บทที่ 5

1148 คำ
ฮาริย่าถึงกับร้อนผ่าว ความวาบหวิวเล่นทั่วกาย เมื่อมองสบตากับดวงตาคมกริบ ที่จ้องมองเขม็งราวกับเห็นเรือนร่างอรชรเนื้อในแท้ ที่ถูกปกปิดด้วยอาภรณ์ “เราอยากขอซื้อเวชภัณฑ์ทั้งหมด ที่ท่านได้นำมาขาย รวมถึงอาหารบางอย่าง ที่คนในเผ่าของเราต้องการ” ฮาริย่าข่มความอายพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ ที่กำลังเคลื่อนตัวมารวมกันอยู่ที่เรือนร่างเบื้องล่าง จนเธอรู้สึกปวดร้าว แถมปทุมอิ่มเต็งตึงภายใต้ผ้าลูกไม้บางเบาก็รู้สึกปวดร้าว จนร่างเธอสั่นสะท้านไหว เมื่อรับรู้ได้ถึงกระแสแห่งความปรารถนา ที่แผ่ออกมาจากเรือนกายล่ำสันที่ยืนอยู่ตรงหน้า องครักษ์เอกผู้เก่งกาจอย่างอานีสต์ ลอบอมยิ้มอย่างถือไพ่เหนือกว่า เป็นดั่งที่ตาเฒ่ากาติย์บอกไว้ไม่มีผิด ว่าที่เผ่าอัยรีนกำลังต้องการเวชภัณฑ์ รวมทั้งอาหารที่เขาได้กว้านซื้อมาจากเมืองหลวงในอัลนูรีนเป็นอย่างมาก เมื่อเห็นหนทางที่จะต่อรองกับฮาริย่าผู้เซ็กซี องครักษ์หนุ่มจึงไม่รอช้าที่จะเสนอเงื่อนไขกับสาวเจ้าทันที “อืม...ถ้าหากนายหญิงฮาริย่า ต้องการเวชภัณฑ์ทั้งหมด ก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันนิดหน่อย” “ต้องการอะไรก็บอกมา” ฮาริย่ากัดฟันแน่น กระชากเสียงถามอย่างโกรธๆ หากไม่ติดที่ว่าสถานพยาบาลในเผ่ากำลังขาดเวชภัณฑ์อย่างมาก เธอจะไม่ยอมก้มหัวให้ชายผู้นี้เป็นอันขาด สถานพยาบาลขนาดกลางที่รองรับคนทั้งเผ่า ซึ่งมีคนเจ็บป่วยเข้าขอรับการรักษาตลอดทั้งยี่สิบสี่ชั่วโมง ทำให้ขาดยาหลายรายการ การเดินทางไปซื้อจากเมืองหลวงในอัลนูรีนก็ไม่ใช่สิ่งง่าย ระยะทางจากเผ่าอัยรีนไปยังอัลนูรีนต้องเดินทางด้วยอูฐถึงสองวันเต็ม ซึ่งยังไม่นับรวมการเดินทางกลับทำให้ไม่มีใครอยากรอนแรมอยู่ท่ามกลางคลื่นเม็ดทราย ที่ร้อนระอุแถมยังไม่อาจคาดเดาได้ว่าจะเจอพายุทะเลทรายเล่นงานเอาตอนไหน ฮาริย่าเมินหน้าหนีพ่อค้าเร่หน้าบาก ที่เธอทราบชื่อว่า ‘ดามาสต์’ ด้วยรู้สึกแปลกๆ ตลอดเวลาที่ถูกชายผู้นี้จ้องมองเขม็ง ทำไมเธอถึงรู้สึกได้ตลอดเวลาว่าอีตาดามาสต์ กำลังส่งคำเชิญชวนให้เธอขึ้นเตียงด้วย และสิ่งที่แย่ที่สุดจนเธอไม่อาจมองหน้าชายผู้นี้คือ เธออยากตอบรับคำเชิญของชายหนุ่มเหลือเกิน อานีสต์ยิ้มกริ่มอย่างผู้ที่กำกุมชัยชนะ องครักษ์หนุ่มเล่นตัวเป็นนาน กว่าจะเอ่ยบอกสิ่งที่ตนเองต้องการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับหัวใจนักรบยิ่งนัก “หากนายหญิงฮาริย่าต้องการเวชภัณฑ์ รวมทั้งอาหารทั้งหมดก็ไม่ยากเลย ผมพร้อมยกให้ หากนายหญิงยอมให้ผมพักอาศัยอยู่ที่เผ่าอัยรีนด้วย” ‘และหากให้ดี เราอยากได้ตัวเจ้า มานอนแนบกายในทุกค่ำคืนด้วย’ องครักษ์ยิ้มพรายกับความคิดในตอนท้ายของตนเอง ให้ตายเถอะ! นับตั้งแต่เติบโตเป็นหนุ่มฉกรรจ์ ทำงานรับใช้ประมุขแห่งอัลนูรีนมาช้านาน เขาไม่เคยต้องการใครเหมือนเช่นดั่งต้องการในตัวฮาริย่ามาก่อน ยิ่งคิดก็ยิ่งนึกขำตัวเองที่เป็นเช่นดั่งหนุ่มน้อย ที่เพิ่งริรักเป็นครั้งแรก ฮาริย่าขมวดคิ้วโก่งงามเข้าหาด้วยความแปลกใจ เพราะตอนแรกเธอคิดว่าอีกฝ่ายจะขอทองคำแท่ง เป็นสิ่งแลกเปลี่ยนกับสินค้าที่มีอยู่เต็มลำเกวียนเสียอีก การค้าขายในดินแดนที่ห่างไกลจากประเทศอื่นมาก เงินตราสกุลไหนก็ไม่มีค่าและมั่นคงเท่ากับทองคำแท่ง ที่เธอพยายามกอบโกยจากเฒ่าจิ้งจอกอาดีบให้ได้มากที่สุด “ทำไมเจ้าถึงต้องการพักที่เผ่าของเรา ขายของหมดแล้วเจ้าควรจะรีบๆ ไปซะ” ฮาริย่าถือโอกาสไล่คนที่ทำให้หัวใจเธอหวั่นไหว ทันทีที่มีโอกาสเช่นเดียวกัน หัวหน้าเผ่าแสนสวยคิดว่าเพียงบุรุษหนุ่มผู้นี้ ได้จากไปจากดินแดนของเธอ ความรู้สึกร้อนผะผ่าวทั่วเรือนร่างที่แล่นพล่านรวมกันอยู่ที่จุดเดียวของความเป็นอิสตรี คงจะจางหายไปเช่นเดียวกัน อานีสต์ยิ้มเย็นแอบกวาดสายตามองทั่วเรือนร่างอรชร ที่เขาจดจำทุกสัดส่วนของหญิงสาวได้เป็นอย่างดี จากนั้นได้เอ่ยตอบช้าๆ ซึ่งเป็นคำตอบที่ทำเอาฮาริย่าต้องกัดฟันแน่นด้วยความขัดเคือง “หากนายหญิงฮาริย่าขัดข้องเรื่องให้ผมพักที่นี่ ผมก็ไม่ว่าอะไร เห็นทีผมต้องขอตัวไปเก็บของก่อน เพราะเท่าที่ได้ยินแว่วๆ มา รู้สึกว่าเผ่าที่อยู่ใกล้ๆ กันก็ต้องการสินค้า ที่ผมบรรทุกมาเต็มลำเกวียนเช่นเดียวกัน” ฮาริย่าเกลียดลูกตาที่คลี่ยิ้ม พร้อมกับส่งกระแสเร่าร้อนชวนเธอขึ้นเตียงยิ่งนัก จนอยากจะเอามือทิ่มให้ตาบอดให้รู้แล้วรู้รอดไป ยิ่งอีกฝ่ายยิ้มพรายอย่างถือไพ่เหนือกว่า ยิ่งทำให้เกลียดจับใจ “เจ้าจะพักอยู่ที่นี่นานแค่ไหน” ฮาริย่าหลุดเสียงถามมาได้อย่างยากเย็น เพราะสิ่งที่เธอถามไปนั้น เท่ากับเป็นการตอบรับข้อเสนอของอีกฝ่ายกลายๆ อานีสต์ยิ้มกว้างกับคำตอบรับของหัวหน้าเผ่าสุดเซ็กซี ใจนั้นอยากบอกเหลือเกินว่า เขาอยากพักอยู่ที่นี่ชั่วชีวิต แต่ภารกิจที่ได้รับมอบหมาย รวมทั้งหน้าที่องครักษ์เอกของประมุขแห่งแผ่นดิน เป็นตัวบังคับจิตใจเขาให้ตอบออกมาในสิ่งที่ตรงกันข้าม “ไม่นานหรอกนายหญิงฮาริย่า ผมจะอยู่ที่นี่อีกสักพัก จากนั้นจะเดินทางร่อนเร่ขายสินค้าที่เผ่าอื่นต่อไป” ฮาริย่าไม่รู้ว่าหัวใจของเธอกำลังดีใจ หรือเสียใจกันแน่ ที่ยินคำตอบของอีกฝ่าย “เราจะให้เจ้าพักที่นี่ แต่ท่านต้องจัดการเรื่องอาหารเอง” “อืม...ไม่มีปัญหา แต่หากวันใดผมขออาศัยอาหารจากบ้านของนายหญิงสักมื้อ หวังว่านายหญิงฮาริย่าจะเมตตาผมอีกสักครั้ง” อานีสต์เอ่ยอย่างยั่วยวน พอนึกถึงวันที่มีหญิงสาวนั่งร่วมโต๊ะทานมื้อค่ำใต้แสงจันทร์ด้วยกัน ทำให้รู้สึกอุ่นวาบในหัวใจอยากให้ถึงวันนั้นเร็วๆ “เราไม่รับปากเจ้าเรื่องอาหาร” ฮาริย่าตวาดปฏิเสธเสียงห้วนจัด จนนัยดาหญิงคนสนิทที่ยืนฟังอยู่นาน ต้องขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย ว่าเกิดอะไรขึ้นกับนายหญิงของเธอ ฮาริย่าผู้เย็นชาไม่เคยแสดงอาการโกรธกริ้วใครง่ายๆ กลับกลายเป็นคนที่โมโหฉุนเฉียวเมื่อได้ต่อปากต่อคำ กับบุรุษหนุ่มหน้าบากผู้นี้แค่ไม่กี่นาที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม