บทที่ 2 คุณหนูตกอับ

1423 คำ
ร่างบางในชุดยูนิฟอร์มพนักงานซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในกรุงปารีส ซินคุณหนูตกอับชีวิตพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เธอต้องทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียน จากเมื่อก่อนที่เคยอยู่สุขสบาย มีเงินใช้ไม่ขาดมือ พักคอนโดหรูสุดและแพงสุด บัดนี้เธอกลับกลายมาเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ได้เงินเดือนเพียงน้อยนิดใช้ประทังชีวิตไปวันๆ ไหนจะต้องผ่อนจ่ายค่าเล่าเรียนในแต่ละเทอม บางวันไม่มีเรียนเธอก็ต้องหารับจ๊อบเสริม พอตกเย็นก็เข้างานร้านสะดวกซื้อต่อ ถึงแม้จะลำบากแต่ก็ต้องอดทนทำ เพราะเธอไม่สามารถเดินทางกลับเมืองไทยได้ในตอนนี้พ่อกับแม่กำชับนักหนา เจ้าหนี้รายนี้โหดร้ายมาก ถึงกระทั่งตามเอาชีวิตคนทั้งบ้านรวมทั้งตัวเธอด้วยที่โดนหมายหัวอยู่ในขณะนี้ "เฮ้อ ชีวิตโคตรห่วยเลย" เธอบ่นงึมงำขณะที่กำลังก้มถูพื้นในร้าน เธอต้องทำความสะอาดและดูแลความเรียบร้อยก่อนที่จะปิดร้านให้เรียบร้อย นี่ก็ใกล้เวลาห้าทุ่มแล้ว .......................... "เฮ้ ซิน จะกลับห้องเลยรึเปล่า" ในขณะที่กำลังล็อกประตูร้าน มาเชล เพื่อนสนิทก็เดินมาทักทายพอดี ตั้งแต่ต้องย้ายออกจากคอนโดหรูและเปลี่ยนวิถีการใช้ชีวิตใหม่ มีเพียงมาเชลเท่านั้นที่คอยอยู่เคียงข้างมาตลอด คนอื่นๆ เลิกคบเธอกันไปหมด เหตุผลคงไม่อยากมีเพื่อนเป็นคุณหนูตกอับล่ะมั้ง มาเชลให้การช่วยเหลือเธอทุกอย่างไม่ว่าจะฝากงานให้ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งนี้ อีกทั้งจ๊อบเล็กๆ อีกมากมาย นี่แหละที่เขาว่ายามลำบากเรามักจะเห็นความเป็นเพื่อนแท้ "ไม่อะ มีอะไรรึเปล่า มาเชล" เพียงเท่านี้เธอก็เหนื่อยมากพอแล้วถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอกับพวกเพื่อนๆ คงจะนั่งดริ๊งเต้นแล้งเต้นกาอยู่ในผับที่ไหนสักแห่ง แต่ตอนนี้ไม่ใช่แบบนั้น กว่าเธอจะปรับตัวยอมใช้ชีวิตแบบนี้ได้ก็ใช้เวลามากพอสมควร การเรียนคือสิ่งสำคัญที่สุดเธอต้องตั้งใจเรียนให้จบเพื่อนำความรู้ไปหางานดีๆทำ มีอนาคตสร้างครอบครัวขึ้นมาใหม่ พ่อกับแม่จะได้ไม่ต้องหนีหัวซุกหัวซุนอยู่แบบนี้ นึกถึงพวกท่านทีไรเธอก็อดเป็นห่วงไม่ได้ไม่รู้ป่านนี้ท่านทั้งสองจะเป็นอย่างไรบ้าง "มีงานมีนำเสนอ " "งานอะไรเหรอ ไว้วันอื่นได้มั้ยวันนี้ซินไม่ไหวแล้ว เมื่อตอนบ่ายก็ไปแจกใบปลิวมา เมื่อยโคตรๆ " วันนี้ทำงานทั้งวันตั้งแต่เช้ายังไม่ได้หยุดพัก "เงินดีนะ ไม่สนเหรอ " เมื่อพูดถึงเรื่องเงินเธอก็หูผึ่งทันที ช่วงนี้ใกล้จะเปิดเทอมแล้วด้วย การเงินของเธอต้องพร้อมอยู่เสมอ ถ้าไม่ผิดกฎหมายหรือต้องเอาตัวเข้าแลกเธอสู้ยิบตาอยู่แล้ว "งานอะไร คงไม่ใช่...." "เออน่า ไม่ขายตัวไม่ผิดกฎหมายหรอกย่ะ แม่คุณหนูซินเดอเรลล่า" "รู้ใจจริงๆ เพื่อนใครเนี่ย ยังไงก็ขอบใจนะมาเชล " "เออๆ ไม่เป็นไร อย่ามาทำซึ้งแถวนี้ ไปเร็วรีบๆ เดี๋ยวต้องไปแต่งตัวอีก" "อะไรนะแต่งตัว แต่งทำไม " ซินถึงกับงงกับงานที่มาเชลพูดถึง ทำไมจะต้องแต่งตัวให้เป็นเรื่องเป็นราวด้วย "วันนี้เป็นวันเกิดของพี่ชายฉัน แล้วฉันไม่รู้จะเอาอะไรไปโชว์บรรดาญาติๆดี ฉันเห็นว่าเธอรำไทยเป็นเลยอยากให้ช่วยหน่อย" มาเชลทำหน้าอ้อนวอนเพื่อนสาวให้ช่วยในครั้งนี้ ส่วนค่าตอบแทนเธอพร้อมทุ่มไม่อั้นอยู่แล้วเพราะว่ามันเป็นเงินของแม่ "แกมั่นใจในตัวฉันขนาดนั้นเลยเหรอ" "ใช่" มาเชลเอ่ยออกมาเพียงแค่นั้น บ้านของมาเชลถือว่ารวยเป็นอันต้นๆ ของที่นี่เลยก็ว่าได้ บ้านเธอทำธุรกิจหลายอย่างคงไม่แปลกที่วันเกิดพี่ชายจะจัดงานใหญ่โต ทำให้ซินนึกย้อนกลับไปเมื่อครั้งยังอยู่เมืองไทย เมื่อถึงวันเกิดของเธอทีไรพ่อกับแม่จะต้องหาเรื่องมาเซอร์ไพรต์เธอในทุกปี บรรยากาศฉลองวันเกิดภายในครอบครัวมันช่างอบอุ่นเสียเหลือเกิน "อืมๆ แล้วมีชุดเหรอ" "นี่ไงเตรียมไว้หมดแล้ว " มาเชลชูถุงกระดาษใบใหญ่ที่ภายในบรรจุชุดไทยไว้ มาเชลจัดแจงมาไว้ให้ซินโดยเฉพาะ ชุด และเครื่องประดับต่างๆ ถือว่าครบองค์ประกอบเลยทีเดียว .................... เมื่อเดินทางมาถึง มาเชลและซินต่างรีบวิ่งเข้าไปในห้องนอนทันทีเพื่อทำการเปลี่ยนชุดและแต่งหน้า ใบหน้าเรียวสวยเพียงแค่เติมเครื่องสำอางเล็กน้อยก็ทำให้ดูสวยโดดเด่นขึ้นมาในทันที ความสวยสไตล์สาวเอเชีย กับชุดไทยที่สวมใส่อยู่บนตัวยิ่งทำให้เธอสวยดั่งนางในวรรณคดี ซินตั้งใจจะรำอวยพรเพื่อเป็นการแสดงในค่ำคืนนี้ ไม่ต้องซักซ้อมอะไรมากมายเพราะเรื่องแบบนี้เธอถนัดอยู่แล้ว การรำไทยถือว่าเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่เธอชอบ และเธอก็เคยนำมาเปิดแสดงให้ชาวต่างชาติได้เห็นมานักต่อนักเรียกรายได้เข้ากระเป๋าได้มากเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว "สวยว่ะซิน พร้อมนะ" "โอเคพร้อม" เมื่อทุกอย่างพร้อม เพลงไทยจึงเริ่มบรรเลงขึ้นสร้างความแปลกใจให้กับทุกคนภายในงานเป็นอย่างมาก เสียงปรบมือค่อยๆ ดังขึ้นเมื่อหญิงสาวชุดไทยปรากฏตัวออกมาร่ายรำสู่สายตาชาวต่างชาตินับสิบที่จดจ้องมายังเธอเพียงผู้เดียว เป็นความแปลกใหม่ที่ทุกคนไม่ได้เห็นบ่อยนัก การแสดงแบบนี้หาดูได้ยากมากในต่างแดน มิค พี่ชายแท้ๆ ของมาเชลและเจ้าของวันเกิดในค่ำคืนนี้มองร่างอรชอนที่ร่ายรำตามบทเพลงอย่างอ่อนหวานตาไม่กะพริบเขารู้สึกหลงใหลทุกท่วงท่าของเธอ ช่างงดงามยิ่งนัก มาเชลลอบมองพี่ชายของเธอเล็กน้อย มิคดั่งต้องมนต์สะกด สายตาเอาแต่จดจ้องไปที่เพื่อนของน้องสาว ไม่นานการรำอวยพรก็จบลงสร้างเสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วงาน ซินนั่งพับเพียบแล้วยกมือขึ้นไหว้อย่างอ่อนช้อยและสวยงาม จากนั้นก็เดินลงจากเวที "สุดยอดอ่ะซิน เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าแกรำสวยขนาดนี้ รู้มั้ยว่าทุกคนชอบมากเลย ชมกันไม่ขาดปากเลยทีเดียว" "เดี๋ยวฉันว่าจะกลับก่อนนะ อาจจะไม่ได้อยู่ฉลองเพราะตอนนี้อยากนอนมาก" ซินรู้สึกเพลียจึงขอตัวกลับก่อน "เฮ้ย เดี๋ยวสิรอเงินค่าตัวก่อน" "ไม่เป็นไรฉันไม่เอาหรอก ถือว่าตอบแทนกับที่แกช่วยฉันหางานก็แล้วกัน" "ไม่ได้ๆ ฉันบอกแกไปแล้วว่าจะให้ห้ามปฏิเสธ รอตรงนี้นะ" มาเชลรีบวิ่งตรงไปหามารดาทันที ซินตั้งใจแล้วว่าจะไม่รับค่าตัวเธอจึงแอบเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเขียนโน๊ตทิ้งไว้ว่าต้องรีบกลับเพราะพรุ่งนี้มีงานเช้า แล้วเธอก็เดินออกมาจากบ้านของมาเชลในทันที บ้านของมาเชลกับถนนใหญ่อยู่ใกล้กันแค่คืบจึงไม่มีปัญหาการหารถกลับบ้านพัก "เฮ้ย หยุดนะเว้ย" "ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย" ปึก "โอ๊ย" ขณะที่เธอกำลังเดินไปขึ้นรถที่ถนนใหญ่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งวิ่งมาชนจนเธอล้มลงไปกองกับพื้น ผู้หญิงคนนั้นไม่เอ่ยแม้คำขอโทษออกมาสักคำ แถมยังรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งต่อ ท่าทางเหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่าง "หยุดนะเว้ย " "กูว่าไม่ทันแล้วว่ะเอาไงดีวะ" ชายฉกรรจ์สองคนหยุดพักเหนื่อย เพราะความเหนื่อยบวกกับความเมื่อยที่ต้องวิ่งตามสินค้าที่ลักลอบวิ่งหนีออกมา ถ้าเขาตามเธอกลับไปไม่ได้ มีหวังโดนเจ้านายเล่นงานเละแน่ "มึงเห็นนู่นมั้ย ตัวตายตัวแทนมึงเคยได้ยินมั้ย" ทั้งสองรีบก้าวเท้ามุ่งตรงไปยังเหยื่อเคราะห์ร้ายรายใหม่ทันที พวกเขาจะไม่ยอมเจ็บตัวแน่ "มีอะไรรึเปล่าคะ" "มีสิ ช่วยอะไรพวกพี่หน่อยได้มั้ย" "คะ" ชายสองคนพยักหน้าเป็นอันรู้กันจากนั้นทั้งคู่ก็พุ่งตรงมาจับตัวเธอทันที "กรี๊ด"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม