ไม่รู้ตัว

1502 คำ
"ธะ เธอ" ใบหน้าของทนายหนุ่มดูแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นใบหน้าหวานของเตยหอมซีดเซียวขอบตาสวยของเธอแดงก่ำและฉ่ำน้ำ ร่างกายของเธอสั่นเทาเล็กน้อย เขายอมรับเลยว่าเขาอึ้งไปกับสิ่งที่ได้เห็น เธอกลับมาบ้านไม่ได้มีความสุขหรอกหรือ "ปล่อย" น้ำเสียงของเธอนิ่งเรียบ และตีสีหน้านิ่งเหมือนปกติอย่างที่เธอเคยทำ ไม่รู้ทำไมอยู่ๆ เขาก็นึกถึงภาพที่เธอเดินออกมาจากบ้านหลังโต เขามองเธออยู่ทางกระจกมองหลังอยู่ตลอดเวลา ท่าทางการเดินเหมือนจะไร้เรี่ยวแรงและดูเศร้าหมอง แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้เอะใจอะไรเลยแม้แต่น้อย แต่พอได้เห็นหน้าเธอชัดๆ แล้ว มือที่จับแขนเธอไว้มันกลับจับอย่างแน่นขึ้น "ฉันบอกให้ปล่อยไง" "เธอเป็นอะไรรึเปล่า" "ฉันไม่ได้เป็นอะไร ปล่อย" เธอยืนยันให้เขาปล่อยแขนเธอ น่าอายชะมัดเขาคงไม่เห็นท่าทางน่าอายของเธอหรอกนะ "ฉันบอกว่าจะมารับ เธอก็ตอบตกลงแล้วนี่" เปลี่ยนจากจับแขนของเธอเป็นคว้าข้อมือเล็กของเธอเอาไว้แทนแล้วจูงเธอมาที่รถคันหรูเขาตั้งใจเปลี่ยนรถมารับเธอเลยนะเพราะคิดเอาไว้ว่าจะเปิดประทุนแล้วพาเธอขับรถเล่นถ่วงเวลาให้ได้อยู่กับเธอนานสักหน่อย ถ้าเธอใจดีก็คงจะยอมไปกินข้าวกับเขา แต่เห็นเธอเป็นแบบนี้แล้วเขาเองที่ไม่เคยปลอบโยนใครก็ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรเหมือนกัน "ขึ้นรถสิ เดี๋ยวฉันไปส่ง" เปิดประตูรถให้เธอผายมือเขาไปราวกับว่าตัวเองเป็นร่างจำลองของลุงช้างคนขับรถบ้านเธออย่างนั้นแหละ หลังจากที่เธอขึ้นรถแล้วเขาก็ปิดประตูแล้วรีบวิ่งอ้อมหน้ารถไปขึ้นฝั่งคนขับเข้าไปนั่งประจำตำแหน่งคนขับรถทันที เขาขับรถออกมาอย่างช้าๆ ลอบมองดูเธอที่มองออกไปด้านข้างอยู่ตลอดเวลา โดยที่ภายในรถมีแต่ความเงียบงัน เธอไม่พูด เธอไม่คุย เธอนั่งนิ่งๆ ราวกับกำลังเหม่อลอย หรือคิดเรื่องอะไรบางอย่างอยู่ การันต์ลอบมองใบหน้าของเธอเป็นระยะสังเกตสีหน้าเธอก็พอจะรู้ว่าน่าจะมีเรื่องที่ไม่สบายใจ ดวงตาคู่สวยของเธอไม่แม้แต่จะหันมามองเขาเลยด้วยซ้ำ เธอมองไปด้านนอก มองผู้คนที่เดินขวักไขว่ ขอบตาและปลายจมูกเล็กของเธอเริ่มแดงก่ำ ดวงตาคู่สวยของเธอเริ่มฉ่ำน้ำ ใบหูและพวงแก้มมีสีแดงระเรื่อปรากฏขึ้น มือเรียวที่วางเอาไว้ที่ตักบางก็กำแน่น และสั่นเทาเล็กน้อย ริมฝีปากบางของเธอสั่นนิดๆ เธอกำลังข่มความเจ็บปวด และพยายามเข้มแข็งอยู่อย่างนั้นเหรอขนาดมีท่าทางแบบนี้เธอก็ยังคงดูสวยสง่า ใบหน้าที่สวยงามของเธอราวกับฉาบด้วยน้ำแข็งที่เย็นเยือก หากเขาทำลายกำแพงน้ำแข็งของเธอลงได้สีหน้าของเธอจะเปลี่ยนไปบ้างไหมนะ "อ่ะ นะ นี่! ไม่ใช่ทางไปคอนโดฉันนี่" "ไปขับรถเล่นกัน มืดค่ำแบบนี้ถ้าได้นั่งรถเล่นเธอจะสบายใจขึ้นไม่ใช่เหรอ" "ฉันไม่ได้เป็นอะไร พาฉันกลับนะ" "ฉันไม่กินเธอหรอกนะ ฉันไม่ชอบทำอะไรคนที่ไม่เต็มใจ" ส่งยิ้มโปรยเสน่ห์ออกมาก่อนที่หญิงสาวจะเบือนหน้าหนี "ถ้านายทำอะไรฉัน ฉันฆ่านายแน่" "จ้ะๆ ไม่ทำหรอกจ้ะ" พูดตอบอย่างอารมณ์ดี อย่างน้อยๆ เธอก็ตอบโต้เขาบ้างแล้วแหละ หลังจากที่เถียงกันเมื่อครู่ภายในรถก็ตกอยู่ในความเงียบงันอีกครั้งหญิงสาวยังคงมองไปด้านนอกอยู่อย่างนั้นเธอก็รู้นะว่าไม่ควรไว้ใจคนแปลกหน้าแต่เขาเป็นเพื่อนของแฟนเพื่อนเธอก็คงจะไม่ทำอะไรเธอหรอกมั้ง ขณะที่กำลังมองไปด้านนอกอยู่นั้นเธอก็คิดอะไรไปต่างๆ นานาหลายๆ คนอาจจะชอบช่วงเวลากลางคืนเพราะร่มเย็น เพราะเป็นเวลาเลิกงาน เป็นเวลาพักผ่อน เป็นเวลาที่จะได้ออกมาวาดลวดลายในสถานเริงรมย์ หรือแม้แต่เป็นเวลาที่จะได้อยู่กับครอบครัว แต่กับเธอมันไม่ใช่เลย สำหรับเธอแล้วเธอรู้สึกว่าช่วงเวลากลางคืนมันช่างน่าเศร้าอะไรขนาดนี้ มองไปทางไหนก็เศร้า ทำไมใครหลายๆ คนถึงสามารถยิ้มได้ในช่วงเวลากลางคืนที่มันเหงาแบบนี้นะ แต่กับเธอเพียงแค่คิดก็อยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว เธอต้องทนอยู่ในบ้านหลังนั้น เธอต้องถูกตราหน้าว่าเป็นลูกของผู้หญิงขายตัวแต่เธอไม่ได้โกรธเกลียดแม่หรอกนะเธอกลับภูมิใจในตัวแม่เธอมากกว่าที่เลี้ยงเธอให้โตมาได้ขนาดนี้ เธอต้องคอยหลบหลีกพ่อเลี้ยงที่คอยแต่ใช้สายตาลวนลามเธอ เธอต้องคอยหลบเลี่ยงพี่สาวต่างสายเลือดเพื่อให้เกิดการปะทะน้อยที่สุด เธอต้องหลบหลีกพี่ชายต่างสายเลือดที่คอยพูดจาดูถูกดูแคลนเธอ ความสุขมันคืออะไรนะ หน้าตาของความสุขมันเป็นแบบไหนเหรอเธออยากรู้จัง คนอย่างฉันจะมีโอกาสได้รู้จักกับเธอไหมนะเจ้าความสุข... "นี่ ลงไปเดินเล่นกันไหมกำลังไม่มีคนเลย" ขณะที่กำลังคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยอยู่ๆ รถคันหรูก็หยุดเคลื่อนไหวสายลมเย็นพัดโกรกเข้ากระทบกับผิวหน้าเนียนใส เธอมองไปด้านหน้าก็เจอเข้ากับ ทะเลสีดำ หญิงสาวหันมองหน้าเขาอีกครั้งชายหนุ่มที่สองวันมานี้วุ่นวายกับเธอเสียเหลือเกิน เขาพาเธอมาที่นี่ทำไมกัน "ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนฉันหน่อย เธอนั่งเงียบมาเป็นชั่วโมงแล้วฉันอึดอัดจะตายชัก" "พะ พาฉันมาทะเลทำไม" "ฉันไม่ได้พาเธอมา ฉันอยากมาเอง ลงมาสิ" ทนายหนุ่มลงจากรถคันหรูของตัวเองแล้วเดินมาเปิดประตูรถให้เธอ เขาถือวิสาสะคว้ามือเรียวของเธอมากุมเอาไว้ ก่อนจะพาเธอเดินลัดเลาะไปตามชายหาด ใบหน้าของเธอยามดูเศร้าก็ยังสวย กลิ่นหอมของเธอก็ยังคงมีท่าทางของเธอแบบนี้ทำให้เขาอยากรู้เรื่องอะไรกันที่ทำให้เธอทุกข์ใจได้ขนาดนี้ "เรียนจบแล้วจะหางานทำเลยไหม" เขาถามขึ้นเพื่อทำลายบรรยากาศขณะที่พากันเดินเลียบชายทะเล มือหนายังจับประสานกับมือของเธออยู่ไม่ยอมปล่อย จ้องมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลากหลาย "ก็คงจะหางานทำ" "จะทำงานเลยเหรอ ไม่พักก่อนเหรอ" "ไม่ละ" "ปกติวันว่างๆ เธอชอบทำอะไร" "ก็คง... รอแม่โทรมาชวนไปเที่ยวแหละมั้ง ถามทำไม" ดวงตาใสแป๋วที่หันมามองเขาขับกับบรรยากาศยามค่ำคืนของลมทะเลที่พัดเข้ามา แม้จะมีเสียงรถราขับผ่านไปบ้าง แม้จะมีแสงไฟดวงเล็กๆ จากร้านค้าข้างทางบ้าง แต่สำหรับเขาสิ่งเหล่านั้นราวกับหยุดขยับเคลื่อนไหวไปชั่วขณะ เขาคือทนายการันต์ผู้โด่งดัง และคนที่มีระดับต้องการตัวมากที่สุดในเรื่องของความสามารถแถมยังมีสำนักงานทนายความชื่อดัง และเป็นเจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตในสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมอีกหลายแห่ง เขาคือผู้ชายที่ไม่เคยต้องทำแบบนี้กับใครเลยแม้แต่คนเดียวแต่ไม่รู้ผีอะไรเข้าสิงเขากลับรู้สึกว่าอยากทำให้เธอสบายใจสักครั้งก็ยังดี ในตอนที่เขาได้สบสายตากับดวงตาคู่สวยคู่นั้นเขาก็แทบไม่อยากจะละสายตาออกจากเธอเลย "นี่! จะ จะทำอะไรน่ะ" เสียงของเธอทำให้เขาได้สติ เมื่อดูอีกทีนี่เขาคว้าตัวเธอเข้ามากอดโดยไม่รู้ตัวเลยงั้นเหรอ ทุกอย่างไม่ได้หยุดหมุนเพียงแค่หัวสมองของเขาต่างหากที่มันหยุดเอง เธอดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแกร่งของเขาราวกับว่าเป็นพวกโจรบ้ากามโรคจิตอย่างไรอย่างนั้น "ปล่อยฉันนะ ไอ้บ้า มะ มากอดฉันทำไม ปล่อยนะ!" ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากอดทำไม ไหนๆ ก็กอดแล้ว ใครจะปล่อยง่ายๆ กัน "ปล่อยสิ ไอ้บ้าเอ๊ย ปล่อย! ไอ้..." "อย่าด่าฉัน" ปรามเธอน้ำเสียงนิ่ง แต่ก็ไม่ยอมปล่อยเธอให้ออกจากอ้อมแขน "ก็ปล่อยฉันสิ เป็นโรคจิตหรือไงมากอดฉันทำไม!" "ก็เธอหนาว ฉันเลยช่วยกอดไง" แถข้างๆ คูๆ "หะ! ฉันหนาวตอนไหน ปล่อยนะ" "อย่าดิ้นมากได้ไหมไหนๆ ก็กอดแล้วอะก็ยอมๆ ไปไม่ได้รึไง"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม