EP6.2 ll คุณพ่อหวงมากนะ [2]

1169 คำ
“ฮั่นแน่ะ พี่เตย จีบหนุ่มอ๋ออออออ” อีตั้วแสยะยิ้มพร้อมนัยน์ตารู้ทันก่อนที่ฉันจะปรายสายตาไปทางแม่ตัวดี... แหม ข่าวบ้านฉันไวยิ่งกว่าอินเตอร์เน็ต 4G อีกมั้งเนี่ย! “ทำไมอีตั้ว!!” “หนุ่มที่ไหนดวงตกมาเจอพี่เตยเนี่ย สงสัยเขาจะไม่ได้พกพระนะ พี่เตยถึงเข้าไปใกล้ได้อ่ะ” “แม่ ดูอีตั้วสิ มันว่าหนู!” ฉันจิ๊จ๊ะแล้วทำท่าจะหยิบทัพพีไปฟาดน้องซะให้รู้แล้วรู้รอด ถึงแม้อีตั้วจะตัวใหญ่กว่าฉันประมาณเท่านึง แต่มันก็เป็นน้องชายที่ถูกฉันกดขี่มาตั้งแต่มันเกิด ความหลอนในฤทธิ์เดชของฉันตั้งแต่เด็กทำให้มันเกรงกลัวบารมีของฉันอยู่บ้าง มันชะงักตอนที่ฉันเงื้อมือขึ้นมาทำท่าจะตี “แม่ ดูพี่เตยสิ พี่เตยจะตีหนู!” หนอย อีตั้ว! อียักษ์ ตัวก็เบ้อเริ่มเทิ่ม สูงตั้งเกือบร้อยแปดสิบ แต่พอโดนฉันที่ตัวเท่าเห็บมดทำท่าจะฟาดหน่อยมันดันวิ่งไปเกาะแม่แล้วงอแงเหมือนมันอายุสามขวบ! ฉันกับอีตั้วเหมือนพี่น้องที่ชาติก่อนทำบาปมาร่วมกัน ถึงจะฟาดฟันทุกครั้งที่เห็นหน้า และด้วยความที่อีตั้วเป็นน้องคนเล็กสุด มันก็มักจะได้รับการตามใจมากกว่าฉันตลอด และแม่เองก็เอาใจมันมากเพราะมันเป็นลูกชาย ทำให้ฉันที่เป็นพี่ใหญ่ต้องเสียสละบนความไม่อยากจะเสียสละ และบุคลิกลูกคนเล็กส่วนใหญ่มักจะมีความขี้อ้อนอยู่ในตัวไม่มากก็น้อย สำหรับอีตั้วนั้นมีมาก... มากกว่าฉัน มันเลยได้รับการเอ็นดูเพราะความกะล่อนปลิ้นปล้อนจากบรรดาญาติพี่น้อง ฉันเลยยิ่งหมั่นไส้มันเข้าไปใหญ่ “พี่เตย อย่ารังแกน้องสิ” แม่เข้าข้างอีตั้ว “ว่าแต่คุณหมอเค้าไม่ได้พกพระจริงมั้ย?” น่ะ! ดู๊ ดู ตอนที่อยู่กันสองคนก็เข้าข้างฉันดี แต่พออีตั้วมาเท่านั้นแน่ะ เปลี่ยนฝักเปลี่ยนฝ่าย! ฉันทำหน้ายู่ยี่ตอนที่อีตั้วกับแม่รวมพลกันขำ ก่อนที่พ่อจะก้าวเท้าเข้ามา แว่นตาดำสะท้อนกับแสงแดดในยามเช้า นางค่อยๆ ถอดออกและเข้าเรื่องทันที “แม่บอกว่าพ่อกำลังจะได้ลูกเขย” เห็นมะ ฉันบอกแล้วว่าบ้านฉันข่าวไวยิ่งกว่า 4G ดินถล่มฟ้าทลายไม่รู้ไวเท่าลูกจีบผู้ชาย! “ต๊ายยย พ่อ ไม่ใช่ลูกเขยธรรมดานะ เป็นหมอด้วย คนนี้แม่ให้ผ่านนนน!” แม่รีบวี้ดว้ายทันที ตอนนี้คุณหมอได้ถูกสถาปนาเป็นลูกเขยบ้านฉันแล้วแม้เราจะยังไม่ได้คบหรือแต่งงานกันน่ะนะ “หมออะไรอ่ะแม่ หมอผีเหรอ” อีตั้ว “แกสิผี! อีบ้า หมอรักษาคนย่ะ!” ฉันเอง “เอาละ พ่อต้องรีบหาสถานที่จัดงานแต่งซะแล้ว เอาให้สมเกียรติกำนัน พ่อต้องเชิญคนทั้งจังหวัดมาเป็นสักขีพยาน” ส่วนนี่พ่อ “เชิญภูติผีวิญญาณมาด้วยเลยนะพ่อนะ สัมภเวสี เทวดา สิบหกชั้นฟ้า สิบห้าชั้นดิน” แม่ฉันออกความเห็นด้วยสีหน้าจริงจังสุด ทำเอาฉันกะพริบตาปริบๆ คือนอกจากจะเชิญคนแล้วยังจะเชิญผี เชิญเทวดามารับรู้งานแต่งด้วยนะ คือตายไปก็ไม่มีใครกล้ายุ่งกับวิญญาณหมอแน่ๆ อ่ะ เพราะรู้ว่าเป็นผัวฉันไรงี้ ต๊าย เริ่ดดดดดด! หมอจะเป็นของฉันไปตลอดกาล เป็นผัวฉันทุกภพภูมิยังกะคำสาป “โถ พ่อ ก่อนอื่นให้คุณหมอเขาชายตามามองพี่เตยก่อนเถอะ ส่วนใหญ่หนูเห็นหมอเค้าก็คบแต่พวกหมอด้วยกันเองทั้งนั้นแน่ะ เค้าคบแต่คนฉลาดๆ ละดูพี่เตย...” อีตั้วว่าแล้วชี้นิ้วตวัดมาที่ฉัน ทำให้ทุกคนหันมามองเป็นตาเดียว “ฉันมันทำไมอีตั้ว พี่แกออกจะฉลาด ชาติเจริญ” “ลูกตั้วอย่าว่าพี่เตยสิลูก ลูกตั้วไม่เคยได้ยินเหรอ คนฉลาดมากๆ บางคนก็เป็นโรคจิตนะ หมออาจจะชอบของแปลกก็ได้” แม่ฉันพูดเหมือนเข้าข้างแต่ไม่รู้ทำไมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ “ปัดโธ่ มันจะไปยากอะไร ให้พ่อใช้อิทธิพลมืดดีมั้ย ปืนพ่อมีหลายกระบอก เจ้าของโรงพยาบาลนี่ก็เพื่อนพ่อเอง” อ่ะ เออ เอาเข้าไป แม่ก็ให้ฉันไปไหว้ศาลเจ้าพ่อเสือ ขอพระ ขอพร ขอผัวจากบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนพ่อก็จะใช้บารมีตัวเองบีบบังคับคุณหมอซะอย่างนั้น “แหม พ่อก็ จะไปทำอย่างนั้นได้ยังไง คุณหมอเขาก็กลัวสิ” ฉันจิ๊จ๊ะ “เจ้าของโรงพยาบาลนี่เพื่อนพ่ออ๋อ มีงานอะไรง่ายๆ ให้หนูทำมะ แบบว่าเพื่อจะได้เข้าใกล้คุณหมอไรงี้” “แม่บ้าน” พ่อฉันว่าก่อนจะทำให้ฉันหุบยิ้ม โอ๊ย พ่อก็! คิดว่าหน้าอย่างฉันจะสามารถทนทำความสะอาดโรงพยาบาลได้เหรอ แค่ห้องตัวเองยังไม่อยากจะกวาดเลยเนี่ย! “โหย พ่ออ่ะ เอางานอย่างอื่นสิ” “แหม พี่เตย คนอย่างพี่เตยทำงานอะไรได้ในโรงพยาบาลน่ะฮะ คนในนั้นเค้าก็ต้องใช้ความรู้ความสามารถทั้งนั้นนน” อีตั้วกวนประสาทฉันอีกรอบก่อนจะหัวเราะเอิ๊กอ๊าก “เอ๊ะ อีตั้ว!” “อะไรพี่เตยยยยย” อีตั้วทำหน้ากวนประสาทเหมือนจะยั่วตีนฉันแล้วมันก็รีบวิ่งไปหลบหลังแม่ ฉันส่งเสียงฮึ่มฮั่มในลำคอ พลางคิดว่าจะหาข้ออ้างอะไรไปเจอหมอดี คือคราวที่แล้วฉันก็แกล้งป่วยละงะ ละหมอก็จับได้ แถมเมื่อวานหมอก็บอกว่าต้องการพักผ่อน ไลน์หมอก็ไม่ค่อยตอบ โทรไปยิ่งแล้วใหญ่ คือพออยู่ตรงหน้าแล้วนั่งคุยกัน หมอเหมือนผู้ชายเฟรนด์ลี่ที่เข้าถึงง่าย แต่ติดต่อไม่ง่ายเลยนะจ๊ะ ทักไปทีนี่ดูซีรีส์จบไปสามเรื่อง หมอถึงจะมีเวลามาตอบ เฮ้อออออ ถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ความสัมพันธ์ฉันกับหมอจะพัฒนาได้ยังไงล่ะ ฉันไม่อยากเป็นแค่ผู้หญิงตลกที่หมอบังเอิญรู้จักตอนมาฝึกงานนะ ฉันอยากเป็นเมียหมออ่ะ จะเป็นเมียยยยยยย! ฉันยู่หน้าแล้วสบตาครอบครัวตัวเองทีละคน ฉันแอบได้ข่าวว่าวันนี้หมอเข้าเวรช่วงเช้า พอฉันเลื่อนสายตาไปเห็นพุงอีตั้วและแก้มกระเพื่อมของมัน สมองของฉันก็ปิ๊งไอเดียขึ้นมา “อีตั้ว ช่วงนี้แกพุงออก เป็นเนื้องอกที่ท้องใช่มั้ย?” ฉันชี้นิ้วไปที่พุงมันด้วยสายตาจริงจัง “ฮะ จะบ้าเหรอพี่เตย เนื้อง่งเนื้องอกไร” “ตั้ว แกอย่ามองข้ามความผิดปกติอันเล็กน้อยสิ แกคิดดูนะ ถ้าที่จริงแล้วแกเป็นเนื้องอกแล้วรีบไปตรวจ เอาออกซะตั้งแต่มันยังไม่มาก โอกาสรอดชีวิตมันก็สูง” “พี่เตย เพ้อเจ้ออะไรเนี่ย นี่พุงหนู ไม่ใช่เนื้องอก” “หรือว่าแกท้อง!!! พ่อ ดูสิ อีตั้วมันต้องท้องแน่!”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม