วันที่พัชราเดินมาบอกลูกๆทั้งสองคนว่าจะย้ายมาดูแลยายที่กรุงเทพ พิมวารีก็ออดอ้อนขอติดสอยห้อยตามมาด้วยเพราะเธออยากมาสัมผัสเมืองหลวงของประเทศ ส่วนพลอยรดาตั้งใจจะมาทำงานที่กรุงเทพอยู่แล้วจึงตามมาด้วย
พลอยรดารู้จักคนที่ทำงานอยู่ในวงการบันเทิงเป็นผู้จัดการดารา เรียกว่าสนิทกันก็คงได้ เธอกะจะมาขอคำแนะนำในการเริ่มต้นธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าเพราะคิดว่าอีกฝ่ายน่าจะรู้จักคนเยอะพอสมควร น่าจะมีไอเดียดีๆให้เธอได้
ด้วยเหตุนั้นพลอยรดาจึงต่อสายหา ‘เอ๊ะ’ ผู้จัดการดาราชื่อดัง เธอจำไม่ได้ว่าดาราที่เอ๊ะดูแลอยู่ชื่ออะไร จำได้แค่ว่าดังมาก
สองสายแรกอีกฝ่ายยังไม่รับสาย พลอยรดามองชื่อ ‘พี่เอ๊ะ’ ที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์ในหน้าโทรออกก่อนจะเก็บมันลงกระเป๋า
พี่เอ๊ะน่าจะติดงาน พลอยรดาคิดแบบนั้น
“ทำไมทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะพี่พลอย”
พลอยรดาละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์ หันไปมองน้องสาวที่เดินมานั่งข้างๆ พลอยรดาเอนหลังพิงโซฟาก่อนจะตอบคำถาม
“พี่เอ๊ะไม่รับสายพี่เลยน่ะสิ”
“พี่เอ๊ะที่เคยมาเที่ยวบ้านเราตอนพิมอยู่มอต้นน่ะเหรอ” พลอยรดาพยักหน้า
“อื้ม”
“พี่เขาติดงานหรือเปล่า”
“อาจจะใช่...”
พลอยรดาจะไม่เครียดและกังวลขนาดนี้ถ้าเธอติดต่อพี่เอ๊ะได้ในวันแรกที่เธอมาถึงกรุงเทพ นี่ก็ผ่านมาสองวันแล้ว อีกฝ่ายยังไม่รับสายของเธอ
นี่มันผิดปกติ...เธอกับพี่เอ๊ะไม่ได้มีเรื่องราวบาดหมางอะไรกัน ตอนที่คุยกันครั้งล่าสุดตอนที่เธออยู่เชียงใหม่ก็ยังคุยกันสนิทสนมดี และที่สำคัญพี่เอ๊ะไม่เคยไม่รับสายของพลอยรดา
เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่านะ?
พลอยรดาครุ่นคิด เธอไล่ควานหารายชื่อของคนที่อยู่ในหัวที่น่าจะติดต่อพี่เอ๊ะอยู่ ทันใดนั้นก็มีชื่อของคนๆหนึ่งเด้งขึ้นมาในหัว บางทีคนๆนั้นอาจจะรู้ข่าวคราวของพี่เอ๊ะบ้างก็ได้
“พิมออกไปซื้อของนะ พี่พลอยเอาอะไรไหม”
พลอยรดาส่ายหน้าเป็นคำตอบ พิมวารีเองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไรอีก คล้อยหลังน้องสาว พลอยรดาก็ไล่หาชื่อคนที่เธอบันทึกเอาไว้ เมื่อเจอชื่อเป้าหมายแล้วจึงกดโทรออก รอสายไม่นานนักอีกฝ่ายก็กดรับ
“ธารินทร์พูดสายครับ”
“พี่ธาร พลอยเองนะคะ”
“พลอย..? พลอยรดา..?”
“ค่ะ พลอยรดา”
“มีอะไรหรือเปล่าพลอย” ปลายสายเอ่ยถาม เพราะนานๆทีพลอยรดาจะติดต่อหาเขา เขาจึงค่อนข้างแปลกใจที่อยู่ๆอีกฝ่ายติดต่อมาหาก่อน
“เอ่อ...พี่ธารยังติดต่อพี่เอ๊ะอยู่ไหมคะ”
“เอ๊ะ...ผู้จัดการของเสือ คณาธิปเหรอ”
พลอยรดาชะงักไปสามวินาทีเห็นจะได้ จะใช่เอ๊ะเดียวกันไหมนะ...เธอเริ่มไม่แน่ใจเพราะชื่อที่ธารินทร์เอ่ยต่อท้ายนี่แหละ ทำยังไงได้ ก็พลอยรดาจำชื่อดาราคนนั้นไม่ได้นี่
“อ่า...พี่เอ๊ะ นรีรัตน์น่ะค่ะ” เพื่อป้องกันการเข้าใจผิด พลอยรดาจึงเลือกที่จะเอ่ยชื่อจริงของพี่เอ๊ะต่อท้าย อย่างน้อยคนชื่อเอ๊ะ นรีรัตน์ก็คงไม่โหลหรอกมั้ง
“เอ๊ะทำไมเหรอ”
“คือพลอยติดต่อพี่เอ๊ะไม่ได้เลย พี่ธารพอจะรู้ข่าวคราวของพี่เอ๊ะไหมคะ”
“รู้สิ”
คำตอบจากธารินทร์เรียกรอยยิ้มของพลอยรดาได้ในทันที แต่วินาทีถัดมารอยยิ้มนั้นก็ต้องหุบลงฉับพลัน
“เอ๊ะเกิดอุบัติเหตุตกบันไดเมื่อสองวันก่อน ตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล xxx”
“ขอบคุณค่ะพี่ธาร”
พลอยรดาไม่ลืมกล่าวขอบคุณธารินทร์ เธอรีบออกจากบ้านโดยทิ้งโน้ตเอาไว้ให้แม่และน้องสาวว่าจะไปเยี่ยมรุ่นพี่ที่โรงพยาบาล อาจจะกลับช้า กินข้าวกันก่อนได้เลย ไม่ต้องรอ
…
“พี่เอ๊ะ!”
พลอยรดาถลาเข้ามายังเตียงที่เอ๊ะนอนรักษาตัวอยู่ ผู้จัดการสาวที่ได้สติหลังสลบไปรีบเอ่ยปรามอีกฝ่าย
“เดี๋ยวก็ล้มหรอกพลอย”
“พี่เอ๊ะเป็นยังไงบ้าง เจ็บหรือเปล่า แล้วไปทำท่าไหนถึงได้ตกบันไดได้”พลอยรดารัวคำถามจนเอ๊ะอดหัวเราะให้กับท่าทีของรุ่นน้องเบาๆไม่ได้
“พี่ต้องตอบคำถามไหนก่อนดีเนี่ย”
“พลอยเป็นห่วงพี่แทบแย่ ดูสิเนี่ย เข้าเฝือกหนาขนาดนี้ไม่อึดอัดแย่เหรอ”
“ทำยังไงได้ล่ะ ก็ขาพี่หักนี่นา เลยต้องดามเฝือกหนานิดหนึ่ง”
“อะไรนะคะ ขาหัก!!!” พลอยรดาเผลอตะโกนลั่น
“ชู่วว เบาๆสิพลอย”
“ขอโทษค่ะ แต่ถึงขั้นขาหักเลยเหรอคะ” พลอยรดาลดเสียงลง
“ก็นะ เล่นตกจากชั้นบนลงมาไม่หักสิแปลก” เอ๊ะหัวเราะน้อยๆ
“พลอยมาก็ดีแล้ว พี่มีเรื่องรบกวนพลอยหน่อย” พลอยรดาเลิกคิ้ว
“อะไรเหรอคะ ถ้าพลอยช่วยได้พลอยจะช่วยเต็มที่เลย”
“เป็นผู้จัดการชั่วคราวแทนพี่หน่อยสิ เดี๋ยวพี่คุยกับทางค่ายให้”
“...”
“หา!!!”
พลอยรดาสตั๊นท์ไปพักหนึ่งก่อนจะตะโกนลั่นห้อง เมื่อสติที่หายไปบางส่วนหลังจากได้ยินคำขอของคนตรงหน้าเริ่มกลับมา
“อันนี้ไม่ได้ค่ะพี่ ไม่ได้จริงๆ”
พลอยรดาปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา แม้จะเป็นรุ่นพี่ที่รักและเคารพแค่ไหน แต่พลอยรดาก็รับคำขอของอีกฝ่ายไม่ได้ เธอเรียนจบด้านออกแบบและดีไซน์ ความฝันของเธอคือการได้สร้างแบรนด์ของตัวเองไม่ใช่มาเป็นผู้จัดการดารา
“หกเดือนนะพลอย พี่ขอแค่หกเดือน ช่วยพี่หน่อยนะ นะ น้า”
เอ๊ะมองตาพลอยรดาปริบๆ เธอรู้ว่าพลอยรดาแพ้การออดอ้อนแบบนี้มากที่สุด และเธอก็เชื่อว่าพลอยรดาจะใจอ่อนยอมรับข้อตกลงของเธอด้วย
“แต่พลอยอยากทำธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้า...”
“แต่มันเป็นโอกาสที่ดีมากนะพลอย พลอยลองคิดตามพี่นะ ถ้าพลอยเป็นผู้จัดการชั่วคราวหกเดือน พลอยจะได้เจอคนในวงการบันเทิงหลากหลายสายงาน และอาจจะเจอคนที่ทำธุรกิจแบรนด์เสื้อผ้าที่ประสบความสำเร็จ ดาราของพี่...เสือน่ะ เป็นดาราดัง ที่ผ่านมามีแบรนด์เสื้อผ้าติดต่อให้เสือเป็นพรีเซนเตอร์เยอะมากเลยนะ ลำพังแค่เดือนเดียวก็มีมาไม่รู้ตั้งกี่แบรนด์ มันเป็นโอกาสที่จะทำให้พลอยได้ศึกษาและเรียนรู้ก่อนเริ่มทำธุรกิจของตัวเองได้ไง”
เอ๊ะพูดยาวเหยียดโดยไม่เว้นจังหวะให้พลอยรดาตัดแทรก เธอพยายามหว่านล้อมโดยการพูดถึงแบรนด์เสื้อผ้าที่ติดต่อขอเป็นสปอนเซอร์ของคณาธิปเพื่อโน้มน้าวใจพลอยรดา ที่เธอบอกอีกฝ่ายไปไม่เกินจริงเลย แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เธอยังไม่ได้บอก นั่นคือจะมีเพียงแค่แบรนด์เดียวที่ได้ตัวคณาธิปเป็นพรีเซนเตอร์ แต่เอาไว้ค่อยบอกหลังจากพลอยรดาตกปากรับคำก็แล้วกัน
“พี่เข้าใจว่าพลอยเพิ่งเรียนจบและอยากเริ่มธุรกิจของตัวเองเร็วๆ แต่การที่ได้เรียนรู้จากมืออาชีพก่อนเริ่มน่ะ มันดีมากเลยนะ อย่างน้อยๆพลอยก็จะได้รู้จักคนในสายงานเพิ่มด้วย เวลามีพลอยสงสัยหรือมีปัญหาอะไรจะได้ขอคำปรึกษาได้ไง”
“...”
“นะพลอย พี่ขอแค่หกเดือนเท่านั้น ช่วยพี่ได้ไหม เรื่องเงินเดือนไม่ต้องห่วง พี่จะคุยกับทางค่ายเอง”
พลอยรดาคิดตามสิ่งที่อีกฝ่ายพูด ผลประโยชน์ที่เธอจะได้หลังจากเป็นผู้จัดการดาราชั่วคราวนั้นน่าสนใจไม่น้อย ไม่สิ น่าสนใจมากเลยต่างหากล่ะ ถ้านี่คือโอกาสที่จะทำให้พลอยรดาได้เรียนรู้ในสายงานของตัวเอง มันก็น่าลอง
“แค่หกเดือนนะคะ”
เอ๊ะยิ้มกว้าง เธอเชื่อว่าพลอยรดาจะทำได้และทำมันได้ดีด้วย