ตอนที่2/1 ปากปีจอ
ณ บ้านของสามภพ
หลังจากที่พิธีวิวาห์เรียบง่ายจบลง ทั้งสองก็เข้ามาอยู่ในห้องหอที่เป็นบ้านของสามภพนั่นเอง บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ชายหนุ่มออกแบบและสร้างมาจากน้ำพักน้ำแรงของเขา เดิมทีเขาก็ต้องการให้บ้านหลังนี้เป็นเรือนหอของเขากับผู้หญิงที่เขารัก แต่สุดท้ายมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเมื่อเขาต้องมาจำใจแต่งงานกับผู้หญิงหน้าเงินคนนี้
“ยืนบื้ออยู่ทำไมอีก เอากระเป๋าไปเก็บสิ!” น้ำเสียงเข้มของชายหนุ่มเอ่ยบอก หลังจากที่เขาพาเธอกลับมาที่บ้านก็เห็นว่าคนตัวเล็กเอาแต่ยืนเงียบจึงทำให้เขาพูดบอกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
“จะให้รสาอยู่ห้องไหนคะ”
“ห้องนั้น อ๋อ แล้วก็ไม่ต้องคิดไปล่ะว่าพอได้แต่งงานกับฉันแล้วจะอยู่สุขสบาย บ้านหลังนี้ไม่มีแม่บ้าน ปกติจะมีคนจากบ้านคุณปู่มาทำความสะอาดให้ แต่ต่อจากนี้จะไม่มีแล้ว เธอมีหน้าที่รับผิดชอบพวกนี้แทน ช่วยทำตัวให้มีประโยชน์ให้สมกับเงินที่บ้านเธอกอบโกยไปด้วยล่ะ” นับว่าคำพูดของคนตัวสูงมันบาดลึกความรู้สึกของหญิงสาวไม่น้อย แต่เธอก็ไม่เอ่ยปฏิเสธใด ๆ ออกไป ก็เพราะรู้ดีว่าทุกคำพูดของชายหนุ่มมันเป็นเรื่องจริง บ้านของเธอเห็นแก่เงินเธอไม่คิดเถียง
“เหอะ ไม่เถียง ก็นับว่ายังรู้ตัวเองดี ว่าพวกเธอมันหน้าเงินขนาดไหน ผู้ชายเขาไม่อยากแต่งงานด้วยก็ยังหน้าด้านหน้าทน จำเอาไว้เลยนะ เธอจะไม่มีวันมีความสุข!”
สิ้นคำพูดของชายหนุ่มร่างสูงของสามภพก็เดินออกไปจากบ้านทันที ทิ้งให้หญิงสาวอยู่ที่นี่เพียงตามลำพัง เธอเห็นอย่างนั้นก็พยายามข่มความรู้สึกเจ็บหน่วงเอาไว้ เธอไม่มีทางเลือกอะไรนอกจากอดทน ถึงแม้จะไม่ง่ายเลยก็ตาม
หญิงสาวพยายามสะบัดความคิดต่าง ๆ ก่อนจะหิ้วกระเป๋าของตัวเองเข้ามาเก็บในห้องที่ชายหนุ่มบอก หญิงสาวมองสำรวจรอบ ๆ ห้องแห่งนี้ ไม่ได้ใหญ่และก็ไม่ได้เล็กอะไร เธอไม่ใช่คนเรื่องมากอะไรอยู่แล้ว เพราะชีวิตที่ผ่านมาของรสาก็ไม่ได้อยู่อย่างสุขสบายอะไร เธอมันก็แค่ลูกเมียน้อย ไม่เคยมีค่าในสายตาของใครอยู่แล้ว
“ไม่เป็นไรนะรสา แกต้องอดทนผ่านมันไปให้ได้” คนตัวเล็กให้กำลังใจตัวเองก่อนที่เธอจะเก็บเสื้อผ้าใส่ตู้ หลังจากทำอะไรเสร็จ หญิงสาวก็เดินออกมาจากห้องนอน เธอมองไปรอบ ๆ บ้านก่อนจะตรงไปยังห้องครัว เปิดสำรวจดูของสดในตู้เย็น เมื่อเห็นว่าไม่ได้มีอะไรมากมายหญิงสาวจึงตัดสินใจออกไปตลาด
บ้านหลังนี้ของสามภพไม่ได้อยู่ห่างไกลความสะดวกสบายอะไรมากมายนัก ในทางกลับกัน เธอรู้สึกว่าที่ดินแถวนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ใกล้กับตัวเมืองและก็ใกล้กับห้างสรรพสินค้าอีกด้วย ไหนจะตลาดสดที่อยู่ปากทางเข้าหมู่บ้านอีก หญิงสาวเรียกรถผ่านแอปในโทรศัพท์ ก่อนจะมาถึงตลาดสด เธอเลือกเดินซื้อของเพื่อจะเอาไว้ทำกับข้าวในแต่ละวัน เธอไม่รู้หรอกว่าอีกคนจะกินอะไร เธอซื้อตามที่เธอมีปัญญาซื้อได้
ใครจะคิดว่าเจ้าสาวสินสอดเกือบร้อยล้านแทบไม่มีเงินติดตัวอะไรเลย เพราะเงินทุกบาททุกสตางค์เข้ากระเป๋าพ่อของเธอหมด เธอมีเงินที่ท่านให้เป็นรายเดือนสมัยเรียนซึ่งก็ไม่ได้เยอะอะไรเลย
แต่ที่ผ่านมารสาเป็นคนประหยัดแถมรับทำงานเสริม พวกรายงานอะไรพวกนี้ ทำให้คนตัวเล็กพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้เยอะหรอก เธอถึงหางานทำอยู่นี่ไง
ครอบครัวของเธอมีบริษัท แต่ด้วยที่บิดาไม่อยากให้เธอไปวุ่นวายที่นั่นไหนจะการเรียนของเธอ ที่ไม่ได้เรียนสายนี้มา ทำให้คนตัวเล็กอยากทำงานที่อื่น รสามีสมัครงานทิ้งเอาไว้อยู่หลายที่เหมือนกัน แต่ก็ยังไม่มีใครเรียกไปสัมภาษณ์เลย เธอเข้าใจว่าเธอยังไม่มีประสบการณ์อะไร ทำให้หลายบริษัทยังไม่ได้รับพิจารณา
เสียงถอนหายใจของคนตัวเล็กดังขึ้น นึกแล้วก็อยากจะหัวเราะให้กับชีวิตตัวเอง ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร เธอแทบไม่กล้าฝันถึงอนาคตเลย และก็ไม่รู้ว่าเธอต้องอยู่ในสถานะนี้อีกนานแค่ไหน อยู่กับคนที่ไม่ได้รักกันก็คงไม่มีวันมีความสุข มิหนำซ้ำผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีของเธอก็ดูเกลียดเธอมากอีกด้วย
คนตัวเล็กกลับมาถึงบ้านก็เข้าครัวทำอาหารง่าย ๆ เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะกลับมาตอนไหน เธอจึงทำเผื่อเขาเอาไว้ ไม่รู้หรอกว่าเขาจะมากินรึเปล่า แต่ถ้าไม่ทำก็จะหาว่าเธอไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง เธอไม่ต้องการให้อีกคนมาพูดตามหลัง พอหลังจากที่หญิงสาวทำอาหารเย็นเสร็จ เธอก็มองดูนาฬิกาที่ในตอนนี้ห้าโมงเย็นกว่าแล้ว แต่ก็ไม่มีท่าทีของอีกคนจะกลับมา เธอจึงไม่ได้คิดจะรออีกฝ่ายเพราะไม่รู้จะรอไปทำไม หญิงสาวจึงนั่งทานข้าวเงียบ ๆ คนเดียว