-FOAM TALK-
“ทำหน้าบูดแบบนี้ทะเลาะกับมันหรือไง?” ฉันเงยหน้าสบตากับดวงตาแข็งกร้าว แต่ไม่ได้น่ากลัวสำหรับฉันสักนิด ‘เถื่อน’ เพื่อนสนิทของฉันในกลุ่มที่เป็นถึงเดือนคณะสถาปัตย์ แถมยังหล่อลาก ดิบตามแบบฉบับผู้หญิงที่คลั่งไคล้
“เรื่องเดิม”
“อ่อเรื่องวี บีทีเอส”
“รู้ดีอะ” เขายกยิ้มก่อนจะวางมือยีศีรษะของฉันเบาๆ
“ทำไมจะไม่รู้ บ้าคลั่งจนฉันรำคาญ”
“นายก็เป็นด้วยเหมือนกันเหรอ คิดว่าจะมีแต่นัมที่เบื่อฉันซะอีก” เถื่อนยกยิ้มก่อนจะเดินไปกับฉันเพื่อตรงไปยังที่นั่งประจำของกลุ่มเราซึ่ง ‘ดาว’ กับ ‘โย’ รออยู่แล้ว เพื่อนสาวของฉันออกแนวแรงมาแรงกลับ สวยสะดุดตาและน่ามองจนคนในคณะและนอกคณะพากันหลงใหล ส่วนโยไม่ต้องพูดถึงรายนี้หล่อทะลึ่งแต่ซกมก สกปรก จะเรียกว่าเซอร์ไม่ได้หรอกนะ ต้องรวมคำว่าเซอร์ถุนไปด้วยสำหรับไอ้โย
“ทำหน้ากวนตีนวะโฟม เป็นไรวะ”
“อย่าบอกนะว่าทะเลาะกับแฟนสุดที่รัก เรื่องมือที่สามที่ชื่อวี หึ” ดาวยักคิ้วให้กับฉันก่อนจะดูดน้ำในแก้ว ส่วนโยก็ขยับที่ให้ฉันนั่ง เถื่อนเอนตัวพิงกับพนักเก้าอี้หินยกเท้าวางบนโต๊ะโดยไม่สนใจของกินที่อยู่ตรงหน้าเลยสักนิด
“เรื่องเดิมๆ บ่นได้ทุกวัน”
“แหมเป็นฉันก็บ่นอะ เล่นกรี๊ดอยู่ได้ทั้งที่มีผัวให้กรี๊ดอยู่แล้ว” โยหยิบขนมปังทาเนยเข้าปาก ส่วนฉันก็เท้าคางด้วยสีหน้าหงุดหงิด
“แต่มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวหรือเปล่า ฉันชอบของฉันมานาน พวกแกก็รับได้”
“ใช่ แต่ไม่พูดไง”
“ไอ้โย อยากโดนตบใช่มะ”
“ไม่มีผัวที่ไหนยอมหรอกนะที่เห็นเมียตัวเองคลั่งไคล้ผู้ชายคนอื่น ถึงแม้ผู้ชายคนนั้นจะไม่มีวันรู้ว่าแกคลั่งเขา” ฉันหยิบขนมเขวี้ยงใส่หน้ามัน แต่มันก็อ้าปากรับซึ่งแม่นมาก (ไอ้โยอะนะ)
“เหมือนหมาอะ ทุเรศ”
“ปากดี เดี๋ยวเจอตีนอุดปาก” ดาวกับโยหันไปกัดกันเป็นงานประจำ แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจอะไร หยิบเอางานที่ตัวเองต้องทำออกมาดู เนื่องจากฉันเรียนสถาปัตย์ดังนั้นงานที่ทำล้วนแล้วแต่เป็นงานออกแบบทั้งนั้น และตอนนี้ฉันกำลังออกแบบห้องจัดเลี้ยงซึ่งจับสลากได้มา
“ยากโคตร ดีนะที่ของฉันเป็นออกแบบห้องนอน สบาย”
“อือ ของฉันก็ออกแบบตัวอาคาร เถื่อนออกแบบโครงสร้างตึกใช่ปะ?” เถื่อนพยักหน้ารับ ซึ่งทุกคนได้แบบง่ายมากและมันเป็นการออกแบบที่ฉันถนัดด้วยนะ แต่ทำไมมีแต่ฉันที่ได้งานหินคนเดียวล่ะ ฉันล้วงหาไม้บรรทัดสเกล (ไม้บรรทัดสามเหลี่ยมที่เด็กสถาปัตย์ต้องพกติดตัวตลอด) แต่ทว่าฉันกลับหาไม่เจอ อย่าบอกนะว่าลืม ฉันไม่ควรลืมเครื่องมือหากินแบบนี้ได้นะ ถ้าไม่ทะเลาะกับเขาเรื่องวีอะ
“เอาของฉันไปใช้ก่อนสิ”
“อือ ขอบคุณนะเถื่อน” ฉันส่งยิ้มให้กับเขาที่เบือนหน้าหนีไปเล่นเกม ROV ต่อ ยิ่งมองเถื่อนก็ยิ่งสงสัยนะว่าทำไมนัมถึงได้เกลียด ทั้งที่เขาเองก็ไม่ได้ทำอะไรให้สักหน่อย จะว่านัมหึงฉันก็ไม่น่าใช่ ถ้าจะหึงก็หึงกับวี บีทีเอสสิ ทำไมจะต้องมาหึงฉันกับเถื่อนด้วย เราสองคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เข้ามหาลัยเลยนะ เพราะว่าฉันกับเขาได้เป็นบัดดี้กัน ทำกิจกรรมร่วมกัน จนก่อเกิดความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อนขึ้นมา
“จ้องแบบนี้ทำไม?”
“ก็เปล่า”
“จ้องแบบนี้ไอ้เถื่อนก็เขินอะดิวะไอ้โฟม”
“ปากดีนะมึงไอ้โย” สายตาคมตวัดไปมองโยด้วยสีหน้าไม่พอใจและก้มหน้าเล่นเกมต่อ เถื่อนเองก็รู้ดีนะว่านัมไม่ชอบหน้าเขา แต่ไม่รู้ว่าเหตุผลจริงๆ สองคนนี้ไม่ถูกกันเพราะอะไรเหมือนกัน นัมไม่เคยบอกฉันถึงเหตุผลที่ไม่ชอบเถื่อน และเถื่อนเองก็ไม่พูด หรือเพราะทั้งสองคนกำลังเกรงใจฉันที่เป็นคนกลาง อีกคนก็แฟน อีกคนก็เพื่อน
“ทำงานไปดิ จะนั่งจ้องอีกนานมะ”
“โทษทีแค่สงสัยอะไรนิดหน่อย” เถื่อนผละใบหน้าจากจอมือถือ “สงสัยอะไร?”
“ก็นัมไม่ชอบหน้านาย ไม่รู้เหตุผลด้วยเหมือนกับนาย” ดาวและโยต่างพากันสงสัยไม่ต่างจากฉัน เถื่อนขยับตัวเอาเท้าลงจากโต๊ะและลุกขึ้นยืนเพื่อบ่ายเบี่ยงคำถามของฉัน
“ไม่รู้สิ เธอก็ไปถามมันเอาเองแล้วกันว่าไม่ชอบหน้าฉันทำไม”
“แล้วนายล่ะ ไม่ชอบหน้านัมเพราะอะไร?” ฉันยังคงมองเถื่อนด้วยความสงสัย แต่เขาก็ไม่ตอบเดินหนีเข้าคณะไปปล่อยเราสามคนมึนงงกันอยู่แบบนั้น
“อะไรของมันวะ คือแบบผัวเธอมันไม่ชอบหน้าไอ้เถื่อนก็พอจะเข้าใจนะ ดูหน้ามันดินิ่งตลอดแบบนั้น ขนาดฉันเป็นเพื่อนมันยังไม่ชอบขี้หน้ามันเลย”
“ทำอย่างกับว่าเถื่อนชอบหน้าแกนักนี่ไอ้โย!”
“ดาวกวนตีนนะมึง มานี่เลย...” ฉันมองทั้งสองคนตบตีกัน และหันไปมองแผ่นหลังกว้างที่เดินหายเข้าไปในตึก คำถามนี้ฉันเคยถามเถื่อนตั้งแต่คบกับนัมแล้วล่ะ หลังจากที่ฉันเปิดตัวว่ามีแฟน เถื่อนก็ดูจะนิ่งไป ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยยิ้มแต่ฉันก็เข้าใจว่าเขาเป็นคนยังไง คบกับมาตั้งสี่ปีทำไมจะไม่รู้ล่ะ
ภายในห้องโถงตอนนี้ฉันกับพวกเพื่อนมานั่งรวมกลุ่มทำงานคือการวาดแผนงานโครงสร้างที่ได้รับมอบหมาย แถมยังมีงานทำโมเดลอีกซึ่งฉันจับคู่กับเถื่อน การจัดทำโมเดลมันต้องใช้เวลาในการทำถึงเดือนหนึ่งเต็มๆ หรืออาจจะมากกว่านั้นก็ไม่อาจรู้ได้ ดังนั้นฉันเลยต้องไปมาหาสู่เถื่อนมากขึ้นและมันอาจจะพาให้นัมไม่พอใจด้วยสิ
~คอกจองฮาจี มาLove อี โมดึน กอน อูยอนี อานีนีกา~
เสียงเรียกเข้ามือถือราคาแพงของฉันดังขึ้น และมันเป็นเพลงของวงบีทีเอสที่ฉันชอบ แม้แต่หน้าจอหลักฉันก็เลือกที่จะตั้งเป็นรูปของวีซึ่งกำลังยิ้มกว้าง สวมที่คาดผมหมีน่ารัก แต่ชื่อปลายสายที่โทรมาไม่ได้น่ารักอย่างที่คิดนะ
“ฮัลโหล โทรมามีอะไร?”
(“ผัวโทรมาต้องถามว่ามีอะไร ให้ตายเหอะ เธอจะหลอนฉันไปถึงไหนวะโฟม แม้แต่เสียงรอสายยังตั้งเป็นเพลงมันเลยหรือไงเนี่ย”) น้ำเสียงหงุดหงิดของนัมทำเอาฉันกลอกตามองบน แน่นอนว่าเถื่อนลอบมองฉันและก้มหน้าเขียนแบบต่อ
“ช่างเรื่องนี้เลย มีอะไรฉันกำลังทำงานนะ เดี๋ยวจารย์มาก็ซวยอีกอะ”
(“จะให้ไปรับเปล่า ~พี่นัมขา ตูนพร้อมแล้วนะ~”)
ฉันขมวดคิ้วทันทีเมื่อได้ยินเสียงแหลมๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งแทรกเข้ามา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่านัมกำลังจะทำอะไร เขาเคี้ยวผู้หญิงทุกครั้งที่ฉันไม่เวลาให้ แต่... ฉันไม่เคยว่าเขา ไม่ใช่ว่าไม่หึงหวง ฉันหึงและหวงเขามาก แต่นัมเป็นแบบนี้มานานแล้ว ก่อนจะคบกันเขาบอกฉันแล้วว่าเขาเป็นแบบนี้ แบบนั้น และตัวฉันก็รับได้
ใช่รับได้ แต่ใช่ว่าจะรับได้ตลอดเวลา ของของใครใครก็รัก ก็หวง และฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ทั้งรักและหวงเขามาก และเขาล่ะรัก หวงฉันบ้างหรือเปล่า?
“อยู่กับใคร”
(“ไม่ต้องถามเรื่องนี้ได้ปะ ตอบมาว่าจะให้ไปรับเปล่า”)
“ก็ถ้าไม่ว่างก็ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้”
(“อย่างี่เง่าโฟม มันน่าเบื่อ”) น้ำเสียงคล้ายหงุดหงิดทำเอาฉันเม้มปากตัวเอง กดวางสายและเลือกที่จะปิดเครื่อง ตั้งใจทำงานตรงหน้า แต่มันก็ไม่อาจลืมเสียงของผู้หญิงคนนั้นได้เลย
“โหย ทำไมมันวาดยากแบบนี้!”
“ใจเย็นโฟม เธอกำลังหงุดหงิด วางมือก่อนเลย” เถื่อนจับมือฉันซึ่งกำลังจะใช้ยางลบลบแบบแผนที่เละไปหมด เหตุเพราะสติไม่ได้อยู่กับตัวแล้วตอนนี้ สายตาของเถื่อนดุจนฉันลุกขึ้นเดินออกไปนั่งที่ระเบียงเพื่อรับลมเข้ามาทำให้ใจร้อนรนตอนี้สงบลงบ้าง
“เด็กนั่นเคี้ยวหญิงอีกล่ะสิ” เสียงใสๆ ของดาวถามฉันขึ้น เธอนั่งลงตรงหน้าโดยที่ฉันพยักหน้ารับ เพื่อนฉันทั้งสามคนรวมถึงเถื่อนและโย ทุกคนรู้ดีว่านัมเป็นยังไง แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรมากเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน แต่ก็ให้กำลังใจมาเสมอ โดยเฉพาะโยที่ยุให้เลิกกับเขาตลอด
“ฉันรู้ตัวเองนะว่าไม่ได้มีเวลาให้เขา ไม่ใช่ผู้หญิงขี้อ้อน ไม่ใช่ผู้หญิงที่หึงหวงไม่เข้าท่าให้เขารำคาญใจ”
“อือฮึ”
“ความรักที่ซื่อสัตย์มันมีค่านะ ถึงฉันจะไม่เก่งเรื่องน่ารัก เอาใจแต่แค่มีความซื่อสัตย์ให้กันก็พอแล้ว”
“แต่หมอนั่นไม่มีให้แกเลย”
“ใช่ไม่เคยมี แต่ไม่เคยทำหน้าที่แฟนได้ขาดตกบกพร่องถึงแม้ช่วงนี้เขาจะเบื่อฉันบ่อยเพราะเรื่องวี บีทีเอสแต่มันก็เป็นเรื่องที่เราทะเลาะกันประจำฉันรับได้” ดาวถอนหายใจออกมา เธอรู้ดีว่าฉันน่ะเชื่อใจนัมตลอดเขาไม่เคยทำให้ฉันดูด้อยไปกว่าผู้หญิงที่ตัวเองเคี้ยว และพวกหล่อนก็ไม่เคยมาเยาะเย้ยหรือมาตอแยฉัน นิ้วมือของฉันลูบไปมาบนแหวนทองคำขาวซึ่งนัมเป็นคนซื้อให้ฉัน เขาบอกว่าอยากให้ฉันมั่นใจว่าฉันอยู่เหนือทุกคน เพราะฉันคือเมียที่เขายอมรับ
“เพราะแบบนี้ใช่ไหมถึงได้เลิกกับเด็กนั่นไม่ลง”
“มันก็ใช่ ถึงนัมจะปากหมาไปบ้าง ขี้หงุดหงิด ขี้เบื่อเรื่องฉันบ้าวี... แต่เขาไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกเบื่อเขาเลยสักนิด”
“แต่ที่ไม่ชอบใจคือเมื่อไหร่นัมจะหยุดเคี้ยวผู้หญิง” ฉันพยักหน้ารับเบาๆ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการมาตลอด และไม่เคยพูดกับเขาเลยสักที เพราะกลัวว่าเขาจะอึดอัด ฉันกลัวว่านัมจะรำคาญไม่ชอบใจ เพราะแฟนเก่าเขาเคยราวีเขาด้วยเรื่องแบบนี้ล่ะเขาถึงได้เลิกไป และมาเจอฉันซึ่งรับตัวตนของเขาได้ทุกอย่าง
“เพราะรักสินะ ถึงได้มองข้ามสิ่งที่เด็กนั่นเป็นไปหมด”
“อืม ไม่ว่าเขาจะเลวกับฉันขนาดไหน ฉันก็ไม่เคยมองว่าเขาผิดสักครั้ง ที่อยู่ไม่ใช่เพราะทนนะ แต่เพราะรักต่างหาก”
“จ้าๆ แม่คนรักผัว... แต่มานั่งน้อยใจแบบนี้ บางทีควรพูดให้เด็กนั่นรู้บ้างนะว่าเธอไม่ชอบ จะได้ปรับจูนเข้าหากันบ้าง ไม่ใช่แกที่ปรับคนเดียว”
“ฉันก็ไม่ได้ปรับอะไรนะ นัมรับที่ฉันเป็นแบบนี้ได้และฉันเองก็รับเขาที่เป็นแบบนั้นได้ ฉันไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรหรอก แค่นัมมองฉันที่เป็นฉัน ไม่ให้ฉันเปลี่ยนตัวเองเหมือนผู้หญิงคนอื่นก็พอแล้ว” ดาวยักไหล่ก่อนจะตบไหล่ฉันเบาๆ และเดินเข้าไปในห้องเพื่อทำงานต่อ ส่วนฉันก็ถอนหายใจออกมา มันจริงนี่นาที่ว่านัมไม่เคยอยากให้ฉันเปลี่ยน ตัวฉันจะให้เขาเปลี่ยนทำไม ฉันไม่อยากถูกมองเป็นเมียที่สร้างปัญหาให้กับเขาหรอก
เที่ยงคืนผ่านไป
“หาว อือ... ง่วงนอน”
“ง่วงก็กลับเดี๋ยวไปส่ง”
“จริงเหรอ? จะกลับแล้วใช่ปะ” ฉันเงยหน้ามองเถื่อนที่พยักหน้ารับ ก่อนจะพิงไหล่หนาแล้วหลับตาลง หลังจากที่นั่งหลังขดหลังแข็งวาดแผนงานกว่าจะเสร็จต้องเดือดร้อนให้เถื่อนช่วยเนื่องจากฉันลืมพกแว่นสายตามาด้วย มืดแบบนี้ทำให้การทำงานค่อนข้างลำบากพอควร ซึ่งวันนี้ฉันลืมหมดทุกอย่าง
“เก็บของสิ จะนอนที่นี่หรือไง?”
“ไม่เอา ปวดหลังอยากนอนบนเตียง”
“พร้อมโดนผัวขย่ม”