EP03 ll รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลอง

1634 คำ
“จะดีเหรอครับ?” “ดีค่ะดี” ฉันรีบสนับสนุนคำของแม่พร้อมกับที่หันไปมองสายตาของเธอแล้วขยิบตาส่งซิกให้กัน “แล้วขายยังไงเอ่ย” “โอ๊ย ไม่เป็นไรค่าคุณหมอ เดี๋ยวเราก็อาจจะได้ดองเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ข้าวจานสองจานแค่นี้ แม่ให้ได้ค่า” ไม่พูดเปล่าแม่รีบส่งสายตาวิ้งๆ ให้เขา “หมอจะนั่งตรงไหนดีคะ?” ฉันมองหน้าหมอแล้วเก๊กสวยมากเท่าที่จะมากได้ “นั่งตรงนี้ก็ได้ค่ะ” คุณหมอยิ้มๆ แล้วชี้ไปที่โต๊ะไม้ใกล้ๆ ในขณะที่ฉันส่งสายตาหวานหยาดเยิ้ม แล้วยิ้มให้เขา “แต่ตรงนี้เป็นเก้าอี้ไม้นะคะ เตยกลัวคุณหมอจะนั่งไม่สะดวก เข้าไปนั่งโซฟาที่บ้านก็ได้นะคะ บ้านเตยอยู่ด้านหลังนี้เอง” ฉันชี้มือชี้ไม้ไปทางด้านหลัง บ้านของฉัน โซนด้านหน้าทำเป็นร้านอาหาร ส่วนด้านหลังเป็นที่พักผ่อนอาศัย และแน่นอนว่าหลังบ้านไม่มีใคร เหมาะแก่การที่ฉันกับหมอจะได้นั่งคุยแบบส่วนตั๊วส่วนตัวกันสุดๆ “ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหมอนั่งตรงนี้แหละ” “หมอไม่ต้องเกรงใจหรอกค่ะ เตยสะดวก” "ตรงนี้แหละค่ะ หมอนั่งได้” “เอาอย่างนั้นเหรอคะ?” “อย่างนี้แหละค่ะ” ว้า เสียดายจัง ฉันกะจะล่อลวงคุณหมอสักหน่อย กลายเป็นว่าหมอไม่หลงกลฉันอ่ะ ไม่ได้ละ ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง “เตย เอาผ้าปูโต๊ะไปปูให้คุณหมอเค้าสิลูก เดี๋ยวแม่จะตักกับข้าวให้คุณหมอทาน” พรึ่บ! เสียงสะบัดผ้าปูโต๊ะ พั่บ! เสียงเช็ดโต๊ะแบบความเร็วแสงจนโต๊ะสะอาดเอี่ยมและเงาวับจนส่องแทนกระจกได้ ผึง! เสียงวางผ้าปูโต๊ะแบบเรียบกริบ เรียบสนิทชนิดไร้รอยยับ บริการทุกระดับประทับใจ กล้องแพนกลับมาที่ใบหน้ายิ้มแย้มของฉันที่กำลังยิ้มให้หมอด้วยท่าทีกรุ้มกริ่ม “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณหมอ จะจุดเทียนเพิ่มบรรยากาศโรแมนติกด้วยมั้ยคะ” “ต้องจุดด้วยเหรอคะ ตอนนี้มันตอนกลางวัน” “เห็นคุณหมอทำงานมาเหนื่อยๆ เตยก็เลยคิดว่าถ้าจุดเทียนอโรม่าให้กลิ่นมันอบอวลจะช่วยให้คุณหมอผ่อนคลายขึ้นนะคะ” “ต๊าย ลูกเตยช่างน่ารัก เป็นห่วงเป็นใยคุณหมอจริงๆ ลูกเตยของแม่แกก็เป็นคนเอาใจใส่คนอื่นอย่างงี้ล่ะค่ะ” แม่ฉันรีบปรี่เข้ามาชงพร้อมกับอาหารที่อลังการงานสร้าง ปกติบุคคลอื่นจะได้ข้าวราดแกงอย่างสองอย่าง แต่คุณหมอกลับได้แทบทุกอย่างที่วางบนโต๊ะและใส่ถ้วยแยกกับไว้ต่างหาก ประหนึ่งสั่งจากภัตตาตาร “เยอะไปมั้ยคะเนี่ย” “แหม กินเยอะๆ สิคะคุณหมอ จะได้มีเรี่ยวมีแรง” แม่ว่าแล้วยิ้มกว้าง “อุ๊ย แต่ดูเหมือนจะเยอะไปสำหรับคนหนึ่งคนนะคะเนี่ย ตายแล้ว แม่ตักเพลินไปเลย งั้นไหนๆ ลูกเตยก็ยังไม่ได้ทานข้าวใช่เปล๊า” นางเสียงสูงแล้วหันมายักคิ้วใส่ฉันให้รีบพุ่งเข้าใส่โอกาสที่นางสร้างให้ ฉันรีบตอบรับด้วยความรู้ทัน “อุ๊ย จริงด้วย เตยยังไม่ได้ทานข้าวเลยค่ะ หมอจะรังเกียจมั้ยคะ ถ้าเตยขออนุญาตนั่งทานด้วยเลย หมอคงทานคนเดียวไม่หมดหรอกเนอะ” พูดจบปุ๊ป ฉันก็นั่งปั๊ป ไม่รอให้หมออนุญาต เพราะฉันสามารถจะอนุญาตตัวเองได้ “อ่า ได้ค่ะ” คุณหมอดูงงๆ เล็กน้อย “ทานให้เต็มที่เลยนะคะคุณหมอ แม่ไม่คิดเงินหรอกค่า เห็นว่าเป็นคนรักษาให้ลูกเตย ถือเป็นการตอบแทนพระคุณละกันค่ะ” แม่เอ่ยเสริมพร้อมผายมือเชื้อเชิญอย่างมีจริต “เนี่ย กับข้าวทุกอย่าง ลูกเตยก็เป็นคนช่วยทำนะคะ ลูกเตยนี่รู้งานจริงๆ เลย” “อ๋อ เหรอคะ เก่งเนอะ” คุณหมอเอ่ยปากชมและฉันก็เอียงอาย แม้ที่จริงมันจะไม่ขนาดที่แม่พูด เพราะฉันช่วยแม่แค่อย่างสองอย่างเท่านั้นแหละ แต่ฉันจะรับสมอ้างเพื่อความกุลสตรีของตัวเองละกัน ฉันหันไปขยิบตาให้แม่ นางอวยฉันสุดชีวิต ถ้าใส่พานประเคนให้หมอได้ก็คงทำไปแล้ว “นั่นสิคะ ถ้าใครได้ลูกเตยไปเป็นลูกสะใภ้คงจะเป็นบุญมากเลยล่ะค่า” อวย อวย และอวยไปอีก อวยกว่านี้ได้อีกมั้ยเนี่ย! “แหม แม่ก็เว่อร์อีกแล้ว” ฉันอมยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจะทัดผมด้วยความเขิน หมอหัวเราะเล็กน้อยก่อนทำท่าจะตักอาหารใส่จานตัวเองหากแต่ก่อนที่หมอจะได้ยกช้อนกลาง ฉันก็ฉวยมันเสียก่อนและตักหมูใส่ในจานหมอทันที! “อันนี้อร่อยมากเลยค่ะคุณหมอ คุณหมอน่าจะลองทานนะคะ” “อะ อ๋อ” “ต๊าย เห็นคุณหมอกับเตยอยู่ด้วยกันสองคนแล้วดูเข้ากันมากเลยล่ะค่ะ ที่จริงเมื่อก่อนแม่ก็เคยฝันนะคะว่าอยากมีลูกเขยเป็นหมอ” แม่ว่าแล้วเหล่สายตามาที่หมอ “แหม แม่ พูดอะไรเนี่ย” ฉันว่าแล้วขยิบตาให้แม่ ส่วนคุณหมอก็นั่งยิ้มเล็กๆ “เตยกับคุณแม่นี่ก็น่ารักดีนะคะ ดูสนิทกันดี” “แล้วคุณหมออยากสนิทด้วยมั้ยล่ะค่ะ” ฉันอมยิ้มกริ่มก่อนจะส่งสายตาพริ้งพราวไปให้คุณหมอ แสร้งเอียงอายเล็กน้อยพอเป็นจริตของผู้หญิง และสิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงหัวเราะของนาง “ก็ดีนะคะ เตยเป็นคนตลกดี” “แหม ดีจังค่ะ คุณหมอเห็นเตยเป็นคนตลก เขาว่าสวยมักนก ตลกมักได้... ไม่รู้จริงมั้ยนะคะ โฮะๆๆๆ” “โฮะๆๆๆ สงสัยแกจะได้เชื้อแม่มาเยอะน่ะค่ะ บ้านเราเฮฮาทุกคนเนอะลูกเตย” ฉันกับแม่หัวเราะกันอย่างเริงร่าหน้าบานกับว่าที่ลูกเขยของบ้านคนใหม่ ปกติแม่ฉันไม่ค่อยอะไรกับเรื่องแฟนแต่พอรู้ว่าคนที่ฉันชอบเป็นหมอ นางก็ออกตัวช่วยเต็มที่ “กับข้าวอร่อยมั้ยคะคุณหมอ” แม่ฉันหันไปถามด้วยใบหน้าใจดี ปรนนิบัติพัดวีอยู่ข้างกายหมอไม่ห่าง ยิ่งกว่าฉันที่เป็นคนจีบเสียอีก “อร่อยดีค่ะ” หมอยิ้มหวาน “มาเป็นลูกเขยแม่สิคะ เดี๋ยวจะได้กินฟรีทุกวันเลยค่า” คุณนายหยอดไปหนึ่งดอกก่อนจะหัวเราะอย่างอลังการ ในขณะที่หมอก็ขำตามไปด้วย “คุณแม่อารมณ์ดีจังเลยนะคะ” คุณหมอเอ่ยปากชม “ว่าแต่หน้าตาดีๆ แบบนี้คุณหมอมีแฟนรึยังคะเนี่ย” แม่หลอกถามแทนฉัน และเราก็หันไปสบตาอย่างรู้กัน ในวินาทีนั้นฉันใจเต้นแรงมากเพื่อรอคำตอบของเขา ถ้าหมอโสดฉันก็จะได้เดินเครื่องจีบเต็มกำลัง แต่ถ้าหมอมีแฟนแล้วฉันก็คงแห้วไปตามระเบียบ หมอเว้นจังหวะไปเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าฉัน “ที่จริงก็เพิ่งเลิกไปนะคะ เป็นหมอก็งี้ล่ะ ไม่ค่อยมีเวลาดูแลใครเท่าไหร่” คุณหมอทำหน้าสลดเล็กน้อย เขาคงเศร้าที่เพิ่งเลิกกับแฟน แต่ฉัน.... โอ้ เยสสสสสสสสสสสสสสส เยสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส!!! เพิ่งเลิกกับแฟนก็เท่ากับว่า = หมอไม่มีแฟน โฮะๆๆๆ โชคชะตาช่างเข้าข้างฉันเสียจริง นังผู้หญิงคนนั้นมันโง่นักที่ปล่อยของดีซะได้ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันจะรับหมอมาไว้ในอ้อมอกและดามใจเขาเอง “โถ คุณหมอ อย่าเศร้าไปเลยค่ะ ต่อให้หมอไม่มีใคร หมอก็มีเตยอยู่นะคะ” ฉันว่าก่อนจะถือโอกาสพุ่งเข้าไปฉวยมือหมอมาจับราวกับกำลังให้กำลังใจเขาอยู่ ฉันทำหน้าตามุ่งมั่นพร้อมเม้มริมฝีปากเล็กน้อย “ T-o-e-y-0-5-6-8-X แอดไลน์เตยมาเลยนะคะหมอ ถ้าเครียดอะไรเตยก็พร้อมจะเป็นกำลังให้หมอเสมอ 24 ชั่วโมงเหมือนเซเว่นเลยค่ะ” “จะดีเหรอคะ หมอกลัวจะรบกวนเตยรึเปล่า” “ไม่รบกวนเลยค่ะหมอ เตยสะดวกใจมากค่ะ ทักเลยนะคะ แอดตอนนี้เลยก็ได้ค่ะ เอามือถือขึ้นมา เตยกดให้” หมอหัวเราะกับท่าทีของฉันเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเขาเกรงใจหรือไม่กล้าปฏิเสธก็เลยหยิบมือถือขึ้นมายื่นให้ ฉันรีบกดอย่างไวเหมือนกลัวเขาจะดึงมือถือกลับ “หมอจะกล้าทักเตยมั้ยเนี่ย” เขาว่าอย่างลังเลใจในขณะที่ฉันเงยหน้าจากมือถือพร้อมท่าทีจริงจัง “ทักเถอะค่ะ!” “แต่บางทีหมอก็อยู่เวรดึกนะคะ” “ทักได้ค่ะ” “จะดีเหรอ?” “ดีที่สุดเลยล่ะค่ะ! ดีกว่านี้ไม่มีอีกแล้วค่ะ” ฉันว่าด้วยเสียงดังฟังชัดขนาดที่ยืนอยู่หน้าปากซอยก็ยังได้ยิน “แล้วถ้าหมอไม่ทักไป เตยจะทำไงคะ?” เขายิ้มเล็กๆ เมื่อเห็นท่าทีวอนนาบีของฉัน และด้วยปฏิกิริยาตอบรับอัตโนมัติที่ไม่ทันคิดของตัวเอง ฉันก็เผลอแสดงความต้องการออกไปโต้งๆ “ทักเถอะค่ะ อยากได้มาก” อุ้ย... ...ตายละ หลุดอ่ะ เพราะฉันหลุดพูดไป หมอเลยชะงักไปเล็กน้อย ฉันเบี่ยงสายตาไปทางอื่นคิดหาทางทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้หมอตกใจ หากแต่จู่ๆ หมอก็หัวเราะแล้วตอบฉันด้วยใบหน้ายิ้มจนตาหยี “เตยคะ” “คะ?” ฉันสะดุ้งเล็กๆ “หมอมีอะไรจะบอก” “อะไรเหรอคะ?” “หมอยากนะ” เขาบอกกับฉันแค่นั้น สั้นๆ สามคำ ใจความกำกวมแต่ฉันรู้ว่าหมอหมายถึงอะไร... แหม หมอละก็ สงสัยหมอจะไม่เคยฟังเพลงบิ๊กแอส... รู้ว่าเสี่ยง แต่คงต้องขอลองไงค๊า!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม