ตอนที่ 9

1496 คำ
นั่นเพราะหล่อนเหยียบคันเร่งจมมิดทีเดียวเพราะกลัวสาย รู้สึกว่า วันนี้สายอยู่พอสมควรเพราะความเรื่องมากของหลานจอมซนทั้งสองมัวโอ้เอ้และเล่นตัวจนหล่อนต้องวิ่งไล่จับ และคว้าได้ก็ฟาดเผียะที่ก้นคนละสองที “นี่พวกเธอเห็นไหมอาอยากสมน้ำหน้าเพราะหาเรื่องนัก” เพื่อให้ทันการเข้าเรียนของหลานทั้งสองบ้าน ที่คุณอาอย่างเธอ ต้องเป็นธุระแทนพ่อแม่ของเด็กชายและเด็กหญิงที่เป็นทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้ทั้งสองคน “บอกแล้วว่าอาไม่มีเวลาจะมาเล่นกับเธอทั้งสองมันเหนื่อยแค่ไหน ต้องมารับส่งพวกเธอแล้วน้าต้องกลับไปทำงานอีก” หล่อนต้องการพูดให้หลานทั้งสองรับฟัง และเข้าใจบ้างในกิจธุระที่ต้องทำนัปคมน์น้องแน๊คกับนนนี่หรือนันทิตาเป็นลูกของอาวัจน์กับแพนทรีทั้งสองเด็กชายทั้งเด็กหญิงบ่นกันใหญ่เกรงว่าจะเข้าโรงเรียนสาย “จะว่าสายก็ต้องสายล่ะอยู่ที่พวกเธอไม่หัดเตรียมตัวเองจะ ต้องให้บอกทุกวันหรือไง” หล่อนดุใส่ทำเอาเด็กทั้งสองเงียบกริบเมื่อผู้เป็นอาเสียงแข็งใส่ “เงียบได้ก็ดีแล้วก็ไม่ต้องบ่นถึงโรงเรียนแล้วน้าจะบอก” หล่อนค่อนในใจมันก็สายมานานแล้วล่ะย่ะพ่อหนูแม่หนูจ๋าก็ทำไมแด๊ดดี้กับมะม๊ากับพวกหนูเพิ่งปลุกเอาตอนเจ็ดโมงครึ่งล่ะคนที่ลำบากที่สุดต้องเป็นอาที่ต้องรับผิดชอบเหมือนเคยพูดบ่นแล้วไม่วายลงที่ตัวเองอีกครั้ง เพราะฉะนั้นบ่นไปก็เท่านั้นเอง สรัยภาคิดจัดการส่งพ่อจอมดื้อแม่จอมซนคนละนิดหน่อยอบรมหนำซ้ำเป็นทายาทของพี่ทั้งสองด้วย โอ๊ยฉันยายสรัยภาหนอ เวรกรรมอะไรนักนักหนาทุกทีคุณพ่อเป็นคนไปส่งหลานรักทั้งสองด้วยตัวเอง แต่ท่านเกิดเดินทางไปต่างประเทศกะทันหันเมื่อคืนนี้หล่อนก็เลยรีบมาทำหน้าที่นี้ต่ออย่างทันท่วงที เพราะคำสั่งของบิดาท่านด้วย พ่อของหล่อนติดหลานแต่สรัยภาไม่ค่อยสบายใจด้วยที่การติดหลานของท่านพ่วงเอาตัวหล่อนมาลำบากอย่างนี้พ่อแม่ของเด็กจอมซนก็สบายตัวรอดทั้งคู่แต่หล่อนก็รักหลานทั้งสองไม่ต่างไปจากบิดามารดาหรอก หลานของหล่อนทั้งสองเถียงกันอีกครั้ง เรื่องแย่งขนมกิน ผลัดกันขึ้นเสียงจนหล่อนรำคาญ “บ่นอยู่ได้พวกเธอทั้งสองเดี๋ยวก็ถึงเองแหละฉันก็มีงานเหมือนกันนะยะที่รับเป็นธุระให้ก็ถือว่าอาของเธอทำได้แค่นี้ตาสแน๊ค ยายเมซี่ถ้าเป็นอย่างนี้อีกคราวหลังให้พ่อกับแม่เธอเป็นคนไปส่งเอง ถ้าทำไม่ได้น่ะก็ลาออกจากงานมาส่งลูกไปโรงเรียนอย่างเดียวก็พอ หน็อยแน่ะฉันก็ลำบากนะยะ ต้องทำงานเหมือนกันใช่แต่ว่าพ่อแม่ของเธอทำคนเดียวเสียเมื่อไหร่”ส่งหลานทั้งสองถึงที่หมายแล้วหล่อนก็รีบขับรถออกมาอีกครั้งมุ่งหน้าเพื่อจะไปออฟฟิศทำงานบนถนนที่หล่อนวิ่งรถผ่านมาสองฟากข้างทางและเกาะกลางถนนเบ่งบานไปด้วยดงดอกพุทธรักษาหลากสีสันประดับประดาบนท้องถนนดูแล้วมีความสุขใจยิ่งนัก หากค่ำของวันนั้นกัลย์รู้สึกเหนื่อยหอบเอาการบ้านเด็กมาทำ วันนี้เล่นกับเด็กมาทั้งวันเด็กนักเรียนเหล่านี้บางคนแสบๆคันๆทั้งนั้น เลยอยากลองดีครูอย่างเขาค่อนข้างเข้มและเด็ดขาดสั่งการบ้านภาษาอังกฤษให้ทำสี่แบบฝึกหัดเต็มที่กำหนดส่งอีกสามวันทีนี้จะได้รู้ว่า นักเรียนคนไหนขยันหรือไม่ขยัน โดยเฉพาะที่เขาส่ายหน้าที่สุดเด็กนักเรียนหญิงชายสองคู่ที่เมื่อเช้ามาโรงเรียนสายแต่เขาก็ไม่ได้ตำหนิหรือลงโทษที่มีคนขับรถมาส่ง บางทีจะเป็นผู้ชายสูงอายุคะเนดูแล้วน่าจะเป็นปู่ของพวกเด็ก แล้วก็มีสาวสวยมาส่งคนนี้เห็นบ่อยสวยหวานน่ารักท่าทางเปรี้ยวและทันสมัยเพราะความคิดถึงนั่นเองวันนี้หล่อนรีบมาส่งหลานทั้งสองที่มาเรียนค่อนข้างสาย ไม่ทันได้ทักกับเขาเหมือนจะรีบลงไป.. เขารู้สึกเสียดายที่น่าจะได้พูดคุยมากกว่านั้นแอบคิดเข้าข้างตัวเอง ภาพของหญิงสาวร่างระหงคนเดิมที่มาส่งหลานทั้งสองก็มาปรากฏในวันนี้หล่อนสวย แต่เขาคงเทียบไม่ได้หรอก จะว่าไปแล้วนั้น ตัวเองเหมือนคนละระดับชั้นกับหล่อน แอบสนใจหล่อนเหมือนกัน จากการแค่แอบมองในทุกครั้งแต่กัลย์ณพควรรู้ฐานะของตนเองเป็นดีที่สุดท่าทางการแต่งกายยี่ห้อของหล่อน บ่งบอกถึงลูกสาวอภิมหาเศรษฐีทีเดียวแต่นั่นล่ะความสนใจก็บังเกิด ครั้นเมื่อเขานั้นนั่งตรวจการบ้านที่ค้างเก่าของนักเรียนไป กัลย์ณพก็นั่งทำไปเรื่อย วันนี้หกโมงครึ่ง พี่สาวของเขากลับเข้ามาในบ้านสังเกตดูแล้วจากใบหน้ามีความสบายใจและศรีบังอรพี่สาวของเขาไม่ต้องไปกลับจากที่ทำงานด้วยการโหนรถเมล์ เพราะมีสารถีหนุ่มขับรถมารับตอนเย็นก็มาส่ง เขาเองก็รู้สึกสุขใจกับชีวิตของพี่สาวด้วย ถ้าได้ภุมมินทร์มาเป็นพี่เขยก็ดีนะแอบคิดในใจเพราะพี่สาวควรมีครอบครัวได้แล้วทำเพื่อเขามาเยอะมากควรหาความสุขให้กับตัวเองบ้างและเขาไม่อยากจะให้พี่สาวลำบากลำบนเพราะทำอยู่คนเดียว ควรจะมีคนอื่นมาช่วยแบ่งปันด้วยตำแหน่งเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจไง สำหรับศรีบังอรที่เริ่มเข้าทำงานในวันแรกการเอาอกเอาใจของชายหนุ่มใหญ่ทำให้หล่อนวาบในความคิดหวั่นไหวเกรงใจเขาอย่างยิ่งแต่เขาก็เสนอตัวจนหล่อนชักใจอ่อนโอนอ่อนตามเขาว่าจะเอายังไงดียอมแพ้ใจตนเองดีไหม?ยอมแพ้ความรักเธอบอกกับตัวเอง ให้ความรักมาจูงหัวใจทั้งเขาและหล่อนและเพราะภุมมินทร์ทำให้หล่อนเชื่อมั่นแน่วแน่แล้วว่าเขาอดทนทำทุกอย่างเพื่อหล่อนทั้งเอาใจ จนศรีบังอรชักจะใจอ่อนลงทุกขณะทั้งๆที่เรื่องความรักเธอเป็นคนใจแข็งไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนตามใครง่าย ไม่งั้นจะอยู่เป็นโสดมาจนถึงป่านนี้หรือและหนุ่มๆก็มีมาจีบหล่อนหลายคนหล่อนเปิดประตูชำเลืองมองดูน้องชายในห้องเห็นเขานั่งอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือ วันนี้ภุมมินทร์มาส่งหล่อนแต่ไม่ได้เข้ามาข้างในบ้านด้วยเพราะเขามีธุระด่วนที่ต้องรีบกลับไป “นั่นนั่งทำอะไรอยู่น่ะกัลย์” “ตรวจการบ้านเด็กครับ ใกล้จะเสร็จแล้ว” เขาเงยใบหน้าขึ้น และหันมามองพี่สาวพร้อมกับยิ้มให้ “ได้ยินเสียงรถเมื่อกี้นี่เองพี่อรกลับมาเวลานี้ทุกวันผมก็ดีใจครับ ที่กลับเร็วกว่าทุกวันจะได้ พักผ่อนแล้วดีต่อสุขภาพแล้วพี่ภุมมินทร์ล่ะครับ” ชายหนุ่มอดถามไม่ได้พลางทำสีหน้าครุ่นคิดขมวดคิ้วเพราะเขามัวแต่สนใจตรวจการบ้านเด็ก “อ้าว เสียงรถตะกี้นี้” “ใช่จ๊ะเขากลับไปแล้วมาส่งพี่แล้วก็กลับ” “ อ้าวไม่เข้าบ้านเราก่อนหรือไงครับ” “ไม่ล่ะจ้ะเห็นเขาบอกว่ามีงานด่วน” ชายหนุ่มพยักหน้าเข้าใจตามที่พี่สาวเอ่ยบอก ศรีบังอรถอนหายใจขณะที่น้องชายละจากตรวจงานเพราะเสร็จแล้วเก็บหนังสือสมุดเข้าที่ให้เป็นระเบียบแล้วหันเก้าอี้นั่งมาทางพี่สาวที่ยังยืนอยู่สายตาของกัลย์ณพมองพี่สาวอย่างแปลก “ตอนนี้ผมคิดว่าคงถึงคราวที่พี่อรควรจะตัดสินใจให้อะไรกับชีวิตตัวเองมากขึ้นแล้วล่ะครับ” กัลย์เอ่ยเป็นปริศนาพร้อมด้วยเขายิ้มพี่สาวของเขานั้นขมวดคิ้วตาม และมองสำรวจตัวเองพร้อมคิดตามน้องชายที่เอ่ยขึ้น “เธอว่าไงนะกัลย์” “มันจะดีมากนะครับถ้าพี่อรเอ้อเลือกคุณภุมมินทร์” เขาไม่อ้อมค้อม แต่ตอบตรงเลยทำให้พี่สาวใบหน้าระเรื่อเขิน น้องชายของหล่อนพูดถึงเรื่องนี้ชีวิตรักชีวิตครอบครัวของหล่อน แหม..หล่อนอายเหลือเกินนึกอายน้องชายคนเดียว “เธอถามอะไรอย่างนั้นล่ะกัลย์นี่หรือว่าไม่อยากจะให้พี่อยู่ที่นี่ด้วยแล้วจะผลักไสพี่ไปที่อื่นหรือไง” หล่อนเอ่ยอย่างน้อยใจและไม่พอใจอยู่บ้างและหล่อนก็ไม่เข้าใจเจตนาของน้องชาย ชายหนุ่มจึงเอ่ยตอบ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม