สายไหม มองดูตัวเองที่หน้ากระจก เธอแต่งหน้าบางเบา แล้วยิ้มออกมาอย่างให้กำลังใจตัวเอง เอาน่า สู้สู้ เธอต้องลองดูสักตั้ง วันนี้เธอมีนัดสัมภาษณ์งานใหม่ หลังจากที่บริษัทเก่าปิดลงตัวแถมหอบเงินเดือนกับค่าคอมมิสชั่น เกือบครึ่งแสนหายไปด้วย เธอยื่นใบสมัครงานไปหลายที่แต่ยังไม่มีที่ไหนเรียกตัวมา จนเมื่อวาน มีอีเมลล์แจ้งมาว่ามีตำแหน่งเลขา เปิดรับใหม่สนใจจะลองเข้ามาสัมภาษณ์ไหม นาทีนี้ สายไหมไม่มีทางเลือกมากนะ เธอรีบตอบตกลงทันที
เธอมาก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง เพื่อรอเตรียมตัว แต่ก็ต้องอ้าปากค้าง เมื่อเห็นจำนวนของคนที่มาสัมภาษณ์งานตำแหน่งเดียวกับเธอเกือบยี่สิบคน สายไหมกระชับกระเป๋าของตัวเองแน่น แล้วเดินเข้าไป พนักงานต้อนรับยิ้มรับแขกตามมารยาท แล้วขอบัตรประชาชนของเธอ สายไหมยื่นออกมาส่งให้ เพื่อแลกบัตรผู้มาติดต่อ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เก้าอี้รอเรียกชื่อ
จำนวนคนมาสัมภาษณ์งาน ไม่ได้น่ากลัวเท่ารูปลักษณ์ของคนที่มาสักนิด พวกเธอสวยเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้าทีเดียว เสื้อผ้ารองเท้าที่ใส่กันมา น่าจะหลุดออกมาจากร้านเสื้อชื่อดังในห้าง กระเป๋าที่ถือก็ดูดีมียี่ห้อทั้งนั้น ต่างกับเธอที่สวมเสื้อผ้าแบบเรียบๆธรรมดา ถือกระเป๋าราคาไม่กี่บาทเท่านั้น ทุกสายตาที่มองมา ทำให้เธอเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทาง
สายไหมก้มหน้าลงมองพื้นแล้วถอนหายใจออกมา เธอคงต้องเสียค่ารถฟรีแน่ๆจากบ้านมาที่นี่แม้จะไม่ไกลนัก แต่เธอก็ต้องประหยัดที่สุดหากยังหางานทำไม่ได้ เสียงซุบซิบปนกรี้ดกร้าด ดังขึ้น สายไหมเงยหน้าขึ้นมอง ไม่ทันได้เห็นคนที่เดินเข้ามาชัดๆเนื่องจากมีกลุ่มคนรายล้อมตัวเค้าอยู่อีกหลายคน เธอเห็นเพียงเสื้อสูทสีน้ำตาลเท่านั้น ก่อนจะมีคนเปิดประตูให้เค้าเข้าไป
หญิงสาวข้างตัวหลายคน ควักกระจกออกมาสำรวจหน้าตาตัวเองกันใหญ่ สายไหมยิ้มออกมา เเล้วหยิบกระจกมาดูหน้าตัวเองบ้าง เอ่อ จืดยังไงก็จืดยังงั้น เธอบอกกับตัวเองแล้วเก็บกระจกลงกระเป๋าดังเดิม
ประตูห้องเปิดออกตามเวลานัดหมาย เสียงเรียกชื่อคนแรก ดังขึ้น เธอยิ้มออกมาด้วยความมั่นใจแล้วเดินเข้าไป ทุกคนข้างนอกต่างลุ้นระทึกไปกับเธอด้วย ไม่ถึงห้านาที หญิงสาวคนแรกก็เดินออกมา สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง สายไหมหน้าจืดลงอีก สวยขนาดนี้ยังโดนซัดไม่เลี้ยง แล้วอย่างเธอละ สายไหมไม่อยากจะคิดเลย
เสียงเรียกชื่อ คนต่อไปคนต่อไป ดังเป็นระยะ ทุกคนใช้เวลาในห้องนั้นไม่นานก็เดินกลับออกมา สายไหมใจสั่นระรัวอีกเพียงสองคนก็ถึงเธอแล้ว หญิงสาวตื่นเต้นสุดขีด เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะเป็นลม
เสียงเรียกชื่อเธอดังขึ้น สายไหมลุกขึ้น แล้วเก็บยาดมลงกระเป๋าแล้วเดินเข้าห้องไป มือบางเคาะประตูเบาๆ ก่อนจะเปิดเข้าไป ชายหนุ่มวัยเกือบสามสิบปี นั่งเด่นตรงกลางห้อง รายล้อมกับพนักงานอาวุโสอีกหลายคน เธอรู้ได้ทันทีว่าสาวๆพวกนั้นสวยมาอวดชายหนุ่มตรงหน้าแน่ๆ
"สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ สายไหมค่ะ"
เธอแนะนำตัวออกไป ก่อนจะส่งยิ้มออกมา ใบประวัติของเธอถูกส่งต่อให้คนถัดไปเรื่อยๆ เสียงผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นถามถึงสาเหตุของการเปลี่ยนงาน เธอหน้าจืดเจื่อนแล้วตอบออกมาด้วยความโกรธน้อยๆ ถึงสาเหตุที่ตกงาน เค้าคนนั้นยิ้มออกมาเมื่อเธอตอบออกไป
สายไหมมองเค้าตรงๆ แล้วต้องอ้าปากค้างทันที ทำไมเค้าถึงหล่อเนี้ยบขนาดนี้ เธอถึงกับตกตะลึงแล้วหน้าเธอก็แดงก่ำ เมื่อเค้ามองเธอกลับมา สายไหมพ่ายแพ้ต่อสายตาคมกริบ เธอก้มหน้าหลบตาทันที ใจเธอสั่นระรัว ถ้าวันนี้เธอไม่ได้งานนี้ เธอคงไม่เสียใจ เพราะเธอได้พบชายในฝันของเธอแล้ว แค่เพียงไม่กี่นาที แต่เธอจะจำเค้าเอาไว้ในใจตลอดไป
เธอไม่รู้ว่าเธอพูดอะไร หรือตอบอะไรไปบ้าง คล้ายสติจะเลอะเลือนไปชั่วขณะ เธอเดินออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกเหมือนลอยได้ พนักงานสาวส่งบัตรประชาชนคืนให้เธอ สายไหมเดินออกจากตึก แล้วหันไปมองที่ประตูอีกครั้ง ก่อนจะพูดออกมาเบาๆ
"ลาก่อนนะคะ ชายในฝันของฉัน"