ชายหนุ่มยิ้มออกมาให้ตะวันวาดเห็นเป็นครั้งแรก เพราะความประทับใจแรกที่มีต่อหญิงสาวตรงหน้าเกิดขึ้นกับเขาอย่างไม่รู้ตัว สาวไทยคนนี้แตกต่างจากหญิงสาวคนอื่นๆ ที่เขาเคยรู้จัก พวกเธอเหล่านั้นอยากจะอวดเรือนร่างให้ชายหนุ่มหลงใหล แต่สาวไทยคนนี้กลับหวงตัว ทั้งที่เธอแต่งตัวได้สุภาพกว่าแม่สาวพวกนั้นที่แต่งปกติด้วยซ้ำ
“คุณแพทริกให้ผมมาดูแลคุณ”
“หมายถึงเฝ้าใช่ไหมคะ ต่อให้คิดอยากหนี ฉันก็คงไปไหนไม่ได้หรอก คุณก็น่าจะรู้ดี” หญิงสาวตอบกลับทันควันกึ่งเหน็บแนมไปถึงอีกคน
ชายหนุ่มถึงกับเก้อกระดาก และเมื่อนึกใบหน้าคมเข้มของเจ้านายที่ทั้งสั่งและกำชับเป็นชุด ไหนจะเรื่องเสื้อผ้าของใช้ของเธออีก ทำให้เลขาฯ อย่างเขาถึงกับพูดไม่ออก เพราะรายละเอียดที่สั่งเยอะมากจนเขาแทบบ้า นี่ถ้าเจ้านายว่างละก็ คงมาเลือกเองและเฝ้าเองแล้ว
“เปล่าครับ” ชายหนุ่มโกหกเต็มคำ
“ก็ได้ค่ะ แต่ฉันขอใส่ชุดคลุมก่อนนะคะ” หญิงสาวบอกก่อนจะเดินเลี่ยงออกจากครัวโดยยังคงรักษาระยะห่างเอาไว้เท่าเดิม ทว่าเดินได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกอีกคนร้องเรียกเอาไว้อีกครั้ง
“ผมซื้อชุดมาให้คุณด้วย ลืมบอกไปว่าห้องของผมอยู่หลังประตูบานใหญ่นั่น ผมกลับไปรอที่ห้องนั้นก่อน เอาไว้คุณแต่งตัวเสร็จผมค่อยกลับเข้ามาใหม่” ชายหนุ่มบอกพลางชี้มือไปยังประตูใหญ่ที่เพิ่งเดินเข้ามา ทั้งที่ในห้องชุดนี้มีพื้นที่มากกว่าบ้านบางหลัง แต่ถ้าหากเลขาฯ ของเขามีอีกห้องก็คงกินพื้นที่ทั้งชั้น
“อ้อค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับแต่ก็ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมรอให้อีกคนออกไปก่อน แล้วจึงค่อยเดินไปหยิบถุงเสื้อผ้าที่วางอยู่ติดมือเดินเข้าห้องไป
เสียงโทรศัพท์มือถือของชายหนุ่มที่เพิ่งเดินออกไปไม่ทันพ้นห้องดังขึ้น มือใหญ่ยกเครื่องมือสื่อสารขึ้นมากดรับ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลามองเขาก็รู้ว่าคนที่โทร.มาเป็นใคร และถ้าให้เดาคนที่โทร.มาก็คงกำลังเข้าห้องประชุม
“เรียบร้อยดีไหม” ทันทีที่กดรับสายปลายทางก็ถามเสียงเข้มทันที
“อะไรคือเรียบร้อย” เลขาฯ หนุ่มอดเย้าเจ้านายไม่ได้ ตลอดเวลาที่ทำงานกับแพทริก นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเจ้านายสนใจเรื่องอื่นมากกว่างานตรงหน้า แต่มันก็น่าหวงอยู่หรอก
“อย่ามากวนโมโหนะแฟรงค์”
“เรียบร้อยทุกอย่างที่สั่งครับ ไม่มีบกพร่อง”
“โอเค ฝากด้วยแล้วกัน อย่าให้เธอติดต่อใคร แล้วอย่าลืมล่ะ ห้ามพูดถึงเรื่องฉันเด็ดขาด”
“ทราบแล้วครับ” เลขาฯ หนุ่มล้อเลียน แถมแหย่เสือให้โกรธได้อย่างไม่รู้ตัว “มีอะไรจะสั่งอีกไหม ผมจะไปช่วยคุณยาหยีทำกับข้าว”
คนปลายสายกำมือแน่น ทั้งเข่นเขี้ยวทั้งพาลโกรธหญิงสาวที่อยู่ในห้อง เพียงแค่เขาก้าวออกจากห้องได้ไม่ถึงสองชั่วโมงเธอก็ทำตัวสนิทสนมกับผู้ชายอื่นถึงขั้นให้เรียกชื่อเล่น อย่างนี้จะไม่ให้เขาเชื่อภาพพวกนั้นได้อย่างไรในเมื่อเธอไวไฟปานนั้น
“ไม่ต้อง!” ปลายสายห้ามเสียงดังกึ่งตวาด
“ทำไมต้องเอ่ยเสียงจริงจังขนาดนั้นด้วย ไหนบอกว่าแค่ผู้หญิงที่หิ้วมานอน อีกไม่นานนายก็เบื่อเหมือนผู้หญิงคนอื่นที่เคยผ่านเข้ามา ฉันว่าจะจีบเป็นแม่ของลูกน่ะ ชักติดใจความสวยน่ารักของหญิงไทยเข้าแล้ว”
“นายเอาแฟ้มที่อยู่ในห้องทำงานมาให้ฉัน ฉันจะให้ทอมสันไปเฝ้าแทน”
คนเป็นเจ้านายดึงสติกลับมาพร้อมเปลี่ยนเป็นเรื่องอื่น ความจริงแล้วเขาไม่ได้ต้องการแฟ้มที่ว่าเลยสักนิด ก็แค่อยากจะตกลงกับคนของเขาก่อนก็เท่านั้น ที่ผ่านมาไม่ว่าคู่ควงคนไหนเขาไม่เคยหวงแหน จึงกลัวแฟรงค์จะคิดว่าเป็นเหมือนอย่างคนอื่นที่ผ่านมา ก็หมอนั่นเจ้าชู้ใช่ย่อย
“ทำไมไม่ให้ทอมสันมาเอาล่ะ”
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่นายจะต้องถาม งานของนายคือทำตามคำสั่ง!” คนสั่งเสียงเข้มกว่าเดิม
แฟรงค์มองโทรศัพท์ในมืออย่างงงๆ หลังจากวางสายเจ้านาย ความสงสัยก่อเกิดขึ้นในใจ ผู้หญิงในห้องเป็นใครกันแน่ แต่คงไม่ใช่เหตุผลที่แพทริก บอกไว้วันก่อนแน่นอน
คุณพิมพารีบมาหาคุณหญิงรำภาถึงที่บ้าน เพราะข่าวที่นำเสนอออกไปรุนแรงกว่าที่ทุกคนคิดเอาไว้ จากที่คิดว่านักข่าวต้องการตีหัวแรงๆ เพื่อต้องการขายข่าว แต่ตอนนี้โลกโซเชียลกำลังขุดคุ้ยกันอย่างสนุกหลังจากที่ จิรพัทธ์เดินทางไปโรม คงจะมีใครบางคนสังเกตเห็นความผิดปกติ
“ทำไมข่าวออกมาอย่างนี้ ฉันร้อนใจมากเลยนะคุณหญิง” คุณพิมพาเปิดประโยคแรกทั้งที่ก้นยังนั่งไม่ติดเก้าอี้ด้วยซ้ำ ความร้อนใจของผู้เป็นแม่คงจะเป็นอย่างนี้ทุกคน
แม้ตะวันวาดกับตะวันรุ้งจะอยู่ในวงการนางแบบทั้งคู่ และมีข่าวไม่ดีออกมาให้ได้ยินอยู่เรื่อยๆ แต่นั่นก็เป็นการทำงาน และตะวันรุ้งก็บอกนางอยู่เสมอว่านักข่าวนั่งเทียนเขียนเพื่อให้ข่าวตัวเองขายได้ แต่ครั้งนี้มันดูเหมือนจะ
ไม่ใช่เรื่องหามูลไม่ได้เสียแล้ว
เริ่มจากที่ตะวันวาดประกาศลาออกจากวงการดื้อๆ เธอออกมาทำงานที่โรงแรมของจิรพัทธ์ จากนั้นไม่ถึงเดือนทั้งคู่ก็ประกาศแต่งงานกันแบบสายฟ้าแลบ ทั้งที่คนเป็นแม่อย่างนางรู้จักตะวันวาดดี ลูกสาวของนางเฝ้ารอการกลับมาของผู้ชายคนหนึ่งมานานนับสิบปี
การแต่งงานต้องมีอะไรมากกว่านั้น หากแต่คนเก็บความรู้สึกเก่งและเงียบกับปัญหาอย่างตะวันวาดจะไม่มีวันปริปากบอกอะไรใคร หากปัญหานั้นไม่คลี่คลายไปในทางที่ดีเสียก่อน เธอเป็นคนใช้สติและใจเย็นในการแก้ปัญหาได้อย่างดีเยี่ยมเสมอมา
“ฉันก็ไม่รู้...ตาพัทธ์บอกแค่ว่าทุกอย่างจะจบหลังจากที่เขาบิน” คุณหญิงรำภาบอก
“ข่าวออกมาว่าลูกดิฉันท้องก่อนแต่ง แต่เจ้าสาวกลับหนีออกจากงานแต่งตามผู้ชายอีกคนไปอย่างนี้ หัวใจคนเป็นแม่เหมือนโดนค้อนทุบ”
“ฉันเชื่อตามที่ลูกชายฉันพูด และเชื่อว่าหนูยาหยีไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น”
“ฉันก็เชื่อใจลูกสาวค่ะ แต่ก็อย่าลืมว่าเราอยู่ในสังคมที่มีคนนับหน้าถือตา”
คุณหญิงรำภาหยุดคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่นางจะเงยหน้ามองคู่สนทนาเหมือนคิดอะไรออก นางยิ้มออกมาเหมือนมีแผนในใจ
“เราปล่อยข่าวตามน้ำ ตามกระแสข่าวไปเลยดีไหมคะ”
หัวคิ้วของคนฟังขมวดมุ่น สิ่งที่คุณหญิงรำภาเสนอกลับยิ่งทำให้
ชื่อเสียงของลูกสาวนางเสียหาย
“ยังไงคะ”
“ตอนนี้หนูยาหยีกับตาพัทธ์ก็แต่งงานจดทะเบียนสมรสกันแล้ว ยังไงหนูยาหยีก็เป็นลูกสะใภ้ของดิฉัน ข่าวเขียนว่าท้อง เราก็บอกว่าท้องตามไปเลย แต่งงานกันแล้วใครจะว่าอะไรได้อีก หนูยาหยีไม่ได้ท้องไม่มีพ่อสักหน่อย”
“แต่ยาหยีไม่ได้ท้องจริงๆ นะคะ”
“ก็ยิ่งเข้าแผนไปใหญ่ เราจะได้เร่งรัดให้สองคนนั้นมีหลานให้อุ้มเร็วๆ บอกตามตรงว่าถ้าตอนนี้หนูยาหยีท้องตามข่าวจริงๆ ฉันจะดีใจมาก” คุณหญิงรำภาบอกอย่างมีความสุข
“คุณหญิงคิดอย่างนั้นหรือคะ”
“หรือคุณไม่อยากอุ้มหลานคะ”
“ก็อยากค่ะ” คุณพิมพาเก็บความสงสัยเรื่องการแต่งงานของลูกสาวเอาไว้คนเดียวเงียบๆ คล้อยตามคุณหญิงรำภาไป
“ถ้าอย่างนั้นฉันจะตั้งโต๊ะแถลงข่าวเที่ยงนี้เลย เชิญสื่อมาทุกสำนัก อยากรู้นัก ถ้าเราประกาศว่าหนูยาหยีท้องจริง นักข่าวจะยังขุดคุ้ยอยู่ไหม” คุณหญิงรำภาบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
คุณพิมพาก็ได้แต่ภาวนาขอให้การแก้ปัญหาครั้งนี้จบลงด้วยดี
เพนต์เฮาส์ของแพทริกอยู่ชั้นบนสุด ในโซนที่เขาอยู่มีห้องนอนใหญ่สองห้อง แล้วยังมีห้องทำงาน โฮมเธียเตอร์สุดหรู มีระเบียงส่วนตัวกว้างมากกว่าสนามของบางบ้าน อีกโซนที่เป็นห้องของลูกน้องก็แบ่งซอยห้องพักได้เกือบสิบห้อง แต่ละห้องไม่ต่างจากห้องสวีทสุดหรูของโรงแรมแม้แต่นิดเดียว นอกจากนี้ยังมีชั้นดาดฟ้าที่เป็นลานจอดเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของบิดาบุญธรรม รวมไปถึง
สระว่ายน้ำขนาดใหญ่หรูหราซึ่งตั้งอยู่อีกฝั่ง
ตะวันวาดเดินออกจากห้องในชุดใหม่ที่ชายหนุ่มนัยน์ตาสีเทาเตรียม
มาให้ เธออดชื่นชมกับความใส่ใจของเขาไม่ได้ เสื้อผ้าทุกชุดที่เขาเลือกซื้อมาล้วนเป็นสไตล์ที่เธอชอบ อีกทั้งสีของเนื้อผ้าก็เป็นสีโปรดของเธอทุกชุด
เมื่อก้าวออกมาอีกครั้ง หญิงสาวก็มองไปรอบห้องก่อนจะละสายตาเบี่ยงเบนความสนใจไปยังถุงที่วางกองอยู่บนโต๊ะ รอยยิ้มผุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อสองตาแลเห็นผักสด เนื้อสดหลากหลายชนิด รวมไปถึงเครื่องปรุงอาหาร ถึงวันนี้เธอยังหาทางออกไปไม่ได้ แต่สักวันเธอก็ต้องหาทางออกให้ได้ แม้ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหน ทว่าเธอคงไม่เหงาอยู่ในห้องไปวันๆ อย่างที่คิดอีกต่อไป
หญิงสาวจัดเรียงของเข้าตู้และแบ่งบางส่วนไว้ทำอาหารเที่ยงให้ตัวเอง โดยไม่ลืมเผื่อแผ่ถึงชายหนุ่มอีกคนที่มีน้ำใจหาชุดรวมถึงของสดพวกนี้มาให้เธอ