นัมเบื่อเมีย #2
ผมยืนรอน้ำในหม้อให้เดือดก่อนจะยกขึ้นเทใส่ถ้วยบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เช้านี้ผมต้องไปส่งโฟมที่มหาลัยและต้องเตรียมเรื่องดินเนอร์อีก เป็นอีกวันที่ผมดีใจและรู้สึกมีความสุขที่จะได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับโฟมเพราะกินมื้อเช้าเป็นเพียงแค่มื้อเดียวเท่านั้นที่ผมได้เห็นหน้าเธอ แต่หลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึงเลย
“กี่โมงแล้ว?”
“ตายคาห้องน้ำหรือไง”
“เปล่า”
“แค่ยืนคุยกับวีนานไปหน่อย จะพูดแบบนี้” โฟมยกมือเกาศีรษะตัวเอง จนผมได้แต่ส่ายหน้าไปมา บ้าเข้าขั้นถึงขนาดคุยกับรูปภาพก็เอาเว้ยเมียผม!
“มานั่งที่เก้าอี้ดิ”
ร่างบางสวมชุดนักศึกษาสวมเสื้อตัวใหญ่ทับด้วยเสื้อช็อปของคณะกับกระโปรงพีชสั้นเลยเข่ามานิด ซึ่งผมก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอกนะที่โฟมจะแต่งตัวเซอร์ขนาดนี้ เพราะแบบนี้ล่ะดีแล้ว แค่แต่งตัวมิดชิดยังเซ็กซี่มากในสายตาของผมเลย
“หวีมาจะเกล้าผมให้”
“น่ารัก”
“จูบดิ” ผมยื่นใบหน้าลงไป ซึ่งโฟมก็เงยหน้าคว้าท้ายทอยผมให้กดจูบลงริมฝีปากนูนชมพูเบาๆ
“คืนนี้ก็ได้จูบทั้งตัวล่ะ ยังจะเรื่องมาก”
“ตอนนี้กับตอนกลางคืนมันต่างกันนี่หว่า” โฟมยักไหล่ขณะที่ผมกำลังหวีเส้นผมนุ่มนิ่ม ถ้าผมไม่บังคับก็ไม่สระหรอกนะ แค่เวลาสระผมยังไม่มีเลย ผมรู้ไงว่าปีสี่ของการเรียนสถาปัตย์มันหนักแค่ไหน และโฟมก็เรียนถึงห้าปีด้วยซ้ำคิดดูว่าถ้าปีสุดท้ายจะหนักแค่ไหน ถามใจดู
“รู้สึกจะลืมแว่นกับไม้บรรทัด ไม่รู้อยู่ไหน”
“อยู่บนโต๊ะทำงานในห้อง ฉันเก็บไว้ให้” เมื่อมัดผมให้โฟมเสร็จ ผมก้าวแค่ลวกๆ ให้เธอนะ เหมือนผีบ้าเลย แต่ก็ดูดีในสายตาของผม โฟมลุกขึ้นวิ่งเข้าไปในห้องนอน
ติ๊ง
เสียงข้อความไลน์ดังขึ้นจากมือถือของโฟม ปกติผมจะไม่ค่อยก้าวก่ายเรื่องมือถือของเธอสักเท่าไหร่ ก็เหมือนกับเธอที่ไม่ยุ่งกับมือถือของผม เพราะการที่เราสองคนต่างไว้ใจกันแบบนี้มันจะไม่เกิดปัญหาทีหลังทำนองว่า ‘ทำไมให้ดูไม่ได้ มีใครหรือไง’ ซึ่งผมทำอะไรผมบอกเธอทุกอย่าง มันเลยไม่เป็นปัญหาในการคบกัน แต่คราวนี้มันทำให้ผมกับฉุกคิดขึ้น หยิบมือถือราคาแพงที่ผมซื้อให้เธอใหม่เนื่องจากโฟมเป็นพวกประหยัดใช้มือถือรุ่นโคตรจะดึกดำบรรพ์ สายตาของผมกดรหัสผ่านเข้าไปก็คิ้วกระตุกทันที
โวยเถื่อน : อย่าลืมไม้บรรทัด แว่นตาด้วย... เดี๋ยวตาเสียนะโฟม
ผมเบ้ปากมองไอ้เถื่อนซึ่งมันเป็นคนส่งข้อความมาหาโฟม แต่จะไม่โมโหเท่าไหร่หรอกนะถ้ามันไม่ส่งเข้ามาในไลน์กลุ่มแต่ดันส่งมาที่ไลน์ส่วนตัว ซึ่งผมไม่เคยรู้เลยว่าทั้งสองคนคุยอะไรกันบ้าง ดังนั้นผมเลยไล่ดูข้อความทั้งหมด ก็เห็นสติ๊กเกอร์ไลน์ส่งกันไปมา มีบอกฝันดี และบอกให้พักผ่อนเยอะๆ ส่วนมากไอ้เถื่อนจะเป็นคนส่งให้โฟม และโฟมก็ตอบกลับด้วยสติ๊กเกอร์และคำขอบคุณ ผมพิมพ์ข้อความส่งไปให้มันแต่ทว่าเห็นชื่อที่โฟมตั้งแล้วหงุดหงิดขึ้นมาทันที
วีคือรักของโฟม : อืม รู้ล่ะ
“อือหือ เข้าขั้นหนักเลยนะมึง!” คำหยาบคายไม่เคยพูดกับเมีย นอกจากลับหลังหรือคิดแค่ในใจ คิดดูดิว่ามันบ้าไม่บ้าอะ แบบนี้ไม่ให้ผมเบื่อได้ไงวะ อะไรๆ ก็วี บีทีเอส
“ได้โฟม ผัวจะจัดชื่อให้ใหม่นะจ๊ะ” นิ้วมือของผมกดเปลี่ยนชื่อไลน์ทันทีอย่างโมโห เมื่อได้สมที่ตัวเองต้องการ รอยยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้น เสียงหัวเราะของผมดังออกมาจากลำคอราวกับพวกตัวร้าย แต่ไม่ใช่เว้ย! ผมเป็นผัวโฟม เพราะงั้นผมต้องเป็นพระเอก
โวยเถื่อน : หิวไรเปล่า กำลังแวะซื้อของกินที่มินิมาร์ท เดี๋ยวซื้อกาแฟเย็นใส่นมเยอะๆ ไปให้
“แหมรู้ดีจริงนะว่าเมียกูชอบแดกอะไร หึ” ผมอ่านข้อความที่มันส่งมาพร้อมกับถ่ายรูปแก้วกาแฟที่โฟมชอบ ปกติโฟมไม่ค่อยกินกาแฟหรอก เพราะมันขมแต่ทำงานส่งอาจารย์ดึกบ่อยเข้า ก็ต้องพึ่งกาแฟซึ่งผมเป็นคนทำให้เธอกินอยู่บ่อยโดยการใส่นมข้นหวานเพื่อดับความขมของกาแฟ หลังจากนั้นโฟมก็เลยติดไปเลย ผมกดพิมพ์ข้อความส่งกลับไปอย่างหัวเสีย ไม่ชอบที่มันมาเกาะแกะกับโฟม ผมรู้ว่ามันคิดอะไรกับโฟม มีแต่โฟมเนี่ยล่ะที่ไม่รู้อะไรเลย
นัมคือผัวโฟม : ไม่ต้องเสือก กูหาให้เมียกูแดกได้
แค่เพียงเห็นชื่อไลน์ใหม่ของโฟมผมก็ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ วางมือถือเธอลงและจัดการบะหมี่ในถ้วยเป็นจังหวะที่โฟมเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายซึ่งใส่อุปกรณ์วาดเขียน
“มากินบะหมี่ได้ล่ะ จะได้ไปส่ง”
“โอเค” โฟมนั่งลงข้างผมและจัดการกินบะหมี่ถ้วย ผมต้องคอยดูแลเธอก็เพราะแบบนี้ล่ะ ใช่ว่าเธอจะดูแลผมนะ มีแต่ผมเนี่ยล่ะที่ดูแลเธอ ตั้งแต่โฟมเรียนหนักเมื่อสองเดือนก่อน จากที่เธอเคยซักผ้า ทำงานความสะอาดในห้อง ทำอาหารให้ผม (ถึงจะเป็นแค่อาหารสำเร็จรูปเอาเข้าเวฟ) ดูแลผมทุกอย่าง กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ผมดูแลเธอเองทั้งหมด สลับกันเลยล่ะนะตอนนี้ แต่ผมก็ไม่เคยบ่น ตอนที่ยังไม่ได้คบกับโฟมผมก็ทำเองอยู่แล้ว แต่เพิ่มโฟมเข้ามาแค่นั้น
“แล้วเรียนในเน็ตเป็นไงบ้าง?”
“ฉันดร็อปเรียนไปแล้ว”
“อ้าว ไมอะนัม... ปีสามแล้วนะ คณะนิเทศศาสตร์ด้วย” ผมยักไหล่ก่อนจะหยิบน้ำผลไม้ดื่มล้างปาก พร้อมกับเคี้ยวหมากฝรั่งรสมิ้นต์สวมเสื้อเชิ้ตสีดำพับแขนขึ้นไป
“ช่างเหอะ ขี้เกียจ”
“ทีเรื่องเรียนขี้เกียจ แต่เรื่องเคี้ยวผู้หญิงไม่เบื่อนะ”
“เฮ้อ ไม่ได้เรียนก็มีปัญญาเลี้ยงเมียก็แล้วกัน” โฟมกลอกตาไปมากระทั่งเราสองคนนั่งอยู่ในรถที่กำลังติดไฟแดงอยู่ โฟมเปิดข้อความในมือถือดูและหันมาสบตากับผม
“เปลี่ยนชื่อไลน์ฉันทำไมเนี่ย?”
“หมั่นไส้ อะไรๆ ก็วี บีทีเอส ชักจะเยอะล่ะห้ามเปลี่ยนคืนด้วย”
“ทีของตัวเองล่ะ ฉันไม่ยังเคยเปลี่ยนเลยนะ”
“เปลี่ยนทำไมในเมื่อของฉันก็เป็น ‘โฟมคือเมียนัม’ แฟร์ๆ กันไปดิวะ” น้ำเสียงถอนหายใจฟึดฟัดของโฟมทำให้ผมยิ้มออกมา ไอ้ที่ถอนหายใจและเบือนหน้าหนีคือเขินไง
“ตอนแรกใช้ชื่อว่า ‘นัมเบื่อเมีย’ ไม่ใช่?”
“เออ แต่เปลี่ยนล่ะไม่เชื่อก็เปิดไลน์ดูดิ”