ตื้อ

1454 คำ
เตยหอมคอยบอกเส้นทางทนายหนุ่มอยู่ตลอดเวลาในการกลับไปที่บ้านของเธอ ที่จริงตั้งแต่เธอตัดสินใจออกมาก็ไม่คิดจะกลับไปอีก แต่แม่ของเธอติดต่อมาบอกให้เธอไปรับพี่ชายต่างสายเลือดที่เป็นลูกติดของพ่อเลี้ยงเธอที่สนามบินให้หน่อย เธอจึงต้องกลับมาบ้านก่อนเพื่อที่จะใช้รถของที่บ้านไปรับพี่ชายต่างสายเลือด "เธอกลับบ้านทุกอาทิตย์เลยเหรอ" "เปล่าหรอก แม่ให้ไปรับพี่ชายที่สนามบินน่ะ เลยกลับมาเอารถก่อน" "อ้าว แล้วทำไมไม่บอกเดี๋ยวฉันไปส่งที่สนามบิน" "นายจะบ้าเหรอ ฉันไปรับพี่ชายนะ จะไปกับนายได้ยังไง" "ทำไมไปกับฉันไม่ได้ ก็บอกไปสิว่ามากับเพื่อน" เขาตอบพร้อมกับหมุนพวงมาลัยรถไปทางสนามบินอย่างไม่ยอมเธอเหมือนกัน "เพื่อนพ่อน่ะสิ นายกับฉันไม่ได้รุ่นเดียวกันเลยนะ" เพื่อนพ่อเลยเหรอ มันจะมากไปแล้วนะ! "เธอพูดกับฉันก็เหมือนเพื่อนไหมล่ะ ถ้าไม่อยากให้เหมือนเพื่อนก็เรียกพี่สิ" "ไม่สนิท อย่ามาล้อเล่น!" วุ่นวายจริงๆ เลย ทำไมเพื่อนๆ ของเขาถึงทนเขาได้นะผู้ชายคนนี้นี่มันน่า... "อยากสนิทไหมล่ะ" "ไม่!" เธอหันไปเสียงดังใส่เขาอย่างลืมตัว ปกติเธอเองก็ไม่ค่อยสุงสิงกับใครอยู่แล้ว เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่ต้องมีคนอยู่ด้วยตลอดเวลา เธอเป็นผู้หญิงประเภทที่กินข้าวคนเดียวได้ เดินห้างคนเดียวได้ ดูหนังคนเดียวได้ เธอสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ "ดื้อฉิบ" เตยหอมแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาบ่นออกมาค่อนข้างจะเสียงดัง เธอมองไปที่นอกหน้าต่างเห็นคนเดินไปเดินมา อย่างขวักไขว่ก็อดนึกถึงเรื่องราวของตัวเองไม่ได้ หากแม่ของเธอไม่ได้แต่งงานใหม่ชีวิตของเธอก็คงไม่ต่างจากคนที่หาเช้ากินค่ำเลยนะ แต่การที่แม่ของเธอแต่งงานใหม่มันก็ไม่ได้ทำให้เธอมีความสุขเลยสักนิดมีดีแค่อย่างเดียวคือเธอมีชีวิตที่สุขสบายขึ้นเท่านั้นเอง "เฮ้ย!" เสียงจากทางฝั่งคนขับดังขึ้นทำให้เตยหอมหลุดจากภวังค์ความคิดจำต้องหันไปมองทนายหนุ่มที่ทำท่าทางหาอะไรบางอย่าง เธอขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่างสงสัยก่อนจะกระจ่างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของเขา "เธอ ยืมโทรศัพท์หน่อยดิ โทรศัพท์หาย" "หาาา! ทะ โทรศัพท์หาย หายได้ไง" "ก็หาไม่เจอเนี่ย เอามายืมหน่อยเร็ว ในนั้นมีนัดหมายลูกความเยอะด้วย" "ดะ ได้" ด้วยความไม่รู้เตยหอมหยิบสมาร์ตโฟนเครื่องหรูของตัวเองยื่นไปให้ทนายหนุ่มโดยไม่เห็นเลยว่าใบหน้าของเขาไม่ได้มีความกังวลอะไรเลยแม้แต่น้อย ทนายหนุ่มรับโทรศัพท์มือถือของเธอมาแล้วกดหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเองลงไป พร้อมทั้งลอบเพิ่มรายชื่อที่แอปพลิเคชันแชตดังลงไปด้วย ครืด~ ครืด~ ครืด~ "อ่ะ นี่ไงอยู่ในกระเป๋ากางเกงนี่เอง ค่อยโล่งหน่อย ขอบใจนะ" เขายื่นคืนให้เธอแล้วหยิบเครื่องของตัวเองขึ้นมาบันทึกเบอร์ของเธอลงไป หัวใจแกร่งมันยิ้มย่องอย่างพอใจโถ่แม่หนูน้อยใสซื่อเสียเหลือเกิน "นายแค่ส่งฉันก็พอ" "แล้วจะกลับยังไง พี่ชายมาด้วยไม่ใช่เหรอมันจะลำบากเอานะ" พูดขึ้นโดยไม่ได้มองหน้าเธอเลย เขามองไปที่ถนนตรงหน้าหลังจากที่ไฟเขียวแล้วก็เคลื่อนตัวรถออกไปอย่างช้าๆ ราวกับอยากถ่วงเวลาเอาไว้ "เดี๋ยวให้คนที่บ้านมารับ" พูดจบก็กดส่งข้อความบอกแม่ตัวเองให้ส่งคนขับรถมารับเธอกับพี่ชายที่สนามบินหน่อย "ก็ได้ แล้วจะกลับคอนโดวันไหน" "วันนี้ค่ำๆ มีอะไรเหรอ" เธอตอบไปอย่างไม่ได้คิดอะไรขณะที่สายตายังคงจ้องมองออกไปนอกหน้าต่างตลอดเวลา "กลับวันนี้ใช่ไหม เดี๋ยวมารับ" ยังไงเขาก็ไม่มีธุระไปไหนอยู่แล้ว ระหว่างนี้ก็คงไปนั่งเล่นรอที่ร้านอาหารของเข็มทิศแล้วกัน "หืมม! ไม่ต้องมา จะมาทำไม" "ก็เธอไม่มีรถ" "เดี๋ยวฉันนั่งแท็กซี่กลับเองได้" เอี๊ยดดดดด! ทนายหนุ่มตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทาง จอดรถเอาไว้แล้วเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อความปลอดภัย เขาหันมาจ้องหน้าเธออย่างไม่ค่อยพอใจที่เอาแต่ปฏิเสธเขาอยู่ตลอดเวลา เขาไม่เคยพลาดเรื่องผู้หญิง เขาไม่เคยถูกคนปฏิเสธ คนอย่างเขามีแต่คนมาเสนอตัวให้ และเขาก็มักเป็นคนที่เทคนอื่นอย่างไร้เยื่อใย แต่ทำไม ทำไมเธอถึงเอาแต่ปฏิเสธเขาอยู่ได้ "นั่งแท็กซี่มันอันตราย ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันปลอดภัยกว่าคนพวกนั้นเยอะ" เหรอ นายน่ะน่ากลัวกว่าคนข้างนอกอีกตาบ้า! "มะ...!" ตั้งท่าจะปฏิเสธอีกครั้ง เธอไม่อยากใกล้ชิดกับผู้ชายคนไหนเพราะตั้งแต่เธอออกมาจากบ้านหลังนั้นเธอก็มีความสุขมากอยู่แล้ว เธอมีแค่แม่ กับเพื่อนๆ ของเธอแค่นั้นก็เพียงพอแล้ว อีตานี่เป็นแค่เพื่อนของแฟนเพื่อนแต่กลับมาวุ่นวายกับเธอมากเกินไปแล้ว "ตกลงตามนี้นะ ถ้าเธอปฏิเสธฉันจะจับเธอกินไม่เชื่อก็คอยดู" ไอ้บ้านี่! "ห้ามแอบด่าฉันในใจ" พูดจบก็ขับรถเข้าไปในสนามบิน แต่ก็ยังไม่ยอมแยกย้ายจากเธอง่ายๆ ยังคงเดินตามเธอต้อยๆ แม้จะเดินห่างๆ ก็เถอะเขาลอบมองยามที่เธอเดิน มองสะโพกของเธอโยกซ้ายย้ายขวาอดคิดทะลึ่งไม่ได้เลยจริงๆ สงสัยเขาต้องลองเธอสักครั้งแล้วละ "นี่ จะตามอีกนานไหม!" อ่า... ปากสวยๆ ของเธอเวลาโมโหน่ารักเป็นบ้าเลยน่าจูบชะมัด ทนายหนุ่มหรี่ตาลงเล็กน้อยเลียกลีบปากหนาของตัวเองเบาๆ ก่อนจะเม้มปากนิดหน่อยอย่างพอใจในท่าทีของเธอ "ก็ฉันยังไม่เห็นพี่ชายเธอมาเลย เธอรอคนเดียวเดี๋ยวเหงานะ" "ฉันไม่เหงา ฟังฉันชัดๆ นะ ฉันชอบอยู่คนเดียว" พูดจบก็หน้าบูดหมุนตัวกลับ การันต์ที่ยังอึ้งกับคำตอบของคนตรงหน้าและท่าทีโมโหร้าย? ของเธอมันถูกใจเขาชะมัด เขารีบสาวเท้าตามเธอคว้าข้อมือเล็กของเธอเอาไว้ "รอก่อนดิ" "นะ นาย!" "มีอะไรรึเปล่าครับคุณหนู" ลุงช้างคนขับรถประจำบ้านวิ่งเข้ามาตรงที่เตยหอมอยู่มองท่าทางของคุณหนูคนเล็กของบ้านกับชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาดี หล่อกว่าเขาสมัยหนุ่มๆ นิดหน่อยจับข้อมือของคุณหนูคนเล็กของบ้านเอาไว้อย่างสนิทสนม "มาถึงแล้วเหรอคะลุงช้าง ไม่มีอะไรหรอกค่ะ" "รู้จักด้วยเหรอครับ" จะตอบว่าไม่รู้จักได้ไหมนะ ก็เพิ่งเจอกันยังไม่ถึงห้าวันด้วยซ้ำอีตาบ้านี่ก็เสียมารยาทใส่เธอเสียแล้ว เขายังจับมือเธออยู่โดยไม่เกรงใจลุงช้างเลยสักนิด "รู้จักค่ะ เดี๋ยวเตยตามไปนะคะขอคุยกับเขาแป๊บหนึ่ง" "ครับคุณหนู" เตยหอมคว้าแขนแข็งแรงของทนายหนุ่มให้เดินออกมาจากตรงนั้น เธอชักสีหน้าไม่พอใจแต่ทนายหนุ่มไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลยแม้แต่น้อย เขากลับรู้สึกดีที่เธอเป็นฝ่ายถูกเนื้อต้องตัวเขาก่อนเป็นครั้งแรก "กลับไปได้แล้ว" "ไม่กลับ" "นายนี่!" แต่ก็ต้องเงียบไปเมื่อเขาพูดแทรกขึ้นมา "จนกว่าเธอจะบอกว่าจะให้ฉันมารับ" ไอ้บ้านี่ ไม่มีงานมีการทำหรือไงนะ "เอาไง ถ้าเธอให้ฉันมารับ ฉันจะกลับไปเดี๋ยวนี้เลย" สุดท้ายก็ต้องยอมใช่ไหม ไม่งั้นตานี่ไม่กลับแน่ "โอเค กลับไปได้แล้ว" ใบหน้าหล่อยิ้มแฉ่งอย่างพอใจมองเตยหอมหมุนตัวแล้วเดินห่างออกไป ขนาดตัวไปไกลถึงตรงนั้นกลิ่นหอมของเธอยังคงอยู่ตรงนี้อยู่เลย แต่แล้วขณะที่กำลังมองชื่นชมเธอจากทางด้านหลังเขาก็ต้องนิ่งไปเมื่อมีชายหนุ่มหน้าตาดีเดินมาโอบกอดเตยหอมด้วยความอ่อนโยน แม้จะดูจากตรงนี้เขายังรู้เลยว่าเธอตกใจอยู่ไม่น้อยและไม่น่าจะเต็มใจให้มันกอดด้วยซ้ำ "พี่ชายเหรอวะ หน้าไม่เห็นเหมือนกันเลยสักนิด"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม