หลังจากค่ำคืนนั้นที่จากลี่หลินมา เทียนหรงก็ตั้งตารอว่าเมื่อไหร่คืนไหนเขาจะได้ไปหานางอีก ยิ่งได้ใกล้ชิดและได้สัมผัสแค่นั้นมันยังไม่พอ เขาไม่อยากให้นางห่างกายเลยด้วยซ้ำ มันเป็นแบบนี้อีกแล้วเขาเฝ้าคิดถึงนางอยู่ตลอดเวลา อยากจะเจอใบหน้างามอีกแล้วนางจะรู้สึกแบบเดียวกันหรือไม่นะ ว่าแล้วเขาจะไปหานางเดี๋ยวนี้...
“หลุนคุนไม่ต้องตามมา ข้าจะไปหานาง”
“อะไรนะนายท่าน ท่านเพิ่งจะกลับมาเองนะ พักผ่อนก่อนไม่ดีกว่าหรือขอรับ เชื่อข้าเถอะนางอาจจะไม่อยู่ นายท่านรอพบนางวันงานประมูลก็ไม่สายนะขอรับ”
“ก็จริงของเจ้า ข้าคงใจร้อนเกินไป ถ้าอย่างนั้นเจ้าไปแจ้งไว้กับหรงจู๊ด้วย บอกว่าข้าจะไปรับแม่นางหลินในวันงานประมูล”
“ขอรับนายท่าน” ฟู่!! หลุนคุนตอบรับพร้อมกับพรูลมหายใจอย่างโล่งอก อย่างน้อยเจ้านายของเขาก็ไม่ดื้อดึงจนเกินไป
เวลาเดียวกันที่สำนักมังกรสายฟ้า ณ ห้องทำงานของเจ้าสำนัก...
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ เจ้ารองเป็นเอามากนะเนี่ย เล่าต่อไปสิหลุนคังข้ากำลังเพลิน”
หลุนคังได้แต่ส่ายหน้ากับความอยากรู้อยากเห็นของเจ้านายจนเกินงามแทบจะไม่เหลือความสุขุมนุ่มลึกของตำแหน่งเจ้าสำนักเลยตอนนี้ ‘หากจะให้ไปสอดส่องเรื่องของชาวบ้าน ให้ท่านใช้คนอื่นไปก็ได้นะขอรับ’ พูดไปแล้วก็ได้แต่โอดครวญอยู่ในใจ เป็นกันหมดทั้งบ้านจริง ๆ (หลุนคังเป็นองครักษ์เงาคนสนิทของเจ้าสำนักและยังเป็นพี่ชายแฝดของหลุนคุนด้วยฃ)
“ท่านพี่ท่านมีความสุขอะไรนักหนา เสียงท่านดังทะลุห้องจนข้าแทบไม่มีสมาธิปรุงยาเลยเนี่ย”
“โอ๋ ๆ ลู่เออร์มานี่มาเจ้าอย่าเคืองพี่เลย หากเจ้าได้ฟังเรื่องนี้เจ้าก็ต้องเป็นแบบพี่แน่นอน เรื่องมันเป็นแบบนี้นะ”
แล้วคุณชายใหญ่ก็ได้เผาน้องชายให้ภรรยาฟัง จริงบ้างเท็จบ้างใส่ไฟกันไปมากน้อยเพื่อให้ได้อรรถรส กำลังเล่าอย่างเมามัน จู่ ๆ ฝ่ามือเรียวก็กระทบแขนของเขาดัง เพียะ!!
“อ๊าา ลู่เออร์พี่เจ็บนะ”
“ท่านพี่เอาเรื่องของคุณชายรองมาล้อเล่นแบบนี้มันไม่ดีนะขอรับ น่าเห็นใจคนมีความรักออก หรือว่าท่านไม่เคยเป็น”
“อูยย..เคยจ้ะเมียจ๋าพี่จะไม่พูดอีกแล้ว” รู้สึกว่าพักนี้เมียรักมือหนักขึ้นนะเนี่ย
“ดีขอรับ น้องว่าเราหาทางช่วยเขาดีหรือไม่ท่านพี่ จะได้มีเจ้าตัวน้อย ๆ มาวิ่งเล่นเต็มจวนเสียที”
“เจ้ารองอยากจะจัดการเองไม่อยากให้ใครเข้าไปยุ่ง ฉะนั้นเราก็ควรดูอยู่ห่าง ๆ”
“ต่อให้เราไม่ยุ่งแล้วท่านพ่อกับท่านแม่ล่ะขอรับ พวกท่านจะอดทนได้สักเพียงใด แล้วนางเป็นใครมาจากไหนหรือขอรับถึงได้ทำให้คุณชายรองตกหลุมรักได้รวดเร็วเพียงนั้น คุณชายรองผู้ไม่สนใจสตรีน่ะหรืออยากจะแต่งงาน เซอร์ไพรส์จริง ๆ”
“นางก็คือคนเดียวกันที่สั่งอาหารจานพิเศษของเจ้าทั้งหมดอย่างไรเล่าลู่เออร์”
“ฮ๊า..เป็นนางหรือขอรับท่านพี่ ข้าชักอยากจะเจอหน้านางซะแล้วสิ”
“ลู่เออร์ทำไมเจ้าถึงอยากเจอนางขนาดนั้น เจ้าสนใจอะไรในตัวนางหืม”
“เปล่าหรอกท่านพี่ ข้าแค่อยากถามนางว่าอาหารของข้ามันไม่อร่อยเลยหรือยังไง นางถึงไม่ชอบ”
“เป็นเช่นนั้นเองหรือ” เฟยหรงแอบคิดไปไกลมาก เขาแอบคิดว่าภรรยาของเขาจะมีความชอบอิสตรีขึ้นมาแล้วเสียอีก
ก่อนวันงานประมูล…
“ต้าฝูท่านต้องไปดูงานประมูลกับข้านะ”
“ไม่ไปไม่ได้หรือขอรับข้าไม่ชอบผู้คนมากมายแบบนั้นเลยมันวุ่นวายออก อีกอย่างข้าเชื่อว่านายท่านจะเป็นคนพาท่านไปแน่นอน”
“แหม...เรียกเขาว่านายท่านอีกล่ะ ตกลงท่านจะไม่ยอมไปให้ได้สินะ ไปเถอะน่า นะ กลับมาแล้วข้าจะทำแจ่วฮ้อนรสเด็ดให้กินเอาไหม แถมด้วยซาชิมิแซลมอน ดีหรือไม่”
“หึ ๆ ไปด้วยก็ได้ ข้าเปล่าเห็นแก่กินนะแต่เป็นเพราะห่วงท่านหรอก”
‘คิกๆ ไม่เห็นแก่กินสักนิดเลยนะพ่อเหยี่ยวหน้าตาย’
วันงานประมูล…
วันนี้นับว่าเป็นวันที่วุ่นนวายที่สุดของเมืองหลง ทั้งที่สองวันก่อนหน้านั้นบรรยากาศยังคงเงียบและสงบดี สาเหตุไม่ใช่เพราะของที่อยู่ในงานประมูลหรอก เพราะนั่นถือเป็นความลับสุดยอดของหอประมูลไป๋หลงแล้ว แขกเหรื่อทุกคนจะได้รับความเสมอภาคในการประมูล ใครเตรียมเงินมาเยอะก็ได้เปรียบหรืออาจจะขอหยิบยืมจากสหายหรือใครก็ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน ไม่มีกฎกติกาในการหยิบยืม ทุกอย่างล้วนอยู่บนฐานความพอใจของทั้งสองฝ่าย และสิ่งของที่จะส่งเข้าประมูลที่หอประมูลไป๋หลงย่อมไม่สามัญ ไม่ว่าจะเป็นอาวุธธาตุที่นักอักขระเป็นผู้จารึก สัตว์อสูรระดับต่าง ๆ แม้กระทั่งไข่ของสัตว์อสูรก็ยังเป็นที่ต้องการมากซึ่งไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก แม้แต่ยันต์อักขระธาตุระดับต่าง ๆ ก็เป็นที่ต้องการเช่นกัน ท้ายสุดคือสมุนไพรและโอสถซึ่งเป็นที่ต้องการมากที่สุด แต่สิ่งที่ทำให้เมืองหลงวุ่นวายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนั่นก็คือ มีข่าวลือเล็ดลอดออกมาว่าเจ้าของหอประมูลจะมาปรากฏตัวที่หอประมูลนั่นเอง มันแปลกใช่มั้ยล่ะที่ผู้คนทั้งห้าแคว้นไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเจ้าของหอประมูลเลยสักครั้ง สตรีใดที่ไม่เคยเข้างานประมูลมาก่อนเลยก็คิดอยากจะเข้า แม้แต่บุรุษก็ไม่เว้น นายท่านของหอประมูลไป๋หลงทำไมถึงได้ลึกลับนักนะ...
ที่เรือนวายุของหลงเทียนหรง ขณะที่เขากำลังเฝ้ารอคอยให้ถึงเวลานัดหมาย...
“หลุนคุนเจ้าแน่ใจนะว่านางยังอยู่ที่ฝูหยาง” เทียนหรงถามเพื่อความมั่นใจว่านางจะยังรอเขาอยู่ที่นั่นไม่หลบลี้หนีหน้าไปก่อน ยิ่งใกล้ถึงเวลานัดหมายภายในใจของเขาก็ยิ่งร้อนรนจนเก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้ไม่อยู่
“นางยังอยู่ขอรับ แต่นายท่านนี่สิยังสบายดีอยู่ไหม ให้ข้าตามท่านหมอเฉินดีไหมขอรับ”
“ไม่ต้อง ข้าแค่ประหม่านิดหน่อย เพราะไม่เคยเข้าไปในงานประมูลสักครั้งเลยเจ้าก็รู้”
“เป็นอย่างนี้นี่เอง มิใช่เพราะนายหญิงหรอกหรือขอรับ” เหมือนองครักษ์หนุ่มจะเข้าใจถูกว่านายของตนออกอาการตื่นเต้นเพราะอะไร
“พูดดีนะหลุนคุน นายหญิงหรือ หึ ๆ ข้าหวังว่านางจะชอบคำนี้นะ”
ขณะนั้นเองการรอคอยของเขาก็สิ้นสุดลง...
“รถม้าเตรียมพร้อมแล้วขอรับนายท่าน”
“อืม..พลางตราสัญลักษณ์ของหอประมูลเอาไว้ ข้าไม่อยากให้วุ่นวาย” พอสั่งการลูกน้องเสร็จเขาก็หยิบหน้ากากลายอสรพิษม่วงดำขึ้นมาสวมใส่
‘ข้าคิดไว้แล้วว่านายท่านสวมหน้ากากอันนี้จะต้องดูดีที่สุด’
‘เสี่ยวเสอข้าคิดว่าเจ้าหลับไปอีกแล้ว’
‘ให้ข้าออกไปเถอะขอรับ ข้าอยากเจอนายหญิง’
‘ถึงหอประมูลเจ้าค่อยออกมา’
‘ก็ได้ขอรับเสี่ยวเสอเชื่อฟังเจ้านายอยู่แล้ว’
‘ให้มันจริงเถอะเจ้างูน้อย’
“ไปกันเถอะหลุนคุนข้าไม่อยากให้นางรอนาน”
“.......” นานอะไรกันนายท่านนี่ยังไม่ใกล้จะถึงเวลางานประมูลเริ่มด้วยซ้ำ หลุนคุนไม่อยากขัดใจเจ้านายเวลานี้เลยจริง ๆ
“ท่านประมุขคุณชายรองออกไปที่งานประมูลแล้วขอรับ”
“ออกไปงานประมูลตอนนี้น่ะหรือช่างใจร้อนจริง ๆ เจ้าลูกคนนี้”
“ท่านพี่เราตามไปกันเถอะเจ้าค่ะ ข้าอยากเห็นหน้าว่าที่ลูกสะใภ้เต็มทนแล้ว อยากจะรู้จริง ๆ ว่าสตรีแบบไหนกันที่ทำให้เจ้ารองลุ่มหลงได้ถึงเพียงนี้ อ้าว! แล้วนั่นท่านพี่จะไปไหนหรือข้ายังคุยไม่จบเลยนะเจ้าคะ”
“ฮูหยินอดใจรอตอนหัวค่ำเถิดไปตอนนี้ก็ใช่ว่าจะเจอ อ้อ พี่ได้ยินมาว่านางเป็นแม่ค้าขายสมุนไพรน่ะ” ได้กลั่นแกล้งเมียรักก็ถือว่าเป็นความสุขอีกแบบของท่านประมุขหลงทีเดียว ฮ่า ๆ ๆ
“แม่ค้าหรือเจ้าคะ ดะ..เดี๋ยวสิท่านพี่ กลับมาพูดให้จบก่อนสิเจ้าคะ แม่ค้าอะไรกัน เจ้ารองน่ะหรือไปหลงรักกับแม่ค้า” หยางจีไม่อยากจะเชื่อว่าที่ได้ยินนั้นคือเรื่องจริง บุตรชายของนางเป็นคนถือเนื้อถือตัวจะตาย จะไปรักชอบพอกับแม่ค้าธรรมดา ๆ ได้อย่างไรกัน
โรงเตี๊ยมฝูหยาง…
“ท่านควรใช้ผ้าปิดหน้าหรือไม่ก็ใช้หน้ากากอันนี้ขอรับ”
“ท่านไปเอาหน้ากากอันนี้มาจากไหนกันมันงามมาก ๆ ข้าไม่เคยเห็นหน้ากากที่สวยงามเช่นนี้มาก่อนเลย”
“ข้าทำเองขอรับ ทำจากผลึกเหมันต์ และมันจะไม่แปรสภาพเมื่ออยู่กับท่าน”
“ขอบคุณนะต้าฝู”
เสียงหวานกล่าวขอบคุณ จนอสูรหนุ่มยิ้มไม่หุบ
“ทำไมเจ้าอยู่ห้องเดียวกับเขา” ชายหนุ่มที่เพิ่งมาใหม่ขึ้นเสียงด้วยความไม่พอใจอย่างไร้เหตุผล ดูยังไงก็รู้ว่าเขาเผลอทำไหน้ำส้มแตกแน่แล้ว
“คุณชายท่านก็รู้อยู่ว่าเขาไม่ใช่มนุษย์ นี่คือต้าฝูเป็นผู้ดูแลของข้าแล้วท่านก็แอบลอบเข้าห้องของข้าอีกแล้วนะ”
“ห้องของเราต่างหากมันคือห้องของเรา”
“แต่ตอนนี้มันคือห้องของข้าคนเดียว และนี่ยังไม่ถึงเวลาประมูลท่านมาทำไมตอนนี้”
“มารอเจ้า หลินเออร์เจ้าให้ผู้ดูแลของเจ้าหลบออกไปก่อนได้หรือไม่ ข้าอยากอยู่กับเจ้าตามลำพังได้ไหม”
“เขาอยู่ด้วยได้ เราสนิทกัน”
“โธ่...หลินเออร์” .
ดูท่าแล้วคนผู้นี้คงไม่คิดจะยอมอะไรง่าย ๆ ลี่หลินเห็นจึงขอให้ต้าฝูหลบเข้าไปอยู่ในมิติเสียก่อน
“เขาไปแล้ว ท่านมีอะไรจะสนทนากับข้าเล่า”
“เรื่องถอนพิษ...พอจะบอกได้หรือไม่ว่าเจ้ามีเหตุผลอะไร บอกมาเถอะข้ายินดีที่จะรับฟัง”
“ข้าก็อยากจะบอกนะแต่คงยากที่ท่านจะเข้าใจ หากท่านไม่ยินดีที่จะให้ข้าช่วยก็ไม่เป็นไร ข้าคงต้องไป...”
“ไม่..ไม่ได้ เจ้าจะไปหาคนอื่นไม่ได้ เป็นอันว่าข้ายอมเจ้าแล้ว จะไม่ถามถึงเหตุผลอีก ข้าจะรอให้เจ้าบอกเองเมื่อเจ้าพร้อมตกลงนะหลินเออร์” ปวดใจยิ่งนัก ทำไมนางถึงกล้าบอกว่าจะไปหาใครอีก หรือมีแค่ตัวเขาที่รู้สึกเพียงคนเดียว
“อืม ขอบคุณที่เข้าใจข้า” ลี่หลินรู้ว่าเขารู้สึกเช่นไร สังเกตได้จากสีหน้าและน้ำเสียง ไม่ใช่ว่านางไม่อยากบอก แต่มันยากที่จะบอกต่างหากล่ะ เอาไว้พร้อมและมั่นใจเมื่อไหร่นางจะบอกเขาเอง นางไม่อาจจะยอมรับได้หากถูกเขารังเกียจ การเริ่มต้นชีวิตใหม่ในโลกใบนี้นางไม่อยากจะผิดหวังอีก...