เธอพาร่างระบมไปได้ไม่ไกลนัก ก่อนจะหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้ไม้ที่ทำมาจากท่อนไม้ใหญ่ทั้งอันที่ตั้งข้างสระว่ายน้ำ ขิงทอดสายตามองผ่านทิวต้นมะพร้าวตรงหน้าที่ด้านล่างถูกถากหญ้าโล่งเตียนจนเห็นดินแดง ๆ ที่ตั้งของบ้านของหินเป็นเนินเล็ก ๆ ดิ่งลาดลงไป สายตาเธอไปหยุดที่กำแพงสูงประมาณสองเมตรครึ่งและหลัง กำแพงนั้นก็เป็นทะเลอย่างที่เขาเล่าจริง ๆ แต่มันไกลมากจึงมองไม่ค่อยเห็น
เขาเดินเข้ามาเงียบ ๆ ทางด้านหลังสวมกอดเธอก่อนนั่งลงข้าง ๆ ไม่ยอมคลายอ้อมแขน เขาหอมไปที่แก้มเหมือนเป็นเจ้าของมันอย่างแท้จริง คลอเคลียอยู่ไม่ห่าง
เธอขยับตัวเหมือนอึดอัดเอามือแกะอ้อมแขนของเขาออก
“หมดสิทธิ์ครับที่ รักเป็นของผม ผมมีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้ แล้วผมบอกไว้ก่อนนะห้ามใครมายุ่งกับที่รัก แล้วห้ามที่รักไปยุ่งกับใคร” เขาเอ่ยออกมาน้ำเสียงจริงจัง
“คุณหินคะ ใครเป็นที่รักของคุณไม่ทราบ” เธอพูดสะบัดน้ำเสียงหันไปจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง
‘เหลือจะทนแล้วนะ มอมยาข่มขืนฉัน แล้วยังจะมาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของอีก’ คิดในใจนะ
เพราะจริง ๆ เธอก็เกรงเขาอยู่ ตัวเขาก็ตัวโตใหญ่กว่า หนากว่า ยิ่งมือไม้ยิ่งใหญ่เข้าไปใหญ่
“พี่หินพูดอยู่นี่ไงครับ จะเป็นใครพูดได้”
เขาพูดจบเลื่อนมือขึ้นมาตรึงท้ายทอยเธอเอาไว้แน่น ก่อนจะส่งริมฝีปากปิดปากที่กำลังจะเถียงเขาออกมา หินส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปากอย่างไม่เกรงใจเจ้าของ ทั้งดูดดึงรุนลิ้นถึงจะดูหนักหน่วง แต่มันก็ช่างหวานรัญจวนใจเธอได้แต่ครางเบา ๆ
“อือ”
มือสองข้างของเขาโอบเอว ก่อนจะช้อนร่างบางให้ขึ้นมานั่งบนตัก เขาถอนริมฝีปาก ก่อนจะลากลิ้นลงมาตามลำคอ
เธอได้สติเมื่อเขาดูดเบา ๆ ที่ซอกคอจึงใช้มือดันร่างเขาออก
“คุณหินจะบ้าหรือไง นี่ข้างสระน้ำนะเดี๋ยวใครมาเห็นเข้า” เธอพูดห้ามประท้วงออกมา
“ช่างปะไรในบ้านผม ใครจะมาเห็นถึงจะเห็นก็ช่าง ผมชอบโชว์”
พอสิ้นเสียงพูด เธอทุบเขาไปที่ไหล่ อยากจะทุบให้แรงนั่นแหละ แต่ถูกเขารัดแน่นทั้งแขนมือโผล่ออกมานิดเดียว ง้างมือไม่สะดวก ทำได้แค่นั้น
เขาถอนใบหน้าก่อนจะพูดบางอย่าง
“นี่เป็นแค่การตักเตือนนะครับ ถ้าดื้อกับพี่หินมาก ๆ จะโดนมากกว่านี้ จำไว้นะครับที่รัก” ก่อนที่จะฝังจมูกลงไปที่แก้มหนัก ๆ
เธอได้แต่สะบัดหน้าหนีและถอนหายใจออกมา
“ซาตานชัด ๆ” แต่ก็ไม่กล้าขยับ ทอดสายตามองไปข้างหน้าอย่างไม่รู้จะพูดอะไรออกมา
เขายิ้มก่อนที่จะกระชับวงแขนอย่างหวงแหน
ขิงยกมือขึ้นปิดปากก่อนที่เธอจะหาวขึ้นมา รู้สึกหนังตาหนัก ๆ และยังเพลียอยู่มาก ปวดหนึบที่ขมับและเวียนหัวด้วย อาจจะนอนน้อย หรือเป็นเพราะฤทธิ์ยาผสมแอลกอฮอล์เมื่อคืน
“ง่วงหรือครับ” เขาถามแบบห่วงใย เธอพยักหน้าตอบแต่ไม่สบตากับเขา
“งั้น... เดี๋ยวพี่หินไปส่งเข้านอนนะครับ” พูดจบก็อุ้มเธอขึ้น
ร่างบางตกใจเพราะเขาลุกขึ้นอย่างเร็ว เธอรีบโอบรอบคอเขาทันทีเหมือนกลัวตก เขาก้มมองใบหน้าของเธอหัวเราะขึ้นมา
“เดี๋ยวพี่หินจะขุนให้อ้วนกว่านี้ จะได้เต็มไม้เต็มมือสักหน่อย”
เธอหน้าแดงระเรื่อร้อนผ่าว ๆ เขาชอบพูดจาหื่น ๆ แบบนี้นึกด่าเขาในใจ
‘ไอ้บ้าหินไอ้หื่น’
เขาสาวเท้ายาว ๆ เดินเข้าไปในห้องก่อนจะวางเธอลงที่เตียง เอื้อมมือดึงผ้าห่มมาคลุมให้ แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผาก
“พี่หินจะไปธุระข้างนอกนะคะ ที่รักจะเอาอะไรไหม” เธอส่ายหน้า
“ฝันดีนะ ห้ามออกไปไหนพี่หินจะล็อกประตูให้นะ” ก่อนจะจุ๊บมาที่ริมฝีปากของเธอ
ขิงมองตามเขาที่เดินไปปิดม่านไม่ให้แสงลอดเข้ามา เปิดและหรี่แสงไฟในห้องให้พอให้เห็นราง ๆ เขาเดินออกจากห้องไป เธอเหนื่อยมากแล้วหมดแรงไปเยอะ ร่างกายต้องการพักผ่อน ขิงค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจก่อนจะหลับไป
หินกลับมาจากข้างนอก เขายื่นถุงอาหารอ่อน ๆ ที่ซื้อมาฝากขิง ก่อนจะสั่งให้ลุงรีบแกะ เขาจะยกเข้าไปในห้องเอง เขาถามชายกลางคนที่เฝ้าบ้านว่าเห็น เธอเดินออกมาบ้างไหม ซึ่งคำตอบที่ได้รับ คือ ไม่
เขายกถาดเข้าไปในห้อง วางลงที่โต๊ะตัวเดิมเดิน ตรงดิ่งไปที่สวิตช์ไฟเพื่อหมุนดีมเมอร์ ให้ไฟสว่างขึ้น เขามองไปที่เตียงเห็นเธอยังนอนนิ่ง
“ขิง ที่รักครับ” เขาเรียกชื่อเธอแต่ก็ไม่เห็นเธอขยับ
เขาสาวเท้าเข้าไปนั่งลงข้าง ๆ เอื้อมมือไปจับตัวเธอเพื่อเขย่าให้ตื่น เมื่อฝ่ามือใหญ่สัมผัสไปที่ผิวรู้สึกได้ถึงตัวเธอที่ร้อนผ่าว ๆ เขาเห็นเหงื่อที่ซึมออกมาตามไรผม หินขยับตัวเข้าใกล้แล้วรีบจับไปที่หน้าผากเธอจึงรู้ว่า ขิงตัวร้อนจี๋
“ขิงครับ ขิง” เขาเรียกและเขย่าตัวเธอเบา ๆ
เธอค่อยปรือตาขึ้นได้ยินเสียงของหินร้องเรียก
“คะ... คุณหิน” ขิงตอบรับด้วยเสียงงัวเงีย
“ไม่สบายมาก ตัวร้อนแบบนี้ ทำไมไม่บอก ฮึ... ทำไมไม่โทรหาพี่” เขารู้สึกเป็นห่วงเธอมากจึงพูดตะคอกเสียงดังออกไป
“ขิงหิวน้ำจังค่ะ” เธอเอ่ยออกมาเสียงแผ่วเบา
เขารีบกระวีกระวาดลุกขึ้นไปหยิบขวดน้ำมาให้รีบเปิดฝา เสียบหลอด ประคองเธอให้ลุกขึ้นนั่ง ยื่นขวดน้ำเข้าไปให้เธอดื่มเขา ขยับร่างเธอให้นั่งพิงหัวเตียง
“รอพี่หินแป๊บหนึ่งนะ เดี๋ยวพี่ไปหยิบยามาให้” เขาบอกรีบวิ่งออกไปนอกห้องก่อนจะ วิ่งกลับมาในเวลาไม่นานนัก หินนั่งลงก่อนจะป้อนยาและยื่นน้ำให้เธอดื่ม
“ปวดหัวไหม เป็นอะไร เจ็บตรงไหน”
พอสิ้นคำถามของเขา เธอค้อนขวับ มองหน้าเขาแบบไม่พอใจ
“ยังจะมาถามอีก ก็เจ็บไปทั้งตัวนั่นแหละ ไอ้พี่หินบ้า”
เธอพูดต่อว่าเขาอย่างเหลือทน นั่งน้ำตาไหลหยดติ๋ง ๆ เวลาที่ขิงเป็นไข้สูง เธอมักจะร้องเสมอ เป็นมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ตอนเป็นเด็กก็อ้อนแม่ แต่พอโตเวลาไม่สบายหนักก็ร้องคนเดียวทุกที เพราะแม่และพ่อเสียไปด้วยอุบัติเหตุเมื่อตอนเธออายุสิบเอ็ดปี ทิ้งเธอให้อยู่กับป้าที่เป็นสาวโสดทึนทึก ซึ่งบางครั้งก็ไม่เข้าใจเด็ก ๆ ว่าต้องการอะไร เขาตกใจมากเมื่อเห็นเธอร้องไห้รีบเข้าไปโอบกอด
“พี่หินขอโทษนะคะ ขอโทษ ขอโทษ ขอโทษ” เขาย้ำคำพูดว่าขอโทษเธอเน้น ๆ ก่อนจะใช้นิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมา
“ไม่เอาไม่ร้องนะคนดี พี่ว่าพี่พาขิงไปหาหมอดีกว่า” เธอขยับตัวหนีเมื่อเขาพูดเรื่องหมอ เธอกลัวเข็มเป็นที่สุด
“ไม่เอา ไม่ไป” พูดจบก็ล้มตัวลงนอนคว่ำหน้า คว้าผ้าห่มมาปิดคลุมร่างกาย
เขามองเธอแบบเอ็นดู เห็นความเป็นเด็กเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ เห็นเก่งกล้ามั่นใจในที่ทำงาน เขาระบายยิ้มออกมาก่อนจะเดินออกจากห้องไปยื่นกระดาษที่เขียนรายละเอียดในการซื้อยาส่งให้ลุงที่เฝ้าบ้านให้ออกไปซื้อมาให้ แถมกำชับลุงไม่ต้องพูดอะไรหรือตอบคำถาม และยื่นธนบัตรใบพันให้ไปด้วย
เขาเดินไปหยิบกะละมังเล็ก ๆ ในครัวเดินกลับมา ที่ห้องเปิดน้ำพออุ่น ๆ และหาผ้าขนหนูผืนเล็ก ๆ ตรงมาที่ขิงนอนอยู่ก่อนจะเรียกเธอ
“ขิงครับ ขิง ที่รักครับ” เธอขยับกายนอนหงายเขาดึงผ้าห่มออกก่อนจะประคองให้เธอนั่งและเริ่มลงมือเช็ดตัวให้
“วันหลังไม่สบายต้องรีบบอกพี่หินทันทีนะคะ” เขาจ้องไปที่ใบหน้า หินสบตาส่งยิ้มให้
เธอก้มหน้าลงไม่กล้ามอง ยิ่งเวลาอยู่บนเตียงเดียวกับเขาแบบนี้มันหวั่นไหวมาก ๆ ยาเริ่มออกฤทธิ์ทำให้เหงื่อเธอซึมออกมายิ่งขึ้น
“เช็ดตัวแล้วอีกเดี๋ยวก็จะดีขึ้น” เขาพูดไปมือก็เช็ดไป เขาเอาน้ำไปเปลี่ยนถึงสองครั้ง เธอจึงค่อยรู้สึกสบายตัวแต่ยังปวดหัวอยู่มาก ล้มตัวลงนอนลงไปอย่างอ่อนแรงเพราะพิษไข้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เมื่อหินได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้น เขารีบวิ่งไปเปิดประตูเพื่อรับของ
“ขอบคุณมากครับลุง” เขากล่าวขอบคุณ ปิดประตูลงกลอน เดินพลางรื้อซองยาต่าง ๆ ออกมาอ่าน เห็นเภสัชกรเขียนโน้ตตอบกลับเขามาด้วยว่า
“ป.ล. งดมีเพศสัมพันธ์จนกว่าฝ่ายหญิงจะหายดี” เขายิ้มกว้างมองโน้ตนั้นอย่างขำ ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปเรียกเธอให้ลุกขึ้นมาทานยาเพิ่ม
“ยาอะไรคะ” เธอถามเพราะยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นอะไร
“ยารักษาน้องสาวของที่รักไงครับ เภสัชกรเขาจัดมาให้”
เธอได้ยินคำตอบยื่นมือไปรับยาและน้ำขึ้นมาดื่ม ก่อนจะส่งขวดน้ำคืนไปให้เขา เมื่อเขาคว้าขวดน้ำไป เธอจิกเล็บหยิกไปที่แขนของเขาทันที
“โอ๊ย โอ๊ย พี่หินเจ็บนะครับ” เขาร้องเสียงดัง ขยับตัวลุกขึ้นเพราะเธอทำท่าจะ กระโจนใส่เขาทั้งตัว
“อย่ามาเข้าใกล้ขิงอีกนะ ไม่งั้นจะหาว่าขิงไม่เตือน” เธอพูดออกมาด้วยน้ำเสียงอันดัง เพราะได้ยาแก้ไข้ทำให้รู้สึกดีขึ้น เขายืนลูบแขนตัวเองอยู่ข้างเตียง
“โห... เลือดออกเลยอะ”
“ไม่ต้องพูดเลย แค่นี้ยังน้อยไปนะ” เธอชี้หน้าเขาแล้วเอ่ยปรามเขาเอาไว้ก่อน หินหาสนใจไม่เขากระโจนใส่เธอทันทีรวบร่างบางด้วยอ้อมแขนใหญ่
“ก็บอกแล้วไงว่า พี่หินขอโทษ เราไม่โกรธกันนะ นะ” เขาคร่อมร่างเธอพูดจาออดอ้อน ก่อนจะจูบไปที่แก้มสลับไปมาทั้งซ้ายทั้งขวา
“ที่รักของผมน่ารักไปทั้งตัวใครจะอดใจไหว” เธอได้แต่อมยิ้มส่ายหน้าแต่ปากก็พูดว่าให้
“คนนิสัยไม่ดี”
“หิวหรือยังกินอะไรสักหน่อยนะจะได้มีแรง ถ้ามีแรงพี่หินให้ที่รักหยิกทั้งตัวเลย” เขาพูดด้วยความเป็นห่วงและเหมือนจะยอมทุกอย่าง
“กินน้ำหวานตรงนี้ก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่อยกินข้าว” หินฉกริมฝีปากเข้าหาปากร้อน ๆ แบบหยอกล้อ
“อือ” เธอครางประท้วงคงห้ามเขาไม่ได้แน่ ๆ
“หวาน ๆ” เขาพูดเมื่อถอนริมฝีปากออก
“ไป๊... ไปกินข้าว” เขาลุกขึ้นช้อนร่างบางขึ้นสู่อ้อมแขนทันที ยิ้มอย่างมีความสุขสุด ๆ
ขิงได้แต่ถอนหายใจ
“ต้องทำตามเขาไปแบบนี้นะเหรอ เสียเปรียบชะมัดเลย”
ขิงนอนซมไปสองวันเต็ม ๆ หินดูแลเธอเป็นอย่างดี คอยเฝ้าอยู่ไม่ห่าง คอยป้อนข้าว ป้อนน้ำ ป้อนยา จนเธออาการดีขึ้น
เวลานอนเขาทั้งกอดทั้งหอมทั้งจูบคลอเคลียจนน่ารำคาญ
มันจะมากไปไหมเนี่ย ขิงบ่นอยู่ในใจ