ตอนที่ 4

3516 คำ
“ก็นิ่งเพื่ออ่อยเหยื่อยังไงเล่า ถ้าฉันทำตัวร่านอยากได้เขาแบบพวกแกเขาก็คงไม่สนใจหรอก พวกฝรั่งมันชอบความท้าทายยิ่งได้ยากมันก็ยิ่งวิ่งตาม แล้วจากสถิติของฉันในการเดินสายฝอมา ฉันว่าผู้ชายคนนี้น่าจะชอบผู้หญิงที่แรดเงียบๆแต่ร่านบนเตียง หล่อๆอย่างนี้น่ะโคตรเสือเลยล่ะ ฉันจะบอกให้” พิยดาพูดบอกพวกเพื่อนๆไปเมื่อเธอพิจารณาผู้ชายคนนั้นก็รู้สึกถึงดาเมจที่รุนแรงมากจากเขาที่มองสบตากับเธอก่อนหน้านี้ “พูดเหมือนช่ำชองทั้งๆที่แกยังไม่เคยมีแฟนฝอเลยสักคนเนี่ยนะยัยน้ำตาล แกแน่ใจได้ยังไงยะว่าเขาจะชอบแบบนั้น บางทีเขาอาจจะชอบแรดๆแบบออกสื่อแบบฉันก็ได้ใครจะไปรู้แก” กาญจนาพูดบอกไปแบบไม่เชื่อเพื่อนสาว “งั้นแกก็ลองไปจีบเขาดูสิ ถ้าเขาเล่นด้วยก็เท่ากับว่าฉันคิดผิด…” พิยดาพูดบอกไปเพราะเธอก็แค่เดาไปตามเนื้อผ้า ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้น “งั้นแกสองคนก็พนันกันไปเลยสิ มันจะได้สนุกๆกันหน่อย ฉันว่าแกสองคนน่ะไปจีบเขาด้วยกันทั้งคู่นั่นแหละ เขาสนใจใครมากกว่าคนนั้นก็ชนะ กล้ากันไหมล่ะ” จารุวัตรพูดออกไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ทันที เพราะเขาอยากจะรู้ว่าพิยดาจะกล้าไหม “เริด เจ้สนับสนุนความคิดนี้ เพราะผู้ชายคนนี้เจ้ให้สามผ่านเลย…ไม่ว่าใครได้ไปเจ้ก็ดีใจด้วย อ่ะ เจ้ให้รางวัลเลยถ้าใครชนะนะ เจ้ให้แสนนึงเลยอ่ะ ” บิวตี้พูดออกไปอย่างเห็นด้วยพร้อมกับตั้งเงินรางวัลให้กับสองสาวไป เพราะเผื่อพิยดาหรือกาญจนาจะฟลุ๊คแล้วจีบติดขึ้นมากันจริงๆ เธอจึงต้องเอาเงินมาล่อหน่อย “เจ้…แต่เขามากับแม่นะพวกหนูจะใจกล้าหน้าด้านเข้าไปจีบเขาได้ยังไงล่ะ เงินรางวัลก็อยากจะได้อยู่หรอก แต่แบบนี้ก็ไม่กล้าเข้าไปจีบไหมล่ะ” กาญจนาพูดออกไปเพราะเขามาทานข้าวกับแม่ จะให้พวกเธอเดินเขาไปจีบยังไงล่ะ “จริงเจ้… ไม่ต้องพนันหรอก จีบไปแล้วเขาไม่เอาทั้งหนูทั้งยัยก้อยนี่ก็อายเลยนะ ตาลว่าเราไม่ต้องไปสนใจเรื่องเขาแล้ว เรามาคุยเรื่องของพวกเราดีกว่านะเจ้” พิยดาพูดออกไปแบบไม่ต้องการเอาเรื่องแบบนี้มาเป็นเรื่องล้อเล่น “แบบนี้ไม่สนุกเลย พวกแกสองคนนี่ไม่ใจกันเลยอ่ะ น่าเสียดาย เงินก็เยอะ แถมผู้ชายก็เริดอีก เป็นฉันนะจะลองเสี่ยงดูสักตั้ง” จารุวัตรพูดออกไปบบเสียดายแทนเพื่อนสาว “ฉันสองคนไม่ได้หน้าหนาแบบแกนะนังเจา เขามากับแม่ก็ไม่เว้นน่ะ” กาจญาพูดออกไปแบบจิกกัดเพื่อนหนุ่มอย่างอดไม่ได้ “พอๆ ไม่ต้องเถียงกัน ทานข้าวกันดีกว่าไป มาเม้าท์กันดีกว่ามา….” บิวตี้พูดไปเพื่อยุติการถกเถียงกัน เพราะแก้งค์พวกเธอไม่รู้เป็นอะไรเถียงกันได้ตลอดจริงๆ จากนั้นทั้งสี่ก็นั่งพูดคุยกันไประหว่างที่ทานอาหารโดยไม่ได้สนใจเรื่องหนุ่มฝรั่งเมื่อกี้อีก ต่างจากพิยดาที่ปากบอกว่าไม่สนใจแต่เธอกลับแอบดูเป็นครั้งคราวแบบเนียนๆไป เพื่อไม่ให้เขาเห็นว่าเธอกำลังสนใจเขา ด้านแมทธิวก็นั่งทานอาหารกับแม่ของเขาท่ามกลางหลายๆสายตาที่พยายามจะส่งสายตามาให้เขา จนเขาค่อนข้างแปลกใจมากทีเดียว เพราะเขาก็ดังแค่ในฝรั่งเศสและวงการแฟชั่นเท่านั้น ผู้คนที่นี่ก็คงจะไม่ได้รู้จักอะไรเขา แต่ทำไมทุกคนถึงได้มองเขากันแบบนี้นะ “ไม่ต้องแปลกใจหรอกลูก เราเป็นฝรั่งหน้าตาดีพวกสาวๆเขาก็มองเป็นธรรมดานั่นแหละ ที่ไทยเวลาสาวๆเจอฝรั่งน่ะจะมองว่าหล่อกันทุกคนแหละ เพราะหนุ่มไทยเขาไม่ได้หน้าตาหรือผิวพรรณแบบฝรั่งน่ะ ” สุภัสสรพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม เพราะเห็นลูกชายหันไปมองพวกสาวๆที่นั่งในร้าน เธอก็เอ่ยพูดอธิบายออกไป “อ่อ ผมก็นึกว่าผมดังไกลถึงประเทศซะอีก แล้วนี่ทำไมวันนี้มัมถึงพาผมมาทานข้าวข้างนอกล่ะครับ ปกติมัมชอบให้ผมไปที่บ้านนิครับ” แมทธิวเอ่ยถามออกไปก็มองหน้าแม่ของเขา ก่อนจะเลื่อนสายตาเพ่งไปด้านหลังแล้วมองสาวสวยคนนั้นกำลังนั่งพูดคุยกับเพื่อนด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่น่าหลงใหลมาก “ก็ตอนนี้หลานสาวของป้าสะใภ้เรากลับมาอยู่ที่บ้านแล้วน่ะสิ แม่ก็เลยไม่อยากให้เราไปเพราะคุณพี่สิริเขาพยายามจะจับคู่ลูกกับหลานสาวของเขาอยู่ แม่ไม่ชอบผู้หญิงแบบหนูแป้งเขา แม่ก็เลยไม่อยากให้ลูกเจอเขาน่ะสิ” สุภัสสรพูดออกไปแบบตรงๆ เพราะเธอไม่ได้อยากจะได้ชญาภามาเป็นลูกสะใภ้ เธอจึงพยายามเลี่ยงให้ลูกชายของเธอไม่ให้เจอกับชญาภา “หึๆ ถึงผมจะเจ้าชู้แต่ผมก็เลือกนะครับมัม ผมไม่ได้จะยุ่งกับใครก็ง่ายๆนะครับถ้าผมไม่สนใจจริงๆ มัมพูดแบบนี้ทำให้ผมอยากจะเจอหลานสาวของป้าสิริเขาซะแล้วสิครับ สงสัยจะร้ายน่าดูมัมถึงไม่อยากจะให้ผมเจอแบบนี้” แมทธิวพูดบอกไป ก่อนจะแกล้งพูดแหย่ผู้เป็นแม่ไปอย่างขำๆ “ก็ไม่ได้ร้ายอะไรหรอก แค่เที่ยวกลางคืนกลับบ้านบ้างไม่กลับบ้านบ้างก็เท่านั้น แล้วแต่ล่ะครั้งแม่ก็เห็นมีผู้ชายมาส่งไม่ซ้ำหน้าเลย แบบนี้แม่ก็ไม่ไหวนะ เพราะฉะนั้นถ้าเราเจอเด็กนี้ในงานแต่งงานของตาบุรินกับหนูดาน่ะ เราต้องอยู่ให้ห่างนะตาแมท เข้าใจที่แม่พูดไหมหึ” สุภัสสรพูดบอกไปแบบจริงจัง เพราะกลัวชญาภาจะมาจับลูกชายยังไม่พอ นี่เธอยังต้องมากลัวลูกชายตัวดีของเธอไปเล่นด้วยกับแม่นั่นด้วยนี่สิ “เข้าใจแล้วครับมัม ถ้าผมเจอผมจะอยู่ให้ห่างก็แล้วกันนะครับ” แมทธิวพูดบอกไปก็ยกไวน์ขึ้นมาดื่มด้วยรอยยิ้มขำๆกับความที่แม่เขานั้นกลัวว่าเขาจะถูกสาวๆจับ แต่เขามันระดับไหนแล้วผู้หญิงเข้าหาแบบไหนทำไมเขาจะมองไม่ออกล่ะ “แล้วนี่ตาแก่มันเป็นยังไงบ้าง ตายหรือยัง” สุภัสสรเอ่ยถามถึงอดีตสามีของเธอไป เพราะเธอไม่ได้ติดต่อด้วยจึงได้แต่ถามไถ่เรื่องของอดีตสามีจากลูกชายเท่านั้น “ถ้ามัมอยากรู้ทำไมไม่โทรไปหาแด๊ดเองล่ะครับ ผมว่าแด๊ดเขาก็คงจะอยากคุยกับมัมนะครับ ไม่งั้นคงไม่ฝากผมมากอดมาหอมมัมหรอก หึๆ” แมทธิวพูดบอกไปเพราะอยากให้ทั้งสองลดทิฐิแล้วก็มาพูดคุยกันให้เข้าใจ เพราะตอนนี้มันก็ไม่ได้เป็นเหมือนเมื่อก่อนแล้ว “มากอดมาหอมอะไรน่าไม่อายจริงๆเลย ฝากเรามาทำแบบนี้ได้แสดงว่ายังไม่ตายยังอยู่ดีอยู่สินะ” สุภัสสรพูดออกไปก็รับรู้ว่าอดีตสามีของเธอนั้นคงจะสบายดี “ตอนนี้แด๊ดเขาไปเที่ยวน่ะครับมัม เพราะตั้งแต่ยกบริษัทให้พี่โจชัวดูแล พ่อก็ไม่เคยได้อยู่บ้านเลย สงสัยพึ่งจะได้มาสนุกก็ตอนแก่นี่แหละครับ” แมทธิวพูดบอกไปก็ยิ้ม เพราะเขาสัมผัสได้ถึงความคิดถึงที่แม่ของเขามีให้ผู้เป็นพ่อ ถึงแม้ท่านจะพูดจาแบบนี้ก็เถอะ “ก็สมควรล่ะ ตอนหนุ่มๆเอาแต่ทำงานไม่มีเวลาให้ลูกให้เมียเลยนิ มาตอนนี้ได้เที่ยวเปิดหูเปิดตาก่อนตายก็ดีสำหรับเขาแค่ไหนแล้วที่ไม่ทำงานจนตายน่ะ เฮ้อ… ช่างเถอะ แม่ไม่อยากจะพูดถึงพ่อเราแล้ว แล้วนี่เราจะมาอยู่ไทยนานเท่าไหร่หึรอบนี้” สุภัสสรพูดไปก็นึกถึงอดีตที่ทำให้เธอต้องตัดสินใจหย่ากับสามีก็เพราะว่าเขาเอาแต่ทำงานไม่สนใจลูกเมีย แม้กระทั่งวันที่เธอป่วยหนักต้องการเขาที่สุดแต่เขาก็ไม่เคยอยู่เคียงข้างเธอเลย เธอจึงหย่ากับเขาเพราะไม่สามารถทนใช้ชีวิตแบบนั้นได้อีกต่อไป “รอบนี้ประมาณเดือนนึงครับมัม แล้วผมจะกลับไปเตรียมถ่ายแบบเสื้อผ้าคอลเลคชั่นใหม่ของผมที่กำลังจะออกมาวางขายน่ะครับ ” แมทธิวพูดบอกไปก็ยิ้มให้ผู้เป็นแม่อย่างเข้าใจ ก่อนสายตาของเขาจะเพ่งเล็งมองไปที่สาวสวยที่นั่งโต๊ะนั้นอีกครั้ง เพราะเธอทำมือถือตกแล้วเธอก็ก้มเก็บทำให้เขานั้นได้เห็นร่องอกรำไรของเธออย่างไม่ตั้งใจเขาพอดี “ดีแล้วล่ะลูก แล้วพี่ชายลูกล่ะจะมาเที่ยวไทยไหม ตาแมท…ตาแมท เราได้ยินที่แม่ถามไหมเนี่ย เรามองอะไรอยู่หึ” สุภัสสรเอ่ยถามลูกชายก็ไม่ตอบอะไรจนเธอนั้นหันไปมองตามสายตาของลูกชายก็เห็นสาวสวยนั่งอยู่โต๊ะด้านหลังที่ถัดไปหนึ่งโต๊ะของเธอพอดี เธอก็หันมามองลูกชายทันที “เรานี่มันจริงๆเลยนะ เห้นสาวๆเป็นไม่ได้เลย” สุภัสสรหันกลับมาแล้วพูดไปพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างปลงๆกับความเจ้าชู้ของลูกชายที่มองสาวๆอีกแล้ว นี่ขนาดพึ่งมาถึงวันแรกนะเนี่ย “ก็เขาสวยน่ารักดีนิครับมัม มันก็เลยอดมองไม่ได้ จะว่าไปนี่สาวไทยก็ดูสวยมีเสน่ห์เหมือนกันนะครับเนี่ย” แมทธิวพูดไปก็ยิ้มออกมาแบบไม่ได้อายผู้เป็นแม่เลยสักนิด เพราะสำหรับเขาเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องปกติ “ถ้าไม่สวยไม่มีเสน่ห์แม่จะมีเรากับพี่ชายเราได้ยังไงล่ะ ถ้าพ่อเราไม่มารักมาหลงเสน่ห์ของแม่หึ” สุภัสสรพูดบอกไปแล้วก็ยิ้มขำๆใส่ลูกชายไป “ฮ่าๆ จริงครับมัม แถมยังปั้นออกมาได้เพอร์เฟคสุดๆเลยด้วย แบบนี้ผมต้องหาสาวยไทยมาเป็นเมียแล้วมั้งครับ จะได้มีลูกออกมาหน้าตาเพอร์เฟคแบบผม ฮ่าๆ” แมทธิวพูดแซวกลับไปแบบขำๆอย่างอดไม่ได้ “เรานี่มันหลงตัวเองจริงๆเลย หึๆ” สุภัสสรพูดไปก็ส่ายหน้าไปมาอย่างขำๆกับคำพูดของลูกชาย ก่อนจะนั่งพูดคุยและทานข้าวกับลูกขายไปอย่างมีความสุข ด้านพิยดาที่แกล้งเอามือปัดมือถือให้ตกแล้วแกล้งเก็บขึ้นมาแบบช้าๆนั้นก็แกล้งทำเป็นไม่มองหนุ่มฝรั่งคนนั้น แล้วเธอก็จงใจอ่อยแบบเบาๆไปก่อนเพราะเขาอยู่กับแม่ อ่อยมากกว่านี้คงไม่ได้ “กริ้งๆ…กริ้งๆ…แปปนะแก พอดีแม่ของฉันโทรมา เดี๋ยวออกไปคุยข้างนอกแปปนะ” พิยดาพูดบอกเพื่อนๆไปแล้วเธอก็เดินถือโทรศัพท์ออกไปทันที เพราะเธอก็เกร็งใจเพื่อนที่กำลังเม้าท์กันอยู่ “โอเคแก รีบกลับมานะ” จารุวัตรพูดตอบไปแล้วก็มองเพื่อนสาวเดินออกไปที่หน้าร้าน ก็กลับมาพูดเม้าท์กันต่อทันที พอพิยดาเดินออกมาแล้วก็กดรับสายผู้เป็นแม่ทันที ก่อนจะพูดคุยกับท่านตามปกติเพราะแม่ของเธอจะโทรมาหาเธอทุกๆเย็นหลังเลิกงานตลอด ส่วนแมทธิวพอเห็นสาวสวยเดินออกไปเขาก็รอจังหวะสักแปปของก็ขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำแล้วเขาก็แอบตามเธอมา ก่อนจะเห็นเธอยืนคุยโทรศัพท์อยู่นาน เขาก็มองทรวดทรงองค์เอวของเธอแบบพิจารณาด้วยสายตาหื่นๆ “รูปร่างดี เอวคอด ก้นใหญ่ น่าเอาชะมัดเลย…” แมทธิวพูดพึมพำออกมาอย่างชอบใจกับสัดส่วนของเธอที่มันอวบอัดน่ากอดน่าขย้ำมาเอามากๆ สงสัยเขาต้องเปลี่ยนแพลนใหม่ซะแล้ว จากที่คิดว่าจะพักผ่อนในคืนแรกที่มาถึง ตอนนี้เขากลับคิดว่าถ้าเขาได้สาวสวยคนนี้ไปนอนบนเตียงของเขาคืนนี้มันจะเป็นยังไงกันนะ พอเขาเห็นเธอทำท่าจะวางสายเขาก็ยิ้มแบบเจ้าเล่ห์แล้วเดินตรงเข้าไปยืนอยู่ด้านหลังของเธอทันที เพราะอะไรที่เขาหมายตาเอาไว้แล้วยังไงเขาก็ต้องได้ ยิ่งเป็นผู้หญิงที่มีความดึงดูดแบบนี้ก็ยิ่งทำให้เขานั้นคึกมากขึ้นไปอีก “ปึก! …. ว้าย…พรึบ!....” พิยดาวางสายของผู้เป็นแม่แล้วหันหลังจะเดินกลับเข้าไปในร้านแต่เธอก็ชนกับใครก็ไม่รู้จนเธอเกือบล้มลงแต่เธอก็ดึงแขนของคนที่เธอชนเอาไว้ได้ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็อึ้ง เพราะเขาคือฝรั่งหล่อคนนั้นที่เธอหมายตาเอาไว้ แมทธิวก็อาศัยจังหวะนี้โอบเอวของเธอไว้แล้วก็มองสบตากับเธออย่างจดจ้อง ก่อนที่มือของเขาจะเลื่อนลงไปที่ก้นของเธออย่างต้องการสำรวจว่ามันจะเหมาะกับขนาดมือของเขาไหม แล้วเขาก็สัมผัสได้ถึงก้นใหญ่ๆของเธอ “นี่คุณมาจับก้นฉันทำไม ออกไปนะ…” พิยดาพอรู้สึกว่ามือของเขาที่อยุ่ที่เอวของเธอนั้นเลื่อนไปที่ก้นก็รีบเอามือผละเขาออกไปทันที ก่อนจะมองเขาด้วยสีหน้าตื่นๆ “ก็คุณอ่อยผมไม่ใช่เหรอ ผมก็นึกว่าคุณจะต้องการแบบนี้ซะอีก” แมทธิวพูดบอกไปเพราะเขารู้ว่าเธออ่อยเขาก่อนหน้านี้ มุกเด็กๆแบบนี้ทำไมเขาจะดูไม่ออกล่ะ “ฉันเนี่ยนะจะอ่อยคุณ ไม่มีทางอ่ะ เข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่าคุณ ฉันไม่ได้สนใจอะไรคุณเลยด้วยซ้ำ” พิยดาพูดออกไปแบบไม่ยอมรับ นี่เธออ่อยแค่นั้นเขาก็มองออกแล้วเหรอ จะเก่งเกินไปแล้วพ่อคุณ เธอไม่ยอมรับซะอย่างเขาจะทำอะไรได้ “แต่ผมสนใจคุณนะ ไปสนุกกับผมคืนนี้ไหมล่ะ ผมจะจ่ายให้คุณตามที่คุณต้องการเลย” แมทธิวพูดบอกไปแบบไม่มีอ้อม เพราะเขาอยากจะได้เธอเขาก็แค่ซื้อเธอก็เท่านั้น “ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว ถ้าคุณต้องการมากนักก็ไปหาซื้อในที่ที่เขาขายนู้น ผู้หญิงมันไม่ได้ง่ายเหมือนกันทุกคนนะคุณ ขอตัวนะคะ ฉันไม่ชอบคุยกับคนแปลกหน้า…” พิยดาพูดบอกไปแบบไม่พอใจ ก่อนจะเดินชนไหล่ของเขาอย่างแรงแล้วมุ่งตรงจะกลับเข้าไปในร้าน แต่เขาก็มาจับมือของเธอเอาไว้จนเธอหันกลับมา “ผมให้คุณหนึ่งแสนบาท แลกกับการนอนกับผมคืนนี้แค่คืนเดียว” แมทธิวพูดต่อรองออกไปอีกครั้ง เพราะเขาไม่เคยถูกปฎิเสธแบบนี้มาก่อน ปกติเขาแทบจะไม่ได้เสนอเงินหรือชวนใครมานอนกับเขาด้วยซ้ำ “นี่คุณฟังภาษาคนไม่เข้าใจเหรอคะ ฉันไม่ได้ขายตัว! อย่ามายุ่งกับฉัน ฉันไม่ชอบผู้ชายหน้าหม้อแบบคุณ พรึบ…” พิยดาพูดบอกไปก็สะบัดมือของเขาออกแล้วเธอก็เดินกลับเข้าไปด้านในทันที อุตส่าห์เจอคนถูกสเปคแต่ดันมาทำสันดานแย่ๆใส่ซะนี่ เฮ้อ…นี่ชีวิตของเธอมันจะมีชะตาไม่มีผัวกับเขาจริงๆเหรอเนี่ย “หึ ด่าเจ็บซะด้วย… อย่าให้ผมเจอคุณอีกก็แล้วกัน…” แมทธิวมองตามเธอไปด้วยสีหน้ายิ้มร้ายๆ เพราะเขาเองก็ไม่ชอบฝืนใจใคร ในเมื่อเธอไม่สนใจเขาก็ไม่ตื้อ เพราะคนอย่างเขามีผู้หญิงที่พร้อมจะสนองความต้องการให้ตั้งเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องมาอ้อนวอนขอร้องใคร “พวกแก พอดีแม่ฉันมีธุระด่วน เดี๋ยวฉันกลับก่อนละกัน ไว้เจอกันนะ” ด้านพิยดาพอเดินกลับเข้ามาก็เอ่ยบอกเพื่อนๆทันที เพราะเธอไม่มีอารมณ์จะนั่งทานต่อแล้ว เธอจึงหาข้ออ้างกลับบ้าน “เดี๋ยวแก จะไปตอนนี้เลยเหรอ แม่เป็นอะไรหรือเปล่า…” บิวตี้เอ่ยถามออกไปแบบงงๆ เมื่อพิยดาจะกลับกะทันหันแบบนี้ เธอก็กลัวว่าที่บ้านของพิยดาจะเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า “แม่ไม่เป็นไรหรอกเจ้ แค่เขาเรียกให้ไปทำธุระให้น่ะ หนูขอตัวกลับก่อนก็แล้วกันนะคะ ไปนะแก” พิยดาพูดบอกไปก็หยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาแล้วหันหลังเดินไปแล้วเธอก็เจอผู้ชายคนนั้นเดินกลับเข้ามาพอดี เธอก็แลสบตามองกับเขาแล้วเมินหน้าหนีแบบไม่สนใจ ก่อนจะเดินออกไปทันที แมทธิวก็ปลายตาแลมองเธอแบบนิ่งๆแล้วเขาก็ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรก่อนจะกลับไปนั่งที่โต๊ะกับแม่ของเขาตามปกติ แล้วเขาก็นั่งพูดคุยและทานข้าวกับแม่ของเขาต่อเหมือนกันไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอทานเสร็จเขาก็ออกไปส่งแม่ของเขาขึ้นรถที่หน้าร้าน เพราะเขามีรถของโรงแรมที่รอรับเขาอยู่แล้ว พอรถของแม่ของเขาขับออกไปเขาก็เจอกับเพื่อนๆของสาวสวยคนนั้นเดินออกมาพอดี เขาจึงเดินเข้าไปหาทันที “ขอโทษนะครับ พอดีผมมีเรื่องจะรบกวนหน่อยน่ะครับ” แมทธิวเอ่ยพูดเป็นออกไปแล้วก็ยิ้มแบบเป็นมิตรไปให้กับทั้งสาม “มีอะไรให้พวกเขาช่วยเหรอคะ” กาญจนาพูดออกไปด้วยรอยยิ้มและสายตาที่อ่อยๆออกไปด้วย เพราะยิ่งเขายิ้มให้แบบนี้แล้วก็โคตรหล่อเลย หล่อจนอยากจะลากกลับบ้าน “บอกได้เลยนะคะ พวกเราพร้อมช่วยสุดหล่ออย่างคุณอยู่แล้วล่ะค่ะ จะให้ไปส่งที่บ้านก็ได้นะคะ…” บิวตี้พูดบอกไปด้วยสีหน้ายิ้มเขินๆอย่างตื่นเต้น เพราะมองใกล้ๆแล้วก็ยิ่งหล่อ ตาสีฟ้าซะด้วย พ่อเอ้ยแม่เอ้ย เธอเจอเขาช้าไปจริงๆเลยเนี่ย ไม่น่ารีบแต่งงานเลยเรา “เบาๆหน่อยเจ้ มีผัวแล้วนะเราอ่ะ ขอโทษนะครับ พอดีเพื่อนผมเขาชอบพูดจากล้อเล่นน่ะครับ” จารุวัตรเห็นบิวตี้ทำท่าทางแบบนั้นก็เอ่ยขัดขวางทันที เพราะหล่อๆแบบนี้กระเทยยอมไม่ได้ กระเทยก็อยากจะได้บ้างเหมือนกัน “อ่อไม่เป็นไรครับ พอดีผมอยากจะขอเบอร์ติดต่อของเพื่อนคุณสามคนเมื่อกี้หน่อยอ่ะครับ คนที่เขาออกไปก่อนหน้านี้อ่ะครับ ไม่ทราบว่าพวกคุณพอจะให้เบอร์หรือช่องทางการติดต่อเขาให้ผมหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากจะรู้จักกับเขาน่ะครับ” แมทธิวพูดบอกไปด้วยรอยยิ้ม เพราะจะปล่อยไปก็รู้สึกเสียดายไหนๆก็เจอม้าพยศแล้ว ก็ขอเขาปราบสักหน่อยเถอะ อย่างน้อยเขาก็ได้หาอะไรทำสนุกๆตอนที่อยู่ที่ไทย ต่างจากทั้งสามที่พากันอึ้งกันไปเป็นแถวที่อยู่ๆเพื่อนสาวที่นั่งนิ่งๆเงียบๆไม่ได้สนใจอะไรผู้ชายคนนี้ก็ได้รับความสนใจจนเขาต้องมาขอเบอร์ติดต่อ คุณพระ นี่พวกเขาไม่ได้ฟังอะไรผิดไปใช่ไหมเนี่ย นี่เพื่อนของเขาจะขายออกแล้วเหรอ “เดี๋ยวพวกเราขอปรึกษากันแปปนะคะ …” บิวตี้พูดออกไปด้วยรอยยิ้มแห้งให้กับฝรั่งหล่อคนนี้ไป ก่อนจะดึงแขนของกาญจนาและจารุวัตรออกมาห่างๆจากเขา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม