ตอนที่ 3 เจ็บไข่

2432 คำ
‘วันต่อมา’ ‘13:50นาที’ หลังจากที่สาวปริศนาปล่อยให้ค้างกลางคันในค่ำคืนที่ผ่านมา หนุ่มๆทั้ง 7 คนก็แยกย้ายกันกลับอย่างอารมณ์เสีย ก่อนจะพากันรู้สึกตัวตื่นในช่วงบ่ายของอีกวัน ซึ่งแต่ละวันของพวกเขานั้นก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากมานั่งมานอนรวมตัวกัน วันนี้ก็เช่นกัน เมื่อถึงเวลาที่ควรรวมตัวกันแล้ว พวกเขาก็โทรนัดกันไปนั่งดื่มที่ห้องของลีโอ… ซึ่งหนุ่มๆทั้ง 7 คนที่กำลังพูดถึงอยู่ในตอนนี้ก็คือกลุ่มหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัยชื่อดังยังไงละ และภายในกลุ่มนั้นก็จะมีไลอ้อน ลีโอ เสือ สิงห์ ไนท์ นาย และเรน พวกเขาทั้ง 7 คนเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่สมัยมัธยม ถึงแม้ว่าพวกเขาจะมีนิสัยที่แตกต่างกัน แต่ทว่าเวลาลงมือทำอะไรก็ไม่เคยขัดใจกันเลยสักนิด เรียกได้ว่าแค่มองตาก็รู้ใจ และนอกจากพวกเขาทั้ง 7 คนจะเป็นหนุ่มฮอตแล้ว พวกเขาก็ยังเป็นถึงลูกชายของเหล่าบรรดาคนร่ำรวยอีกด้วย เรียกได้ว่าหล่อรวยครบจบในกลุ่มเดียวเลย ‘เพนต์เฮาส์ลีโอ’ “แล้วไอ้เจ้าของห้องมันไปไหนวะ ทำไมไม่ออกมาต้อนรับแขก” น้ำเสียงขี้หงุดหงิดของไลอ้อนเอ่ยขึ้น เมื่อเขาก้าวเท้าเดินเข้ามาภายในห้องแล้วแต่กลับไม่เห็นหัวของเจ้าของห้องเลย “ทำไม มาถึงก็ถามหากูเลย คิดถึงกูมากหรือไงวะ!!!” เสียงของเจ้าของห้องเอ่ยขึ้น ก่อนที่เขาจะเดินออกมาจากห้องนอนในสภาพที่เพิ่งใส่เสื้อได้แขนเดียว “ไอ้ลีโอ เมื่อคืนมึงดีลเด็กยังไงวะ เราดีลไป 2 คนไม่ใช่เหรอวะ แล้วทำไมเมื่อคืนแม่งมาคนเดียวแถมถีบไข่กูแล้วชิ่งหนีทั้งๆที่กูยังไม่ได้เสียบเลย แม่งอารมณ์เสียฉิบ!!!!” ทันทีที่ลีโอปรากฏตัว ไลอ้อนก็รีบเอ่ยปากถามเพื่อนรักด้วยสีหน้าท่าทางไม่พอใจทันที ใช่ เมื่อคืนเขากับเพื่อนๆทั้ง 6 คนไปสำรวจดูความเรียบร้อยของผับ ที่เขากับเพื่อนๆทั้ง 6 คนนั้นได้สร้างมาด้วยกันจนกลายเป็นผับ 7 Days Pub ที่กำลังเป็นที่นิยมและยอดฮิตอยู่ในตอนนี้ เมื่อทุกอย่างโอเคเขากับเพื่อนๆเลยถือโอกาสพากันนั่งดื่มชิลๆ หลังจากที่นั่งดื่มกันไปดื่มกันมาความเ****นก็บังเกิด เขากับเพื่อนๆ ทั้ง 6 คนเลยตกลงกันดีลสาวๆในผับของตัวเองมาเพื่อปลดปล่อย แต่ทุกอย่างก็ไม่เป็นไปตามที่ใจหวังเพราะนอกจากจะโดนสาวปล่อยให้ค้างกลางคันแล้ว มิหนำซ้ำคนที่โดนถีบไข่ก็ยังเป็นเขาอีกด้วย….. “ใช่ แถมท่าทางยังดูไม่เป็นงานอีก เล่นตัวฉิบ” เจ้าพ่อหน้านิ่งอย่างนายจะไม่ทน เขาพูดขึ้นมาตามที่เขานั้นได้สัมผัสสาวปริศนาในค่ำคืนที่ผ่านมา เธอดูไม่เป็นงานเอาซะเลย จูบเธอก็จูบไม่เป็น หรือแม้กระทั่งการแบ่งลมหายใจในขณะที่จูบเธอยังทำไม่เป็นเลย “แม่ง ทิ้งกูไว้กลางทางเลย กูต้องให้แม่นางทั้งห้าช่วย” ทันทีที่นายพูดจบ เรนเองที่ต้องพึ่งพามือตัวเองหลายชั่วโมงสำหรับค่ำคืนที่ผ่านมา ก็เอ่ยขึ้นมาอย่างหัวเสียเช่นกัน “แต่นมแม่งนุ่มมือฉิบหาย ขนาดพอดีมือด้วย พูดมาแล้วกูก็เ****น” คราวนี้เป็นเสียงของเสือที่เอ่ยขึ้น เมื่อเขานึกถึงเต้าอวบอิ่มของสาวปริศนา จะว่าไปไซซ์ของเธอก็เป็นไซซ์ที่เขาตามหาเลยนะ แต่เสียดายที่ไม่เห็นหน้าคร่าตาเธอเลย “ถึงจะจูบไม่เป็น แต่ปากก็หวานเป็นบ้า” สิงห์พูดขึ้นมาพร้อมกับใช้ลิ้นร้อนๆเลียริมฝีปากของตัวเองเบาๆ “ไอ้เชี่ยนี่ มึงเก็บงูหลามยักษ์ของมึงเลยนะ!!!” ไนท์พูดพร้อมกับปาหมอนที่วางอยู่ข้างๆใส่สิงห์อย่างเอือมระอา ถ้าพูดเฉยๆเขาจะไม่ว่าอะไรสักคำเลย แต่ทว่าเป้ากางเกงของสิงห์นั้นกลับนูนขึ้นมาจนลูกชายของเขาแทบจะโผล่ออกมายิ้มใส่เขากับเพื่อนๆแล้ว “หึ ตอนแรกกูก็นึกว่าจะรับบทไร้เดียงสา แม่งเสือกอ่อนจริง แต่กูชอบว่ะ” เมื่อพบสาวที่ถูกจริต เรนที่นั่งเงียบอยู่ก็เอ่ยขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มแสนเจ้าเล่ห์ทันที ไร้เดียงสาแบบนี้เขาชอบ “ไอ้ลีโอ มึงโทรหาไอ้ซันดิ มันจัดเด็กยังไงของมันวะ” ในระหว่างที่เพื่อนๆกำลังนั่งพูดคุยกันอยู่นั้น จู่ๆไลอ้อนก็พูดแทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงเธอจะเป็นคนที่ทำให้เขาเจ็บไข่ แต่ทว่ากลิ่นกายหอมๆของเธอก็ทำให้เขาอยากรู้ขึ้นมาทันทีว่าเธอเป็นใคร ชื่ออะไร เพราะถ้าเขารู้ตัวตนของเธองานนี้มีแก้เผ็ดแน่นอน “เออๆ...” ลีโอพยักหน้าเชิงเข้าใจ ก่อนที่เขาจะรีบต่อสายหาซันที่เป็นผู้จัดการของผับ โดยในระหว่างรอสายเขาก็เปิดโฟนเพื่อที่จะให้เพื่อนๆในกลุ่มได้ยินด้วย เพราะเขาขี้เกียจมาเล่าให้เพื่อนๆฟังอีกที มันเสียเวลาหายใจทิ้งของเขา “ไอ้ซัน เมื่อคืนมึงหาเด็กที่ไหนมาวะ กูดีลไปสองคน แต่เสือกมาแค่คนเดียว พวกกูยังไม่เสียบ ยังไม่ได้ทำอะไรเลยแม่งก็ชิ่งหนีไปแล้ว” ทันทีที่ซันกดรับสาย ลีโอก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกดต่ำอย่างคาดโทษทันที ‘เด็กที่ไหนครับ เมื่อคืนไม่มีเด็กขึ้นไปนะครับ เพราะหลังจากที่น้ำหวานกับเพื่อนๆของเธอมาถึงพวกเธอก็บอกว่าห้องล็อก พวกเธอเลยลงมาสนุกต่อข้างล่างครับ’ สิ้นสุดคำพูดของเจ้านาย ซันก็รีบตอบกลับด้วยความตกใจ เพราะเมื่อคืนเป็นคืนวันศุกร์ เขาเลยยุ่งจนไม่มีเวลาไปสนใจสาวๆที่เขานั้นได้จัดหาเอาไว้เลย เขารู้แค่ว่าเมื่อถึงเวลาพวกเธอก็จะมา แต่ก็ไม่คิดว่าพวกเธอจะมาสายจนทำให้เจ้านายทั้ง 7 คนโมโหแบบนี้ “เออๆ แค่นี้แหละ” สิ้นสุดคำตอบของลูกน้อง ลีโอก็ช้อนสายตาไปมองหน้าเพื่อนๆก่อนที่นิ้วเรียวยาวจะกดวางสายไป “เชี่ย แล้วคนที่อยู่ในห้องเมื่อคืนเป็นใครวะ ถ้าไม่ใช่เด็กที่ไอ้ซันหามาให้” เสือขมวดคิ้วเข้ากันเป็นปม ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามขึ้นมาลอยๆ “นั่นดิ ใครวะ” “แล้วเราจะรู้ได้ไงวะ ว่าคนที่เข้าห้องของพวกเราคือใคร” เรนพูดขึ้นมาอย่างคิดหนัก เพราะเมื่อคืนพวกเขาเล่นปิดไฟซะจนมืด จนไม่เห็นแม้กระทั่งโครงหน้าของเธอเลย “ไอ้พวกโง่ จะยากอะไรวะ ก็ไปดูกล้องวงจรปิดสิวะ” ไลอ้อนพูดพร้อมกับหันไปยกคิ้วให้เพื่อนๆ ถึงการเรียนเขาจะด้อยกว่าเพื่อนๆในกลุ่ม แต่ทว่าเรื่องแบบนี้เขาก็เก่งไม่น้อยหน้าใครหรอกนะ เรื่องตบหนูเขาถนัดมากเลยล่ะ “ฉลาดว่ะ” ทันทีที่ไลอ้อนพูดจบ เสือก็เอ่ยปากชมทันทีที่เห็นเพื่อนรักฉลาดก็วันนี้ “เอ่อๆ งั้นก็ไปผับกัน เรื่องติวเอาไว้ทีหลังก็แล้วกัน” สิ้นสุดคำพูดของสิงห์ ทั้ง 7 คนก็พากันเดินออกไปจากห้องพักของลีโอ แล้วพากันขับรถไปที่ผับเพื่อไปดูกล้องวงจรปิดทันที ‘ฝั่งแก้มใส’ หลังจากที่นอนสลบไสลมาแทบทั้งวัน แก้มใสก็ตื่นขึ้นมาด้วยความเมื่อยล้า และปวดไปตามเนื้อตามตัว แต่ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกไม่สดใสเหมือนกับทุกๆเช้า แต่กิจวัตรประจำวัน เธอก็ต้องลุกขึ้นมาทำ นั่นก็คือการอาบน้ำแปรงฟัน… “เกิดอะไรขึ้นกับฉันเนี่ย!!!” หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จ แก้มใสก็มานั่งพูดกับตัวเองที่หน้ากระจก เมื่อเธอนึกถึงเหตุการณ์ในค่ำคืนนั้นอีกแล้ว ทั้งๆที่เธอตั้งใจจะลืมมันไปแล้วแท้ๆ ก๊อกๆ ในระหว่างที่แก้มใสกำลังนั่งสับสนอยู่ที่หน้ากระจกอยู่นั้น จู่ๆเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น แน่นอนว่าเสียงเคาะประตูก็ทำให้แก้มใสได้สติ แล้วรีบเดินไปเปิดประตูในเวลาต่อมาทันที “เป็นไงจ๊ะเพื่อนสาว เพิ่งตื่นเหรอ” เมื่อประตูเปิด เดซี่ก็เอ่ยปากถามเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงอ่อนทันที เมื่อเธอได้กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ “อื้ออ เพิ่งอาบน้ำเสร็จน่ะ พวกแกจะติวเลยไหม เดี๋ยวฉันขอไปหาอะไรกินรองท้องแป๊บนะ” แก้มใสพูดพร้อมกับใช้มือเรียวลูบที่หน้าท้องแบนราบของตัวเองไปมา ทั้งข้าวเช้าและข้าวเที่ยงยังไม่ตกถึงท้องเธอเลย เพราะตื่นมาอีกทีก็จะบ่ายสองแล้ว “ฉันคิดไว้แล้วเชียวว่าตื่นมาเธอจะต้องหิวโซ อ่ะ ฉันซื้อของกินมาฝาก ส่วนฉันกับเจ๊กินมาแล้ว ติวไปด้วยกินไปด้วยก็ได้” เป็นเพื่อนกันมาก็ตั้งนาน เรื่องใส่ใจเพื่อนเธอกับเดซี่ไม่น้อยหน้าใครอยู่แล้ว พูดจบณิชาก็ส่งถุงของกินที่เธอหิ้วมาให้แก้มใส ซึ่งภายในถุงนั้นก็มีทั้งข้าวกล่อง ลูกชิ้น ไก่ทอดเจ้าดังและผลไม้ต่างๆ “น่าร๊ากกกก ขอบใจนะจ๊ะเพื่อนรัก ป่ะ ไปติวกัน วันจันทร์ก็จะสอบแล้ว” เมื่อเห็นเพื่อนรักซื้อของกินมาให้ แก้มใสก็คลี่ยิ้มออกมาราวกับเด็กน้อยที่กำลังจะได้กินของโปรดปรานอย่างไงอย่างงั้นเลย “ไปนั่งกินดีๆเลย” “อื้อๆ” สิ้นสุดคำพูดของเดซี่ ทั้ง 3 คนก็พากันเดินไปนั่งที่กินข้าวทันที ซึ่งระหว่างที่แก้มใสกำลังยุ่งอยู่กับจัดอาหารใส่จานอยู่นั้น ณิชากับเดซี่ก็พากันสังเกตดูสีหน้าของเพื่อนอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งณิชาตัดสินใจที่จะเอ่ยปากถามแก้มใสด้วยความสงสัย “ยัยแก้มใส ทำไมสภาพแกดูไม่ดีเลย เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกันแน่” “ไม่มีอะไรหรอก ฉันแค่เมาหนักไปหน่อย พวกแกก็รู้หนิว่าฉันไม่ชอบเที่ยวกลางคืนและคออ่อนขนาดไหน” เมื่อได้ยินคำถามของเพื่อน แก้มใสก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที แต่ทว่าเธอก็แก้ปัญหาโดยการตอบเพื่อนๆกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติ และทำเหมือนกำลังยุ่งอยู่กับการกิน เพื่อเลี่ยงการสบตากับเพื่อนๆ แต่ทว่า… ฟึ่บ!!! “แกไม่ต้องมาโกหก ถ้าแกยังเห็นว่าพวกฉันสองคนเป็นเพื่อนของแกอยู่ ก็พูดมันออกมาว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นกับแก” แน่นอนว่าคนอย่างเดซี่ก็ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านไปง่ายๆ เธอยื่นมือไปจับใบหน้าสวยของแก้มใสให้เงยขึ้นมาสบตากับเธอซึ่งๆ หน้า ก่อนที่เธอจะถามด้วยสีหน้าจริงจัง “ใช่ พูดมาเลยนะแก้มใส มีอะไรพวกเราก็จะได้ช่วยกันได้ไง” ณิชาพูดพร้อมกับพยักหน้าอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของเดซี่ “กะ…ก็ได้....” ไหนๆเธอก็อึดอัดใจมาทั้งคืนแล้ว อีกอย่างถ้าเธอไม่ปรึกษาเพื่อนรักของเธอ แล้วเธอจะไปปรึกษาใคร แก้มใสเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเธอในค่ำคืนนั้นให้เพื่อนๆฟังอย่างไม่ปิดบังเลยแม้แต่นิด ว่าเธอโดนอะไรบ้าง และเสียจูบแรกให้กับผู้ชายตั้งหลายคนในเวลาเดียวกัน… “ฉันขอโทษนะแก้มใสที่ปล่อยให้แกไปเข้าห้องน้ำคนเดียวจนเกิดเรื่องแบบนั้น ฉันขอโทษจริงๆ” ทันทีที่แก้มใสพูดจบ ณิชากับเดซี่ก็รีบพุ่งเข้าไปสวมกอดและเอ่ยปากขอโทษแก้มใสด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาทันที พวกเธอรู้สึกผิดมากที่พวกเธอละเลยเพื่อนจนเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับแก้มใส “ไม่เป็นไรหรอกแก ฉันก็รอดปลอดภัยกลับมาแล้วนี่ไง” แก้มใสพูดพร้อมกับคลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่คิดอะไรมาก เธอรู้ว่าเพื่อนสาวของเธอเป็นคนรักสนุกรักเที่ยวมันก็ไม่แปลกเลยที่เพื่อนๆของเธอจะสุดๆไปกับมัน แน่นอนว่ารอยยิ้มของแก้มใสเมื่อครู่นั้นก็ทำให้ณิชาและเดซี่รู้ได้ทันทีว่าแก้มใสกำลังพูดปลอบใจพวกเธออยู่ ทั้งๆที่พวกเธอผิดแท้ๆ “พวกฉันไม่น่าพาแกไปเลย” เดซี่พูดพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างรู้สึกผิด “ไม่เป็นไรน่า ประสบการณ์เล็กๆน้อย อย่าคิดมากเลย อื้อ ฉันว่าพวกเรามาเริ่มติวกันดีกว่านะ เดี๋ยวฉันมา” แก้มใสไม่เพียงแค่พูด แต่เธอกลับผละกอดของเพื่อนๆออก แล้วลุกไปยกกองหนังสือมาวางลงตรงหน้าเพื่อนๆ ที่เธอตัดเข้าโคมไฟแบบนี้ก็เพราะว่าเธอไม่อยากพูดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้ว และเธอก็ไม่อยากให้เพื่อนๆต้องมาโทษตัวเองจนเสียอาการและเสียรอยยิ้มไปแบบนี้ “อื้อ แต่คราวหลังแกอย่าเงียบแบบนี้อีกนะ ไม่ว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ที่ไหน เมื่อไหร่ แกต้องรีบบอกพวกฉัน เพราะพวกฉันนี่แหละจะเป็นคนเอาเลือดหัวพวกมันออกเอง” เดซี่พูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่พ่อและแม่สร้างมาให้ตั้งแต่เกิด ถึงแม้ใจเขาจะเป็นสาว แต่ถ้าหากมีชายใดมายุ่งกับเพื่อนสาวของเธอ เธอก็พร้อมบวกได้เหมือนกัน “โอ๊ยยย แมนมากยะสาว” “คริคริ อ่ะ นี่ของพวกแก” เมื่อเห็นสีหน้าของเพื่อนๆ ดีขึ้นแล้ว แก้มใสก็ลอบหัวเราะออกมาเบาๆก่อนที่เธอจะยื่นหนังสือไปให้เพื่อนๆทีละวิชา หลังจากนั้นทั้ง 3 คนก็นั่งติวด้วยกันอย่างสนุกสนาน ยิ้มบ้าง หัวเราะบ้างเป็นธรรมดาของเด็กวัยรุ่น…
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม