"ยังใช้โทรศัพท์ตอนนี้ไม่ได้"
"ทำไม? ก็นั่นมันโทรศัพท์ฉันเอาคืนมานะ"
"คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอว่านี่มันคือความลับ" จำได้ว่าเธอพูดมาประโยคหนึ่งเรื่องที่จะไม่แพร่งพราย พวกมันเลยหยิบยกคำพูดนี้ขึ้นมาแอบอ้าง
"ฉันไม่บอกใครหรอกน่า"
"ถึงยังไงก็ไม่ได้"
"เรื่องมากจังเลย" มือเรียวยกขึ้นมากอดอกพร้อมด้วยเสียงพ่นลมหายใจออกมาแบบขัดใจ
จนเวลาผ่านไป และตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วกว่าจะมาถึงที่ที่พวกนั้นจะพาเธอมา
"มันต้องความลับขนาดนี้เลยเหรอ" รอบข้างละแวกนี้ไม่มีบ้านคนอยู่เลย
"ตามมา"
"ลูกพี่ของคุณอยู่ข้างในเหรอ" ไอรินมองไปรอบๆ บ้านหลังนี้มันเป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังไม่ใหญ่มาก คนมีฐานะแบบพวกเขาทำไมถึงมาอยู่ที่แบบนี้
หญิงสาวเดินตามผู้ชายที่ไปรับเธอหน้าโรงพยาบาลมาจนถึงหน้าห้อง เธอก็ยังอดมองไปรอบๆ ไม่ได้ เหมือนบ้านหลังนี้มีแค่ห้องนอนเดียว
"เข้าไปพักในห้องนี้"
"แล้วลูกพี่ของพวกคุณอยู่ไหน" เธอยังถามหาคนที่พี่ชายให้มาดูแลแทน เพราะเปิดประตูเข้าไปแล้วมันเป็นห้องโล่งไม่มีคนอยู่ด้านในเลย
"เสื้อผ้าอยู่ในตู้" แต่อีกฝ่ายไม่สนใจจะตอบคำถามของเธอเลย
"ดะ.. เดี๋ยวก่อนสิแล้วโทรศัพท์ฉันล่ะ" ไม่บอกเรื่องลูกพี่ไม่เป็นไรแต่โทรศัพท์ของเธออยู่กับมัน เพราะตอนนี้ไม่ปลื้มแล้วอยากจะโทรบอกพี่ชายให้มารับกลับ
แต่อีกฝ่ายยังคงไม่สนใจคำพูดของเธอ ปิดประตูได้มันก็ล็อกจากทางด้านนอก
"เปิดประตูนะ!" ไอรินพยายามผลักประตูให้เปิดแต่ก็ไร้ผล เธอแอบคิดว่าตกลงจะให้มาดูแลคนป่วยหรือถูกลักพาตัวกันแน่
แต่พอเรียกพวกมันแล้วไม่ยอมเปิดประตูเธอเลยเดินดูรอบๆ ห้องว่ามีอะไรบ้าง หญิงสาวเปิดดูตู้เสื้อผ้าที่มันบอกว่าจัดเตรียมของไว้ให้แล้ว
"อะไรเนี่ย?" ดีไซเนอร์แบบเธอรับไม่ได้เลยที่เห็นชุด "My God อย่าบอกนะว่าจะให้ฉันใส่ชุดพวกนี้" ไอรินหยิบผ้าถุงและเสื้อคอกระเช้าออกมาดู
เธอจับชุดพวกนั้นยัดกลับไปที่เดิมก่อนจะมาเคาะประตูเรียกให้คนด้านนอกเปิด
แต่ก็เงียบมาก มันดูผิดสังเกตเธอเลยเดินไปดูหน้าต่าง "หน้าต่างก็เปิดไม่ได้เหรอ? มีใครอยู่แถวนี้ไหมฉันไม่สนุกแล้วนะ!"
ในเวลาเดียวกันนั้นสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในตัวเมือง.. และสถานบันเทิงแห่งนี้เพิ่งเปิดต้อนรับลูกค้าไม่นานแต่ก็ถือว่าหรูมาก
"เจ้านายครับ"
"เป็นไงบ้าง"
"ตอนนี้ถึงบ้านหลังนั้นแล้วครับ"
"ดูดีๆ อย่าให้มันคิดสั้นก่อนล่ะ"
"เรียนจบจากต่างประเทศผมว่าคงไม่มีความคิดแบบนั้นหรอกครับ"
"แล้วมันรู้หรือยังว่าคู่หมั้นขอมันหายไป"
"ผมก็ไม่แน่ใจจะสืบให้อีกทีครับ"
ก๊อก ก๊อก จังหวะเดียวกันนั้นก็มีคนมาเคาะประตูห้อง
"ใคร"
"ดูเหมือนจะมีคนมาก่อกวนครับ" ลูกน้องที่เฝ้าอยู่ด้านล่างขึ้นมารายงาน
"พวกของไอ้พ่อเลี้ยงนั่นหรือเปล่า"
"มันคงไม่ตามมาถึงที่นี่หรอกครับ วันนั้นเราก็เคลียร์กับมันแล้ว" วันนั้นไม่ใช่แค่คนของพ่อเลี้ยงภูตะวันที่ถูกยิง คนของสิงขรก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน
ตอนนี้สิงขรย้ายทำเลมาอยู่อีกจังหวัดหนึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ถ้าสิงขรไม่เกรงใจพ่อเลี้ยงปุรเชษฐ์คงไม่ยอมถอยแน่
"มันอยู่ไหน" สิงขรลงมาก็ไม่เห็นคนที่ลูกน้องไปบอกว่ามาก่อกวน
"ไอ้จันทร์ลากไปแล้วครับ"
"อย่าให้ถึงตายล่ะกูยังไม่อยากมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่"
เช้าวันต่อมา..
"ปล่อยฉันออกไปนะ" ตื่นขึ้นมาเธอก็เริ่มตะโกนเรียกให้คนข้างนอกเปิดประตู
"นายกำลังเดินทางมา"
"ฉันอยากออกไปข้างนอกแล้วจะขังฉันไว้ในห้องทำไม" แต่คนข้างนอกก็ไม่ได้ตอบอะไรเธออีก
จนเวลาผ่านไปอีกเป็นชั่วโมงก็ได้ยินเสียงรถ
"ลูกพี่แกมาแล้วใช่ไหม เปิดประตูให้ฉันได้หรือยัง"
ด้านนอกหลังจากที่รถคันนั้นจอด..
"เป็นไงบ้าง"
"อยู่ในห้องครับ"
"หน้าตาเป็นยังไง"
"เอ่อ.."
"อย่าบอกนะว่าดูไม่ได้เลย"
"เจ้านายเข้าไปดูเองเถอะครับ"
"สงสัยว่ามันจะชอบของแปลกแน่เลย"