กำลังทำให้เรามีอารมณ์

1120 คำ
        ยี่สิบนาทีให้หลัง ดินก็กลับมา           “ ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย ” ฉันถามเมื่อเห็นของที่แผ่นดินซื้อมาเต็มโต๊ะญี่ปุ่นที่ฉันกางไว้สำหรับกินข้าว           “ อันนี้พริกเผาทะเลราดข้าวไข่ดาวของปริมไง ส่วนอันนี้กะเพราเครื่องใน นี่น้ำพริกอ่องกับแตงกวา อันนี้โตเกียวใส่ไข่ อันนี้ไข่ลวกของเรา ”           “ กินอะไรเยอะแยะ ”           “ ใช้พลังงานเยอะ ต้องโด๊ฟ ” แผ่นดินบอกพร้อมตักข้าวเข้าปาก มือก็กดรีโมททีวีหาหนังดู ฉันแกะข้าวออกแล้วตักเข้าปาก ตาก็ลอบมองดิน คนบ้าอะไรทำอย่างว่าทั้งคืนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน มันยังหน้าตาสดชื่นระรื่นอยู่เลย ผิดกับฉันที่ง่วงเหงาหาวนอนสุด ๆ           ฉันคงมองดินนานเกินไปจนเขารู้สึกตัว เลยหันมาจ้องฉันบ้าง           “ มองอะไรวะปริม ” ฉันสะดุ้ง           “ เอ่อ ปละ..เปล่า ”           “ ปริมดูเครียด ๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า พูดมาตรง ๆ ได้ ”  ฉันก้มหน้านิ่ง           “ โกรธอะไรเรา ” ฉันเงยหน้า           “ เปล่า ”           แผ่นดินพยายามทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างว่าเขาทำอะไรให้ฉันไม่สบายใจหรือเปล่า สุดท้ายก็คงนึกได้ว่าเมื่อคืน มีบทรักที่หัวเตียงแล้วอาจจะมากระทบบริเวณผนังห้อง           “ หรือว่าเมื่อคืนเราทำเสียงดังรบกวนปริม ”           ฉันสะดุ้งเฮือก กลัวเหลือเกิน กลัวมันจะรู้ว่าฉันไปแอบฟัง บทรักของเขาแล้วแอบช่วยตัวเองจนเสร็จไปหลายรอบ           ดินเขยิบเข้ามาใกล้แล้วเอื้อมมือมาวางบนมือฉัน           “ เราขอโทษนะ เรารู้ว่าปริมไม่กล้าบอก เราเสียงดังเลยทำให้ปริมนอนไม่หลับใช่ไหม ” ฉันพูดอะไรไม่ออก ก็ดีเหมือนกันที่มันเข้าใจแบบนั้น           “ ต่อไปเราจะระวังไม่ให้เสียงดังนะ ”           ฉันพยักหน้าไปแกน ๆ สองคนนั่งตักข้าวเข้าปาก หันไปดูทีวี พลันนั้นเสียงโทรศัพท์ของดินก็ดังขึ้น เขากดรับ             “ ครับ น้าปลา อ๋อ เนี่ย ผมไปซื้อข้าวมานั่งกินกับปริมอยู่เลย แป๊บนะครับ ” ดินบอกพร้อมส่งโทรศัพท์ให้ฉัน           “ แม่ปริมโทรมา บอกโทรหาปริมไม่ติด ” ฉันรับโทรศัพท์ของดินมาแนบหูพร้อมกับเดินไปดูโทรศัพท์ตัวเอง มันดับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แบตหมดไม่รู้ตัว แม่ฉันเลยต้องโทรหาดินแทน           ฉันคุยอยู่พักหนึ่ง ดินก็อ้าปากพะงาบ ๆ บอกว่าไปซื้อน้ำแข็งก่อน ฉันคุยอีกไม่นานแม่ก็วาง สายตาเจ้ากรรมก็ไปสะดุดกับภาพหน้าจอโทรศัพท์ของดิน เป็นรูปเปลือยท่อนบนล่ำสันซิคแพ็คแน่นเปรี๊ยะของดินเองที่นอนอยู่บนเตียง ฉันเผลอกลืนน้ำลาย นึกถึงเสียงครวญครางจากผู้หญิงคนเมื่อคืนที่ได้ลูบไล้กายแกร่งทั้งคืนแล้วแอบอิจฉาเบา ๆ           แล้วความไม่รู้จักพอของฉันก็ทำให้ฉันแอบกดเปิดดูแกลเลอรี่ภาพถ่ายในมือถือดิน ฉันกดไปเรื่อย ๆ ส่วนมากเป็นภาพดินในอิริยาบถต่าง ๆ มีทั้งคนเดียว กับกลุ่มเพื่อน สะดุดในหัวใจนิดหนึ่งที่มีโฟลเดอร์เฉพาะที่ดินตั้งเป็นชื่อฉันโดยเฉพาะ ฉันเข้าไปดูก็เห็นรูปตัวเองจำนวนมาก แต่ส่วนมากจะเป็นรูปที่ดินแอบถ่ายตลก ๆ ไอ้เพื่อนบ้า         ฉันเลื่อนไปเรื่อย ๆ แล้วก็เจอภาพที่ทำให้ต้องตะลึง           เป็นเซ็ทภาพที่ดินร่วมรักกับผู้หญิงคนหนึ่งในท่วงท่าต่าง ๆ ภาพเธอกำลังอ้าปากอมท่อนลำขนาดใหญ่พอ ๆ กับกระบอกไฟฉาย ไม่งั้นก็แขนเด็กที่มันปูดโปนเต็มไปด้วยเส้นเลือด ภาพดินก้มลงใช้ลิ้นแลบยาวเลียเครื่องเพศของผู้หญิงอย่างไม่รังเกียจ ยิ่งเปิดดูก็ยิ่งใจเต้นแรง           ฉันเปิดดูลวก ๆ ในอัลบั้มภาพนั้น ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยท่วงท่าต่าง ๆ ที่ฉันไม่อาจหยุดพิจารณานานได้เพราะกลัวมันจะกลับมา แต่แล้วก็ไปเจอภาพหนึ่งสะดุดใจฉันเหลือเกิน ผู้หญิงคนหนึ่งนอนเบะขาอ้าซ่า โดยมีมือใหญ่ที่สอดใส่แตงกวาเข้าไปในช่องทางรักของเธออยู่ ฉันเสียววูบที่ช่องท้องก่อนหันขวับไปมองแตงกวาที่มันพึ่งซื้อมากินกับน้ำพริกอ่องโดยอัตโนมัติ           “ มาแล้ว เป๊บซี่คนละถุง ” เสียงห้าวใหญ่ดังขึ้นก่อนตัวจะตามมา ฉันรีบกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเอาไปวางไว้บนโต๊ะ           ดินยื่นเป๊บซี่ให้ฉันถุงหนึ่งแล้วถือวิสาสะขึ้นไปนอนบนเตียงดูทีวี น้ำเป๊บซี่ในถุงหยดลงบนเตียง ฉันแหว           “ ดิน ลงมากินข้างล่าง น้ำหยดใส่เตียงแล้วนั่นน่ะ ”           ดินนั่งเฉย ทำหูทวนลม ฉันหาที่วางถุงเป๊บซี่ของตัวเองแล้วเดินเข้าไปเอื้อมคว้าถุงเป๊บซี่ของดินออกมา เขาสลับมือไปถืออีกข้าง ฉันเอื้อมมือตาม เขาก็สลับมาอีกข้าง เพราะตัวฉันเล็กกว่าแขนก็สั้นกว่าเลยคว้าตามแขนยาวของคนตัวใหญ่ไม่ทัน  ฉันโมโหเลยทุ่มตัวลงไปหามันเพื่อจะคว้าของที่อยู่ในมือ แต่กลับพลาดท่าล้ม ที่สำคัญฉันล้มลงบนตัวดินเต็ม ๆ           ตัวฉันเองด้วยความที่ใจจดใจจ่ออยู่ที่ถุงเป๊บซี่ก็เลยยังพยายามคว้ามันจากมือขวาของดิน ที่ตอนนี้ยืดแขนให้มันพ้นเตียงอยู่ ส่วนแขนซ้ายเขารัดเอวฉันให้ดิ้นไม่ได้ อีกทั้งหัวเราะขำ ฉันยิ่งโมโห เลยพยายามดิ้นยกใหญ่           แต่อยู่ ๆ เสียงหัวเราะของดินก็หายไป เสียงทุ้มบอกฉันเบา ๆ           “ ปริม อย่าดิ้น ”           “ ทำไม คิดว่าตัวใหญ่กว่าแล้วจะเอาเปรียบเราได้เหรอ คิดว่าจะชนะตลอดหรือไง ไม่โว้ย ”           “ มะ.. ไม่ใช่ ”           “ ทำไม อย่ามาเจ้าเล่ห์”           “ ไม่ได้เจ้าเล่ห์ ”           “ เอาเป๊บซี่มา ” ฉันยังดิ้นไขว่คว้ายื้อแย่งถุง ดินปรามดังขึ้น           “ ปริม ! ”           “ เอามา ! ”           “ ปริมกำลังทำให้เรามีอารมณ์ ” ฉันชะงัก           “ อะไรนะ ! ”           “ ก็ตามนั้นแหละ ”           “ ระ..เรา ไม่เข้าใจ ”           “ ก็ปริมมาดิ้นอยู่บนตัวเรา นมปริมก็ถูนมเรา จิ๋มปริมก็ถูเจี๊ยวเรา เราก็เลย... ”           “ พอแล้ว ไอ้บ้า ! ”  ฉันตวาดดินเสียงดัง พึ่งจะรู้สึกเดี๋ยวนี้เองว่า มีบางอย่างนูนตุงนาบอยู่ที่หน้าท้องของฉัน ถึงแม้ว่ามันจะมีกางเกงฟุตบอลเป็นปราการอยู่ก็เถอะ แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความแข็งร้อนที่มันเหยียดขยายจนยิ่งใหญ่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม