#คอนโด
หลังจากไปตรวจงานที่ร้าน Coffee เป็นร้านเล็กๆ ของฉันเอง กลับมาถึงคอนโดก็ช่วงเย็นๆ คงเป็นเพราะว่าอยู่ที่ห้องมานานหลายวันมันถึงทำให้ฉันรู้สึกเบื่อแบบนี้ จะไปหาอลิชก็ไม่ได้ ตอนนี้นางใจอ่อนให้สามีแล้วคงอยากมีเวลาส่วนตัว
ฉันหยิบโทรศัพท์ออกจากกระเป๋าแล้วพิมพ์แชตกลุ่มไปหาเพื่อน
ฉัน: วันนี้ไปดื่มกัน
พอฉันพิมพ์บอกไปทั้งขวัญและมินนี่ก็พิมพ์ตอบกลับมาเร็วมากๆ
ขวัญ: เย้!! ในที่สุดเพื่อนคนเดิมของฉันก็กลับมาสักที รู้ไหมไม่ได้ยินแกชวนไปดื่มตั้งนานโคตรเหงาเลย
ฉัน: ขนาดนั้นเชียว ?
มินนี่: แล้วแกโอเคขึ้นหรือยังเรื่องผู้ชายคนนั้น
ฉัน: อื้อ โอเค
ขวัญ: ตอบแบบนี้แปลว่าไม่ชัวร์
มินนี่: ไปแล้วทำหน้าหงอยแบบรอบที่แล้วตบนะคะ
ฉัน: สามทุ่มครึ่งเจอกันที่หน้าคลับแล้วกัน
พวกนางรู้ดีว่าฉันหมายถึงคลับไหน เพราะเราจะมีคลับที่ไปดื่มกันประจำ
พิมพ์บอกเสร็จฉันก็กดปิดแชตแล้วถอนหายใจออกมาอย่างเบื่อหน่าย ชีวิตตอนนี้รู้สึกว่ามันไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น มันว่างเปล่าจริงๆ เมื่อไหร่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมสักทีนะ
เวลา 21:30 น. #คลับหรูใจกลางเมือง
ทั้งที่ฉันนัดสองคนนั้นเวลานี้แท้ๆ แต่ไม่เห็นจะมีใครโผล่หัวมาเลย พอฉันโทรถามก็บอกกำลังจะออกมา กำลังออกมาที่ว่าคงไม่ใช่เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จหรอกนะ
“แพร”
ในขณะที่กำลังจะเดินเข้าไปรอเพื่อนในคลับจู่ๆ ก็มีเสียงเรียกชื่อของฉันดังขึ้น เสียงนั้นเป็นเสียงที่ฉันคุ้นเคย
“…พี่เพิร์ท”
ฉันเผลอกำมือแน่นเมื่อเห็นพี่เพิร์ทกำลังเดินมาทางนี้ ทั้งที่พยายามจะลืมแล้วแท้ๆ แต่ทำไมต้องมาเจอกันแบบนี้อีก
“มาเที่ยวคนเดียวหรอครับ ?” พี่เพิร์ทมองซ้ายมองขวาไม่เห็นใครมากับฉันจึงถาม
“แพรมากับเพื่อนค่ะ เดี๋ยวเพื่อนตามมา” แปลกนะ ทั้งๆ ที่ฉันควรจะเกลียดผู้ชายคนนี้แท้ๆ เพราะเขาเป็นคนทิ้งฉันไป เขาเป็นคนทำให้ฉันเจ็บปวด แต่ทำไมฉันถึงยังหวั่นไหวทุกครั้งที่ได้เจอหน้า
“เดี๋ยวนี้มาเที่ยวบ่อยนะ” ที่ถูกถามแบบนี้ก็เพราะตอนฉันคบกับเขาฉันไม่ได้มาคลับเลย พี่เพิร์ทไม่ชอบให้เที่ยวทั้งที่ฉันชอบดื่มชอบปาร์ตี้แต่ก็ยอมตามใจเขา
“ไม่มีคนห้ามแล้วนี่คะ” ฉันจ้องลึกไปที่ดวงตาของผู้ชายตรงหน้า มันไม่มีอะไรเลยนอกจากความว่างเปล่า
“วันนั้นไม่เห็นไปรอพี่ที่ห้องเลย”
“…..” เมื่อถูกถามแบบนี้มันก็จุกอกเหมือนกันนะ ความต้องการของเรามันต่างกันจริงๆ
“พะ แพรขอตัวก่อนนะคะ”
หมับ! ยังไม่ทันจะได้ก้าวขาเดินพี่เพิร์ทก็รั้งแขนฉันเอาไว้ซะก่อน
“ไปหาที่เงียบๆ คุยกันหน่อยไหม”
“มีอะไรต้องคุยอีกหรอคะ” ฉันพยายามจะดึงมือกลับแต่เขาไม่ยอมปล่อย
“ไปคุยกันที่ห้องพี่ได้ไหม ?”
แค่เอ่ยปากมาแบบนี้ฉันก็รู้แล้วว่าความต้องการของผู้ชายตรงหน้าคืออะไร วันนั้นฉันคิดน้อยไปที่บอกว่าจะยอมเขา แต่ตอนนี้ต่อให้ยังรักอยู่ฉันก็ไม่ยอม เพราะพี่เพิร์ทไม่ได้รักฉันเลย
“แพรกับพี่เพิร์ทเลิกกันแล้ว ต่างคนต่างอยู่แล้วจะให้ไปที่ห้องเพื่ออะไรหรอคะ อยากได้แพรขนาดนั้นเลยหรอ” ฉันยิงคำถามออกไปตรงๆ ทำให้เขาเงียบ
ฉันเบือนหน้าหนีสายตาเหลือบไปเห็นกลุ่มวัยรุ่นกำลังเดินมาทางนี้ หนึ่งในนั้นมีเด็กผู้ชายที่ฉันรู้จัก ‘อลัน’
อลันมองมาด้วยสายตาที่เย็นชา ฉันพยายามส่งสายตาสื่อให้เขารู้ว่าฉันต้องการความช่วยเหลือ แต่ทว่าเขากลับเฉยเมยและเดินผ่านไปทำเหมือนไม่รู้จักฉันเลยด้วยซ้ำ
“พี่รู้ว่าแพรยังรู้สึกดีกับพี่อยู่นะ”
“ปล่อยแพร” ฉันรวบรวมแรงทั้งหมดดึงแขนตัวเองจนหลุดพ้นจากการจับกุมของพี่เพิร์ท ก่อนจะพูด “ใช่แพรยังรู้สึกและแพรก็เสียใจมากที่ยังรักผู้ชายที่เห็นแก่ได้แบบพี่”
ฉันพยายามกลั้นเสียงสั่นเครือเอาไว้พอพูดจบก็รีบเดินเข้ามาในคลับ ไม่รู้ว่าพี่เพิร์ทได้ตามมาหรือเปล่าเพราะฉันไม่ได้หันกลับไปมองเขาอีกเลย
วันนี้คนค่อนข้างเยอะคงเป็นวันศุกร์ด้วยโชคดีที่จองโต๊ะเอาไว้แล้ว ส่วนหนึ่งที่ฉันชอบมาดื่มที่นี่คงเป็นเพราะสนิทกับเจ้าของคลับด้วย เจ้าของที่นี่ชื่อเฟย ฉันจะเรียกเขาว่าเฮียเฟย เมื่อก่อนเฮียเฟยเข้ามาจีบฉันแต่ฉันไม่ได้เล่นด้วย จีบไปจีบมาเราก็สนิทกัน ตอนนี้ก็เป็นพี่น้องที่สนิทกันมากๆ ไปแล้ว
“มาคนเดียวหรอ เพื่อนล่ะ ?” เฮียเฟยเดินมาทักทายฉัน
“เดี๋ยวตามมาค่ะเฮีย”
“ห่างหายไปนานนึกว่าจะเลิกเที่ยวไปแล้วซะอีก”
“ของแบบนี้เลิกได้ที่ไหนล่ะคะ คงต้องรอให้แก่จนถือไม้เท้าก่อน ^_^”
“ถ้าอย่างนั้นก็มาทุกวันสิ เฮียอยากเห็นหน้าแพรทุกวัน” ถึงเราจะอยู่ในฐานะพี่น้องแต่เฮียเฟยก็ชอบหยอดคำหวานใส่ฉันประจำ
“เฮียไม่มีงานทำหรอคะ ?”
“ถามแบบนี้แปลว่าไล่ ?”
“เปล๊า!” ฉันพูดเสียงสูงทำให้ถูกมองค้อน
ขณะที่กำลังคุยๆ กับเฮียเฟยอยู่เพื่อนๆ ทั้งสองคนของฉันก็เสด็จมาที่โต๊ะ
“เฮียเฟยสวัสดีค่ะ / สวัสดีค่ะเฮีย” ทั้งมินนี่และขวัญทักทายเฮียเฟยอย่างสนิทสนม
“งั้นเดี๋ยวเฮียไปตรวจงานก่อนนะ มีปัญหาอะไรบอกเฮียได้”
ก่อนจะเดินไปเฮียเฟยเอามือมายีผมฉันเบาๆ และด้วยความที่ผมมันจะเสียทรงฉันจึงรีบปัดมือออกแล้วเบ้บปากใส่ไปหนึ่งที
“แกนี่ก็แปลกเฮียเฟยตามจีบมาตั้งหลายปีไม่เคยสนใจ ดันไปเปิดใจให้ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้แล้วก็มาเจ็บช้ำแบบนี้ มันน่าหยิกจริงๆ เลยนะ”
“……” พอได้ยินมินนี่ท้วงมาแบบนั้นฉันที่ยิ้มอยู่ก็หุบยิ้มทันที
“มินนี่แกมีหมาในปากหรือไง พูดทำไมเห็นไหมมันเศร้าเลย” ขวัญตีแขนมินนี่เบาๆ เพื่อตำหนิ
“ฉันโอเค” ฉันบอก
“สีหน้าแกโคตรจะไม่โอเคเลยค่ะ”
“เอางี้มาเล่นเกมสนุกๆ กัน คลายเครียด” มินนี่ออกความคิดเห็น
“เกมอะไรของแกยะ ?” ขวัญถาม
“กติกามีอยู่ว่าพวกแกต้องไปพาผู้ชายที่ฉันชี้มาดื่มที่โต๊ะให้ได้ ถ้าภายในสิบนาทียังดีลมาไม่ได้คนนั้นต้องเลี้ยงเหล้าตลอดหนึ่งเดือน”
“น่าสนอยู่นะ” ขวัญพูดแล้วหันมาถามฉัน “เอาไงแพร เล่นปะ”
“อื้อๆ ก็ได้เบื่อๆ อยู่เหมือนกัน”
“งั้นฉันขอเป็นคนออกคำสั่งคนแรก” ขวัญยกมือขึ้นสั่งมินนี่ “ยัยมินแกต้องไปพาผู้ชายโต๊ะหน้าเวทีเสื้อสีขาวคนนั้นมาดื่มที่โต๊ะ”
ขวัญขี้ไปเป้าหมายยังโต๊ะกลุ่มผู้ชายที่นั่งติดขอบเวที มินนี่ฉีกยิ้มกว้าง พูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินไป “รับรองว่าไม่ใช่ฉันที่แพ้แน่ๆ”
“แกว่ามันจะเอามาได้ไหมแพร” ขวัญถามฉัน
“แกก็รู้ว่ามินมันอ่อยผู้ชายเก่งอย่างกับอะไร”
“ก็จริงแฮะ”
เพียงไม่ถึงห้านาทีที่มินนี่เดินไป เธอก็เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับเป้าหมาย
“นี่เพื่อนมินเองค่ะ ^_^”
“สวัสดีครับ ^_^” ผู้ชายคนนั้นเอ่ยทักทายฉันกับขวัญ
“ร้ายนะแกน่ะ” ฉันมองแขนของเพื่อนที่โอบรัดแขนผู้ชายคนนั้นไว้
เมื่อเขามาที่โต๊ะเราก็ชนแก้วกันตามมารยาท สักพักมินนี่นางก็บอกให้ผู้ชายคนนั้นไปรอที่โต๊ะแล้วเดี๋ยวจะไปหาอีกรอบ
“ฉันรอดแล้วนะ! ที่นี้ฉันขอสั่งยัยแพร” มินนี่เอ่ย
“ทำไมไม่ให้ยัยขวัญเล่นก่อนล่ะ” ฉันประท้วง
“แกก่อนเลย ฉันขอทีหลัง”
“อ่าๆ ใครชี้มา” ฉันถาม
“แกต้องไปพาผู้ชายโต๊ะนั้นมา ผู้ชายที่ใส่เสื้อสีดำคนนั้น”
ฉันมองตามมือที่มินนี่ชี้ มันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญที่โต๊ะนั้นคือโต๊ะของกลุ่มเพื่อนของอลันน้องชายเพื่อนฉัน และที่สำคัญผู้ชายเสื้อสีดำทั้งโต๊ะก็มีแค่อลันที่ใส่สีดำมาคนเดียว
“เปลี่ยนคนได้ไหม ?” ฉันถามเพื่อน
“ไม่ได้ชี้แล้วชี้เลย ไปค่ะรีบไปเดี๋ยวนี้จับเวลานะ”
ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ถ้าเป็นคนอื่นที่ไม่รู้จักมันก็ไม่อะไรหรอก แต่นี่เป็นน้องชายของเพื่อน แต่ก็เอาเถอะเขารู้จักฉันคงจะยอมมาที่โต๊ะด้วยง่ายๆ
ฉันลุกขึ้นเดินแหวกฝูงผู้คนที่อัดเบียดกันจนมาหยุดที่โต๊ะของอลัน เพื่อนของอลันต่างเงยหน้าขึ้นมามองฉันแล้วก็ขมวดคิ้วอย่างแปลกใจ มีแต่อลันคนเดียวที่แสดงสีหน้าไร้อารมณ์ออกมา
“มาหาใครครับ ?” ผู้ชายคนหนึ่งที่โต๊ะถามฉัน
“อลัน” ฉันตอบ
“อลันเมียมามึงสนใจหน่อยสิวะ”
“ไม่ๆ ฉันไม่ใช่เมียเขานะ” ฉันรีบสายหน้าปฏิเสธเมื่อถูกกล่าวหาว่าเป็นอะไรแบบนั้น
“มีอะไร ?” อลันเงยหน้าขึ้นมาถามเสียงเย็น จะทำขรึมไปถึงไหนก็ไม่รู้
“ไปที่โต๊ะกับฉันหน่อยแป๊บนึง”
“เพื่อ ?”
มันรู้สึกหน้าชากับความเย็นชาของเด็กคนนี้ ดูถามสิ ทั้งที่เขาเลือกจะถามคำอื่นก็ได้