ที่เรือนใหญ่ของตระกูลหลงกำลังวุ่นวาย และดูเหมือนว่าจะวุ่นวายกว่าทุก ๆ วัน โดยเฉพาะคุณชายลู่ซึ่งเป็นสะใภ้ใหญ่ ครั้งนี้คุณชายลู่ขอเข้าครัวและลงมือทำกับข้าวเองเพื่อต้อนรับว่าที่สะใภ้คนเล็กของตระกูลหลง เขาอยากจะพิสูจน์ว่าครั้งนี้นางจะชอบอาหารของเขาหรือไม่
“ข้าทำสุดฝีมือแล้วนะ” เหยียนลู่พึมพำกับตัวเอง เขาจะไม่ให้เสียชื่อเชฟกระทะเหล็กเป็นอันขาด คราวนี้เขามั่นใจมากว่านางต้องชอบอาหารของเขาทุกจาน
จากโรงครัวก็มาที่ห้องของท่านผู้นำ ความเห่อว่าที่ลูกสะใภ้คนเล็กของตระกูลแม้แต่ท่านผู้นำและภรรยาก็ไม่มีเว้นเช่นกัน
“ฮูหยินเจ้าว่าชุดนี้เหมาะกับพี่หรือไม่” ท่านผู้นำลงทุนสั่งตัดชุดใหม่โดยไม่บอกภรรยาสักนิด ทำเอาช่างตัดชุดประจำตัวหัวหมุนเพราะต้องทำชุดให้เสร็จสมบูรณ์ภายในคืนเดียว
“ท่านพี่ ท่านมีชุดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกันหรือว่าแอบไปตัดชุดใหม่โดยไม่บอกข้าหือ ท่านดูชุดของข้าสิเจ้าคะ ตัดไปตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว ท่านเห็นหรือไม่ว่ามันเก่าแล้วน่ะ” หยางจีบ่นให้สามีเมื่อเห็นชุดใหม่ที่เขานำออกมาโอ้อวดต่อหน้าต่อตา
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ชุดที่เจ้ามีมันก็งามอยู่แล้ว เจ้าเองก็ยังไม่เคยสวมใส่ออกงานเลยสักครั้งอย่าได้ตื่นเต้นเกินไปนักเลยฮูหยิน”
“ไม่รู้ล่ะ ข้าก็อยากให้นางประทับใจนี่เจ้าคะ”
“ชุดมันบ่งบอกอันใด เจ้าคิดมากเกินไปแล้วนะฮูหยิน ที่ไหน ๆ ก็มีแต่สะใภ้ที่จะเกรงกลัวแม่สามีกันทั้งนั้น ก็คงมีแต่บ้านเรากระมังที่กลัวลูกสะใภ้จะไม่รัก” ฮ่า ๆ ๆ ๆ พูดไปแล้วท่านผู้นำฉีฟาก็ขบขันตัวเองกับภรรยา เพราะท่าทางของเขาและภรรยาที่แสดงออกมามันช่างไม่เข้ากับสถานะที่เป็นอยู่เอาเสียเลย
จากเรือนใหญ่ก็มาที่เรือนของคุณหนูเล็ก...
“พี่ฉีหลินเจ้าคะ วันนี้เป็นวันครอบครัวของข้านะ แล้วท่านมาทำไมกันหรือ”
“เราเป็นคู่หมั้นกันนะอันอัน พี่ก็ต้องเป็นหนึ่งในครอบครัวของเจ้าเหมือนกันและที่สำคัญพี่อยากเห็นคนที่ทำให้สหายรักของพี่ลุ่มหลงจนไม่เป็นอันทำงานน่ะสิอันอันน้อย” คุณชายเกาแอบตกใจอยู่ไม่น้อย เขาไม่อยู่ที่แคว้นเพียงเดือนเดียวสหายรักถึงกับมีเมียแล้ว โอ้..มันเป็นไปได้หรือนี่ไหนเจ้านั่นบอกว่าจะรอให้เขาแต่งกับอันอันก่อนยังไงล่ะ แบบนี้มันข้ามหน้าข้ามตากันเกินไปแล้ว
“อย่ามาเรียกข้าอันอันน้อยนะ เดือนหน้าข้าก็จะปักปิ่นแล้วอันอันน้อยอะไรกัน ชิ..”
“ถ้าอย่างนั้นอันอันของพี่ก็เตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของพี่ได้เลย ทำพิธีปักปิ่นเสร็จพี่จะขอเจ้าแต่งงานทันที หึ ๆ” คุณชายเกาได้ทีก็แกล้งคุณหนูเล็กจนอายม้วนต้วนไปเลยทีเดียว เขาไม่มีทางพ่ายแพ้ต่อสหายรักอย่างแน่นอน
ฮ่า ๆ ๆ ๆ คุณชายเกาท่านไม่มีทางตามเขาทันหรอกนะคาดว่าทางนั้นน่าจะปั้นลูกได้เป็นตัวแล้วล่ะ
และทั้งหลายทั้งมวลคือความวุ่นวายเล็ก ๆ ของคนในครอบครัวหลง เว้นอยู่เรือนหลังหนึ่งที่ไม่ได้รู้สึกร้อนเนื้อร้อนใจอันใดเลย ก็เรือนวายุยังไงล่ะ เรือนวายุที่ว่าเย็นสบายด้วยสายลมที่พัดเอื่อยเฉื่อยอยู่ทั้งวันแต่ในห้องของคุณชายรองกับร้อนระอุอยู่ทุกวันดังเช่นตอนนี้
“อ๊ะ..อ๊าาาา เทียนหรงพอได้แล้ว ข้า..ข้า.. จะไม่ไหวแล้ว อื้อออ”
“อาหลินรอพี่ก่อนคนดี อืมม..ซี๊ดดด.. อ๊าาาา” ชายหนุ่มเร่งกระหน่ำย้ำ ๆ ซอยสะโพกสอบถี่ ๆ เข้ากลางกายสาวแล้วจึงได้ปลดปล่อยสายธารแห่งเมล็ดพันธุ์ทุกหยาดหยดให้หลั่งไหลเข้าสู่ตัวนางอย่างสมความตั้งใจของเขา
เพียะ!!!
“ท่านนี่จริง ๆ เลย หากว่าข้าฟื้นฟูร่างกายตัวเองไม่ได้ข้าคงต้องกลายเป็นคนพิการไร้เรี่ยวแรงแน่นอนแล้ว” คนอะไรทั้งอึดทั้งทนอีกหน่อยนางคงได้กลายเป็นผู้เสพติดเทียนน้อยกันพอดี อนาถแท้ ๆ ลี่หลินเอ๋ย ความสุขที่ถูกปรนเปรออย่างที่นางไม่เคยพานพบทำเอานางแทบคลั่งแทบสำลักความสุขตาย แค่ไม่กี่วันเองนะ นางมาถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน
“หึ ๆ ๆ ที่ตีพี่เพราะเจ้าโกรธหรือเขินอายกันแน่หื้ออ...”
“ข้าโกรธท่านจริง ๆ นะ ท่านบอกจะพาข้าไปพบคนในครอบครัวแต่กลับมารังแกข้าเวลานี้มันควรแล้วหรือ หากเราไปช้ามันจะไม่ดีเอา ข้ากลัวพวกเขาจะไม่ชอบ” นางต่อว่าเขายืดยาวแต่เขาก็เอาแต่หัวเราะพออกพอใจ นี่นางกำลังบ่นให้เขาอยู่นะแต่ทำไมต้องทำท่าทางเหมือนขบขันต่อคำพูดของนางอยู่ได้
“ข้าบ่นให้ท่านอยู่นะอาเทียน”
“พวกเขาไม่ว่าหรอกอย่าได้เป็นกังวลนักเลย พี่บอกพวกเขาแล้วว่าค่ำ ๆ เราถึงจะไป”
“เช่นนั้นข้าอยากหาของฝากให้พวกเขาบ้างท่านไปช่วยข้าเลือกหน่อยนะ”
“ได้สิอาหลิ...” ชายหนุ่มยังพูดไม่จบเลยลึ่หลินก็ดึงเขาเข้าสู่มิติเสียแล้ว
“......” เทียนหรงกำลังนอนมึนงงอยู่บนที่นอนขาวสะอาดและนุ่ม ใช่มันนุ่มมากจริง ๆ เหมือนกำลังนอนอยู่บนปุยเมฆเลย “อาหลินที่นี่คือ...”
“มันเป็นมิติของข้าเอง ท่านชอบไหม ที่นี่ตรงนี้คือห้องนอนและที่นอนของข้า” ลี่หลินบอกกับเขาด้วยน้ำเสียงอันอ่อนหวานจนทำให้คนได้ยินอดใจสั่นไม่ได้
“อืม..ชอบสิ ห้องของเจ้าสวยงามมากและยังดูแปลกตา ที่นอนนี่ก็ช่างนุ่มดีนัก” ชายหนุ่มพูดไปแต่สายตากลับมองเรือนร่างของว่าที่ภรรยาอย่างมาดหมาย นางพาเขาเข้ามาในมิติทั้ง ๆ ที่ร่างกายของพวกเขายังเปลือยเปล่าและแนบชิดกันอยู่นี่นะเป็นแบบนี้เขาก็อยากจะทำเรื่องดีงามกับนางต่อแล้วสิ...
“อาเทียน..อย่าแม้แต่จะคิด” ลี่หลินผลักเขาออกแล้วก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมผ้าซาตินของตัวเองมาสวมคลุมเอาไว้ก่อนที่เขาจะเรียกร้องต่อนางอีก แล้วนางก็เดินไปค้นตู้เสื้อผ้าอยู่สักพักและได้กางเกงผ้าฝ้ายใส่นอนตัวใหญ่กลับมาหนึ่งตัว
“อาเทียนสวมกางเกงตัวนี้ก่อนเดี๋ยวข้าหาเสื้อตัวใหญ่ ๆ ให้” หลังจากที่นางยื่นกางเกงมาให้แล้ว ตอนนี้นางก็กำลังก้ม ๆ เงย ๆ เพื่อหาเสื้อตัวใหญ่ให้กับเขา ลี่หลินเองก็หารู้ตัวไม่อันท่าทางที่กำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่นั้นมันล่อแหลมแค่ไหน...
“อาหลินหากไม่เจอก็ไม่เป็นไรแค่กางเกงตัวเดียวก็ได้” เสียงที่เอ่ยออกมาหรือก็แหบพร่ายิ่งนักหากไม่หยุดนางเอาไว้ เขาคงทนไม่ไหวที่จะจับนางกดลงตรงนั้นเป็นแน่ ฮื้มม เขาครางออกมาอย่างอดกลั้น
“เอาอย่างนั้นหรือ ท่านคงจะไม่หนาวนะ อากาศในนี้ค่อนข้างจะเย็นมาก ๆ ด้วย”
“อืมม..ไม่หนาวเลย” เขาบอกกับนาง ทั้งที่จริงมันค่อนข้างจะร้อนด้วยซ้ำ ร้อนรุ่มมากเสียด้วย
ณ ตอนนี้ลี่หลินเองก็สวมกางเกงเช่นเดียวกันกับเทียนหรงและนางก็สวมเสื้อยืดสีขาวพอดีตัว นางดูสวยงามและทะมัดทะแมงช่างแปลกตาเหลือเกินสำหรับคนบนโลกใบนี้
“ชุดของเจ้าดูแปลกแต่ก็งามเมื่อมันอยู่บนตัวเจ้า” คำชมที่ออกจากปากเขาแค่นี้ก็ทำให้นางหน้าแดงได้เหมือนกัน
“เอ่อ..ท่านก็งาม” กางเกงตัวเดียวโชว์กล้ามหน้าท้องเป็นลอนสวยช่างดีงามจริง ๆ นะ ฮื้อออ..นางคิดอะไรอยู่เนี่ย
“ฮ่า ๆ ๆ อาหลินกางเกงตัวเดียวพี่ก็สวมใส่ออกบ่อยไปเวลาฝึกยุทธ์แต่ก็ดีใจที่เจ้าชอบ แล้วพี่จะใส่แค่กางเกงตัวเดียวเวลาอยู่กับเจ้าสองคนดีไหม” เขาอดที่จะเย้าแหย่นางไม่ได้ก็อาการเขินอายของนางนั้นช่างน่ารักยิ่งนัก
“อาเทียน..ท่านห้ามล้อเลียนข้านะ เราออกไปข้างนอกกันเถอะ” ลี่หลินบอกกับเขาพร้อมกับยื่นมือน้อย ๆ ไปสานเข้ากับฝ่ามือใหญ่ มือของเขามันช่างอบอุ่น..อบอุ่นอย่างที่นางไม่เคยได้รับจากชายใดมาก่อน นางจะไม่มีวันปล่อยมือบุรุษผู้นี้ไปแน่ ลี่หลินกล่าวขึ้นมาภายในใจ
ยิ่งพอทั้งสองเดินออกมานอกห้องเทียนหรงก็ยิ่งตะลึงกับความแปลกใหม่นี้ บันไดที่โค้งวนทั้งสองฝั่งมองลงไปด้านล่างยิ่งดูตื่นตา บนชั้นที่เขายืนอยู่ก็มีประตูบานใหญ่อยู่หลายบานแต่ที่สะดุดตาคือประตูที่เป็นสีชมพูหวานมีป้ายไม้อันเล็กติดไว้และมีตัวหนังสือประหลาดที่เขาไม่รู้จักติดอยู่ด้วย
“อาหลินห้องนั้นคือ...”
“อยากเข้าไปดูหรือไม่”
“อืม” เขาตอบรับทันที ความรู้สึกอยากรู้นี่คืออะไรกันมันช่างประหลาดนัก
ลี่หลินหมุนลูกบิดประตูแล้วจับจูงคนตัวโตเข้ามาข้างใน
“ห้องนี้คือห้องของนางลูกสาวของเรา และนี่คือแทนแทน นางมีนามว่าแทนแทน” ลี่หลินหยิบรูปของลูกสาวมาให้เขาดู มือใหญ่ของเขาถึงกับสั่นเมื่อหยิบกรอบรูปออกมาจากมือของว่าที่ภรรยา สายธารในดวงตาที่ร้อนผ่าวเริ่มไหลรินจนมิอาจสะกดกลั้นเอาไว้ได้
“นางน่ารักเหลือเกิน” หัวใจอันเข้มแข็งของบุรุษร่างโตก็เริ่มที่จะสั่นไหว “หากนางเกิดมาใบหน้าของนางคงเป็นเช่นนี้ใช่ไหมอาหลิน” เขาถามนางพร้อมกับน้ำตาที่หยดแหมะลงบนภาพถ่ายของเด็กหญิงตัวน้อย
“อาจจะไม่เหมือน เพราะตอนนี้นางเป็นลูกของท่านแล้ว คงต้องมีส่วนที่เหมือนท่านและก็ข้ารวมกัน”
“ดีจริง พ่อจะรอเจ้านะแทนแทน รีบมาไว ๆ นะเด็กดี”
“อาเทียนของข้าก็ขี้แยเหมือนกันนะ” ลี่หลินกระเซ้าเย้าแหย่คนตัวโต ก็นางไม่เคยคิดว่าจะได้เห็นบุรุษเช่นเขาร้องไห้แบบนี้
“อาหลินเรื่องนี้เจ้าห้ามบอกใครเชียวนะ มันจะเสียการปกครองเอาได้” จะให้ใครรู้ไม่ได้เป็นอันขาดว่าเขาเคยเสียน้ำตามิเช่นนั้นชื่อเสียงอันน่าเกรงขามที่อุตส่าห์สั่งสมมาช้านานคงไม่มีเหลือหลอแน่นอน
“ข้าสัญญาว่าจะไม่บอกใคร เราไปเลือกของฝากกันเถอะ ต้าฝูกับไป๋ไป๋คงจะมารอเราอยู่ข้างนอกแล้ว”
“เหยี่ยวเหมันต์ตัวนั้นน่ะหรือคือไป๋ไป๋” หึ ๆ นางช่างตั้งชื่อได้สิ้นคิดนัก หากมีสัตว์อสูรตัวสีดำนางคงจะเรียกว่าเฮยเฮยแน่เลย
“อืม..ตอนแรกข้าว่าจะทำพันธะกับนาง แต่พอเอานางเข้ามาไว้ในมิตินางก็ฟื้นฟูจนเกือบจะหายดีแล้ว ข้าเลยจะเก็บนางไว้ให้ลูกสาวเราท่านว่าดีหรือไม่เทียนหรง” ลี่หลินคิดว่านางยังไม่จำเป็นที่จะต้องมีสัตว์อสูรในพันธะแม้นว่าไม่มีก็เหมือนว่ามีอยู่แล้ว ก็เหยี่ยววายุหน้าเป็นนั่นยังไงล่ะ เขาก็ดูแลนางได้ดีออกว่าไหม