ก็เลยตัดสินใจเดินออกไปที่ประตูเล็กแล้วเดินออกมาที่ปากซอยกวักมือเรียกรถแท็กซี่ไปหาเพื่อน ขณะนั้นเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่มแล้วบรรยากาศในซอยมีพ่อค้าแม่ค้าขายอาหารตามสั่งในตอนกลางคืน และขายก๊วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ มองผ่านภาพเหล่านั้นจนกระทั่งถึงที่หมาย พีรธานออกมารับเขาที่ข้างนอกพาเข้าไปข้างใน แล้วทรุดนั่งเอ่ย
“เรามีข่าวดีจะบอกกัลย์สักหน่อย..แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องดีหรือไม่ดีสำหรับกัลย์”
พอเห็นหน้าเขาปุ๊บ พีรธานก็เอ่ยขึ้นทันที กัลย์ขมวดคิ้วเอ่ยถาม
“แล้วเรื่องอะไรวะ”พีรธานเงียบไปครู่ก่อนบอกเพื่อน
“คือว่าเรากำลังจะบินไปเมืองนอกไม่นานจากนี้ล่ะอาจจะสิ้นเดือนมันกะทันหันนะเพราะเป็นคำสั่งให้ไปเรียนหนังสือที่อเมริกาสักระยะเราว่ามันเร็วมากนะจนเราแทบตั้งตัวไม่ติดคุณพ่อคุณแม่ก็อยากให้ไป”เขารู้สึกใจหายในคำที่พีรธานเอ่ย
“ว่าไงเซอร์ไพรสมั๊ย”เอ่ยขึ้นระหว่างก้าวเดินไปข้างในพร้อมกัน
กัลย์ณพตอบเพื่อนว่า
“เซอร์ไพรสอย่างแรง แรงจนน่าตกใจว่ะแต่ก็เป็นผลดีสำหรับนายนะ สำหรับเราใจหายนายได้พบอะไรดีๆที่โน่นการศึกษาก็เพิ่มสูงขึ้นไปอีกนายโชคดีเสมอ”
กัลย์เป็นฝ่ายตอบหลังจากอึ้งพยายามควบคุมสติพูดถึงฐานะของเพื่อนคนนี้พร้อมสรรพด้วยสำหรับทุนทรัพย์ การจะไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองที่ค่าครองชีพสูง
ซึ่งกัลย์ไม่อยากเอาตัวเองไปเทียบเปรียบและอาจเอื้อมเพราะมันคงเป็นไปไม่ได้วาสนาของพีรธานดีกว่าที่ได้เกิดเป็นทายาทมหาเศรษฐี สำหรับเขาเป็นแค่ผู้ดีตกยาก
“แปลกใจไหม? ที่เราต้องรีบบอกนายในตอนนี้คืนวันนี้ด้วยนะกัลย์” หลังจากที่ทิ้งคำถามให้เพื่อนคิดแล้วเป็นการกรุยเกริ่นเรื่อง
พีรธานถามอีกหันจ้องเพื่อน แต่กัลย์ส่ายหน้า
“ไม่รู้เหมือนกัน ”กัลย์ณพตอบ
“นั่นเป็นเพราะว่าเช้าพรุ่งนี้นั้นเราต้องขึ้นเครื่องบินไปลงที่ภูเก็ตถึงห้าวันเต็มดูแลเกี่ยวกับกิจการโรงแรมของครอบครัว แล้วก็ขอพักผ่อนไปในตัวด้วยจากนั้นอีกสองวันก็บินกลับกรุงเทพมาเพื่อเตรียมตัวไปอเมริกาเสียที”
แม้จะใจหายแต่เมื่อเพื่อนไปแล้วได้ดีเขาก็อดไม่ได้ที่จะแสดงความดีใจให้เพื่อน
“งั้นฉันขอแสดงความดีใจกับนายด้วยนะพี”
ชื่นชมให้กำลังใจเพื่อน
เพื่อนของเขาคนนี้ได้ไปเรียนต่อถึงเมืองนอกเขาก็ดีใจนัก
พีรธานนั้นมาจากครอบครัวที่สามารถดลบันดาลให้เขาได้ทุกอย่างทางด้านวัตถุเงินทองวันนี้พีรธานตั้งใจพาเขามาเลี้ยงฉลองล่วงหน้าก่อนที่จะไม่ได้พบเจอกันอีกเลย คงเป็นเวลานานเพราะอยู่คนละทวีปฝั่งฟ้ามหาสมุทร
ชีวิตที่ต่างกันต่างทั้งสังคมชนชั้นและฐานะแต่ความเป็นเพื่อนนั้นไม่ได้แตกต่างกันเลย
“เราไปนานเหมือนกันนะกัลย์คิดว่าห้าปี”
เจ้าตัวเอ่ยย้ำอีก
”แต่เราก็ใจหายที่จากเพื่อนอย่างนายไป”
พีรธานคบกับคนง่ายยอมลดตัวเองมาคบและคลุกคลีเพื่อนอย่างกัลย์ จนคบและสนิทสนมกันนิยามนี้พีรธานให้ความหมายในการคบหากันระหว่างเขาและกัลย์ไม่แตกต่างกันนัก
“ไปตั้งห้าปีเชียวหรือวะ”กัลย์ณพอุทานออกมา
“ใช่ นานขนาดนั้นแต่ว่ามันอยู่ที่อนาคตนะกัลย์ว่าเราจะเอายังไงต่อจะอยู่ต่อหรือกลับบ้าน หลังจากที่จบแล้วเรื่องนี้ก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน” กัลย์พยักหน้า
“หัวนายดี เรียนก็เก่ง คงจบเร็วล่ะ”
เพื่อนสนิททั้งสองคุยกันออกรสเหมือนอาหารที่ทั้งคู่ทานด้วยกัน มื้อนี้ พีรธานเป็นคนจ่ายเองและเลี้ยงด้วยในฐานะที่เขาจะบินไปเมืองนอกแล้ว
ขณะนั้นทั้งคู่ไม่ได้ใส่ใจหนุ่มและสาวที่นั่งอยู่ตะใกล้เคียงด้านหลัง ซึ่งมีกระถางบอนไซคั่นเอาไว้แต่น้ำเสียงนั้นคาดเดาได้ว่า เป็นคนที่รู้จัก
สรัยภาคุ้นเหลือเกิน แล้วนั่นเขาที่เป็นคุณครูสอนภาษาอังกฤษของหลานทั้งสองนั่นเอง
“อวยพรให้เราแต่เนิ่นเนิ่นๆเลยนะขอให้สมพรปากเถอะ แต่ว่าไปนานอย่างนี้ หวังว่าเรากลับมากัลย์คงจะแต่งงานไปแล้วนะ”
กัลย์สะดุ้งเล็กน้องที่เพื่อนของเขาเอ่ยถึงเรื่องแต่งงาน เจ้าสาวของเขาเป็นใครกัน ยังมองไม่เห็นเลยไม่รู้เกิดแล้วหรือยัง
“เฮ้ย ตกใจทำไม ผู้ชายเราทุกคนก็ต้องแต่งงาน”
“แต่มันเร็วไปน่ะสิเรายังไม่รู้เลยว่าจะหาเจ้าสาวได้จากที่ไหน สมัยนี้ถ้าไม่มีเงินทอง และฐานะเป็นปึกแผ่นพอที่จะเลี้ยงดูเขาได้ไม่งั้น เขาคงไม่อยากจะอยู่กับเรา”
“จริงด้วยสิ” พีรธานให้เสียงสนับสนุน
“เพราะว่ายุคนี้สำหรับผู้หญิงทุกคนเราก็คิดเหมือนกันว่า น่าจะหมดยุคที่กัดก้อนเกลือกินและผู้หญิงเองก็มีทีท่าว่าจะอยู่เป็นโสดมากขึ้น”
“ก็ใช่ล่ะ พึ่งพาตัวเองได้แล้วนี่สิทธิเท่าเทียมกัน ไม่เห็นจะง้อใคร ”กัลย์ณพพูดเสริมออกมาบ้าง
สรัยภาที่นั่งอยู่ใกล้ๆได้ยินมาตลอด นึกโกรธเหมือนกันดูถูกผู้หญิงนี่นา ขณะที่จิรัชย์เพื่อนหนุ่มไม่รู้ว่าเพื่อนสาวสนใจต่อสิ่งใดในขณะนี้
“เฮ่ ยายภาเธอไปเงี่ยหูฟังใครรู้จักหรือเปล่าล่ะเสียมารยาทจริง” จิรัชย์ทำเสียงดุ เมื่อเห็นว่าสรัยภาทำอย่างที่เขาพูดออกมานั่นเองสรัยภาจุ๊ปากหันมาเอ็ดเอากับเพื่อน
“จุ๊ เงียบไป อย่าเอ็ดฉันอยากรู้ว่า ใครมานินทาฉันแถวนี้ จิรัชย์เธอไม่รู้อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย”
“รู้จักเขาด้วยหรือ”
“ก็รู้สิฉันถึงได้ร้อนตัวอย่างที่เห็น”
“เหรอ”
ขณะที่สองหนุ่มกำลังนั่งสนทนากันต่อ
“ขอบใจนะที่พีนึกถึงเราเสมอ”
กัลย์ณพเอ่ยขอบคุณเพื่อน
“โธ่ เราเป็นเพื่อนกันนี่ยิ่งเพื่อนสนิทด้วยล่ะกัลย์และพีเองก็ไม่มีใครที่สนิทเท่านี้แล้วยิ่งจะไปไกลอย่างนี้ ต้องมาบอกล่ำลาเพื่อนก่อน” กัลย์ณพซึ้งในคำพูดของเพื่อน
“ไม่ว่าจะอีกกี่ปีต่อกี่ปีก็ตาม เราจะไม่ลืมเพื่อนอย่างกัลย์”
“เราก็เหมือนกันพี แต่ถ้าได้ดิบได้ดีอย่าลืมเราบ้างนะ”
“ได้เลยพื่อนรัก ถ้าฉันได้ดีเมื่อไหร่จะฉุดนายให้ดีด้วยเพราะเราเกิดมาเป็นเพื่อนกัน” พีรธานเอ่ยตอบกัลย์ณพด้วยคำพูดที่น่ารักน่าฟัง
ได้ฟังเสียงนั้นเต็มหู ทำเอาสรัยภานึกหมั่นไส้คุยกันกะหนุงกะหนิงไม่แตกต่างไปจากคู่รักเลยหรือว่านายคนนี้ ครูสอนภาษาอังกฤษของหล่อนจะเป็นเกย์จริงๆฮึ
สรัยภาคิดในทางที่ไม่ดีเอาไว้ก่อนแปลกใจเหมือนกัน จิรัชย์มองที่สรัยภาเพื่อนของเขาจ้องและแอบมองฝ่ายตรงกันข้ามอย่างสงสัย
ชั่วครู่นั้นกัลย์ณพเกิดปวดปัสสาวะ เลยขอตัวจากเพื่อนเพื่อเข้าห้องน้ำ
“ขอตัวก่อนนะ ปวดฉี่เดี๋ยวเรามา”
“อ้าวงั้น ไปเถอะตามสบายกัลย์”
พีรธานยังนั่งอยู่ที่เดิมหลังจากตอบเพื่อน สรัยภามองเห็นร่างสูงลุกเดินออกจากโต๊ะไปไหนของเขา อ๋อ ห้องน้ำหล่อนจึงทำท่าลุกบ้าง
“ไปไหนของแกน่ะภา” จิรัชย์ถาม
“ขอตัวไปห้องน้ำสักประเดี๋ยวฉันจะกลับมานะ แกรอฉันอยู่นี่ล่ะจิถ้าหิวอะไรอีกก็สั่งเพิ่มได้นะ”