่เล่นหวย เงินที่มีใช้ทั้งชาติก็ไม่หมด” “นายนี่เป็นเอามาก พรุ่งนี้ต้องมาหาหมอจิตเวชอีกรอบแล้วมั้ง” “ไม่ไปเราไมได้บ้า” “ใครว่านายบ้า แต่นายไม่อยู่กับความจริงมโนเพ้อพบไปเรื่อย” “เอ่อ พรุ่งนี้คอยดูก็แล้วกันว่าเรามีเงินจริงหรือเปล่า” “ผัดกระเพราเผ็ดกับไม่เผ็ดมาแล้วจร้า”แม่ค้านำกระเพรามาให้ทั้งสองถึงโต๊ะด้วยตัวเอง “ทำไมวันนี้มันนี่หน้าบูดจัง มาร์คทำอะไรให้มันนี่ไม่พอใจหรือเปล่า” “เปล่าป้า” “มีอะไรก็ค่อยๆพูดค่อยๆจากัน มาร์คป้าอยากจะเตือน” “อะไรครับป้า” “ที่หลังเบาๆหน่อยก็ได้ ดูท่าทางมันนี่แย่เหมือนกันนะ”ป้าขายอาหารตามสั่งกระซิบข้างๆหูของมาร์ค “ไปแล้วนะกินให้อิ่ม” “ป้าเขาพูดอะไร”เบนถามทันทีหลังจากป้าอาหารตามสั่งเดินไปไกลพอสมควร “ป้าเขาบอกว่าคืนนี้จัดให้หนักๆหน่อย” “ป้าคนนี้ประสาทชอบยุ่งเรื่องชาวบ้าน” ถึงแม้เบนจะไม่ชอบป้าคนนี้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เขาปฏิเสธไม่ได้ ผัดกระเพราของป้านั้นอร่อยมาก จนเขาอยากสั่งจานที่สอง แต่ก็ไม่กล้าเก็บอาการไว้ “ท่าจะหิวกินซะเกลี้ยงเลย” “ไม่ได้หิวหรอกเสียดายของ” “พูดแบบนี้สมกับเป็นมันนี่จอมเหนียวหน่อย” “อะไรน่ะมันนี่ขี้เหนียวเหรอ” “ไม่ใช่ขี้เหนียวธรรมดาแต่โครตเหนียว” “อู้”เบนอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ ช่วงเวลาในร้านอาหารตามสั่งในความรู้สึกของมาร์คดูแสนสั้น เพราะเขารู้สึกมีความสุขที่ได้ออกมาจากคอนโด ถึงแม้เขาจะรู้สึกดีที่ได้กินข้าวกับมันนี่ในคอนโด แต่มันมีความเบื่อบ้างเป็นบางครั้ง เมื่อคิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา มาร์ครู้สึกเศร้าใจทันที เพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเขาก็มีส่วนผิด เพราะเขาชวนมันนี่ไปกินข้าวยังร้านอาหาร จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุ “นานๆไปทีก็มีความสุขดีนะ”มาร์คพูดขึ้นหลังจากกลับขึ้นมาบนคอนโด “อือ”เบนนั่งลงบนโซฟา “อร่อยใช่ไหม”มาร์คนั่งลงข้างๆเบน “ไม่ต้องนั่งชิดกันขนาดนั้นก็ได้”เบนขยับห่างไปอีกหน่อย “อ๋อ เข้าใจแหละ”มาร์คล้มตัวลงนอนหนุนตักของเบนทันที “เอ๊ะนายนี่ เราไม่ได้บอกให้นายนอนตักเราลุกขึ้นได้แล้ว” “ไม่ลุก ขอนอนซักหน่อยน่ะ ไม่ได้นอนแบบนี้มานานมากแล้ว” เบนอยากที่จะปฏิเสธและลุกเดินหนี แต่เขาก็ไม่สามรถทำตามความคิดนั้นได้ เพราะถึงอย่างไรเขาก็ต้องอยู่กับมาร์คไปจนกว่าจะกลับเข้าร่างได้ ขืนทำตัวห่างเหินอาจส่งผลเสียกับตัวเขา เบนจึงให้มาร์คนอนบนตักต่ออยู่อย่างนั้น “นายเล่าเรื่องของเราต่อซิ หลังจากเอฟหลอกใช้ให้ทำวิทยานิพนธ์” “อ๋อ ได้เลย” หลังจากวันนั้นที่มันนี่ตกลงทำงานให้กับพี่สาวของเอฟ อีกสองสามวันเอฟก็มาหามันนี่ที่ห้องของเขา โดยมีเอกสารกองหนาพร้อมข้อมูลต่างๆเบื้องต้น เพื่อให้มันนี่ไปค้นคว้าหาเพิ่มเติม “เรารู้สึกเกรงใจมันนี่มากเลย”เอฟยิ้มหวานอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจมันนี่ “ไม่เป็นไรหรอก เพราะตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันแล้ว”มันนี่อมยิ้มด้วยความอาย “เรารู้สึกเสียใจมากเลยนะ ที่นายคิดกับเราแค่เพื่อน เพราะเราได้คิดเกินเพื่อนไปแล้ว”เอฟแสร้งทำสีหน้าผิดหวัง “ไม่ใช่อย่างงั้นน่ะเอฟ เราก็คิดแบบนายนั่นแหละ”ช่วงแรกมันนี่มีสีหน้าที่ตกใจและ เปลื่ยนไปเขินอายหลังจากบอกความในใจออกไป “เราดีใจมากเลย ตอนแรกเรานึกว่าคิดไปคนเดียว สุดท้ายเราก็สมหวังซะที”เอฟดึงร่างของมันนี่มากอดไว้ “เราก็ดีใจจนพูดไม่ถูกเหมือนกัน”มันนี่โอบกอดเอฟด้วยเช่นกัน “ในเมื่อใจเราตรงกัน ต่อไปนี้เราจะดูแลมันนี่เองนะ”เอฟคลายกอดมันนี่แล้วจับสองแก้มมันนี่ไว้ พร้อมส่งสายตาอันหวานฉ่ำ “ไม่เป็นไรหรอก เราดูแลตัวเองได้ ขอแค่นายเป็นแบบนี้ตลอดไปเราก็ดีใจมากที่สุด” “ไม่ได้สิ เพราะนายดีกับเราและพี่สาวของเราด้วย ถ้านายอยากได้อะไรอยากทำอะไรบอกเราได้นะ เราไม่ปฏิเสธนายหรอก เราเต็มใจทำให้นายอย่างแน่นอน” “เราไม่อยากได้อะไรจากนายหรอกแค่นี้เราก็ดีใจมากแล้ว” “ไม่ได้สิ รักอย่างเดียวมันไม่พอหรอก มันต้องทำอย่างอื่นด้วย ถึงจะทำให้ความรักของเรานั้นสมบูรณ์แบบ” “ทำอะไรล่ะ”มันนี่เขินอายอย่างหนัก “นายอยากทำอะไรล่ะ” “ไม่รู้”มันนี่หันหน้าไปทางอื่น “ไม่รู้ได้ไง”เอฟจับปลายคางของมันนี่เชิดขึ้นเล็กน้อย “เราไม่เคยทำอะไรแบบนั้นหรอก” “แล้วอยากทำไหมล่ะ” “ก็ คือ เอ่อ” “ไม่มีอะไรต้องอายกันอีกแล้ว ในเมื่อใจเราตรงกัน ถ้านายอยากทำเราก็พร้อมที่จะให้นายทำนะ” “ทำอะไรล่ะ” “ถ้านายยังเล่นตัวอยู่อย่างนี้เรากลับก่อนนะ งานก็ไม่ต้องทำให้เราก็ได้”เอฟแกล้งเก็บเอกสารต่างๆเข้าไปในกระเป่าใบใหญ่ “ก็ได้ เราอายน่ะ” “มัวแต่อายแล้วเมื่อไรนายจะได้ทำซะทีล่ะ” “ได้ ทำอย่างไงล่ะ” “ไม่ต้องมาแกล้งไม่รู้เลย” “ไม่ได้แกล้งเราไม่รู้จริงๆ” “ไม่แกล้ง ไม่รู้ ก็ไม่เป็นไร ถ้าอย่างงั้นเราจัดการเอง” เอฟค่อยๆยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ๆมันนี่ จนริมฝีปากเกือบชนกันในอีกไม่กีวินาที มันนี่ใจระทึกตื่นเต้น หัวใจสั่นระรัวยิ่งริมฝีปากของเอฟประกอบแนบชิดริมฝีปากของเขา มันนี่ถึงกับหายใจถี่ๆด้วยความหวั่นไหว
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม