ตอนที่ 8
หนึ่งอาทิตย์ต่อมามินตราไปสัมมนากับบริษัทที่หัวหิน กฤติดนัยแฟนหนุ่มตามไปหาเธอที่นั่น ระหว่างทานมื้อค่ำอยู่ เขาก็โทรจิกเธอตลอดเวลา มินตรารำคาญจึงขออนุญาตระหว่างที่กำลังนั่งทานอาหารกันอยู่ริมทะเล กับกลุ่มเพื่อน ๆ ที่ทำงานด้วยกัน และหนึ่งในนั้นก็มีเจ้านายอย่างภูริภัทรอยู่ด้วย
“มิน..ขอตัวสักครู่นะคะ พอดีว่านัดกับเพื่อนเอาไว้” ภูริภัทรพยักหน้ารับรู้ เพราะได้ยินเสียงไลน์ของมินตราดังอยู่หลายครั้งแล้ว ขณะที่พนักงานบางคนเตรียมตัวจะกลับส่วนบางคนก็อยู่เที่ยวต่อ มินตราเดินฝ่ากลุ่มคนเหล่านั้นเพื่อไปหากฤติดนัยที่นั่งรอเธออยู่ตรงร้านอาหารแห่งหนึ่ง ไม่นานนักภูริภัทรก็รีบขอตัวกลับไปที่รีสอร์ต แต่ระหว่างทางเขาเห็นมินตรานั่งทานข้าวอยู่กับกฤติดนัย
มินตรานั้นออกไปพบกับกฤษดนัยอย่างที่เขาสงสัยเอาไว้จริง ๆ ซึ่งเมื่อวันศุกร์แฟนหนุ่มของเธอขับมอเตอร์ไชด์มาเช่าอยู่โรงแรมอยู่ชั้นเดียวกันกับพวกพนักงานบริษัท ภูริภัทรรู้เพราะมีพนักงานบางคนมาเล่าให้ฟัง
มินตราจำใจต้องออกมาหากฤติดนัยเพราะเขาขู่ว่าจะเข้าไปตามเธอหากเธอไม่ยอมออกมาพบ มินตราเกรงใจเพื่อน ๆ และเจ้านายจึงยอมออกมาพบกฤติดนัยตามที่เขาบอก กฤษดนัยย้ำกับมินตราว่านี่จะเป็นการพบกันครั้งสุดท้ายก่อนที่เขาจะไปทำงานที่ต่างประเทศกับคุณลุงที่เคยอุปถัมภ์เขาตั้งแต่เด็ก ๆ เขาอ้างแบบนั้นซึ่งมินตราก็ดีใจกับเขาด้วย เพราะเขาจะได้ตัดใจจากเธอเสียที
“มินช่วยเดินไปส่งพี่ที่ห้องได้มั้ย เดี๋ยวพี่ก็กลับแล้ว” หลังจากนั่งมองกฤติดนัยทานอาหารมื้อเย็นจนเสร็จเขาก็เอ่ยขึ้น มินตรามีสีหน้าหวาดระแวงอย่างเห็นได้ชัด แต่เธอก็ยอมเดินไปส่งเขาเพราะอยากให้เรื่องมันจบ ๆ ซึ่งกฤติดนัยก็พักอยู่ชั้นเดียวกับเธออยู่แล้ว พอเดินมาถึงหน้าห้องของตัวเองเขาก็รีบเปิดประตูเข้าห้องไปทันที และยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้เอ่ยอะไรออกมามือหนาก็รีบฉุดมินตราให้เข้าห้องไปพร้อมกัน ทันทีที่ประตูปิดสนิท ริมฝีปากหนาก็บดขยี้ลงมาที่ริมฝีปากบางทันที
“อ๊ะ.....อื้มมมม!!!” กฤษดนัยกอดจูบหล่อนหลายครั้งอย่างอดใจไม่ไหวเขาลูบไล้ไปทั่วบริเวณแผ่นหลังที่เปลือยเปล่าเนื่องจากชุดเดรสที่เว้าหลังของเธอ ก่อนจะรั้งเอวหล่อนเข้าประชิดจนแนบสนิท
“พี่ตั้ม!! อย่าทำแบบนี้ มินจะแต่งงานอยู่แล้วนะพี่” เสียงหวานร้องห้ามด้วยความตกใจ
“ไม่มีใครรู้หรอก หัวหน้ามินกับลูกน้องก็ยังปาร์ตี้กันอยู่ที่ริมทะเลไม่ใช่เหรอ” สิ้นเสียงริมฝีปากหนาก็ก้มลงมาจูบเธออีกครั้ง ก่อนที่ปลายลิ้นสากจะค่อยๆ วาดไปจนทั่วโพรงปากนุ่มอย่างหื่นกระหาย
“พี่ตั้ม…เราอย่าทำแบบนี้เลยนะ อีกเดือนเดียวมินก็ต้องแต่งงานกับคุณภัทรเค้าแล้ว” หญิงสาวมองหน้าเพื่อขอร้องอ้อนวอนให้เขาเลิกทำเช่นนี้เสียที เขาจูบแนบหน้าผากมนอย่างแผ่วเบาก่อนจะเอ่ยขึ้น
“พี่รู้!! แต่ว่าตอนนี้พี่ห้ามใจไม่ได้เลยนี่ครับ มินจ๋า...พี่ว่าเราหนีไปด้วยกันเถอะ” แฟนหนุ่มรีบเสนอ
“มินทำอย่างนั้นไม่ได้หรอกพี่ สงสารแม่” มินตรารีบบอก ก่อนหน้านี้เธอตัดสินใจบอกเลิกกับเขาไปแล้ว แต่กฤติดนัยขอพบเธอเป็นครั้งสุดท้าย เธอไม่น่าหลงกลยอมเดินมาส่งเขาเลย
“ผู้ชายน่ะ...ไม่มีวันรู้หรอก..ว่าเมียของตัวเองไปเอากับใครมาบ้าง เชื่อพี่สิ!!!” กฤติดนัยรีบบอก
“แต่มินยังไม่ได้เป็นเมียเค้านะ”
“จะแต่งงานกันอยู่แล้ว เค้าไม่คิดจะล่วงเกินมินเลยเหรอ”
“ค่ะ!! เค้าเป็นสุภาพบุรุษ” มินตรารีบบอก และพลางนึกไปถึงที่โต๊ะอาหารวันนั้น เธอเห็นภูริภัทรมองมุกระวีแปลก ๆ เธอจึงรีบเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้นวนันท์ฟัง เพื่อนของเธอแนะนำว่าเวลาอยู่ด้วยกันให้มินตราลองอ่อยภูริภัทรดูบ้าง
“สุภาพบุรุษหรือว่าเกย์” กฤติดนัยยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วถามขึ้น ไม่มีผู้ชายแท้ ๆ คนไหนปล่อยผ่านผู้หญิงตรงหน้านี้ได้หรอก
“ก็ไม่รู้สิคะ แต่มินก็เคยอ่อยเค้าอยู่นะ แต่ว่าเขาก็ไม่เคยล่วงเกินมินเลยสักครั้ง”
“ดีเลย!!!...งั้นก็แสดงว่ามินของพี่คงอดอยากนะสิ!” สิ้นเสียงมือหนาก็รีบประคองใบหน้านวลให้รับจูบของเขาอย่างดูดดื่มก่อนที่มินตราจะพยายามผลักเขาออกอย่างสุดแรง