นัยน์ตาคู่สีฟ้าเข้มก้มมองเครื่องดื่มสี่ชนิดที่วางอยู่ในกระป๋องหนึ่งใบอย่างแปลกใจ เขาไม่ยักรู้ว่าวัยรุ่นสมัยนี้เขานิยมดื่มอะไรแบบนี้ นึกว่าจะชอบดื่มเหล้า ดื่มเบียร์กันเสียอีก ก่อนโรเบิร์ตจะถามขึ้นอย่างสงสัย
“นี่อะไรเหรอแพม ผมนึกว่าเพื่อนของคุณซื้อเบียร์หรือไวน์มาเสียอีก”
“สี่คูณร้อย! คุณไม่รู้จักเหรอ?”
เธอแปลกใจไม่น้อยที่โรเบิร์ตไม่รู้จักเครื่องดื่มชนิดนี้ เธอมั่นใจว่านักท่องเที่ยวเกือบทั่วโลกต้องรู้จักหรือไม่ก็ต้องเคยได้ยินมาบ้าง ชีวิตส่วนใหญ่ของเขามีแต่งานหรือไงกัน
“ผมไม่รู้จักน่ะสิ ผมถึงได้ถาม”
“ก็เป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่ง ที่ฮิตในหมู่นักท่องเที่ยวที่มาร่วมฟูลมูนปาร์ตี้บนหาดริ้น ที่คุณเห็นอยู่เนี่ยนะ เค้าเรียกว่าสี่คูณร้อย เพราะมันมีเครื่องสี่ชนิดก็คือ แสงโสมหนึ่งแบน เครื่องดื่มบำรุงกำลัง อ้อ...จะเป็นยี่ห้อไหนก็ได้นะแล้วแต่เราจะเลือก น้ำผลไม้ตามที่เราชอบหนึ่งกล่องแล้วก็น้ำอัดลมจำพวกโค้ก แฟนต้า สไปร์ทก็ได้หนึ่งขวด แล้วเอามาผสมรวมกัน ที่จริงรสชาติของน้ำสี่คูณร้อยที่ผสมกันแล้ว มันก็คล้ายๆ ค็อกเทลนั่นแหละ”
“แปลกดีนะ”
โรเบิร์ตพึมพำออกมา มองเครื่องดื่มที่ถูกผสมลงไปในกระป๋องอย่างสนใจ ก่อนหรี่ตาเหลือบมองม่านฟ้าแวบหนึ่ง แล้วก้มลงมามองไอ้เครื่องดื่มสี่คูณร้อยที่เธอเพิ่งผสมเสร็จ
“ลองชิมดู มันก็เหมือนค็อกเทลนั่นแหละ เพียงแต่มันแรงกว่าค็อกเทลปกติ เพราะมีแอลกอฮอล์มาก”
ม่านฟ้าอธิบายก่อนยื่นแก้วที่มีสี่คูณร้อยส่งให้โรเบิร์ต เธอไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะไม่รู้จักเครื่องดื่มชนิดนี้ ถ้าพูดถึงฟูลมูนปาร์ตี้ ทุกคนต่างก็ต้องพูดถึงเครื่องดื่มในงานเหมือนกัน
แล้วคนที่ไม่รู้จักเครื่องดื่มชนิดนี้ เขาใช้ชีวิตแบบไหนกัน หรือไม่เคยได้สัมผัสกับความสนุกสนาน ปล่อยชีวิตให้ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างอิสระ
“…”
โรเบิร์ตไม่พูดอะไร เพียงแต่รับแก้วที่ใส่สี่คูณร้อยจากม่านฟ้ามาจิบดู แล้วเขาก็พบว่ามันมีรสชาติคล้ายค็อกเทลจริงๆ และมีแอลกอฮอล์มากอย่างที่เธอบอก ครั้งแรกในชีวิตเลยที่เขาได้มาเจอเรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ ตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยได้สัมผัสชีวิตแบบนี้สักครั้ง
ชีวิตที่แสนอิสระ ไร้กฎเกณฑ์ ชีวิตที่เต็มไปด้วยความเรียบง่าย เสียงหัวเราะที่แสดงถึงความสุขที่ออกมาจากใจอย่างแท้จริง ไม่ใช่การเสแสร้งอย่างที่เขาเคยได้รับมาเกือบตลอดชีวิต
“รสชาติใช้ได้ไหม? หรือคุณจะเปลี่ยนไปดื่มเบียร์ก็ได้นะ”
“ไม่ต้องหรอก แค่นี้ผมก็โอเคแล้ว”
“คุณอยากออกไปเต้นกับสาวๆ หรือเปล่า ตอนนี้บุษ จันทร์แล้วก็เพ็ญเดินไปขยับแขน ขยับขา เต้นกันอยู่ตรงโน้นแล้ว”
แล้วยกนิ้วชี้ไปยังตำแหน่งที่สามสาวกำลังเต้นอยู่ เธอก็คิดอยู่แล้วล่ะว่าถ้ามาฟูลมูนปาร์ตี้ ยังไงสาวๆ กลุ่มนี้ก็ต้องแดนซ์กันกระจายเหมือนทุกครั้ง การเดินทางไปเกาะเต่าในวันพรุ่งนี้อาจต้องเลื่อนไปวันมะรืนก็ได้
“ไม่ล่ะ ผมแก่เกินไปที่จะทำแบบนั้นแล้ว”
โรเบิร์ตตอบปฏิเสธ ทั้งที่นัยน์ตาคู่สีฟ้าเข้มมองไปยังตำแหน่งที่ม่านฟ้าชี้ให้เขาดู และเขาก็พบว่าตรงจุดที่สามสาวกำลังเต้นกันอยู่ มีผู้ชายหน้าตาแสนคุ้นเคยยืนอยู่ใกล้พวกเธอ
‘ทำไม! ...ไมเคิลไปอยู่ตรงนั้นได้ล่ะ’
“มีอะไรหรือคุณ”
“ไม่มี...ว่าแต่คุณเถอะ? ทำไมถึงไม่ออกไปสนุกกับสามคนนั้นล่ะ”
“ฉันไม่ชอบให้คนมาเบียดน่ะ”
“ถ้าผมอยากออกไปเต้น คุณจะออกไปเป็นเพื่อนผมไหม”
“เอ...ฉันเหรอ?” ม่านฟ้าถามกลับอย่างแปลกใจ
โรเบิร์ตพยักหน้าเป็นคำตอบ ยกแก้วสี่คูณร้อยในมือขึ้นดื่ม มองใบหน้าสวยหวานด้วยแววตาอ่อนเชื่อม
“เอ่อ...” ม่านฟ้าถึงกับไปไม่ถูก เมื่อเจอคำขอร้องของโรเบิร์ต
“ผมล้อเล่นน่ะ ผมชอบนั่งแบบนี้มากกว่า”
“เฮ้อ...โล่งอก”
คนถูกขอให้ออกไปเต้นถอนหายใจอย่างโล่งอก เธอไม่ชอบเข้าไปเบียดใคร ยิ่งในฟูลมูนปาร์ตี้แบบนี้ก็ยิ่งไม่ควรเข้าไปใหญ่ ถ้าจุดที่ไปเต้นมีแต่คนดีๆ ก็แล้วไป แต่ถ้ามีไอ้พวกโรคจิต ชอบแอบจับ แอบลูบก็ไม่ไหวเหมือนกัน
ชายหนุ่มยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าดูโล่งอกของอีกฝ่าย ท่าทางจะไม่ชอบที่มีคนเยอะจริงๆ บางทีเธออาจมีความทรงจำที่ไม่ดีเกี่ยวกับฟูลมูนปาร์ตี้ก่อนหน้านี้ก็ได้ แต่ก็ดีเพราะเขาไม่อยากออกไปทำอย่างที่ตัวเองพูดเอาไว้เช่นกัน
“ขอบคุณที่พาผมมาเที่ยวในคืนนี้”
“ค่ะ” ม่านฟ้าตอบแล้วหันมายิ้มให้เขา
“ชนแก้วกับผมหน่อย”
โรเบิร์ตชวนชนแก้ว พร้อมกับยกแก้วขึ้นไปหยุดตรงหน้าม่านฟ้าและเขาก็ได้ตามที่ขอ เพราะเธอยกแก้วขึ้นชนกับเขาแล้วดื่มมันเข้าไปอย่างว่าง่าย เขารู้สึกมีความสุขที่ได้นั่งฟังเสียงเพลง เสียงคลื่น ดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่แสนสวยงามของแสงจันทร์ ที่ส่องกระทบถูกชายหาดทรายสีขาวสะอาด
พื้นน้ำสีครามถูกแสงจากดวงจันทร์ส่องกระทบจนแวววาว ระยิบระยับ งดงามชวนให้หลงใหล ช่างเป็นภาพที่เหนือคำบรรยายใดๆ ยิ่งได้เห็นพระจันทร์ดวงกลมโตอีกดวงที่ลอยเด่นอยู่กลางทะเล ก็เริ่มทำให้เขารู้สึกเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศและความงามของทัศนียภาพที่สวยงามของพระจันทร์ในค่ำคืนนี้
********
02:45 นาฬิกา
โรเบิร์ตเหลือบมองคนข้างกายที่ตอนนี้เริ่มเอนกายมาพิงเขา รอยยิ้มอ่อนโยน ก็จะไม่ให้เธอมีสภาพนี้ได้อย่างไร ในเมื่อสองชั่วโมงก่อนบงกชเดินถือกระป๋องใส่สี่คูณร้อยมาให้พวกเขาอีกสองกระป๋อง ตอนแรกกะว่าดื่มกันแค่กระป๋องเดียว ทำไปทำมาก็ดื่มสี่คูณร้อยเข้าไปถึงสามกระป๋อง
ถ้าไม่เมาก็ไม่รู้จะว่าอะไรแล้ว อย่าว่าแต่ม่านฟ้าเลยที่เมา เพราะตัวเขาเองก็เริ่มทรงตัวไม่ค่อยอยู่แล้วเหมือนกัน นึกไม่ถึงว่าไอ้เครื่องดื่มแปลกๆ ที่เขาดื่มจะทำให้เขาเมาได้ขนาดนี้
ขณะที่สามสาวก็กำลังเต้นรำกันสุดเหวี่ยง เสียงเพลงยังดังกระหึ่มไปทั่วท้องน้ำ แสงสีโคมไฟนับหมื่นนับแสนดวง ต่างแข่งกันส่องแสงระยิบระยับ ไปตลอดแนวชายหาดร่วมกิโลของชายหาดริ้น
นักท่องเที่ยวมากมายต่างดื่มเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน และเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เขาเคยมีชีวิตที่สนุกสนานแบบนี้บ้างไหม บอกได้เลยว่าไม่มี ชีวิตของเขามีแต่งานกับงานเท่านั้น
ม่านฟ้าขยับตัวลุกขึ้นนั่ง รู้สึกอายนิดๆ ที่เธอนั่งพิงโรเบิร์ตมาเกือบชั่วโมง ท่าทางเธอจะเมาสี่คูณร้อยขึ้นมาแล้วจริงๆ นัยน์ตาคู่สีดำสนิทเหลือบมองกระป๋องสี่คูณร้อยจำนวนสามกระป๋องที่ตั้งซ้อนกันอยู่
‘นี่เรากินสี่คูณร้อยไปสามกระป๋องเลยเหรอเนี่ย’
“กลับบ้านกันดีไหมแพม”
โรเบิร์ตถาม มองใบหน้าสวยหวาน ซึ่งบัดนี้แดงก่ำไปด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์อย่างเอ็นดู นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้นั่งมองม่านฟ้าใกล้ชิดขนาดนี้โดยที่เธอไม่บ่นหรือโวยวายใส่เขา
“ก็ดีนะ รู้สึกฉันจะเมาแล้ว กลับบ้านไปพักก็ดีเหมือนกัน”
“งั้นพวกเราก็กลับกันเถอะ”
“อืมม์” ม่านฟ้าตอบ
“ผมช่วยพยุงนะ เกิดคุณล้มแล้วหัวไปฟาดกับโขดหินแล้วจะยุ่ง”
“ไม่ต้องหรอก ฉันไม่ได้เมาถึงขนาดนั้น เมื่อก่อนฉันดื่มหนักกว่านี้อีก”
ช่วงที่เธอตัดสินใจออกมาจากคฤหาสน์นาราวดีเมื่อสามปีก่อน เธอจมอยู่กับความทุกข์และความเสียใจ หนทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากความเจ็บปวด นั่นก็คือ การดื่มเหล้า
เกือบหนึ่งปีที่เธอจมอยู่กับความเศร้า เพื่อนเพียงคนเดียวของเธอก็คือ เหล้า จนเธอได้พบกับยายอุษาซึ่งนางเป็นญาติเพียงคนเดียวของบงกช คำพูดเตือนสติของนางทำให้เธอคิดได้
เธอเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเอง เลิกดื่มเหล้าและสมัครเข้าทำงานในร้านริมหาดซีฟู๊ดในตำแหน่งแม่ครัว โชคดีที่เธอมีความรู้เรื่องทำอาหารอยู่บ้าง ทางร้านจึงตัดสินใจรับเธอเข้าทำงานทันที
โรเบิร์ตรู้สึกแปลกใจไม่น้อยกับคำพูดของม่านฟ้า และยังไม่ทันได้ถามในสิ่งที่เขาสงสัย เธอก็ลุกเดินลงมาจากโขดหิน แทรกผ่านบรรดานักท่องเที่ยวที่ยังเต้นกันอย่างสนุกสนาน ทั้งที่เวลาก็เกือบจะตีสามเข้าไปแล้ว
ชายหนุ่มรีบลุกเดินตามม่านฟ้าออกมาจากหาดริ้น ตรงไปยังบ้านที่เขาจอดรถมอเตอร์ไซค์เอาไว้เมื่อหลายชั่วโมงก่อน จากนั้นไม่นานสามสาวที่มาพร้อมกับเขาและม่านฟ้าก็เดินกลับมาที่รถเช่นกัน ขาดเพียงผู้หญิงคนเดียวที่หายไป นั่นก็คือ เปรมใจ
...โปรดติดตามตอนต่อไป...