ตอนที่ 14 ปัญหาใหม่

1530 คำ
กลับมายังปัจจุบันชายหนุ่มมองมายังหญิงสาวด้วยแววตาสงสัย อาจเพราะนางจ้องหน้าเขานานเกินไปจนเสียมารยาท เย่เซียวรีบหันกลับไปมองทางอื่นเพื่อสลัดความทรงจำที่เข้ามาในหัวออก “ข้ารู้ดีว่าคุณชายไม่ได้ต้องการทรัพย์สินเงินทองหรือประโยชน์ทางการค้ากับแคว้นหวง การสนทนากับท่านวันนี้มิใช่ในฐานะของพระชายา ข้าเป็นเพียงสตรีนางหนึ่งที่อาจจะผูกมิตรกับคุณชายเท่านั้นเจ้าค่ะ” นางวางชาร้อนให้เขาตามมารยาท “หากข้าไม่ได้ต้องการสิ่งเหล่านั้น คุณหนูไป๋คิดว่าสิ่งใดที่ข้าสนใจอย่างนั้นหรือขอรับ แล้วหากท่านรู้ไปท่านจะบันดาลสิ่งนั้นให้ข้าหรืออย่างไร” เสียงทุ้มติดหยอกเย้าเล็กน้อย “ในโลกใบนี้ดูเหมือนคุณชายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการมาโดยง่าย ท่านเฝ้ามองเกมการเมืองของพวกเรามานาน มองเห็นจุดอ่อนและจุดแข็งและยืนข้างสนามมาโดยตลอด ทั้งที่รอบรู้มากมายเพียงนั้นท่านกลับนิ่งเฉยและเฝ้าดูว่าพวกเราจะเป็นเช่นไรต่อ” คนงามเปิดปากเข้าสู่การเจรจา สีหน้าท่าทางมุ่งมั่นประหนึ่งแม่ทัพที่กำลังออกรบ “….” “คนดูอาจมองได้รอบด้านไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์ของฝ่ายไหน แต่ไม่สนุกเท่าเป็นคนเล่นหรอกเจ้าค่ะ” หญิงสาวตัวเล็กกล่าววาจาห้าวหาญออกมาจากริมฝีปากแดงระเรื่อได้รูปสวย นอกจากจะเป็นภาพที่น่าดูชมแล้วยังเป็นคนพูดชวนเชื่อยิ่งกว่าสิ่งใด บทบาทของสตรีที่ผ่านมาเป็นเพียงเครื่องประดับเคียงข้างบุรุษเท่านั้นทั้งที่แท้จริงแล้วพวกนางล้วนเคลื่อนไหวเพื่อรังสรรค์หลายสิ่งให้เป็นไปตามประสงค์ชักจูงได้แม้กระทั่งชายฉกรรจ์ เข้มแข็งมากกว่าภาพลักษณ์บอบบางน่าทะนุถนอมของพวกนางมากนัก “ฮ่าๆๆ คุณหนูไป๋ทำข้าประหลาดใจมากจริงๆ ที่ผ่านมาเหตุใดเราไม่เคยสนทนากันเช่นนี้มาก่อน เอาสิ ทำให้ข้าสนุกมากกว่านี้ที” อันหลิวหยางยิ้มอย่างพอใจ เขาชอบตั้งแต่ตนเองถูกนางมองออกอย่างง่ายดาย ที่ผ่านมาไม่ว่าจะทำสิ่งใดไปมากเท่าไหร่ก็ไม่เคยพึงพอใจได้เลยสักครั้ง เห็นการวางหมากที่ไม่ถี่ถ้วนขององค์ชายรองมาหลายครา แล้วเหตุใดเขาถึงได้ไม่เคยเข้าไปใกล้สนามประลองนั้นให้มากกว่านี้ทั้งที่ก็ไม่มีอะไรให้เสีย ลงไปเป็นผู้เล่นตั้งแต่แรกอาจรู้สึกสนุกมากกว่านี้ก็เป็นได้ สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ต้องการจากเขานั้นชัดเจนอยู่แล้วและเขาก็ยินดีจะให้เพราะดูเหมือนผีเสื้อแสนสวยตัวนี้จะสร้างลมแรงยิ่งกว่าพญาอินทรีย์เสียอีก การลงเรือกับนางไปก็ไม่ได้แย่บางทีอาจเป็นการเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้ตื่นตาตื่นใจบ้าง เพียงวันใดเรือที่นางเป็นผู้บังคับทิศทางมีแต่ความน่าเบื่อหน่ายเขาก็ย้ายไปลำอื่นเหมือนที่ทำมาตลอดก็เท่านั้น “ยินดีที่ได้ร่วมทางขอรับคุณหนูไป๋” ร่างสูงยกชาแก้วที่นางเทมาให้ขึ้นดื่มก่อนการสนทนาของพวกเขาจะจบลงเพียงเท่านี้ ต่างคนต่างรู้ดีว่าเรื่องราวจะใหญ่โตมากขึ้นจนเกินต้านหลังการอภิเษกของโฉมสะคราญกับองค์รัชทายาท ยิ่งผู้สืบทอดบัลลังก์มั่นคงมากเท่าใดการก่อกบฏก็จะเกิดเร็วมากขึ้นเท่านั้น เพียงแต่หลังจากนี้ไป๋เย่เซียวเองก็ไม่สามารถรู้ได้แล้วว่าสิ่งใดจะเกิดขึ้นตามมา ตัวนางได้เลือกทางที่ตนไม่ได้เดินไปเมื่อชาติที่ผ่านมาหวังเพียงหนทางข้างหน้าจะไม่ไปบรรจบลงยังปลายทางอันโหดร้ายดังเดิมก็พอ “ตายจริง” เสียงหนึ่งดังขึ้นหลังจากที่นางกำลังออกมาส่งคุณชายอัน ต้นเสียงคือหญิงสาวผู้มีใบหน้างดงามไม่แพ้สตรีใด ร่างอรชรในชุดผ้าฝ้ายบางเบาเดินเข้ามายังพื้นที่ตั้งกระโจมแม่ทัพอย่างเสียมารยาท ริมฝีปากสีชาดเอ่ยวาจามาดร้ายโดยไม่หวั่นเกรงอำนาจของตระกูลไป๋ “ดูท่าคุณหนูไป๋จะมีเสน่ห์ล้นเหลือเลยนะเจ้าคะ เมื่อก่อนก็เทียวเข้าออกตำหนักองค์ชายรองเป็นว่าเล่น แม้สุดท้ายจะได้ไปตบแต่งกับองค์รัชทายาท มาตอนนี้มีประกาศการสมรสออกมาขนาดนี้ยังมิวายอยู่กับชายอื่นอีก” แขกที่ไม่ได้รับเชิญมองมาด้วยสายตาเดียดฉันท์ นางสะบัดพัดในมือไปมาหลายครั้ง รอบด้านยังมีหญิงสาวคนอื่นอีกหลายคนที่จับจ้องมายังไป๋เย่เซียวและซุบซิบกันถึงการกระทำของนาง “จากตรงนี้ไปถึงที่พักของตระกูลเสนาบดีไกลไม่น้อย คุณหนูซ่งเดินมาไกลน่าดูเลยนะเจ้าคะ” ผู้หญิงด้านหน้าคือ ซ่งอี๋นั่ว บุตรสาวของราชเลขาธิการหากดูจากเรื่องของฐานันดรคุณหนูซ่งก็ไม่ต่างจากลูกสาวของเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ เพียงแต่การมาเยือนของนางคงไม่มีจุดประสงค์ดีแน่นอน ด้วยชาติที่แล้วสตรีผู้นี้และองค์รัชทายาทเองก็เกือบจะได้สมรสกันอยู่รอมร่อติดอยู่เพียงมีเรื่องของกบฏองค์ชายรองมาขัดเอาไว้ มาครั้งนี้ก็คงมิวายเป็นเรื่องขององค์รัชทายาทอีก คนอย่างหวงห่าวซวนมีดีอะไรนอกจากรูปงามราวเทพปั้นแต่ง เรื่องปากคอเราะร้ายหากบอกว่าเขาเป็นที่สองก็คงไม่มีใครกล้ายกตนเป็นที่หนึ่ง แค่คิดไป๋เย่เซียวก็เผลอถอนหายใจออกมาด้วยต้องไปตบแต่งเป็นชายาของบุรุษผู้นั้น “ดูเหมือนว่าท่าทางราวกับสตรีใสซื่อคงเป็นเพียงฉากหนึ่งของคุณหนูไป๋สินะ” เดิมทีไป๋เย่เซียวดูเป็นคนไม่มีพิษภัย แม้ความงามของนางจะเล่าลือว่าเป็นหนึ่งแต่กลับไม่มีความโดดเด่นด้านใด บ่วงเสน่หาที่มีให้องค์ชายรองเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ซ่งอี๋นั่วไม่เคยสนใจนางในฐานะศัตรูมาวันนี้ไป๋เย่เซียวกลับมาแทนที่ตำแหน่งซึ่งเป็นของนางมาโดยตลอด “กล่าวเกินไปแล้วเจ้าค่ะ หากคุณหนูซ่งไม่มีธุระอื่นใดข้าขอรับคำทักทายของท่านไว้นะเจ้าคะ ข้าส่งเท่านี้คุณชายอัน” ประโยคหลังนางเอ่ยกับอันหลิวหยาง เขารับคำด้วยการพยักหน้าน้อยๆ แต่ดรุณีนางนั้นก็ขวางทางเอาไว้ ดูท่าแล้วซ่งอี๋นั่วมีหลายสิ่งที่อยากจะเอ่ยอยู่ “ข้าเพียงมาชักชวนเพราะเห็นว่าพวกเราเป็นสตรีที่ต้องรอเหล่าบุรุษเข้าป่าล่าสัตว์ ได้ข่าวว่าฝีมือการใช้ธนูของคุณหนูไป๋เป็นเลิศ ข้าจึงอยากชวนไปประลองล่าสัตว์ที่ฝั่งสัตว์เล็ก” ร่างอรชรยืดหลังตรงเหลือบมองมาประหนึ่งกำลังพูดกับคนต่ำศักดิ์กว่า “เรื่องล่าสัตว์เกรงว่าเย่เซียวจะด้อยฝีมือมิคู่ควรเป็นคู่มือคุณหนูซ่งหรอกเจ้าค่ะ” แน่นอนว่าหญิงสาวเลือกปฏิเสธนางมีเรื่องต้องทำอีกมากไม่อยากมาเสียเวลาเล่นขายของกับอีกฝ่าย “เอาเช่นนี้ดีหรือไม่ หากคุณหนูไป๋ชนะเรื่องราวที่ข้าและทุกคนในที่นี้เห็นจะถือเสียว่าไม่เคยเกิดขึ้น และจะไม่เข้ามากวนใจอีก แต่ถ้าคุณหนูไป๋แพ้…ข้าคงต้องขอเชิญไปร่วมสนทนากับข้าที่งานสังสรรค์บ้างสักครั้ง” ริมฝีปากสีแดงสดฉีกยิ้มเยาะไม่คิดปิดบัง “คุณหนูซ่งใจกว้างเสียจริงนะเจ้าคะ” ลิ่วล้อหมายเลขหนึ่งทำงานทันทีก่อนจะตามมาด้วยลิ่วล้อคนถัดไปไม่หยุดหย่อน “การต้องมารอพวกบุรุษทั้งวันแบบนี้น่าเบื่อจะตายหากได้เห็นการประลองของพวกท่านคงดีไม่น้อย” “อย่างว่าแหละนางเป็นถึงว่าที่พระชายาและแม่ทัพไป๋ก็ตามใจเสียขนาดนั้น ท่านคงไม่รู้แน่ว่านางเป็นเช่นไร” “คงรู้เห็นเป็นใจเสียมากกว่า คุณชายอันก็ร่ำรวยเพียงนั้น ใต้เท้าไป๋คงรับทั้งยศฐาและเงินตราเลยสิ ไม่รู้จักพอบ้างเลย” “เอาเช่นไรดีเล่าขอรับคุณหนูไป๋” หนึ่งในตัวการที่ทำเนียนเป็นผู้เสียหายหันมาถาม “นอกจากคุณชายจะไม่ออกตัวช่วยเหลือข้าแล้วยังจะเร่งรัดอีกหรือเจ้าคะ” เย่เซียวกัดฟันพูดทั้งรอยยิ้ม “ฮะๆ ขออภัยขอรับเห็นแล้วมันอดร่วมด้วยไม่ได้ อีกฝ่ายเหมือนจะมีแผนการบางอย่างยิ่งทำให้ข้าอยากรู้จริงๆ ว่าคุณหนูจะรอดมาได้เช่นไร” ดวงตาคมทอประกายระยิบระยับราวกับเด็กพบของเล่นชิ้นใหม่ ซึ่งของเล่นชิ้นนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจากนาง… ‘เอาอันหลิวหยางชาติที่แล้วคืนมานะ!’ คนงามร่ำไห้ในใจด้วยความเหลืออด แค่ปัญหาเก่าก็เหนื่อยจะแก้แล้ว คนพวกนี้ยังขยันมาสร้างปัญหาใหม่ให้อีก บ้าจริงเชียว!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม