ตอนที่ 11

1421 คำ
ทำไมคุณถึงต้องการอย่างนั้น ผมไม่คิดว่านั่นจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับผู้เสียหายหรอกนะ อย่างน้อย เรียกร้องเงินก็ยังดีสำหรับอะไรที่เสียไปแล้วและไม่ได้คืน” อาชว์หรี่ตามองเธออย่างประเมินว่าสิ่งที่เธอพูดเหมือนกับสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ หรือว่ากำลังเสแสร้ง ดวงหน้าเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ให้คำตอบแก่เขาว่าปากเธอตรงกับใจ “ก็ยังดีที่ยังมีสติพอรู้ว่าทำใช้ชีวิตที่ขาวสะอาดของฉันมีมลทิน นึกว่าเมาจนขาดสติทุกอย่าง” พูดแล้วก็เม้มปากแน่นเมื่อนึกถึงร่องรอยบนผ้าปูที่นอน เธอคงจะเกลียดการใช้ชุดเครื่องนอนสีขาวอีกนานเพราะมันพลอยให้นึกถึงภาพนั้น “ฉันขอยืนยันว่าไม่ต้องการเงิน เพราะฉันหาเองได้ ที่บ้านก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรด้วย” “ผมก็ขอยืนยันว่าถ้าขาดสติไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นได้เป็นเรื่องเป็นราวหรอกแต่มันพลาดตรงที่ไม่ทันมองว่าเป็นใครเพราะหน้ามืดไปหน่อย ว่าแต่คุณไม่อยากได้เงิน แล้วทำไมไม่เรียกร้องความรับผิดชอบด้วยการแต่งงานหรืออะไรทำนองนั้น” อาชว์ยอมรับว่าสิ่งที่เธอร้องขอซึ่งคือการให้ลืมไปว่าเกิดอะไรขึ้นเป็นเรื่องยาก เพราะว่านอกจากจะเป็นคืนที่ลืมไม่ลงแล้วเขายังรู้สึกผิดและคิดว่าเขาเป็นไอ้หน้าตัวเมียมากหากไม่รับผิดชอบอะไรเลยสักอย่าง เขารู้ดีว่าภายใต้ความแข็งแกร่งของเธอมันยังมีความอ่อนแอ ความเจ็บปวดที่ถูกเขาทำลายของมีค่า ควรจะได้รับการเยียวยาไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่ง อาชว์คิดว่าถ้าเธอเรียกร้องเขาก็เป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับ “นั่นยิ่งไม่ได้ใหญ่เลย” เธอเถียงทันควัน “ดูท่าทางคุณจะยังไม่เข้าใจในเจตนารมณ์ของฉัน เรื่องเมื่อคืนเราต่างคนต่างไม่ได้อยากให้เกิด เพราะฉะนั้นคุณก็ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะเรื่องการแต่งงานฉันรู้ว่าคนแบบคุณก็ไม่ต้องการและฉันก็ไม่ต้องการแต่งงานเพื่อแก้ไขความผิดพลาดครั้งนี้ เพราะมันจะสร้างปัญหาไม่มีวันจบสิ้นอย่างแน่นอน” “ปัญหาไม่มีวันจบสิ้นที่ว่านี่คืออะไร” “เพราะการกระทำของคุณหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะพฤติกรรมความเจ้าชู้ ทำให้ฉันคิดว่าอยู่คนเดียวแล้วไปนับเริ่มต้นใหม่กับชีวิตดีกว่าเอาชีวิตมาผูกไว้กับคนแบบคุณ เพียงแค่รู้จักกันวันแรกปัญหาก็มากขนาดนี้ ฉันต้องตัดขาดไปเสียจะดีกว่า ฉันไม่ชอบทำให้ชีวิตของฉันขาดความราบรื่น ซึ่งฉันคิดว่าการแต่งงานกับคุณคือจุดเริ่มต้นของปัญหาที่ใหญ่กว่า ฉันเลยไม่ต้องการ” เฟื่องปรายตามองอาชว์แล้วก็กอดอกมองเขาแบบหยามสุดๆ ในความรู้สึกของชายหนุ่ม “เข้าใจฉันแล้วใช่ไหม ถ้าเข้าใจแล้วก็ตกลงทำตามที่ฉันบอก” “คุณมองผมในแง่ร้าย ถึงขนาดว่าไม่ต้องให้รับผิดชอบชีวิตอย่างนั้นเลยหรือไง” เขายังไม่ยอมจบง่ายๆ “ฉันคิดว่านั่นไม่ใช่แง่ร้ายแต่คือความจริง แล้วฉันก็ไม่ต้องการอะไรจากคุณนับจากนี้ไป เรื่องความเสียหายอะไรนั่น ฉันจะทำเป็นลืมแล้วกันเพราะจากนี้ไปฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคุณอีกไม่ว่ากรณีใดๆ” “ผมมันน่ารังเกียจขนาดนั้นเลยหรือไง” “คุณไม่ได้น่ารังเกียจหรอกค่ะ แต่ไม่ควรจะเอามาเป็นสามีและพ่อของลูกเพราะคุณทำสิ่งนั้นได้ไม่ดีหรอก อีกอย่างถ้าไม่ใช่สองอย่างนี้ฉันก็ไม่รู้จะเอาคุณมาทำอะไรแล้วด้วย เพราะอย่างนั้นคุณก็เลยไม่จำเป็นสำหรับชีวิตฉัน ฉันก็เลยไม่ต้องการ เข้าใจไหม” คำพูดจากปากเธอพร้อมท่าทางเผยอหยิ่งเหมือนหงส์ที่ไม่เคยปีกหักทำให้ความอ่อนโยนโอนอ่อนและสงสารในแววตาอาชว์เหือดหายเปลี่ยนเป็นความฉงนและสนใจในเธอแทน ในใจเขาคิดว่าความไม่เหมือนใครของเธอเป็นความท้าทายที่เขาจะต้องเอาชนะ "โอเค งั้นก็เอาตามที่คุณว่าแล้วกัน” “ดี หวังว่าคุณคงมีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะรักษาคำพูดตลอดไป” “จริงๆ จะว่าไปคุณก็ไม่ได้เสียหายอะไรมากหรอกผมต่างหากที่เสียหาย ถ้าผมไม่เผลอไปนอนกับคุณเพราะเข้าผิดห้อง ป่านนี้คุณก็คงยังขึ้นคานเป็นแม่มดหน้างอคอหักไปแล้วล่ะ คุณต้องขอบคุณผมสินะที่ผมทะลวงเยื่อพรหมจรรย์ให้คุณก่อนคุณจะเเก่เหี่ยวทิ้งเปล่าๆ เมื่อคืนก็เห็นครางมีความสุขดีนี่ ถ้าเปลี่ยนใจเมื่อไหร่เรียกใช้บริการผมได้เสมอนะ ผมเจอโลกกว้างมาเยอะ เข้าใจคุณดีว่า ถ้าไม่ใช่ผมก็ไม่ได้มีใครมาหลงผิดเปิดซิงคุณหรอก" "หุบปากไปซะ ยิ่งพูดเท่าไหร่ฉันก็ยิ่งแน่ใจ ว่าฉันไม่ต้องการความรับผิดชอบจากคนแบบคุณ" เสียงตวาดแว้ดเพราะรับความจริงไม่ได้ทำให้อาชว์กลั้นยิ้มเพราะยั่วเธอมาถูกทางแล้วหลังจากที่พูดดีๆ มานานไม่ได้ผลอะไรชัดเจน แต่พอเปลี่ยนสไตล์การเจรจา ดวงหน้าสวยๆ ที่ทำท่าทางเย็นชานั้นแทนที่ด้วยความบึ้งตึงแถมหน้ายังเชิดเสียจนเขาจะบอกเธอให้แหงนหน้าให้รู้แล้วรู้รอด เธอจะได้ไม่ต้องเกร็งเห็นแล้วเขาเมื่อยแทน "ครับคุณคนสวยไม่รับผิดชอบก็ไม่รับ งั้นก็ให้เรื่องทุกอย่างมันจบตรงนี้ตามความต้องการของคุณ แล้วอย่ามาเรียกร้องอะไรจากผมคราวหลังแล้วกัน" เฟื่องฟ้าตวัดสายตาเคืองขุ่นมองหน้าหล่อคมที่พูดทีเล่นทีจริงนั้นอย่างชิงชัง เธออยากได้อะไรจากเขาตายล่ะ พวกคนรวยชอบคิดแบบนี้ เธอถึงไม่อยากจะเสวนาด้วย เสียไปครั้งเดียวนึกเสียว่าทำทานให้หมามันกินก็แล้วกัน ชีวิตนี้อย่าได้เกี่ยวพันกับคนแบบนี้อีกเลยเถอะ "ฉันไม่อยากได้อะไรคุณหรอก มือสองมือฉันก็มีหาเองได้หมด เราสองคนไม่มีอะไรยุ่งเกี่ยวกันอีกต่อไป ลืมเรื่องทุกอย่างซะ แล้วออกไปจากชีวิตของฉันและก็ครอบครัวฉันด้วย "โอเค งั้นผมก็ไปจากคุณโดยไม่ต้องนึกกังวลอะไรแล้วสินะ งั้นเราก็เเยกกันให้มันจบกันตรงนี้เลย" "ใช่ เราควรแยกกัน ฉันอยากแยกกับคุณเต็มทนแล้ว" "อยากแยกก็ลงรถไปสิครับแม่คุณ ตอนนี้คุณอยู่บนรถผมนะฮะ รังเกียจนักก็ช่วยลงจากรถสิครับ หรือว่าแกล้งลีลาเพราะอยากโดนอีก ผมจัดให้บนรถได้นะ" คำพูดของเขาทำให้เฟื่องฟ้าหน้าม้าน เมื่อนึกได้ว่าเธอกับเขาคุยกันอยู่บนรถของเขา "ไปไกลๆ เลย คนผีทะเล" เฟื่องฟ้ากระฟึดกระฟัดลงจากรถของเขาไป ก่อนปิดประตูรถสปอร์ตคันหรูกระแทกสุดเเรงเกิดนั้นยังเเว่วเสียงหัวเราะของคนบ้าห้าร้อยจำพวกที่กวนประสาทเธอได้แม้ในยามคับขัน “นี่คุณรอหน่อยสิ รีบเดินไปไหน แล้วทำไมเดินท่าแปลกๆ แบบนั้น” เสียงพูดตามหลังมาทำให้เฟื่องฟ้าหันไปมองเขาตาเขียว ที่เดินแปลกๆ เพราะว่าใครกันที่สร้างความเจ็บปวดน้อยๆ ยามขยับกายให้กับเธอ เธอหายหวัดแต่คงต้องนอนรักษาตัวเพราะอาการอื่นในวันหยุด คิดแล้วมันน่าโมโหนัก “เดินยังไงก็เรื่องของฉัน แล้วนี่ตามมาทำไม กลับบ้านของคุณไปได้แล้ว อย่ามายุ่งกับฉัน” เพราะความกวนโอ๊ยของเขาทำให้เฟื่องฟ้าไม่รักษามารยาทกับเขาอีกและไล่เขาเหมือนหมูเหมือนหมา “ไม่ได้ยุ่งกับคุณสักหน่อย” อาชว์ยักไหล่ “ผมแค่จะไปปลุกน้องๆ ของผมกลับบ้าน แล้วก็ลาพ่อแม่คุณก่อนกลับตามประสาคนมีมารยาท” “งั้นก็แล้วแต่” บอกเสียงฉุนจัด หน้าม้านไปที่เขาตอบกวนๆ แล้วเดินหนีไปคนละทาง เขาเดินไปปลุกลูกน้องเขาที่บ้านหลังแรก ส่วนเธอเดินไปหาพ่อแม่ที่เป็นกรรมการห้ามทัพของดาวเรืองกับภาวันที่จุดเดิมที่เกิดปัญหา
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม