- วันต่อมา @สถานีโทรทัศน์ช่องรัน –
"น้องมิลก์รับผิดชอบข้อมูลด้านธุรกิจนะ ส่วนคนอื่นๆ พี่แบ่งงานไว้ให้แล้ว"
"ค่ะ"
พี่กันย์สาวสวยสุดเท่ของสถานีฯ แบ่งงานให้กับเหล่านักศึกษาฝึกงานตามความเหมาะสม ทุกคนต่างก็พอใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายรวมถึงป๊อปอายด้วยที่ได้รับหน้าที่หาข้อมูลด้านข่าวบันเทิง
"หากมีต้องออกไปหาข่าวข้างนอกให้ไปกับดีฟนะ แล้วก็ทำให้เต็มที่ล่ะ"
พี่กันย์จับบ่ามนเล็กของเธอแล้วเดินไปทำงานของตัวเอง บรรยากาศในออฟฟิศจะเป็นการนั่งโต๊ะเหมือนออฟฟิศทั่วไปโดยมีฉากกั้นแบ่งโต๊ะยกเว้นก็แค่ช่างภาพที่ชื่อดีฟที่จะมีห้องส่วนตัวเป็นของตัวเอง
"แกว่าพี่ดีฟนี่ดูวีไอพีกว่าคนอื่นปะ" ธนัสพรเลื่อนเก้าอี้เข้าหามารตีโดยที่อาคิน และฐานิดานั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม มารตีดีดเข้าที่หน้าผากของธนัสพรอย่างไม่แรงมากนักเธอไม่สงสัยหรอกก็เพราะว่าพี่ดีฟน่ะดูแปลกๆ ตั้งแต่เธอเจอครั้งแรกแล้วเธอเชื่อเลยว่าเขาโลกส่วนตัวสูงจริงๆ นั่นแหละและคงมีฝีมือทีเดียวถึงมีห้องส่วนตัวแบบนั้นได้
"ทำงานเลย แกเนี่ยยุ่งไม่เข้าเรื่อง"
"ยัยมิลก์ฉันเพื่อนแกนะ ว่าฉันได้ไง"
ธนัสพรได้รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยบรรณาธิการ ส่วนอาคินจะอยู่ฝ่ายโปรดิวเซอร์ ฐานิดาได้เข้าไปช่วยนักวิชาการการค้นคว้า แม้ว่าพวกเธอจะได้ทำงานที่เหมาะสมของตัวเองแต่ก็ยังได้นั่งรวมกลุ่มกันอยู่ดีเพราะงานเหล่านี้จะต้องทำด้วยกัน
"นี่ปิ่นผู้ประกาศข่าวของเรารู้จักกันไว้สิ"
พี่คีย์กับพี่เชฟที่เป็นโปรดิวเซอร์เดินเข้ามาพร้อมกับสาวสวยอวบอึ๋มแนะนำให้พวกเธอได้รู้จัก ทุกคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาปิ่นมนัสตามช่องโทรทัศน์ในฐานะผู้ประกาศข่าวต่างก็อ้าปากค้างเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้เจอกันกับผู้ประกาศข่าวสาวคนเก่งจริงๆ
"เอ้า! เหม่ออะไรกัน"
"สวัสดีค่าพี่ปิ่น"
"สวัสดีค่ะทุกคนสาวๆ หนุ่มๆ วัยใสนี่เขาน่ารักกันดีนะคะ"
ปิ่นมนัสทิ้งคำพูดเอาไว้แค่นั้นแล้วเดินกลับไปนั่งอ่านข้อมูลของรายละเอียดข่าวที่จะต้องทำหน้าที่ในวันนี้ ก่อนที่จะเข้าไปเตรียมตัวอีกทีที่ห้องผู้ประกาศข่าว
"เดี๋ยวฉันมานะ"
"จะไปไหนคิน"
"เออน่าเดี๋ยวมา"
อาคินเดินตรงเข้าไปที่ห้องกาแฟก่อนจะชะโงกหน้าออกมาเล็กน้อยมองดูลาดเลาเมื่อปลอดคนเขาก็เร่งฝีเท้าเข้าไปในห้องส่วนตัวช่างภาพทันที ดีฟนั่งดื่มกาแฟอยู่ขายกพาดไปที่โต๊ะทำงานอย่างสบายใจก็หันหน้ามามองด้วยความสงสัย
"เข้ามาทำไม"
"เฮีย! ทำไมไม่ให้ผมไปทำงานกับมิลก์ละไหนเราตกลงกันแล้วไง"
"ไอ้คิน"
"เฮียครับ ผมอยากทำงานกับเพื่อน ไม่อยากทำงานกับเฮียคีย์ เฮียเซฟ"
"มานั่งดีๆ ไม่งั้นจะบอกป๊ากับม๊าว่าแกดื้อกับเฮีย"
"งั้นผมก็จะบอกให้ทุกคนรู้ว่าเฮียปลอมตัวมาเป็นพนักงาน"
" ... " อาคินยืนเท้าเอวมองหน้าดีฟพี่ชายอย่างเอาเรื่อง ก่อนหน้านี้ก็ตกลงกันแล้วว่าจะให้ทุกคนทำงานด้วยกันแต่อยู่ๆ กลับให้ทำงานแยกกันแม้คำสั่งจะมาจากพี่กันย์บรรณาธิการแต่อาคินมั่นใจเต็มร้อยว่าพี่กันย์ต้องได้รับคำสั่งมาจากพี่ชายของเขาแน่
"เอากุญแจรถแกมา"
"เอาไปทำไม"
"เฮียบอกให้เอามา!"
"เฮียนี่น้องนะ!"
ว่าจบอาคินก็เดินออกไปอย่างหัวเสียเมื่อไม่สามารถเอาชนะพี่ชายของตัวเองได้ ดีฟชื่นชอบการถ่ายภาพและหลงใหลการถ่ายภาพมาก ป๊ากับม๊าเลยให้เขาเข้ามาบริหารสถานีฯ แรกๆ ดีฟไม่ยอมจนป๊ายื่นข้อเสนอว่าให้เขาทำงานเป็นช่างภาพได้โดยไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใครนอกจากพนักงานกินเงินเดือน ส่วนคำสั่งต่างๆ ก็ให้สั่งผ่านอีเมลเอาเท่านั้น หากจะมีประชุมอะไรป๊าจะเป็นคนออกหน้าจัดการให้เองเพื่อแลกกับการที่ดีฟไม่ต้องแต่งงานทางธุรกิจกับลูกสาวเพื่อนของม๊า
'แกต้องเลือกว่าจะบริหารสถานีต่อ หรือจะแต่งงาน'
"หึ"
ดีฟยกยิ้มมุมปาก เขาพอใจที่จะใช้ชีวิตอย่างอิสระแน่นอนว่าเขาเลือกบริหารสถานีอย่างลับๆ เพราะไม่ชอบที่จะเป็นเป้าหมายของสาวๆ หรือคู่แข่ง ก่อนหน้านี้มีนักธุรกิจท่านหนึ่งติดต่อมาขอร่วมซื้อหุ้น 40% แต่เขาไม่ยอมหรอกนะที่ตอบตกลงว่าให้มาลองคุยกันเพราะแค่อยากรู้ว่าใครมันกล้า ปกติแล้วไม่มีใครกล้ามาท้าทายเขาแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
"เป็นอะไรคิน ทำไมหน้าตาดูหงุดหงิด"
อาคินไม่ตอบเพื่อนแต่หันไปมองที่หน้าห้องช่างภาพ ก่อนจะมองไปที่คีย์ และเชฟ ซึ่งคีย์กับเชฟเป็นเพื่อนของดีฟนั่นหมายความว่าทั้งสองคนเป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องคนสนิทที่ดีฟไว้วางใจ
"ไปกินหนมกัน" อาคินตอบมาอย่างหัวเสียเขาเป็นถึงลูกชาย และน้องชายของเจ้าของบริษัทเลยนะแต่ทำไมทำอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจต้องตามใจเฮียไปเสียทุกอย่าง
"ยังไม่เที่ยงเลยนะ" ฐานิดาตอบ
"จะกินไหม ฉันเลี้ยงเอง"
"อืม งั้นก็ได้" ธนัสพรเองก็เออออไปด้วยเพราะเธอเองก็เบื่อกับการที่จะต้องจ้องมองตัวหนังสือทั้งวัน
"เราว่าไปตอนเลิกงานดีไหม พวกเธอดูสิพี่ๆ ทุกคนยังทำงานอยู่เลย"
อาคินเองก็อยากจะลุกไปเสียเดี๋ยวนี้ แต่ก็เพิ่งจะมาคิดได้ว่าถ้าทำอะไรมากไปกว่านี้คนอื่นก็อาจจะจับได้ก็ได้ว่าเขาเองเป็นน้องชายของเจ้าของบริษัทน่ะ
- เวลาค่ำ –
"อิ่มมากเลยคิน ขอบใจนะที่เลี้ยงน่ะ"
ฐานิดา กับธนัสพรหันไปขอบอกขอบใจเพื่อนชายคนเดียวในกลุ่มไม่เว้นแม้แต่มารตีที่หันไปขอบใจเพื่อนของตัวเองด้วยคน แต่สีหน้าของเธอไม่ค่อยสู้ดีนักเธออยากจะออกจากบ้านหลังนั้นใจจะขาดแต่เงินที่ได้จากการฝึกงานจะได้เพียงแค่ 70% ของเงินเดือนพนักงานประจำที่ทำตำแหน่งนั้นๆ ยังไงมันก็ไม่เพียงพอเธอต้องหางานทำเพิ่ม
"เป็นอะไรไปมิลก์"
"ฉันจะหางานพาร์ไทม์ทำหลังเลิกงาน"
"ทำไมละ"
"ฉันอยากออกมาเช่าห้องอยู่เอง อยู่ที่บ้านนั้นฉันทำอะไรลำบากนิดหน่อย"
Rrrr~ Rrrr~ Rrrr~
พูดยังไม่ทันขาดคำเสียงโทรศัพท์มือถือของมารตีก็ดังขึ้นหน้าจอแสดงชื่อ 'ป้าวี' ป้าที่เลี้ยงดูเธอมาอย่างไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มารตีทำสีหน้าเบื่อหน่ายก่อนจะหันไปโบกมือลาเพื่อนๆ เดินแยกออกมาแล้วกดรับสาย
"ค่ะป้าวี"
(ยัยมิลก์ไปที่อาบอบนวด KJ.รัชดาหน่อย)
"ไปทำไมคะ"
(ถามมากจริง ลูกค้าฉันให้ไปเอาแบบผ้าที่นั่น ฉันไม่ว่างแกไปให้หน่อย)
"ค่ะๆ"
บ้านของปภาวีมีบริษัทตัดเย็บผ้าตามแบบโดยทำหน้าที่รับผ้าเนื้อดีมาตัดเย็บตามแบบที่ดีไซเนอร์แต่ละที่คนส่งมาให้ ซึ่งวันนี้ลูกค้าต้องนำตัวอย่างผ้ามาให้ดู
- อาบอบนวด KJ. –
มารตียืนอยู่หน้าอาบอบนวดชื่อดังมันไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรของเธอเพราะว่าเธอชินแล้ว เธอต้องไปรับตัวอย่างผ้าตามสถานที่น่าอายต่างๆ เหมือนเช่นครั้งนี้
"สวัสดีค่ะฉันมาพบ ..."
"เชิญด้านในได้เลยค่ะ" หญิงสาวรูปร่างดีในชุดรัดรูปโชว์หุ่นสวยยิ้มหวานเดินมาต้อนรับมารตีที่หน้าทางเข้า แม้เธอจะงงนิดหน่อยแต่คิดว่าลูกค้าของป้าคงจะสั่งพนักงานต้อนรับเอาไว้โดยลืมคิดไปว่า
เขาจะรู้ได้ยังไงว่าเธอมารับของแทนป้า แถมยังใส่ชุดนักศึกษาอีก มารตีเดินเข้าไปอย่างเรียบร้อย แต่แล้วก็ต้องตกใจเมื่อได้ยินเสียหนึ่งดังมาจากห้องด้านในเป็นเสียงที่เธอเองก็เคยได้ยินมาแล้ว
"เอาตัวเธอมาแลก"