เสียงที่คุ้นเคย

1422 คำ
- วันต่อมา @สถานีโทรทัศน์ช่องรัน – "น้องมิลก์รับผิดชอบข้อมูลด้านธุรกิจนะ ส่วนคนอื่นๆ พี่แบ่งงานไว้ให้แล้ว" "ค่ะ" พี่กันย์สาวสวยสุดเท่ของสถานีฯ แบ่งงานให้กับเหล่านักศึกษาฝึกงานตามความเหมาะสม ทุกคนต่างก็พอใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายรวมถึงป๊อปอายด้วยที่ได้รับหน้าที่หาข้อมูลด้านข่าวบันเทิง "หากมีต้องออกไปหาข่าวข้างนอกให้ไปกับดีฟนะ แล้วก็ทำให้เต็มที่ล่ะ" พี่กันย์จับบ่ามนเล็กของเธอแล้วเดินไปทำงานของตัวเอง บรรยากาศในออฟฟิศจะเป็นการนั่งโต๊ะเหมือนออฟฟิศทั่วไปโดยมีฉากกั้นแบ่งโต๊ะยกเว้นก็แค่ช่างภาพที่ชื่อดีฟที่จะมีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเอง "แกว่าพี่ดีฟนี่ดูวีไอพีกว่าคนอื่นปะ" ธนัสพรเลื่อนเก้าอี้เข้าหามารตีโดยที่อาคิน และฐานิดานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มารตีดีดเข้าที่หน้าผากของธนัสพรอย่างไม่แรงมากนักเธอไม่สงสัยหรอกก็เพราะว่าพี่ดีฟน่ะดูแปลกๆ ตั้งแต่เธอเจอครั้งแรกแล้วเธอเชื่อเลยว่าเขาโลกส่วนตัวสูงจริงๆ นั่นแหละและคงมีฝีมือทีเดียวถึงมีห้องส่วนตัวแบบนั้นได้ "ทำงานเลย แกเนี่ยยุ่งไม่เข้าเรื่อง" "ยัยมิลก์ฉันเพื่อนแกนะ ว่าฉันได้ไง" ธนัสพรได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการ ส่วนอาคินจะอยู่ฝ่ายโปรดิวเซอร์ ฐานิดาได้เข้าไปช่วยนักวิชาการการค้นคว้า แม้ว่าพวกเธอจะได้ทำงานที่เหมาะสมของตัวเองแต่ก็ยังได้นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ดีเพราะงานเหล่านี้จะต้องทำด้วยกัน "นี่ปิ่นผู้ประกาศข่าวของเรารู้จักกันไว้สิ" พี่คีย์กับพี่เชฟที่เป็นโปรดิวเซอร์เดินเข้ามาพร้อมกับสาวสวยอวบอึ๋มแนะนำให้พวกเธอได้รู้จัก ทุกคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาปิ่นมนัสตามช่องโทรทัศน์ในฐานะผู้ประกาศข่าวต่างก็อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้เจอกันกับผู้ประกาศข่าวสาวคนเก่งจริงๆ "เอ้า! เหม่ออะไรกัน" "สวัสดีค่าพี่ปิ่น" "สวัสดีค่ะทุกคนสาวๆ หนุ่มๆ วัยใสนี่เขาน่ารักกันดีนะคะ" ปิ่นมนัสทิ้งคำพูดเอาไว้แค่นั้นแล้วเดินกลับไปนั่งอ่านข้อมูลของรายละเอียดข่าวที่จะต้องทำหน้าที่ในวันนี้ ก่อนที่จะเข้าไปเตรียมตัวอีกทีที่ห้องผู้ประกาศข่าว "เดี๋ยวฉันมานะ" "จะไปไหนคิน" "เออน่าเดี๋ยวมา" อาคินเดินตรงเข้าไปที่ห้องกาแฟก่อนจะชะโงกหน้าออกมาเล็กน้อยมองดูลาดเลาเมื่อปลอดคนเขาก็เร่งฝีเท้าเข้าไปในห้องส่วนตัวช่างภาพทันที ดีฟนั่งดื่มกาแฟอยู่ขายกพาดไปที่โต๊ะทำงานอย่างสบายใจก็หันหน้ามามองด้วยความสงสัย "เข้ามาทำไม" "เฮีย! ทำไมไม่ให้ผมไปทำงานกับมิลก์ละไหนเราตกลงกันแล้วไง" "ไอ้คิน" "เฮียครับ ผมอยากทำงานกับเพื่อน ไม่อยากทำงานกับเฮียคีย์ เฮียเซฟ" "มานั่งดีๆ ไม่งั้นจะบอกป๊ากับม๊าว่าแกดื้อกับเฮีย" "งั้นผมก็จะบอกให้ทุกคนรู้ว่าเฮียปลอมตัวมาเป็นพนักงาน" " ... " อาคินยืนเท้าเอวมองหน้าดีฟพี่ชายอย่างเอาเรื่อง ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันแล้วว่าจะให้ทุกคนทำงานด้วยกันแต่อยู่ๆ กลับให้ทำงานแยกกันแม้คำสั่งจะมาจากพี่กันย์บรรณาธิการแต่อาคินมั่นใจเต็มร้อยว่าพี่กันย์ต้องได้รับคำสั่งมาจากพี่ชายของเขาแน่ "เอากุญแจรถแกมา" "เอาไปทำไม" "เฮียบอกให้เอามา!" "เฮียนี่น้องนะ!" ว่าจบอาคินก็เดินออกไปอย่างหัวเสียเมื่อไม่สามารถเอาชนะพี่ชายของตัวเองได้ ดีฟชื่นชอบการถ่ายภาพและหลงใหลการถ่ายภาพมาก ป๊ากับม๊าเลยให้เขาเข้ามาบริหารสถานีฯ แรกๆ ดีฟไม่ยอมจนป๊ายื่นข้อเสนอว่าให้เขาทำงานเป็นช่างภาพได้โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครนอกจากพนักงานกินเงินเดือน ส่วนคำสั่งต่างๆ ก็ให้สั่งผ่านอีเมลเอาเท่านั้น หากจะมีประชุมอะไรป๊าจะเป็นคนออกหน้าจัดการให้เองเพื่อแลกกับการที่ดีฟไม่ต้องแต่งงานทางธุรกิจกับลูกสาวเพื่อนของม๊า 'แกต้องเลือกว่าจะบริหารสถานีต่อ หรือจะแต่งงาน' "หึ" ดีฟยกยิ้มมุมปาก เขาพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระแน่นอนว่าเขาเลือกบริหารสถานีอย่างลับๆ เพราะไม่ชอบที่จะเป็นเป้าหมายของสาวๆ หรือคู่แข่ง ก่อนหน้านี้มีนักธุรกิจท่านหนึ่งติดต่อมาขอร่วมซื้อหุ้น 40% แต่เขาไม่ยอมหรอกนะที่ตอบตกลงว่าให้มาลองคุยกันเพราะแค่อยากรู้ว่าใครมันกล้า ปกติแล้วไม่มีใครกล้ามาท้าทายเขาแบบนี้เลยด้วยซ้ำ "เป็นอะไรคิน ทำไมหน้าตาดูหงุดหงิด" อาคินไม่ตอบเพื่อนแต่หันไปมองที่หน้าห้องช่างภาพ ก่อนจะมองไปที่คีย์ และเชฟ ซึ่งคีย์กับเชฟเป็นเพื่อนของดีฟนั่นหมายความว่าทั้งสองคนเป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องคนสนิทที่ดีฟไว้วางใจ "ไปกินหนมกัน" อาคินตอบมาอย่างหัวเสียเขาเป็นถึงลูกชาย และน้องชายของเจ้าของบริษัทเลยนะแต่ทำไมทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจต้องตามใจเฮียไปเสียทุกอย่าง "ยังไม่เที่ยงเลยนะ" ฐานิดาตอบ "จะกินไหม ฉันเลี้ยงเอง" "อืม งั้นก็ได้" ธนัสพรเองก็เออออไปด้วยเพราะเธอเองก็เบื่อกับการที่จะต้องจ้องมองตัวหนังสือทั้งวัน "เราว่าไปตอนเลิกงานดีไหม พวกเธอดูสิพี่ๆ ทุกคนยังทำงานอยู่เลย" อาคินเองก็อยากจะลุกไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็เพิ่งจะมาคิดได้ว่าถ้าทำอะไรมากไปกว่านี้คนอื่นก็อาจจะจับได้ก็ได้ว่าเขาเองเป็นน้องชายของเจ้าของบริษัทน่ะ - เวลาค่ำ – "อิ่มมากเลยคิน ขอบใจนะที่เลี้ยงน่ะ" ฐานิดา กับธนัสพรหันไปขอบอกขอบใจเพื่อนชายคนเดียวในกลุ่มไม่เว้นแม้แต่มารตีที่หันไปขอบใจเพื่อนของตัวเองด้วยคน แต่สีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดีนักเธออยากจะออกจากบ้านหลังนั้นใจจะขาดแต่เงินที่ได้จากการฝึกงานจะได้เพียงแค่ 70% ของเงินเดือนพนักงานประจำที่ทำตำแหน่งนั้นๆ ยังไงมันก็ไม่เพียงพอเธอต้องหางานทำเพิ่ม "เป็นอะไรไปมิลก์" "ฉันจะหางานพาร์ไทม์ทำหลังเลิกงาน" "ทำไมละ" "ฉันอยากออกมาเช่าห้องอยู่เอง อยู่ที่บ้านนั้นฉันทำอะไรลำบากนิดหน่อย" Rrrr~ Rrrr~ Rrrr~ พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์มือถือของมารตีก็ดังขึ้นหน้าจอแสดงชื่อ 'ป้าวี' ป้าที่เลี้ยงดูเธอมาอย่างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มารตีทำสีหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะหันไปโบกมือลาเพื่อนๆ เดินแยกออกมาแล้วกดรับสาย "ค่ะป้าวี" (ยัยมิลก์ไปที่อาบอบนวด KJ.รัชดาหน่อย) "ไปทำไมคะ" (ถามมากจริง ลูกค้าฉันให้ไปเอาแบบผ้าที่นั่น ฉันไม่ว่างแกไปให้หน่อย) "ค่ะๆ" บ้านของปภาวีมีบริษัทตัดเย็บผ้าตามแบบโดยทำหน้าที่รับผ้าเนื้อดีมาตัดเย็บตามแบบที่ดีไซเนอร์แต่ละที่คนส่งมาให้ ซึ่งวันนี้ลูกค้าต้องนำตัวอย่างผ้ามาให้ดู - อาบอบนวด KJ. – มารตียืนอยู่หน้าอาบอบนวดชื่อดังมันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรของเธอเพราะว่าเธอชินแล้ว เธอต้องไปรับตัวอย่างผ้าตามสถานที่น่าอายต่างๆ เหมือนเช่นครั้งนี้ "สวัสดีค่ะฉันมาพบ ..." "เชิญด้านในได้เลยค่ะ" หญิงสาวรูปร่างดีในชุดรัดรูปโชว์หุ่นสวยยิ้มหวานเดินมาต้อนรับมารตีที่หน้าทางเข้า แม้เธอจะงงนิดหน่อยแต่คิดว่าลูกค้าของป้าคงจะสั่งพนักงานต้อนรับเอาไว้โดยลืมคิดไปว่า เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเธอมารับของแทนป้า แถมยังใส่ชุดนักศึกษาอีก มารตีเดินเข้าไปอย่างเรียบร้อย แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียหนึ่งดังมาจากห้องด้านในเป็นเสียงที่เธอเองก็เคยได้ยินมาแล้ว "เอาตัวเธอมาแลก"
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม