“เออ” ฉันเดินลงจากคณะเป็นจังหวะที่เด็กคนนั้นกำลังขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ เขาหันมามองฉันพร้อมกับส่งยิ้มให้ แต่ฉันก็เลือกที่จะเบือนหน้าหนี หากแต่ว่าดันไปเจอกับรุ่นน้องสาวๆ ที่กำลังตามกรี๊ดฉันอยู่วิ่งมาเป็นฝูงชะนีเลยนับสิบตัว
“พี่ดาวขา!”
“บ้าฉิบ นี่มันวันซวยอะไรเนี่ย” ใส่เกียร์หมาวิ่งไปหาเด็กคนนั้นทันทีอย่างรีบร้อน
ตุ้บ
“คุณดาวเหนือ”
“ออกรถสิ จะชวนฉันไปกินข้าวไม่ใช่เหรอ?”
“เออครับ” อาร์พยักหน้ารับก่อนจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ออกไปจากคณะของฉันทันที โดยมีชะนีน้อยสิบตัวกำลังยืนมองและดีดดิ้นไปมา ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกมองมือตัวเองที่เกาะไหล่เขาไว้ มองใบหน้าด้านข้างที่มีรอยยิ้มอยู่ตลอดเวลา กระทั่งรถมาจอดลงที่หน้าคณะนิเทศศาสตร์
“มากินที่คณะผมแล้วกันนะครับ จะได้ไม่มีใครมากวน”
“เออ...”
“จะปฏิเสธเหรอครับ แบบนี้ไม่ดีเลยนะ” เขาเอียงคอมองฉัน เป็นเชิงถ้าฉันปฏิเสธคงจะเป็นคนที่แย่มากๆ ทั้งที่เป็นคนตกลงกับเขา
“โอเค เดินนำไปสิ ฉันไม่รู้จักโรงอาหารคณะนายนะ”
“ครับ”
“พี่อาร์ขาไปทานข้าวกับนีน่านะ...” เด็กสาวน่าจะอยู่ปีสองวิ่งมากอดแขนอาร์ พร้อมกับมองฉันด้วยสีหน้าตกใจ เอิ่ม ยังไงจ๊ะ ฉันสวยหรือไงถึงได้มองแบบนี้
“นี่พี่ดาวสาวป๊อบคณะสถาปัตฯ”
“ใช่ มีอะไรหรือเปล่า?”
“ปะ เปล่าค่ะ แต่ว่าพี่สองคนคบกันเหรอคะ?”
“จะบ้าหรือไง! ฉันจะไปคบกับคนโรคจิตอย่างหมอนี่ได้ยังไงกัน”
“ก็มาด้วยกัน”
“มาด้วยกัน ก็ใช่ว่าจะคบกัน เข้าใจ?” ฉันเท้าเอวหาเรื่องหล่อนที่ค่อยๆ สลายหายไป เหอะ ดูยังไงว่าฉันคบกับเด็กโรคจิต สรรพนามของฉันเป็นยังไง ทุกคนในคณะและทั้งมหาลัยรู้ดี
“คุณป๊อบมากเลยนะ ดังมาถึงคณะผมเลย”
“แน่นอน คนสวยก็งี้แหละ”
“ครับ สวยจริงๆ ผมไม่เถียง แต่...”
“อะไร?” เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ริมฝีปากร้อนเฉียดใบหูไปมาจนฉันผลักอกแกร่งออกห่าง เพราะสายตาของคนในคณะเขามองเราราวกับเป็นตัวประหลาดเลยตอนนี้
“เหมือนก็อตซิล่า”
“ห๊า!”
“ไม่มีอะไรครับ ผมพูดเล่น” ฉันขมวดคิ้วมองแผ่นหลังกว้างที่เดินนำไปยังโรงอาหารของคณะ เมื่อกี้ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหม อาร์บอกว่าฉันเหมือน ‘ก็อตซิล่า’ ใช่มะ ได้ยินเหมือนฉันเปล่าทุกคน
ไอ้เด็กบ้านี้อยากตายหรือไงกัน!
โรงอาหารที่มักจะเป็นจุดส่วนรวมเสียงดังโวยวายน่ารำคาญและแออัดไปด้วยผู้คนมากมาย แต่ทำไมโรงอาหารของคณะนิเทศศาสตร์ถึงได้เงียบเป็นป่าช้า ทั้งที่มีคนมากมายนั่งกินข้าวอยู่ และสำคัญคือสายตานับร้อยที่จ้องมายังโต๊ะของฉันอีก บ้ามาก! ทำไมฉันจะต้องมานั่งอยู่ในดงสายตาคนมากมายที่เอาแต่จ้อง จ้องและจ้องด้วยเนี่ย
“ทำอะไรน่ะครับ?”
“หน้าฉัน มีอะไรติดปะ ทำไมมีแต่คนมอง” ฉันลูบหน้าตัวเองไปมา เสยผมขึ้นด้วยเผื่อว่าบนหัวมีขี้นกตกใส่ อาร์ยิ้มขำยามตักข้าวแกงเข้าปาก
“ไม่มีครับ”
“อย่ามาโกหก”
“ผมไม่เคยโกหกนะ พูดจริงเสมอ”
“งั้นเหรอ? เรื่องก็อตซิล่าก็เรื่องจริงสินะ”
“ผมลืมไปแล้วอ่า ผมพูดอะไรออกไป อืม จำไม่ได้เลย”
“แถโคตรเก่ง” เขาหัวเราะในลำคอจับจ้องฉันทุกการกระทำแม้กระทั่งตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ ฉันไม่สนใจหรอกนะที่จะต้องมานั่งทำตัวเรียบร้อย ฉันไม่ใช่กุลสตรีที่จะมานั่งยิ้มเวลากินข้าวก็ต้องกินขำเล็กๆ ต่อหน้าผู้ชายเพื่อให้ตัวเองดูดี ไม่ใช่ดาวเหนือจ้า!
“คุณทานเก่งนะครับ อยากทานอะไรอีกหรือเปล่า?”
“ไม่ พอล่ะเดี๋ยวฉันจะกลับบ้าน”
“วันนี้ไม่มีเรียนเหรอครับ พอดีเลยผมก็ไม่มี”
“แล้ว?”
“ไปเที่ยวกัน”
“ชวนแบบนี้ก็ได้เหรอ?” ฉันจับจ้องใบหน้าหล่อ รู้ว่าหมอนี่มาตามตื้อฉันเพราะอะไร ฉันโตพอที่จะรู้แล้วล่ะว่าอะไรเป็นอะไร ดูออกทุกอย่างในตัวของเด็กคนนี้
“ถ้าจะจีบเพื่อเอาไปเคี้ยวเล่น บอกก่อนนะฉันไม่ใช่ผู้หญิงปกติ”
“ผมรู้ครับ คุณดาวเหนือไม่ใช่ผู้หญิงปกติ เพราะคุณจะชกผม ทำร้ายร่างกายผม และด่าผม”
“รู้ดีนี่ งั้นก็ล้มเลิกซะ ฉันไม่สนใจนาย โอเค?” ดักคอไว้เลยล่ะ จะได้ไปๆ จากฉันสักที มีเรื่องต้องให้คิดอีกเยอะนะ โดยเฉพาะเรื่องของโย ไอ้บ้านั่น! ไปแอบกิ๊กกับคนอายุมากกว่าโดยไม่บอกฉัน
“มาบอกให้ผมเลิกทำไม ในเมื่อผมยังไม่ได้เริ่มเลย หลงตัวเองเหมือนกันนะเราอะ”
เพล้ง!
รู้สึกหน้าแตกดังมาก ฉันกำช้อนในมือไว้แน่น เงยหน้าสบตากับเขาที่ส่งยิ้มกวนตีนมาให้ ก่อนจะยิ้มส่งให้จนอาร์มึนงง เพราะมันเป็นยิ้มหวานมากที่ฉันไม่เคยยิ้มให้กับใครเลย จนเขาเนี่ยล่ะที่ได้เห็นมันคนแรกและ...
ตุ้บ
“อ๊ากกก!”
“ขอบใจสำหรับอาหารมื้อสุดท้ายนะ” ฉันลุกขึ้นหลังจากกระทืบฝ่าเท้าของอาร์อย่างแรงจนร้องดังลั่นโรงอาหาร ไม่วายยังส่งท้ายด้วยการยีศีรษะของเขาและผลักจนล้มไปบนโต๊ะอาหาร ทุกคนต่างพากันมองฉันอย่างกลัวๆ บอกแล้วไง ไม่มีใครมีรู้จักดาวเหนือสาวแสบซ่าในคณะสถาปัตฯ ผู้โด่งดังหรอก
“มาอยู่นี่เอง”
“อะไร?” หลังจากออกมาจากคณะของอาร์ ฉันก็มองร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงรถหรูสีขาวของตัวเอง โยถอนหายใจเมื่อฉันเดินสะบัดหน้าหนีมัน
“ไปไหนขึ้นรถดิวะ ไอ้เถื่อนกลับไปหาเมียแล้ว โฟมก็กลับกับผัว”
“ฉันก็กลับเอง แกไปหาเมียตัวเองดิ”
“ใครเมียฉันวะ?”
“ยัยแก่นั่นไง”
“เลอะเทอะ ก็แค่คุยกัน ว่าแต่มาทำอะไรที่คณะนัม”
“คุณดาวเหนือ!” เสียงยานครางดังขึ้นจากด้านหลังทำเอาฉันหันไปหัวเราะเขาทันที เพราะวิ่งมาทั้งที่มือยังกุมฝ่าเท้าของตัวเองอยู่ แต่อีกข้างของเขากลับคว้าต้นแขนฉันไว้
“อะไร ไม่เข็ดเหรอ?”
“แค่ล้อเล่นเองนะ ทำไมต้องโกรธด้วย”
“ใครโกรธนายอย่ามามั่ว ปล่อย” ฉันมองต้นแขนตัวเอง อาร์ทำได้เพียงคลายมือออกแต่ก่อนจะได้พูดอะไร สาวสวยที่แต่งตัวนักศึกษาต่างสถาบันก็มาแทรกกลางระหว่างฉันกับเขา
“พี่อาร์”
“จัสมิน เธอมาได้ไง?”
“ก็พี่อาร์โทรหาจัสเมื่อคืน บอกว่าอยากเจอกัน” อาร์ทำหน้ามึนแต่ก็ยิ้มออกมา เขามองฉันที่เดินหมุนตัวไป เพราะไม่ได้สนใจอะไรเขามากเท่ากับคนที่กำลังเดินตามฉันต้อยๆ
“ดาว กลับด้วยกันดิวะ”
“ไปหาเมียแกดิ”
“โว้ย! ไม่ใช่เมียเว้ย กูไม่มี เข้าใจยัง” มันคว้าข้อมือฉันและลากไปยังรถของตัวเอง โดยที่อาร์ยังคงไม่ขยับไปไหนทั้งที่สาวยืนกอดแขนอยู่ ฉันถอนหายใจเมื่อขึ้นรถมากับโยแล้ว
“หมอนั่นจริงจังที่จะจีบแกหรือไง?”
“ไม่รู้”
“มีอะไรให้ช่วยก็บอก ถ้ารำคาญเดี๋ยวจับซ้อมให้”
“ตลก อย่างแกน่ะเหรอจะซ้อมใคร โดนฉันซ้อมก็นอนตายอย่างหมาล่ะ”
“แกเป็นเพื่อนถึงได้ยอม ถ้าคนอื่นไม่ได้แดกหรอกบอกเลย” คำว่าเพื่อนที่ออกมาจากปากของโย ทำเอาฉันนิ่งไปทันที รู้ดีอยู่แล้วว่ามันน่ะมองฉันเป็นแค่เพื่อนมาตลอด แต่ทำไมฉันถึงไม่มองมันให้เหมือนเดิมกัน
ทำไมถึงไม่มองมันให้เหมือนตอนนั้น... ตอนที่ยังไม่ได้รู้สึกอะไรมากไปกว่านี้