เสียงตกใจของลูคัสทำให้หลายคนที่นั่งอยู่ด้วยกันต้องหันมามอง ชายหนุ่มจึงยิ้มแหย ๆ ก่อนจะลุกจากพื้น แล้วเดินไปคุยโทรศัพท์ห่าง ๆ ท่ามกลางสายตาสงสัยของน้องสาวตัวแสบ ที่นั่งใกล้พี่ชายมากที่สุดทำให้ได้ยินอะไรแว่ว ๆ ประมาณเรื่องแม่ เรื่องลูก
“เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ” ลูคัสถามซ้ำอีกครั้งเผื่อหูไม่ดี มัดไหมจึงกระแอมเล็กน้อยก่อนอธิบายให้ชายหนุ่มเข้าใจในเจตนาที่อยากมีลูกและอยากได้น้ำเชื้อของเขามาเป็นส่วนผสมกับไข่ของตนเอง
“คือแบบนี้ค่ะ ดิฉันสนใจอยากได้น้ำเชื้อของคุณ” เธอพูดตามตรงอย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยนิสัยที่ตรงไปตรงมาทำให้หญิงสาวเป็นคนพูดไม่เก่ง คิดแบบไหนก็พูดแบบนั้น แต่คนกำลังฟังอึ้งไปชั่วขณะเพราะไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงคนไหนกล้าพูดกับตนเองอย่างนี้
“คุณเป็นใคร กล้าดียังไงถึงมาพูดกับผมแบบนี้ ผมไม่ใช่เพื่อนเล่นของคุณนะครับ”
“ดิฉันก็ไม่ได้คิดจะเป็นเพื่อนเล่นของคุณค่ะ แต่ดิฉันต้องการอสุจิของคุณจริง ๆ ดิฉันอยากมีลูก”
“อยากมีลูกก็ให้แฟนคุณทำสิ มาขอผมแบบนี้ได้ยังไง บ้าไปแล้ว”
“ดิฉันไม่ได้บ้านะคะ ดิฉันอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี คุณช่วยบริจาคสเปิร์มให้ดิฉันหน่อยได้ไหม เอาแบบนี้ไหมคะ คุณว่างพอที่จะมาเจอกันไหม ดิฉันจะได้อธิบายสิ่งที่ต้องการได้ถูก คุณไม่ต้องกังวลว่าฉันจะเป็นมิจฉาชีพ ดิฉันเป็นคนดีแน่นอน ชื่อมัดไหม มานีวัฒน์ค่ะ”
“ได้ ในเมื่อคุณกล้านัดผม ผมก็กล้าไปเจอคุณ” ชายหนุ่มตอบรับในทันทีอย่างไม่ต้องคิดให้ปวดหัว เพราะรู้สึกอยากเห็นหน้าแม่สาวใจกล้าเต็มทน เกิดมาเขาไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนกล้าและบ้าขนาดนี้มาก่อนจึงมีความสนใจในตัวหญิงสาวเป็นพิเศษ
“จริงเหรอคะ งั้นเจอกันที่ไหนดี” มัดไหมตาโตด้วยความดีใจ เมื่อลูคัสไม่ปฏิเสธการนัดหมาย
“ที่บริษัทของผมในอีกสองวันข้างหน้า หวังว่าคุณจะรู้ว่าบริษัทของผมอยู่ที่ไหน”
“รู้ค่ะรู้ ขอบคุณมาก ๆ นะคะ ที่ยอมให้ดิฉันเข้าไปเจอ ดิฉันขอวางสายนะคะ สวัสดีค่ะ”
หญิงสาววางสายเรียบร้อยก็กระโดดลงไปนอนดิ้นอยู่บนเตียงด้วยความดีใจที่ความฝันใกล้สำเร็จเข้าไปทุกที ใบหน้าของเธอจึงเต็มไปด้วยความสุข ก่อนจะส่งข้อความไปบอกน้องสาวที่กำลังเดินตามหมอเมฆา
ต้อย ๆ ราวกับเป็นเงาก็ไม่ปาน
ส่วนลูคัสหลังจากวางสาย ก็ยืนนิ่งไปสักพักเพราะยังงงกับพฤติกรรมของตนเองที่อยู่ดี ๆ ก็รับปากยอมเจอ กับหญิงสาวปริศนาที่ไม่รู้จักกันมาก่อน ด้วยความสงสัยเขาจึงส่งเบอร์โทรศัพท์ของเธอไปให้ลูกน้องเช็กข้อมูลว่า เป็นใครแล้วมีจุดประสงค์อะไรกันแน่ ที่กล้ามาขอสเปิร์มของตนเองอย่างนี้
“อาลูคัสครับ” / “อาลูคัส” เสียงสองแฝดดังมาแต่ไกลปลุกให้คุณอาตื่นจากความสงสัย สีหน้าของลูคัสจึงเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นหลานชายกำลังวิ่งเข้ามาหา และมีหลานสาวคนเล็กวิ่งตามหลังมาติด ๆ
“ครับพี่ไลก้า พี่เลโก้ มาหาถึงตรงนี้ มีอะไรครับ เดินระวัง ๆ ค่ะน้องเฟด้าเดี๋ยวล้ม”
“แด๊ดกับแม่ให้พวกเรามาตามอาลูคัสไปกินข้าวครับ” ไลก้าชี้ไปที่กลุ่มของพ่อแม่ซึ่งกำลังมองมาทางนี้
“ใช่ฮะ พวกเราหิ๊วหิว เนี่ยท้องพี่เลโก้ไม่ป่องแล้ว” เลโก้ลูบท้องของตนเองเพื่อให้คุณอาดูว่าหิวแค่ไหน
“น้องเฟด้าก็หิวค่า อยากกินพี่กุ้งม้ากมาก อาลูคัสแกะให้น้องเฟด้าด้วยนะคะ” เด็กหญิงเฟมีด้าเองก็ไม่ยอมแพ้พี่ชาย จึงเอ่ยในสิ่งที่ตนเองต้องการ พร้อมกับเดินเข้าเกาะขาของคุณอาด้วยท่าทางอ้อน ๆ ลูคัสจึงก้มตัวลงแล้วลูบหัวหลานสาวอย่างอ่อนโยน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแบบฉบับคุณอาผู้ใจดี
“ได้สิคะ เรื่องแค่นี้อาทำให้ได้อยู่แล้ว งั้นไปกัน”
“เย้ ๆ” / “กินข้าว ๆ” / “กินกุ้ง ๆ”
สามพี่น้องร้องด้วยความดีใจ ก่อนวิ่งกลับไปหาพ่อแม่ที่กำลังยืนส่ายหัวให้กับความซุกซนของลูก ๆ พวกเขาสั่งแค่ไลก้า แต่เลโก้กับเฟมีด้าวิ่งตามไปด้วย จริงแล้วพิมมี่กับแมททิวก็อยากวิ่งไปด้วยเหมือนกัน แต่ติดที่เสียงของมารดาดังขึ้นมาห้ามเสียก่อน จึงไม่ได้วิ่งตามทั้งสามคนไป
ลูคัสอมยิ้มเล็กน้อยในขณะเดินตามหลาน ๆ กลับโรงแรม แต่สมองยังคิดถึงเรื่องของหญิงสาวปริศนาคนนั้น ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดกว่าปกติจนน้องสาวกับมารดาที่กำลังเดินตามหลังจับสังเกตได้
“มามี้ว่าพี่ลูคัสกำลังเจอปัญหาแน่เลย ฮันนี่ว่าไหมลูก” คนเป็นแม่กระซิบกระซาบถามลูกสาวด้วยความสงสัย
“ใช่ค่ะ ฮันนี่ก็คิดเหมือนมามี้” ลูกสาวก็เออออห่อหมกพยักหน้า
หงึก ๆ เห็นด้วย แต่บทสนทนาของทั้งคู่กลับถูกขัดจังหวะ ด้วยน้ำเสียงทรงอำนาจของใครบางคนที่ไม่ต้องการให้สองสาวเข้าไปยุ่งเรื่องของลูคัสมากเกินไป
“อะแฮ่ม ๆ สองแม่ลูกไม่ต้องไปยุ่งเรื่องของเจ้าลูคัสหรอก”
สองสาวต่างวัยได้ยินอย่างนั้นจึงค้อนควักให้กับคนพูดซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน ริโก้ส่ายหน้าด้วยความเอ็นดูให้ภรรยากับลูกสาวคนเล็ก ก่อนเดินเข้าไปใกล้ลูกชายคนกลาง แล้วตบบ่าเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจอย่างที่ตนเองชอบทำเป็นประจำ
ลูคัสจึงยิ้มเล็กน้อยพร้อมกับบอกพ่อว่า ไม่มีอะไรร้ายแรงไม่ต้องเป็นห่วง และหันมาบอกมารดากับน้องสาวด้วย เพื่อให้ทั้งคู่คลายความกังวล สองแม่ลูกจึงพยักหน้ารับแต่ในใจยังสงสัยเหมือนเดิม
เมื่อวันนัดหมายมาถึงหญิงสาวตื่นตั้งแต่ไก่โห่ ขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวแต่งหน้าอ่อน ๆ อย่างเช่นทุกครั้งที่จะไปข้างนอก แล้วเอาชุดที่คิดว่าสุภาพและดูเรียบร้อย ซึ่งเลือกมาตั้งแต่สองวันก่อนมาสวมใส่ พร้อมกับหยิบน้ำหอมราคาแพงมาฉีด เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตนเอง
จากนั้นก็หมุนตัวอยู่หน้ากระจกสองสามครั้ง เพื่อเช็กความเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะอยากให้ว่าที่พ่อของลูกประทับใจมากที่สุด เธอไม่อยากมีข้อบกพร่องแม้แต่ข้อเดียว เมื่อพร้อมแล้วคนอยากมีลูกจึงขับรถออกจากบ้านหลังขนาดปานกลางของตนเอง
ด้วยความที่เช้ามากทำให้ท้องถนนของเมืองกรุง ยังไม่มีรถเท่าไรนัก ใช้เวลาเพียงหนึ่งชั่วโมงเธอก็เดินมาถึงหน้าบริษัทของตระกูลลอเรนส์โซที่มีขนาดใหญ่และหรูหราไม่เป็นสองรองใคร จากนั้นก็เดินเข้าไปแลกบัตรตามกฎที่เขาตั้งเอาไว้ว่าผู้มาใหม่กรุณาแลกบัตร
โชคดีที่เลขาของลูคัสได้แจ้งประชาสัมพันธ์เอาไว้แล้ว ทำให้มัดไหมสามารถขึ้นมานั่งรอชายหนุ่มอยู่ตรงบริเวณหน้าห้องทำงานได้ ซึ่งปกติจะไม่อนุญาตให้คนนอกเข้ามาวุ่นวายแถวนี้
“สวัสดีครับคุณ” เสียงของลูคัสดังเข้ามาในโสตประสาทของมัดไหมที่กำลังนั่งเล่นเกมในโทรศัพท์อย่างเมามัน
หญิงสาวจึงเงยหน้าขึ้นไปมองราวกับฉากในละคร ที่พระเอกเจอนางเอกแล้วตกตะลึง แต่ตรงข้ามกันแทนที่จะเป็นฝ่ายชายตะลึงกลับเป็นฝ่ายหญิงเสียอย่างนั้น ทำให้ลูคัสต้องกระแอมเสียงเรียกสติคนที่นั่งบนโซฟาเบา ๆ
“อะแฮ่ม ๆ คุณครับ คุณมัดไหมรึเปล่า”
“ค่ะ ๆ ใช่ค่ะ ดิฉันเองมัดไหม คนที่โทร. หาคุณหลายวันก่อน”
“อืม งั้นเชิญเข้าไปคุยในห้อง”
“ค่ะ ชะ...เชิญค่ะ”
“แดเนียลหาน้ำมาเสิร์ฟแขกด้วย”
“ครับนาย”
ลูกน้องที่พ่วงตำแหน่งเลขาแยกตัวไปทำตามคำสั่งของเจ้านายอย่างรวดเร็ว ลูคัสจึงผายมือเชิญมัดไหมให้เดินเข้าไปในห้องทำงานของตนเองที่ตกแต่งได้อย่างมีสไตล์
เมื่อมาอยู่ในห้องทำงานที่ได้ใช้งานไม่บ่อยนัก เพราะเจ้าของห้องมาประเทศไทยเป็นระยะ ๆ ชายหนุ่มจึงเชื้อเชิญให้หญิงสาวนั่งลงบนโซฟาตรงมุมห้อง ก่อนเปิดประเด็นในสิ่งที่ตนเองสงสัย พลางใช้สายตาสำรวจคนตรงหน้าไปด้วย มัดไหมจึงเกิดอาการประหม่าเล็กน้อย แต่ก็ทำเป็นใจดีสู้เสือในเมื่ออยากได้ลูกเสือเธอก็ต้องใจกล้าอย่างนี้แหละ
“ขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ดิฉันชื่อมัดไหม มานีวัฒน์ อายุสามสิบปี คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ค่ะคุณลูคัส ดิฉันอยากมีลูกแต่ไม่อยากมีสามี ไม่อยากมีพันธะ ก็เลยจะขอความกรุณาให้คุณบริจาคสเปิร์มให้ดิฉันหน่อย แล้วดิฉันจะให้หมอทำการผสมเทียม ฉีดเข้าไปในมดลูกของดิฉัน”
“เพราะอะไรคุณถึงไม่อยากมีสามี แล้วตอนนี้คุณโสดเหรอ”
“ตอบทีละคำถามนะคะ ที่ดิฉันไม่อยากมีสามีเพราะมันวุ่นวาย เดี๋ยวนี้ผู้ชายเจ้าชู้ทั้งนั้น ดิฉันเลยขออยู่แบบโสด ๆ ไปจนแก่ แต่กลัวว่าตอนแก่จะไม่มีคนดูแล ตัวเองจะเหงาถึงคิดจะมีลูกสักคน ส่วนเรื่องโสดนั้นดิฉันโสดมาตั้งแต่เกิดแล้วค่ะ ไม่เคยมีคนรัก ไม่เคยชอบใคร”
“แล้วคุณไม่คิดบ้างเหรอว่าอนาคตคุณอาจจะเจอเนื้อคู่ เจอคนรัก”
“ไม่ค่ะ ดิฉันตัดสินใจแล้ว ขออยู่แบบโสดไปตลอดชีวิต”
“แล้วทำไมถึงเลือกผม ผู้ชายในประเทศไทยมีตั้งมากมาย”
“เพราะดิฉันอยากมีลูกน่ารัก ๆ เหมือนหลาน ๆ ของคุณลูคัส อีกอย่างคุณหน้าตาดี ฉลาด ถ้าได้น้ำเชื้อของคุณไปผสมกับไข่ของดิฉันลูกต้องออกมาสมบูรณ์แบบอย่างแน่นอน” เธอวาดฝันเสียใหญ่โต ใบหน้าจึงเต็มไปด้วยความสุข ยามที่สมองได้จินตนาการถึงความน่ารักของสองแฝดไลก้า
เลโก้ และน้องสาวอย่างเฟมีด้า
“คุณเป็นคนตรง ๆ ดีนะ ผมชอบคนแบบคุณ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากเล็กน้อยในขณะพูด หญิงสาวจึงเกิดอาการประหม่า ทำให้มือทั้งสองข้างที่วางอยู่บนตักเย็นเฉียบ ราวกับในห้องนี้มีอุณหภูมิติดลบก็ว่าได้
“เอ่อ...ขอบคุณค่ะ แล้วตกลงคุณลูคัสจะยอมไหม คือดิฉันยินดีทำตามที่คุณลูคัสต้องการทุกอย่างนะคะ ขอแค่คุณยอม หรือให้จ่ายเงินซื้อสเปิร์มของคุณก็ได้ ดิฉันยอมจ่าย”
เพราะกลัวว่าเขาจะปฏิเสธ เธอจึงพูดถึงเรื่องเงินทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคนอย่างลูคัส ลอเรนส์โซ รวยกว่าตนเองหลายร้อยเท่า
“คุณมีปัญญาจ่ายเหรอครับคุณมัดไหม น้ำเชื้อของผมคือทายาทของลอเรนส์โซเชียวนะครับ”
“คุณก็ลองบอกตัวเลขมาก่อนสิคะ ดิฉันจะได้รู้ว่ามีปัญญาไหม”
“เอาเป็นว่าคุณไม่มีปัญญาหรอก”
“คุณลูคัส” เธอรู้ว่าตนเองเองไม่มีปัญญาจ่าย แต่ไม่เห็นชายหนุ่มต้องแสดงสีหน้า ท่าทาง และน้ำเสียงดูถูกขนาดนี้ก็ได้
น้ำเสียงของมัดไหมจึงห้วนขึ้นมาเล็กน้อย เมื่อเรียกชื่อว่าที่พ่อของลูกที่กำลังยิ้มยั่วอย่างเป็นต่อ
“อย่าเพิ่งโมโหสิ ผมมีข้อเสนอดี ๆ มาให้คุณแลกกับน้ำเชื้อของผม”
“ข้อเสนอ? ข้อเสนออะไรของคุณ ถ้าเป็นเรื่องผิดกฎหมายดิฉันไม่ทำนะคะ ดิฉันยอมไม่มีลูก”
“ฮ่า ๆ ๆ ๆ ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้น ผมขอแค่ให้คุณมาเป็นสายลับ” เขาพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่คนฟังกลับตาโตด้วยความตกใจ
ลูคัสจะให้เธอเนี่ยน่ะไปเป็นสายลับ บ้าไปแล้ว
“ฮะ! คุณจะให้ฉันเป็นสายลับ”
“ใช่ ผมต้องการให้คุณไปสืบเรื่องทุจริตในบริษัทของผม”
หน้าตาของรองประธานบริษัทเคร่งขรึมขึ้นมาทันตาเห็น เมื่อพูดถึงเรื่องการทุจริตภายในองค์กร
ชายหนุ่มคิดมาหลายวันแล้ว ว่าจะให้ใครไปเป็นสายลับแต่ยังคิดไม่ออก บังเอิญมัดไหมเข้ามาในชีวิตพอดี จึงใช้โอกาสนี้ทำตามความต้องการเสียเลย ถ้าเธอทำสำเร็จเขาก็จะยอมมอบสเปิร์มให้
อีกเหตุผลหนึ่งที่เลือกเธอคือ ความตรงไปตรงมา ความใจกล้าบ้าบิ่น บวกกับที่หญิงสาวเรียนจบทางด้านบัญชีด้วย จึงคิดว่าไม่ยากต่อการค้นหาหลักฐานในฝ่ายบัญชีของบริษัท
“ที่บริษัทนี้น่ะเหรอคะ”
“โนววววว บริษัทแม่ที่รัสเซียต่างหาก”
“รัสเซีย!”