ยี่สิบนาทีให้หลัง ดินก็กลับมา
“ ซื้ออะไรมามั่งเนี่ย ” ฉันถามเมื่อเห็นของที่แผ่นดินซื้อมาเต็มโต๊ะญี่ปุ่นที่ฉันกางไว้สำหรับกินข้าว
“ อันนี้พริกเผาทะเลราดข้าวไข่ดาวของปริมไง ส่วนอันนี้กะเพราเครื่องใน นี่น้ำพริกอ่องกับแตงกวา อันนี้โตเกียวใส่ไข่ อันนี้ไข่ลวกของเรา ”
“ กินอะไรเยอะแยะ ”
“ ใช้พลังงานเยอะ ต้องโด๊ฟ ” แผ่นดินบอกพร้อมตักข้าวเข้าปาก มือก็กดรีโมททีวีหาหนังดู ฉันแกะข้าวออกแล้วตักเข้าปาก ตาก็ลอบมองดิน คนบ้าอะไรทำอย่างว่าทั้งคืนแทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน มันยังหน้าตาสดชื่นระรื่นอยู่เลย ผิดกับฉันที่ง่วงเหงาหาวนอนสุด ๆ
ฉันคงมองดินนานเกินไปจนเขารู้สึกตัว เลยหันมาจ้องฉันบ้าง
“ มองอะไรวะปริม ” ฉันสะดุ้ง
“ เอ่อ ปละ..เปล่า ”
“ ปริมดูเครียด ๆ นะ มีอะไรหรือเปล่า พูดมาตรง ๆ ได้ ” ฉันก้มหน้านิ่ง
“ โกรธอะไรเรา ” ฉันเงยหน้า
“ เปล่า ”
แผ่นดินพยายามทบทวนอะไรหลาย ๆ อย่างว่าเขาทำอะไรให้ฉันไม่สบายใจหรือเปล่า สุดท้ายก็คงนึกได้ว่าเมื่อคืน มีบทรักที่หัวเตียงแล้วอาจจะมากระทบบริเวณผนังห้อง
“ หรือว่าเมื่อคืนเราทำเสียงดังรบกวนปริม ”
ฉันสะดุ้งเฮือก กลัวเหลือเกิน กลัวมันจะรู้ว่าฉันไปแอบฟัง บทรักของเขาแล้วแอบช่วยตัวเองจนเสร็จไปหลายรอบ
ดินเขยิบเข้ามาใกล้แล้วเอื้อมมือมาวางบนมือฉัน
“ เราขอโทษนะ เรารู้ว่าปริมไม่กล้าบอก เราเสียงดังเลยทำให้ปริมนอนไม่หลับใช่ไหม ” ฉันพูดอะไรไม่ออก ก็ดีเหมือนกันที่มันเข้าใจแบบนั้น
“ ต่อไปเราจะระวังไม่ให้เสียงดังนะ ”
ฉันพยักหน้าไปแกน ๆ สองคนนั่งตักข้าวเข้าปาก หันไปดูทีวี พลันนั้นเสียงโทรศัพท์ของดินก็ดังขึ้น เขากดรับ
“ ครับ น้าปลา อ๋อ เนี่ย ผมไปซื้อข้าวมานั่งกินกับปริมอยู่เลย แป๊บนะครับ ” ดินบอกพร้อมส่งโทรศัพท์ให้ฉัน
“ แม่ปริมโทรมา บอกโทรหาปริมไม่ติด ” ฉันรับโทรศัพท์ของดินมาแนบหูพร้อมกับเดินไปดูโทรศัพท์ตัวเอง มันดับไปตอนไหนก็ไม่รู้ แบตหมดไม่รู้ตัว แม่ฉันเลยต้องโทรหาดินแทน
ฉันคุยอยู่พักหนึ่ง ดินก็อ้าปากพะงาบ ๆ บอกว่าไปซื้อน้ำแข็งก่อน ฉันคุยอีกไม่นานแม่ก็วาง สายตาเจ้ากรรมก็ไปสะดุดกับภาพหน้าจอโทรศัพท์ของดิน เป็นรูปเปลือยท่อนบนล่ำสันซิคแพ็คแน่นเปรี๊ยะของดินเองที่นอนอยู่บนเตียง ฉันเผลอกลืนน้ำลาย นึกถึงเสียงครวญครางจากผู้หญิงคนเมื่อคืนที่ได้ลูบไล้กายแกร่งทั้งคืนแล้วแอบอิจฉาเบา ๆ
แล้วความไม่รู้จักพอของฉันก็ทำให้ฉันแอบกดเปิดดูแกลเลอรี่ภาพถ่ายในมือถือดิน ฉันกดไปเรื่อย ๆ ส่วนมากเป็นภาพดินในอิริยาบถต่าง ๆ มีทั้งคนเดียว กับกลุ่มเพื่อน สะดุดในหัวใจนิดหนึ่งที่มีโฟลเดอร์เฉพาะที่ดินตั้งเป็นชื่อฉันโดยเฉพาะ ฉันเข้าไปดูก็เห็นรูปตัวเองจำนวนมาก แต่ส่วนมากจะเป็นรูปที่ดินแอบถ่ายตลก ๆ ไอ้เพื่อนบ้า
ฉันเลื่อนไปเรื่อย ๆ แล้วก็เจอภาพที่ทำให้ต้องตะลึง
เป็นเซ็ทภาพที่ดินร่วมรักกับผู้หญิงคนหนึ่งในท่วงท่าต่าง ๆ ภาพเธอกำลังอ้าปากอมท่อนลำขนาดใหญ่พอ ๆ กับกระบอกไฟฉาย ไม่งั้นก็แขนเด็กที่มันปูดโปนเต็มไปด้วยเส้นเลือด ภาพดินก้มลงใช้ลิ้นแลบยาวเลียเครื่องเพศของผู้หญิงอย่างไม่รังเกียจ ยิ่งเปิดดูก็ยิ่งใจเต้นแรง
ฉันเปิดดูลวก ๆ ในอัลบั้มภาพนั้น ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยท่วงท่าต่าง ๆ ที่ฉันไม่อาจหยุดพิจารณานานได้เพราะกลัวมันจะกลับมา แต่แล้วก็ไปเจอภาพหนึ่งสะดุดใจฉันเหลือเกิน ผู้หญิงคนหนึ่งนอนเบะขาอ้าซ่า โดยมีมือใหญ่ที่สอดใส่แตงกวาเข้าไปในช่องทางรักของเธออยู่ ฉันเสียววูบที่ช่องท้องก่อนหันขวับไปมองแตงกวาที่มันพึ่งซื้อมากินกับน้ำพริกอ่องโดยอัตโนมัติ
“ มาแล้ว เป๊บซี่คนละถุง ” เสียงห้าวใหญ่ดังขึ้นก่อนตัวจะตามมา ฉันรีบกดปิดหน้าจอโทรศัพท์แล้วเอาไปวางไว้บนโต๊ะ
ดินยื่นเป๊บซี่ให้ฉันถุงหนึ่งแล้วถือวิสาสะขึ้นไปนอนบนเตียงดูทีวี น้ำเป๊บซี่ในถุงหยดลงบนเตียง ฉันแหว
“ ดิน ลงมากินข้างล่าง น้ำหยดใส่เตียงแล้วนั่นน่ะ ”
ดินนั่งเฉย ทำหูทวนลม ฉันหาที่วางถุงเป๊บซี่ของตัวเองแล้วเดินเข้าไปเอื้อมคว้าถุงเป๊บซี่ของดินออกมา เขาสลับมือไปถืออีกข้าง ฉันเอื้อมมือตาม เขาก็สลับมาอีกข้าง เพราะตัวฉันเล็กกว่าแขนก็สั้นกว่าเลยคว้าตามแขนยาวของคนตัวใหญ่ไม่ทัน ฉันโมโหเลยทุ่มตัวลงไปหามันเพื่อจะคว้าของที่อยู่ในมือ แต่กลับพลาดท่าล้ม ที่สำคัญฉันล้มลงบนตัวดินเต็ม ๆ
ตัวฉันเองด้วยความที่ใจจดใจจ่ออยู่ที่ถุงเป๊บซี่ก็เลยยังพยายามคว้ามันจากมือขวาของดิน ที่ตอนนี้ยืดแขนให้มันพ้นเตียงอยู่ ส่วนแขนซ้ายเขารัดเอวฉันให้ดิ้นไม่ได้ อีกทั้งหัวเราะขำ ฉันยิ่งโมโห เลยพยายามดิ้นยกใหญ่
แต่อยู่ ๆ เสียงหัวเราะของดินก็หายไป เสียงทุ้มบอกฉันเบา ๆ
“ ปริม อย่าดิ้น ”
“ ทำไม คิดว่าตัวใหญ่กว่าแล้วจะเอาเปรียบเราได้เหรอ คิดว่าจะชนะตลอดหรือไง ไม่โว้ย ”
“ มะ.. ไม่ใช่ ”
“ ทำไม อย่ามาเจ้าเล่ห์”
“ ไม่ได้เจ้าเล่ห์ ”
“ เอาเป๊บซี่มา ” ฉันยังดิ้นไขว่คว้ายื้อแย่งถุง ดินปรามดังขึ้น
“ ปริม ! ”
“ เอามา ! ”
“ ปริมกำลังทำให้เรามีอารมณ์ ” ฉันชะงัก
“ อะไรนะ ! ”
“ ก็ตามนั้นแหละ ”
“ ระ..เรา ไม่เข้าใจ ”
“ ก็ปริมมาดิ้นอยู่บนตัวเรา นมปริมก็ถูนมเรา จิ๋มปริมก็ถูเจี๊ยวเรา เราก็เลย... ”
“ พอแล้ว ไอ้บ้า ! ” ฉันตวาดดินเสียงดัง พึ่งจะรู้สึกเดี๋ยวนี้เองว่า มีบางอย่างนูนตุงนาบอยู่ที่หน้าท้องของฉัน ถึงแม้ว่ามันจะมีกางเกงฟุตบอลเป็นปราการอยู่ก็เถอะ แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความแข็งร้อนที่มันเหยียดขยายจนยิ่งใหญ่