ยัยแว่น

1406 คำ
พลั๊ก! “ว๊าย! เอ่อ...ขอโทษนะ...” “ขอโทษแล้วมันหายเจ็บไหม?” ศิวะที่นั่งยื่นขายาวออกไปนอกโต๊ะเพราะอยากนั่งเรียนแบบสบายๆแต่กลับเกะกะทางเดินจนคนที่เดินผ่านสะดุดเกือบล้ม ดีที่เกาะเพื่อนอีกคนเอาไว้ทัน “เอ่อ ฉัน...ฉันมองไม่เห็น...” เธอรีบเอ่ยขอโทษอย่างหวาดกลัว เพราะต่างก็รู้กิตติศัพท์ของหนุ่มๆกลุ่มนี้ “จะมองเห็นได้ไงใส่แว่นซะใหญ่กว่าหน้าขนาดนี้! เรียนห้องนี้เหรอ?” ส่วนคนที่ถูกกระทำยังคงพูดออกมาอย่างไม่พอใจพร้อมกับมองผู้หญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างรู้สึกเคืองสายตา “อื้อ...” “ฮ่าฮ่าฮ่า เธอเข้าห้องผิดรึเปล่า นี่มันนักศึกษาแพทย์นะ ไม่ใช่วรรณกรรมดึกดำบรรพ์ ดูสภาพ เชยสิ้นดี” ศิวะดึงขาหลบพร้อมกับดูถูกเธอออกมา จนคนที่ถูกดูถูกถึงกับก้มหน้าหนีความอาย เมื่อเพื่อนๆทั้งห้องกำลังจ้องมองมาที่เธออยู่ “พอได้แล้ว! ขอโทษแล้วก็แล้วๆไปสิ จะต้องมาพูดดูถูกคนอื่นทำไม?” เพื่อนสนิทที่ยืนฟังอย่างไม่พอใจอดต่อว่าขึ้นไม่ได้ “นี่ยัยอ้วน! มาแส่อะไรด้วยห๊ะ! ดูสารรูปแต่ละคน แน่ใจเหรอว่ามาเรียนหมอ!” “นี่!...” “พอได้แล้ว! เสียงดังออกไปนอกห้องโน่น ไปนั่งที่ก่อนจะถูกหักคะแนน” และเสียงของอาจารย์ก็ดังขึ้นห้ามศึกที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ก่อนจะพากันเดินไปนั่งที่ เพราะยังไม่อยากถูกหักคะแนน “ไอ้พวกลูกเทพ! เอาแต่ข่มคนอื่นไปทั่ว หน้าตาดีซะเปล่า แต่นิสัยนี่แย่เกินทน!” พอเดินมานั่งที่ วารี หรือ ลม สาวอ้วนแต่หน้าตาน่ารักยังเคืองเพื่อนร่วมห้องอย่างศิวะไม่หายที่มาดูถูกเพื่อนของเธอ รวมทั้งเธอด้วย “เอาน่า มันเป็นเรื่องปกตินี่ ฉันผิดเองแหละที่เดินไม่ดู” ธารา หรือ ธาร เพื่อนสาวร่างเล็กแถมผอมบางจนแทบปลิวตามลม ผู้สวมแว่นอันหนาเตอะใหญ่กว่าหน้าเล็กๆของเธอเสียอีก เธอเอาแต่คิดเรื่องอื่นจนไม่ได้ดูทางเดินจนเกือบสะดุดล้ม และด้วยความโชคร้ายดันไปสะดุดขาของคนที่เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยที่สุดจนเกือบเกิดเรื่องขึ้น “ฉันว่ามันยังไม่ถูกขาแกเลยนะ ทำเป็นโวยวายไปได้” เทวาที่เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างอดพูดขึ้นไม่ได้ เมื่อศิวะนั้นแสดงละครเสียใหญ่โตทั้งๆที่ไม่ได้เจ็บตัวเลยสักนิดเพราะดึงขาออกทันแท้ๆ “อะไรของแก...ก็แค่รำคาญสายตา ยัยสองคนนั้นเรียนที่เดียวกับเราจริงๆเหรอวะ สภาพอย่างนั้นเหรอจะเป็นหมอ” ศิวะอดดูถูกสองสาวไม่ได้ เพราะเท่าที่ดูๆก็มีแค่สองสาวนั่นแหละที่ทั้งอ้วน ทั้งขี้เหร่ต่างจากเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่สวยก็ดูดีกันแทบทั้งนั้น “เรียนจนจะจบอยู่แล้ว แกนี่...” เทวาที่ไม่ชอบการดูถูกคนอื่นของศิวะอดต่อล้อต่อเถียงด้วยไม่ได้ “พอได้แล้ว รำคาญ” และการโต้เถียงก็จบลง เมื่อโรมันที่นั่งเงียบมานานเริ่มรำคาญ แค่ประโยคเดียวก็ทำเอาเงียบสงบกันไปทั้งแถบ เพราะนานๆทีเขาจะพูดออกมาบ้าง จากนั้นการเรียนก็เริ่มต้นขึ้นหลังจากปิดเทอมกันมาร่วมเดือน ซึ่งจะพูดว่าปิดเทอมก็คงไม่ถูกเพราะงานที่ได้รับนั้นหนักยิ่งกว่าตอนเรียนเสียอีก “เดี๋ยวจับกลุ่มทำวิจัยเรื่องอวัยวะต่างๆ...ในห้องมี 60 คน อืม...งั้นจับกลุ่มตามลำดับคะแนนแล้วกัน 1-4 หน้าสุดจับคู่กับ 1-4 หลังสุดแล้วกัน” พอเรียนจนจบคาบ อาจารย์ก็สั่งทำงานกลุ่ม ก่อนจะขึ้นตารางคะแนนของนักศึกษาในชั้นเรียน และก็ทำเอาทั้งห้องเริ่มเกิดความวุ่นวาย เมื่อไม่ได้จับกลุ่มกับเพื่อนๆของตัวเอง ต่างจากธาราและวารีที่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน สองสาวยิ้มปากแทบฉีกเพราะดีใจที่ได้อยู่ด้วยกัน “อะไรวะ...ทำไมฉันต้องได้อยู่กับแกด้วย” “อ่าว ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่กับแกหรอก เปลี่ยนสิ ไปเปลี่ยนกับคนอื่นเลยสิ” และเทวากับศิวะก็ต้องทะเลาะกันอีกรอบเมื่อดันได้คะแนนติดกันเลยได้อยู่กลุ่มเดียวกันไปโดยปริยาย ส่วนรามินทร์กับโรมันก็ได้อยู่ด้วยกันเพราะดันมีคะแนนเป็นอันดับ 1 และ 2 ของชั้นเรียน “อย่างนี้เราก็ได้อยู่กับคนที่มีคะแนนต่ำสุด...เฮ้อ เหนื่อยแล้วสิ” รามินทร์อดถอนหายใจไม่ได้ เพราะแค่ต้องเรียนให้จบโดยได้คะแนนดีๆนี่ก็ยากแล้ว แต่กลับต้องมาดึงคะแนนช่วยพวกที่อยู่ท้ายๆนี่สิยากกว่า ส่วนโรมันที่เอาแต่มองจ้องไปที่จอมอนิเตอร์ที่แสดงชื่อของคนที่เขาต้องทำงานด้วย ซึ่งเขาก็พอรู้ว่ามีใครบ้าง เพราะเพื่อนๆกลุ่มนั้นกำลังเดินไปรวมกลุ่มกัน “เธอ...เธอช่วยไปเรียก...เอ่อ โรมกับรามหน่อยสิ...เราต้องประชุมกันเรื่องวิจัย...” เพื่อนที่ต้องทำงานร่วมกับสองหนุ่มเริ่มคิดหนักถึงแม้ว่าทีแรกจะดีใจเพราะรู้ว่าสองหนุ่มนั้นเก่งที่สุดในชั้นเรียน แต่พอจะต้องเรียกมาคุยกัน กลับเริ่มพากันหนักใจ “ธาร เธอไปได้ไหม? ฉันกลัวโรมน่ะ...” วารีหันไปบอกเพื่อนสนิทอย่างธารา เมื่อคงเป็นคนเดียวที่กล้าที่จะไปเรียกสองหนุ่ม และธาราก็ลุกขึ้นเดินไปเรียกจริงๆโดยมีทุกคนมองตามลุ้นว่าธาราจะทำสำเร็จรึเปล่า “เอ่อ เธอสองคน...จะไปประชุม เอ่อ กับพวกเราไหม?” ธาราที่เดินมายืนต่อหน้าโรมันและรามินทร์ถามขึ้น มือเล็กยกขึ้นดันแว่นอันใหญ่โตขึ้นให้มันเข้าที่ หน้าเล็กก้มงุดอย่างรู้สึกประหม่า ส่วนสองหนุ่มก็มองเธออย่างพิจารณา เพราะจำได้ว่าเป็นคนเดียวกันกับที่พึ่งมีเรื่องกับศิวะไป แล้วยังจะกล้ามาหาพวกเขาอีก “อ่าว ยัยแว่นหนา มาทำไม?” ศิวะที่เดินกลับมาหาเพื่อนๆอดถามขึ้นอย่างแปลกใจไม่ได้ “ฉันมาเรียกสองคนนี้ไปประชุม...” “ห๊ะ? นี่อย่าบอกนะว่าเธออยู่กลุ่มเดียวกับสองคนนี้ ฮ่าฮ่าฮ่า ถ้าอย่างนั้นเธอก็อยู่ที่สุดท้ายน่ะสิ ไหนๆๆ ขอดูชื่อหน่อยซิ...วรรณภา? นัยนา? วารี? หรือธารา ฮ่าฮ่าฮ่า เธอนี่มีดีอะไรบ้าง เรียนก็โง่ หน้าตาก็แย่ ฮ่าฮ่าฮ่า” ศิวะหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างดูถูกธารา ที่ยืนก้มหน้าลงกว่าเดิมอย่างรู้สึกอาย เพราะเธอนั้นมีการเรียนที่แย่เกือบที่สุดของห้องทั้งๆที่พยายามเรียนขนาดไหนก็ยังไม่ดีขึ้นเลยสักนิด “หุบปากนายไปเลย...ไปสิ” เป็นรามินทร์ที่ลุกขึ้นมองศิวะที่ดูถูกธาราอยู่อย่างไม่พอใจ ก่อนจะเดินตรงไปหากลุ่มเพื่อนๆที่เขาต้องทำวิจัยกลุ่มด้วย จะมีก็แค่โรมันที่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ส่วนธาราก็รีบเดินตามหลังของรามินทร์ไป “อะไรของหมอนั่น...หรือว่ามันโกรธที่ฉันพูดกับยัยแว่นหนา” ศิวะอดพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ ก่อนจะนั่งลงข้างกับโรมัน ที่ยังนั่งเงียบมองออกไปนอกหน้าต่างห้องเรียน “มองอะไรวะ...เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแกสนใจน้องคนนั้นน่ะ ไม่ได้นะเว้ย ฉันจองแล้ว” “แกรู้จักเหรอ?...” และโรมันก็หันมาถามศิวะ เมื่อเขากำลังมองเด็กสาวคนหนึ่ง ที่สวยสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น “อืม น้องฟ้า หรือฉายาคือนางฟ้า ดาวปี 3 พึ่งมาสวยมากๆเอาปีนี้แหละ เห็นว่าไปโมที่เกาหลีมา แต่ฉันไม่สนใจหรอก ขอแค่สวยก็พอ” “....................” และพอรู้ว่าความสวยสะดุดตาที่เขาเห็นนั้นมันเกิดจากมือหมอ โรมันถึงกับหมดอารมณ์ทันที ก่อนจะมองไปยังรามินทร์ ที่ดูจะเข้ากับสาวๆกลุ่มที่ต้องทำงานด้วยได้เป็นอย่างดี
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม