เมษาตาลุกโพลง
“ นี่ แกหมายความว่ายังไง แกจะว่าฉันทุเรศทุรังไม่น่าพิศวาสอย่างนั้นเหรอ ”
“ นี่ป้าจะเอาไงเนี่ย ตกลงอยากให้ผมเอาหรือไม่อยากกันแน่ ไบโพล่าร์นะเราเนี่ย เอ๊ะ หรือว่าจะเป็นวัยทอง ถ้าเป็นวัยทองเนี่ยต้องรีบไปหาหมอเอาฮอร์โมนเอาอะไรมากินเลยนะ อันตราย กระดูกผุได้เลย ” เมษาโมโหสุดขีดแต่ไม่อยากจะ ต่อปากต่อคำให้อารมณ์เสียซ้ำซาก จึงตัดสินใจออกเดินไปตามถนน โดยมีไอ้เด็กข้างบ้านขับรถตามช้า ๆ พลางหัวเราะร่วนอย่างสบายใจ ระดับความทุกข์ของเธอยิ่งสูงเท่าไร ระดับความสุขของมันยิ่งเพิ่มไปเท่านั้นสินะ
“ จะไปไม่ไป ลีลามากไม่รอนะ ทำงานที่อื่นวันแรก ถ้าไปสายเนี่ยจะเกิดอะไรขึ้นน้า ” เมษาใจหายวาบ จริงของมัน ถ้าเธอไปสายตั้งแต่วันแรก ทางสำนักงานใหญ่ที่ส่งมาจะต้องตำหนิเป็นแน่ หากโดนตำหนินั่นหมายถึงตัดคะแนน ถูกตัดคะแนนก็ส่งผลถึงโบนัสปลายปี
“ ไปก็ไป ” เธอกระชากเสียงตอบ เจ้าหนุ่มนั่นจอดรถโดยพลัน
“ ก็แค่เนี้ย ไม่เห็นต้องเรื่องเยอะตั้งแต่แรก ”
“ ไม่ต้องมาพูดมาก แล้วนี่มันขึ้นยังไงเนี่ย จะนั่งยังไง ทำไมเบาะมันไม่เท่ากันล่ะ ” เมษามองไปที่เบาะนั่งก่อนจะส่ายศีรษะอย่างอ่อนใจ นอกจากมันจะไม่ราบเรียบเหมือนรถจักรยานยนต์ทั่วไปแล้ว มันยังสูงมาก เบาะลาดเทไปข้างหน้า แล้วเวลานั่งจะสบายได้อย่างไร
“ ก็ปีนตรงเนี้ย ไอ้ที่เหยียบเนี่ย ป้าก็จับเอวไม่ก็จับไหล่ ผมไว้ ไม่ต้องกลัวตก เดี๋ยวผมคอยประคองรถและประคองป้าด้วย ”
“ อย่ามาเรียกฉันป้าได้ไหม ฉันยังไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย ” เมษาพูดพร้อมกับจับไหล่ของชายหนุ่มแล้วค่อย ๆ ปีนขึ้นไปนั่งซ้อนท้าย
“ ไม่ให้เรียกป้าแล้วจะให้เรียกอะไร เรียกเมษ์เฉย ๆ ได้ป่ะล่ะ ” มันยังยอกย้อน เธอฟาดไหล่แกร่งดังตั้บ
“ อย่ามาปีนเกลียว ”
“ อะไรของป้าวะ โน่นก็ไม่ดี นี่ก็ไม่ได้ เอาแต่ใจชะมัด พร้อมยังเนี่ย จะออกรถแล้วนะ ”
“ แล้วนี่ทำไมเบาะมันเป็นแบบนี้เนี่ย มันเทไปข้างหน้าหมดเลย เวลาที่รถขับมันก็จะ... ว้าย ! ” ยังไม่ทันที่เมษาจะพูดจบ ธันวาก็ออกรถทันที ทำให้คนซ้อนที่ยังไม่ทันจะหาที่ยึดหรือทรงตัวอะไรก็ไถลเข้าไปติดกับแผ่นหลังของชายหนุ่มทันที มันติดชนิดเนื้อแนบเนื้อทุกอณูตั้งแต่ส่วนล่างยันส่วนบน
“ กอดผมไว้ถ้าไม่อยากตก ” ชายหนุ่มเอ่ยบอก
“ นี่ ขับช้า ๆ หน่อยได้ไหม หมวกกันน็อคก็ไม่ใส่ จอดก่อน จอด ฉันอยากขยับไปนั่งข้างหลังอีกนิด ” เมษาตะโกนสั่ง หากแต่คนขับไม่ได้ยิน หรืออาจจะได้ยินแต่แสร้งทำตรงกันข้ามด้วยการขับเร็วขึ้น หญิงสาวกรีดร้องออกมาอย่างดังด้วยความตกใจ ก่อนที่จะยกมือกอดเอวเขาไว้แน่นโดยอัตโนมัติ เมื่อถึงปากซอยชายหนุ่มก็เหยียบเบรกเสียแรง อะไร ๆ ที่มันแนบแผ่นหลังเขาอยู่ก็กระแทกกระทั้นดันเข้าไปแรงกว่าเก่า
“ อ้า ซี้ด ” เมษาได้ยินเสียงครางแว่ว ๆ ดังเข้ามาในหู
“ อี๋ นั่นแกครางเหรอน่ะ ไอ้เด็กโรคจิต ! ” เธอรีบเขยิบตัวหวังจะออกห่าง แต่ชายหนุ่มก็ดันขับพุ่งออกไปอย่างเร็ว ด้วยความรักตัวกลัวตายเลยต้องคว้าร่างตัวเขาแล้วกอดเสียแน่นปากก็พร่ำบ่นสบถสาบานไม่หยุดหย่อน
“ ไอ้เด็กเวร ไอ้เด็กเปรต ขับเบา ๆ ฉันบอกให้ขับเบา ๆ โอ๊ย พ่อแก้วแม่แก้วเอ๊ย อย่าให้หนูตายเลยนะคะ ลูกหนูยังไม่จบชั้นประถมเลย ขอให้หนูได้มีชีวิตรอดไปบวชลูกด้วยเถิด ว้าย ! ”
อยู่ ๆ เขาก็เหยียบเบรก อยู่ ๆ ก็เร่งเครื่องเสียแรง สรีระบนร่างกายเบื้องหน้าเบียดบี้กระแทกกระทั้นเข้าไปที่แผ่นหลังผู้ขับจนแทบจะเป็นเนื้อเดียวกันครั้งแล้วครั้งเล่า แถมไอ้ตัวดีมันยังหัวเราะร่าราวกับสนุกเสียเต็มประดา แม้ว่าเธอจะทั้งหยิกทั้งตีมันก็ตามที
สิบห้านาทีถัดมา พาหนะเจ้ากรรมที่เมษาโดยสารมากับสารถีบ้าระห่ำก็จอดลงที่หน้าห้างสรรพสินค้าโฮมแอนด์แลนด์
“ เอ้า ถึงแล้ว จะลงไม่ลงเนี่ย กอดซะแน่นเลย เดี๋ยวก็จับขี่แทนดูคาติซะเลย ” มันว่าพลางหัวเราะเบา ๆ เมษาจึงรู้ตัวเลยรีบตาลีตาลานปีนลงจากรถอย่างรวดเร็ว
“ ไอ้บ้า ไอ้เด็กโรคจิต ไอ้วิปริต วิตถาร ” มันยิ่งหัวเราะหนักก่อนจะทำหน้าเคลิ้มตาปรือแล้วครางออกมา
“ อ้า ซี้ด ยิ่งด่ายิ่งเสียว จะมาว่าผมจิตฝ่ายเดียวก็ไม่ได้ นะครับ ก็ป้าเล่นเอาทั้งโหนก ทั้งสองเต้ามากระแทกหลังผม ไอ้ผมมันก็ผู้ชายทั้งแท่ง มันก็ต้องมีแข็งมีเสียวกันบ้าง ”
“ แกมันบ้า ไอ้บ้า ! ” พูดพลางหมุนตัวหันหลังให้แล้วรีบเดินหนี มันยังตะโกนไล่หลังพลางหัวเราะลั่น
“ เรามันก็บ้าพอกันแหละป้า ขนาดชื่อจริงยังเป็นชื่อเดือนเหมือนกันเลย เมษากับธันวา ฟ้าส่งเรามาเพื่อกันและกันชัด ๆ ”
เมษาไม่ตอบ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมันให้ยิ่งอารมณ์เสียไปกว่านี้ เธอรีบสาวเท้าพรวด ๆ ให้พ้นจากภาพและเสียงของไอ้เด็กบ้านั่น ได้ยินเพียงเสียงมันสตาร์ทเครื่องและตะโกนทิ้งท้าย
“ แล้วเจอกันนะจ๊ะที่รัก ”
ก่อนที่มันจะออกรถไป เมษาได้แต่เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันบ่นพึมพำอยู่เพียงลำพัง
“ ไอ้เด็กเปรตเอ๊ย ! ” หญิงสาวเลี้ยวเข้าไปที่ทางเดินอันทอดสู่ห้องแผนกบุคคลของทางห้างทันที พลันก็เกือบจะปะทะเข้ากับร่างหนึ่งที่เลี้ยวมาพอดีเช่นกัน
“ ว้าย ! ” แม้ว่าจะเบรกตัวเองไว้ทันยังไม่ได้ชนคนคนนั้น แต่หากเธอคงจะตกใจเลยปล่อยแฟ้มงานที่ถือมาในมือลงกับพื้นทันที เมษารู้ตัวว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามตกใจจึงรีบขอโทษขอโพยแล้วเก็บข้าวของให้ทันที
“ ขอโทษนะคะ ขอโทษด้วยค่ะ ” ก่อนจะเงยหน้ามาเจอคนคนนั้น แล้วอ้าปากค้างอย่างตกใจ
ใบหน้างามที่ฉาบเคลือบไว้ด้วยเครื่องสำอางจนงามเฉิดฉาย ผมเผ้าที่ผ่านร้านทำผมไดร์ตรงสลวยเป็นเงางาม หุ่นระเหิดระหงผอมบางในชุดยูนิฟอร์มของผู้บริหารอันเป็นชุดสูทสีส้มขาวนั้นยิ่งส่งให้ผู้สวมดูเจิดจรัสมากขึ้น แต่ไม่ว่าจะเป็นเธอจะถูกห่อหุ้มไว้ด้วยสิ่งใดก็ตาม เมษาก็ยังจำเธอได้สนิทตาสนิทใจ ว่าเธอคือคู่ขาที่ไอ้ธันวามันเซิ้งเย้ยจันทราและมวลหมู่ดาวที่ระเบียงหลังบ้าน !