อยากเกลียดแต่เกลียดไม่ลง

1008 คำ
“อย่าหาคิด หนาวแบบนี้ตากยังไงก็ไม่ดำ” แววตายีผมเพื่อนอย่างเอ็นดู เอื้อมดาวเป็นคนสวย ยิ่งมาอยู่กลางฝูงกาแบบเด็กบ้านนอกอย่างพวกเธอยิ่งโดดเด่น แต่กลับไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเพราะรู้สึกแปลกแยก พยายามที่จะทำตัวกลมกลืนทุกทาง ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ หงส์ก็คือหงส์ กาก็คือกานั่นแหละ “นั่นสิ ฮะฮ่า” เอื้อมดาวใจชื้นขึ้นมานิดๆ เมื่อเจอความอ่อนโยนของเพื่อนทั้งสอง ตั้งใจดูการแข่งขันมากขึ้น พร้อมกับคิดหาเพลงที่จะพาเธอและเพื่อนคว้าชัยชนะต่อ ปีนี้คึกคักกว่าทุกปี แววตาพูดงั้นนะ แต่เธอไม่เห็นรู้สึกอย่างนั้นเลย คนน้อยกว่าคอนเสิร์ตที่เคยไป เผลอๆน้อยกว่าเวทีที่เธอเคยประกวดด้วยซ้ำ แต่สำหรับคนที่นี่กลับบอกว่ามันคึกคัก คงเป็นเพราะคนตั้งใจมาดูการแข่งมากกว่าทุกปีละมั้ง “ต่อไปเป็นการแสดงของแชมป์สามสมัยครับ วงเอส” แปะ! แปะ! แปะ! กรี๊ด! เสียงปรบมือดังระงมไปทั่วบริเวณ เสียงกรี๊ดดังกว่าทุกวงที่เคยขึ้นแข่งเลยมั้ง ยิ่งตอนที่สมาชิกทั้งหมดของวงเดินขึ้นไปบนเวที เสียงกรี๊ดยิ่งดังกระหึ่ม เอื้อมดาวที่คิดเรื่องเพลงอยู่จำต้องมองขึ้นไปบนเวทีอย่างสนใจ อยากรู้นักว่าแชมป์สามสมัยนั่น มีดีตรงไหน “กรี๊ด!! !!” เอื้อมดาวเบะปากนิดๆ เมื่อตรงจุดนี้ที่เธอนั่งอยู่ มองเห็นเวทีได้อย่างชัดเจน นั่นมันกลุ่มคนที่ตะโกนแซวว่าเธอเป็นเด็กนี่นา ส่วนผู้ชายที่แสงไฟสปอร์ตไลท์ส่องลงมาทั้งตัว ก็ผู้ชายที่ทำตัวเหมือนจะแย่งตุ๊กตากับเธอก่อนหน้านั้น แหวะ! ขี้เก็กชิบหาย เอื้อมดาวเบะปากนิดๆ จะว่าหล่อก็หล่อแหละผู้ชายคนนั้นอะ คงจะหล่อสุดในย่านนี้ด้วยมั้ง ฟังจากเสียงกรี๊ด แต่เธอเห็นคนหน้าตาประมาณนี้มาเยอะแล้วไง เธอเลยรู้สึกเฉยๆกับความหล่อนั่น ติดจะเกลียดขี้หน้าด้วยซ้ำ เพราะเขาเข้ามาแย่งตุ๊กตาที่เธอหมายตาไว้ “คนนั้นชื่อปีขาล นักร้องนำที่เคยพูดถึง ไม่รู้เรียนดนตรีหรือเปล่า แต่ความสามารถด้านร้องและเล่น ถือว่าสุดยอด แว่วมาว่ากำลังจะพาคนทั้งวงเปิดตัวในวงการ ปีนี้ก็คงมาแข่งฆ่าเวลาเหมือนทุกที” แววตาพูดด้วยความชื่นชม เพราะเขานั่นแหละ เธอถึงพยายามอย่างหนักมาตลอดสามปี แต่ก็ได้แค่ดนตรี เพราะเสียงร้องห่วยแตกมาก “แบบนี้เราจะชนะเหรอ เราไม่ได้ซ้อมด้วยกันมาก่อน คนที่ทำวงด้วยกันเขาน่าจะเล่นเข้าขากันมากกว่า” เอื้อมดาวคอตก เพื่อนเธอหวังรางวัลในวันนี้ เพราะแม่เข้าโรงพยาบาลพอดี เธอก็เลยอยากช่วย เพราะเคยเสนอช่วยเหลือไปตรงๆแล้ว แต่แววตาไม่รับ “ทางนั้นเขาคงไม่หวังรางวัลเท่าไหร่ เราถึงต้องคว้าชัยชนะมาครอง” แววตาพูดให้กำลังใจตัวเองด้วย ขณะมองคนข้างบนที่เริ่มทำการแสดง หลังจากกรรมการให้เวลาเตรียมพร้อมทีมละ 5 นาทีก่อนจะแสดงจริง ทันทีที่เสียงกีตาร์ดังขึ้น ทุกเสียงคุยในงานก็หยุดลงอัตโนมัติเหมือนถูกมนต์สะกด แม้เพลงจะเป็นเพลงของศิลปินวงอื่นที่กำลังดัง แต่เขาทั้งสี่คนก็เล่นในแนวที่ตัวเองถนัด จนคนฟังในงานเริ่มโยกตาม ที่ชนะคงมาจากคะแนนความนิยมละมั้ง เพราะกรรมการที่ตัดสินก็คนบ้านๆทั้งนั้น ไม่มีความสามารถพิเศษทางดนตรีเหมือนพวกกรรมการมืออาชีพเลย “ก็แค่ทำให้เสียงกรี๊ดดังกว่า คนโยกตามมากกว่าสินะ” เอื้อมดาวสรุปเบาๆ แต่จะเป็นไปได้ไหมไม่รู้ เพราะวงเขาคงเป็นที่นิยมของคนที่นี่ที่สุดแล้ว ส่วนวงเธอก็วงโนเนมที่หลงมาแข่ง ไม่มีใครรู้ด้วยมั้ง ว่ายังมีวงเธอเล่นเป็นวงสุดท้าย ไม่ชนะก็ขายหน้าแหละงานนี้ วงเขาเล่นดีจริงๆ เสียงร้องก็นุ่มทุ้มตรึงใจ “กรี๊ด! พี่ขาล! พี่นับตังค์! พี่โทน พี่โทนี่” เสียงสาวๆวัยละอ่อน ตะโกนลั่นงานเมื่อวงตัวเต็งอันดับหนึ่งเล่นจบ คนบนเวทีทำเพียงแค่ยกยิ้มส่งไปให้ แค่นั้นกลับเพิ่มเสียงกรี๊ดให้มีมากยิ่งขึ้น “เรารู้แล้วจะเล่นเพลงไร” เอื้อมดาวพูดแข่งเสียงกรี๊ดกร๊าดของสาวๆที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง มองคนทั้งสี่ที่กำลังลงเวทีมาอย่างกดดัน คงต้องมีแต่ชนะเท่านั้น ถึงจะได้เงินรางวัลสามหมื่น “สู้ๆนะเตี๊ย” ปีขาลยิ้มเยาะ ในจังหวะที่เดินสวนคนที่ตัวเตี้ยจริงๆเมื่อเทียบกับตัวเอง รอยยิ้มเหยียดหยันส่งกลับมา ยิ่งทำให้ปีขาลรู้สึกมีค่า ที่จะเอาตัวไปประเคน “สูงตายละ!” เอื้อมดาวไม่เข้าใจเลยสักนิด ว่าเขาเป็นโรคจิตชนิดไหน ถึงได้เอาปมด้อยคนอื่นมาล้อเล่นแบบนี้ จากที่กลัวในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนเป็นเกลียดแล้วตอนนี้ ผู้ชายอะไรหน้าตาไม่ดี ยังปากไม่ดีอีก แววตามองภาพตรงหน้าก่อนจะรีบขึ้นเวทีเป็นคนสุดท้าย เธอรักปีขาลมานาน แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ปีขาลจะทำท่าทีสนใจเธอ เหมือนที่ทำกับเพื่อนเธอในตอนนี้ “พยายามเข้าล่ะ” ปีขาลวางมือลงบนศรีษะคนสุดท้ายที่เดินผ่านตัวเองไป สถานะระหว่างเขากับเธอมันชัดเจนมานานแล้ว แม้จะรู้ดีว่าเธอยังไม่เปลี่ยนไปเลยก็ตาม “ทำดีกับคนอื่นเรี่ยราดตลอด” แววตายิ้มนิดๆ อยากจะเกลียดแต่เกลียดไม่ลงเลย เกลียดความใจดีของพี่ขาล และเกลียดความใจร้ายของเขาเช่นกัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม