CHECKMATE :: CHAPTER 2 [100%]

1329 คำ
“ไม่รับ” “แล้วแต่” “เปลี่ยนเป็นจูบแบบดูดดื่มสักสามนาทีได้หรือเปล่า?” ตุ้บ “โอ๊ย! ฮ่าๆ เจ็บนะ” “เจ็บแต่หัวเราะ โรคจิตอะ” เธอเอากรรไกรเขกศีรษะผมและเบือนหน้าหนี จนผมหันมาทำงานในส่วนของตัวเองต่อ จนเกือบพลบค่ำดาวเหนือก็ยังคงทำงานต่อไป ผมมองนาฬิกาที่ข้อมือที่บ่งบอกว่าผมควรไปได้แล้ว เพราะนัดกับไอ้บอลไว้ว่าจะไปปาร์ตี้ที่บ้านของมัน “ดึกแล้วนะครับ กลับเลยหรือเปล่า?” “ไม่อะ นายกลับไปเหอะ ขอบใจที่มานั่งช่วยทั้งที่ไม่ใช่งานในคณะของนาย” “อ้าว แล้วจะกลับยังไงครับ” “เรื่องของฉัน นายกลับไปเหอะ ฉันเหม็นขี้หน้านายล่ะ” โบกมือไล่ผมทั้งที่ยังคงจับจ้องอยู่กับงาน สายตาของผมกวาดมองไปยังคณะของเธอก็เห็นยังมีนักศึกษาอยู่จำนวนไม่มากแต่ก็ยังถือว่ามีคนอยู่ เพราะตรงนี้ถึงจะมีแสงไฟแต่ก็มืดแล้วด้วย ก่อนที่จะได้พูดอะไรกับเธอเสียงมือถือของผมก็ดังขึ้นมาขัดซะก่อน (“ไอ้อาร์! แม่งอยู่ไหนวะ ปาร์ตี้เริ่มแล้ว น้องๆ ถามหามึงล่ะ”) “เออๆ กูกำลังไป” ผมกรอกเสียลงไปอย่างหงุดหงิด มองดาวเหนือที่ยังคงไม่สนใจผมเหมือนเดิม “ผมไปนะ” “อือ” ผมลุกขึ้นเดินไปยังรถของตัวเอง ไม่วายยังคงมองร่างเล็กที่ยังคงทำงานอยู่แบบนั้น ยังพลบค่ำอยู่คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เดี๋ยวเหนื่อยก็คงกลับเอง... รถแลมโบกินีของผมเลี้ยวเข้ามาในบ้านของไอ้บอลที่จัดปาร์ตี้จนเสียงดัง รับรู้เลยว่าไอ้ซัสและไอ้นัมไม่โผล่มาแน่ เพราะต้องกกเมีย “กว่าจะมาได้ ทำห่าไรอยู่ วันนี้ก็หายหัวไปทั้งวัน” “เสือกไรด้วย กูมาก็บุญล่ะ” “เออๆ นู่น หมากฝรั่งรอมึงให้เคี้ยวอยู่” ไอ้บอลชี้นิ้วไปหาผู้หญิงคนหนึ่งที่สวยมาก เคยเห็นหน้าคงจะเป็นไอดอลวัยรุ่นแน่เพราะผมรู้ดีว่าไอ้บอลไม่เคยหาหมากฝรั่งแบบโนเนมมาเคี้ยวเล่น ผมเดินไปนั่งกับหล่อนและทำความรู้จักกันสักพักก็นัดกันว่าหลังงานปาร์ตี้ผมจะไปเคี้ยวเธอที่ห้อง สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาเรือนใหญ่ของบ้านไอ้บอลที่ตอนนี้บ่งบอกว่าเกือบจะค่อนคืนแล้ว คงจะกลับแล้วล่ะมั้ง คิดได้แบบนั้นผมเลยเลือกที่จะส่งข้อความไลน์ไป หากแต่รออยู่นานก็ไม่เห็นว่าเธอจะอ่านข้อความของผมเลยสักนิด ดาวเหนือไม่ชอบขี้หน้าผม ถ้าเห็นผมส่งไลน์ไปถี่ๆ แบบนี้คงหงุดหงิดไม่น้อย และก็ต้องไลน์มาด่าผมบ้าง แต่นี้ไม่มีวี่แววเลยด้วยซ้ำแม้แต่จะเปิดอ่าน “เป็นอะไรคะพี่อาร์?” “เปล่าครับ” “งั้นเราไปกันเลยดีไหมคะ ป้อนอยากกินพี่อาร์” เธอยิ้มกว้างกดจูบมายังแก้ม แต่ตอนนี้หัวสมองของผมไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยนะ ว้อย! เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ทำไมชอบทำให้ห่วงอยู่เรื่อยเลยนะ ผมทนหงุดหงิดใจไม่ได้เลยจริงๆ จำต้องลุกขึ้นยืนเดินไปหยิบกุญแจรถมาไว้ในมือ “พี่อาร์ไปไหนคะ? เราสัญญากันแล้ว” “พี่ไม่ลืม แต่ขอไปธุระก่อนเธอไปรอที่ห้องเธอแล้วกัน” “แต่ว่า...” เพียงแค่ผมหันไปมองเธอก็หยุดพูด ผมไม่ชอบให้คนมาตื้อผมเรื่องนี้ เพราะถ้าผมสัญญาแล้วว่าจะเอาก็คือเอา ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะไปเคี้ยวไง “อ้าวไปไหนของมึงน่ะไอ้อาร์” “ไปมหาลัย” “ห๊า! ตอนนี้เนี่ยนะ มึงลืมของเหรอ?” “มั้ง” พูดแค่นั้นผมก็กึ่งเดินกึ่งวิ่งออกมายังรถของตัวเอง ขับรถออกไปไม่ถึงสิบนาทีก็มาถึงมหาลัย รถจอดที่หน้าคณะสถาปัตยกรรมที่เงียบมาก ไม่มีใครอยู่แล้วตอนนี้รวมถึงที่ตรงนั้นที่ดาวเหนือนั่งอยู่ แล้วทำไมไม่อ่านไลน์ผมวะ! “เออขอโทษครับ รู้จักดาวเหนือหรือเปล่า?” “พี่ดาวปีห้า สวยๆ อยู่กลุ่มพี่เถื่อนใช่ไหมคะ” “ครับ คือเขากลับไปนานหรือยังครับ” “อ๋อ ก็น่าจะสิบนาทีได้นะคะ ป่านนี้คงจะถึงบ้านแล้วมั้ง” ผมยิ้มขอบคุณรุ่นน้องที่เดินมากับแฟนหนุ่ม ไม่รอช้าที่จะขับรถตรงไปยังบ้านของเธอ กลับไปเมื่อสิบนาทีที่แล้ว แต่ทำไมถึงไม่ยอมอ่านข้อความผมล่ะ หรือจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง บ้าน่า! อย่างยัยก็อตซิล่านั่น ใครจะกล้าทำอะไร ไม่สิ! เธอสวยนะ แล้วนี่ก็มืดมาก ตุ้บ! “ดาวเหนือ ทำไมต้องทำให้เป็นห่วงด้วยเนี่ย” ความร้อนใจทำให้ผมขับรถเลี้ยวเข้ามาในซอยบ้านของเธอซึ่งผมเพิ่งจะรู้ว่ามันเปลี่ยวขนาดไหน ใจมันหวังว่าจะได้เห็นเธอเปิดประตูต้อนรับผม และซ้อมผมที่มากวนดึกๆ หากแต่ว่ากลับเห็นร่างบางที่คุ้นตาเดินอยู่ริมทางซึ่งอีกไม่กี่ก้าวก็ถึงบ้านเธอแล้ว ผมเลี้ยวรถดักหน้าเธอไว้ “นะ นาย! มาทำไมอะ” ผมปิดประตูรถอย่างแรงตรงไปหาเธอก่อนจะดึงข้อมือเธอไว้และกระชากเข้าหาตัว ประกบริมฝีปากลงบนริมฝีปากแดงน่าจูบ ผมไม่รู้หรอกนะว่าตัวเองเป็นบ้าอะไร แต่แค่เห็นเธอปลอดภัยมันก็ดีใจแล้ว แต่อยากจะลงโทษผู้หญิงบ้าคนนี้ต่างหากที่ทำอะไรไม่เคยนึกถึงใจของคนที่เป็นห่วงเลยสักนิด มือของผมประคองแก้มนวลไว้ กดจูบลงอย่างแนบแน่น จนรับรู้ถึงนิ้วมือที่จิกลงกับอกของผม รู้สึกเจ็บ แต่ไม่คิดผละจูบที่ผมไม่คิดว่าจะได้สัมผัส ใช่ มันนุ่มนิ่มไปหมด ทั้งริมฝีปาก ทั้งร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่กลิ่นหอมจากตัวเธอ ดาวเหนือดิ้นไปมาเมื่อผมพยายามสอดแทรกลิ้นเข้าไป หากแต่เธอกลับปิดปากสนิท ออกแรงผลักผมจนเซออกไป เพียะ “!” “สารเลว นายมัน... ไปให้พ้นหน้าฉันเลยนะ ไอ้เด็กเหลือขอ!” รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่แก้ม แต่ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเลยสักนิด ทั้งที่รสชาติฝาดๆ ของเลือดทำให้ผมได้ลิ้มรสอย่างจัง หันไปมองเธอซึ่งโกรธจนหน้าแดง มือก็ยกขึ้นถูไปมาที่ริมฝีปากตัวเองจนลิปสติกสีชมพูเลอะไปหมด งั้นปากผมก็เลอะลิปสติกเธอด้วยสินะ “ผมแค่ห่วง คุณไม่อ่านไลน์ผม” “ไม่ต้องมาพูด ไปให้พ้นหน้าฉัน” เธอเดินสวนผมจะเข้าบ้าน หากแต่ผมก็คว้าต้นแขนไว้ แต่ก็ถูกชกเข้าที่หน้าท้องอย่างแรงจนโก่งตัวลงเพราะความเจ็บปวด “ผะ ผมเจ็บนะ!” “เลิกยุ่งกับฉันสักที ไสหัวไปซะ” พูดจบก็เดินหนีผมเข้าบ้านไป โอเค ผมผิดที่โมโหเธอจนเผลอจูบไป แต่... มันก็คุ้มค่ามากนี่นา ถึงจะเจ็บตัวแทบตาย แต่ได้จูบเธอผมว่ามันคุ้มค่ามากๆ เลยด้วยซ้ำ “ฝันดีนะครับ” ซ่า “โว้ย! ผมยังไม่อยากเล่นน้ำสงกรานต์นะ” “ไปตายซะ!” ตัวของผมเปียกไปด้วยน้ำที่เธอลงทุนเปิดประตูมาหาผมอีกรอบ และสาดน้ำในถังเพื่อไล่ผม สองมือยกขึ้นเสยผมเปียกๆ ขึ้นไป หัวเราะกับสิ่งที่เกิดขึ้นราวกับคนบ้า เมื่อนึกไปถึงคำพูดของไอ้เพื่อนสามหน่อของตัวเอง “ให้ตายเหอะพวกมึง กูว่ากู... เป็นมาโซคิสม์แน่ๆ เลยว่ะ” -AR TALK END-
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม